1. ปวดบั้นเอวขวาหรือซ้าย - สัญญาณเกี่ยวกับ ไต
กรวยไตอักเสบ: มักเริ่มจากกระเพาะปัสสาวะอักเสบ อาการปวดด้านบั้นเอวไปถึงท้องขวา บางครั้งมีไข้และปัสสาวะขุ่น
นิ่วในไต: เกิดจากการตกตะกอนของแร่ธาตุในทางเดินปัสสาวะ ทำให้ปวดด้านล่างขวาหรือซ้าย อาจรู้สึกปวดหลัง และมีไข้ หรือปัสสาวะผิดปกติ
2. ปวดท้องด้านขวา - สัญญาณโรคเกี่ยวกับ ตับและถุงน้ำดี
มะเร็งตับ: ตับเป็นอวัยวะสำคัญ ถ้าเริ่มรู้สึกปวดจุกแน่น ใต้ชายโครงขวาหรือลิ้นปี่ มีอาการตาเหลือง เบื่ออาหาร ควรตรวจเช็ค
นิ่วถุงน้ำดีและท่อน้ำดี: หลังทานอาหารไขมันสูง อาจปวดท้องรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน และคลำพบก้อนแข็ง
3. ปวดลิ้นปี่หรือกลางท้อง - อาจเกี่ยวกับ กระเพาะ ตับอ่อน หัวใจ
กรดไหลย้อน: ปวดจุกแสบกลางอกหรือเปรี้ยวในคอ บางครั้งอาการจะเด่นชัดถ้านอนราบหลังทานอาหาร
กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด: ถ้าปวดแสบลิ้นปี่ เจ็บหน้าอก ควรรีบพบแพทย์
4. ปวดรอบสะดือ - อาจเป็น หลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง
ถ้าปวดรุนแรงบริเวณสะดือและหลัง อาจเป็นสัญญาณว่าหลอดเลือดใหญ่มีภาวะโป่งพอง
5. ปวดท้องซ้าย - สัญญาณโรคเกี่ยวกับ ม้าม
ม้ามโต: อาจสังเกตได้จากท้องบวมขึ้นข้างซ้าย ร่วมกับอ่อนเพลีย น้ำหนักลด
6. ปวดท้องน้อย - สัญญาณโรคเกี่ยวกับ ลำไส้ กระเพาะปัสสาวะ หรืออวัยวะสืบพันธุ์
เช่น ลำไส้แปรปรวน หรือซีสต์ในรังไข่ อาการปวดบิดๆ คล้ายปวดประจำเดือน
7. ปวดท้องไส้ติ่ง (ขวาล่าง) - ระวัง ไส้ติ่งอักเสบ
มักเริ่มปวดรอบๆ สะดือแล้วขยับไปด้านขวาล่าง ถ้าไม่รักษา ไส้ติ่งอาจแตกและเสี่ยงต่อการติดเชื้อในกระแสเลือด
ปวดท้องหลายแบบดูเหมือนเล็กน้อย แต่บางครั้งอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคที่ต้องการการวินิจฉัย รีบปรึกษาแพทย์เพื่อความมั่นใจดีกว่า!
ที่มาข้อมูล >
HDcare Blog
ปวดท้องอยู่เหรอ? มาลองเช็กกันว่าปวดท้องตรงไหนแล้วบอกอะไรเกี่ยวกับสุขภาพเราบ้าง!
กรวยไตอักเสบ: มักเริ่มจากกระเพาะปัสสาวะอักเสบ อาการปวดด้านบั้นเอวไปถึงท้องขวา บางครั้งมีไข้และปัสสาวะขุ่น
นิ่วในไต: เกิดจากการตกตะกอนของแร่ธาตุในทางเดินปัสสาวะ ทำให้ปวดด้านล่างขวาหรือซ้าย อาจรู้สึกปวดหลัง และมีไข้ หรือปัสสาวะผิดปกติ
2. ปวดท้องด้านขวา - สัญญาณโรคเกี่ยวกับ ตับและถุงน้ำดี
มะเร็งตับ: ตับเป็นอวัยวะสำคัญ ถ้าเริ่มรู้สึกปวดจุกแน่น ใต้ชายโครงขวาหรือลิ้นปี่ มีอาการตาเหลือง เบื่ออาหาร ควรตรวจเช็ค
นิ่วถุงน้ำดีและท่อน้ำดี: หลังทานอาหารไขมันสูง อาจปวดท้องรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน และคลำพบก้อนแข็ง
3. ปวดลิ้นปี่หรือกลางท้อง - อาจเกี่ยวกับ กระเพาะ ตับอ่อน หัวใจ
กรดไหลย้อน: ปวดจุกแสบกลางอกหรือเปรี้ยวในคอ บางครั้งอาการจะเด่นชัดถ้านอนราบหลังทานอาหาร
กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด: ถ้าปวดแสบลิ้นปี่ เจ็บหน้าอก ควรรีบพบแพทย์
4. ปวดรอบสะดือ - อาจเป็น หลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง
ถ้าปวดรุนแรงบริเวณสะดือและหลัง อาจเป็นสัญญาณว่าหลอดเลือดใหญ่มีภาวะโป่งพอง
5. ปวดท้องซ้าย - สัญญาณโรคเกี่ยวกับ ม้าม
ม้ามโต: อาจสังเกตได้จากท้องบวมขึ้นข้างซ้าย ร่วมกับอ่อนเพลีย น้ำหนักลด
6. ปวดท้องน้อย - สัญญาณโรคเกี่ยวกับ ลำไส้ กระเพาะปัสสาวะ หรืออวัยวะสืบพันธุ์
เช่น ลำไส้แปรปรวน หรือซีสต์ในรังไข่ อาการปวดบิดๆ คล้ายปวดประจำเดือน
7. ปวดท้องไส้ติ่ง (ขวาล่าง) - ระวัง ไส้ติ่งอักเสบ
มักเริ่มปวดรอบๆ สะดือแล้วขยับไปด้านขวาล่าง ถ้าไม่รักษา ไส้ติ่งอาจแตกและเสี่ยงต่อการติดเชื้อในกระแสเลือด
ปวดท้องหลายแบบดูเหมือนเล็กน้อย แต่บางครั้งอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคที่ต้องการการวินิจฉัย รีบปรึกษาแพทย์เพื่อความมั่นใจดีกว่า!
ที่มาข้อมูล > HDcare Blog