สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
หนีทัพกลับบ้านครับ
หลังจากพ่ายแพ้ที่เซี่ยงไฮ้ กองทัพจีนก็ล่าถอยมานานกิงโดยมีญี่ปุ่นตามมาติดๆ และเนื่องจากเสียกำลังทหารไปมาก จีนจึงต้องเกณฑ์ทหารใหม่เพิ่มอย่างเร่งด่วน การเกณฑ์ทหารใหม่ตอนนั้นทำแบบฉุกเฉิน ไม่มีเวลาตรวจสอบทะเบียบราษฎร์และออกหมายเรียกระดมพล รัฐบาลจึงใช้วิธีโบราณ คือใช้รถบรรทุกและเรือแล่นเข้าไปตามหมู่บ้าน พอเห็นผู้ชายคนไหนท่าทางพอจะเป็นทหารได้ก็ทำแบบลักพาตัว คือเอาปืนจี้บังคับให้ขึ้นรถลงเรือมาส่งที่ค่าย มีข้อมูลว่าทหารที่รักษาเมืองนานกิงจำนวนสามหมื่นคนเป็นทหารที่ถูกเกณฑ์มาแบบเถื่อนๆ โดย 16000 คนจากพื้นที่รอบๆนานกิง และ 14000 คนจากฮันเค้า
รัฐบาลจีนนั้นต้องการจะเก็บทหารที่ฝึกมาดีที่ยังเหลืออยู่สองแสนคนไว้เพื่อการตีโต้ในวันข้างหน้า จึงออกคำสั่งให้ถอยทัพไปจุงกิง ส่วนการรักษาเมืองนานกิงนั้นก็มีความคิดที่จะให้ทหารใหม่ทำการสู้ตายเพื่อถ่วงเวลา เพื่อเปิดโอกาสให้ทหารที่ฝึกมาดีถอยหนีไปได้อย่างปลอดภัย ทหารใหม่พวกนี้จะได้รับการฝึกแค่การยิงปืนเท่านั้นแล้วก็ส่งออกไปรบเลย พวกเขาจะถูกนายทหารเกลี้ยกล่อมด้วยคำพูดที่สวยหรูให้ยอมสละชีพเพื่อชาติ แต่ไม่ค่อยจะได้ผล พวกเขารู้สึกไม่ยุติธรรมที่พวกเขาซึ่งเป็นพลเรือนต้องมาสู้ตายกับข้าศึก ในขณะที่ทหารจริงๆกลับได้ถอยหนีไปสู่ที่ที่ปลอดภัย ดังนั้นพวกเขาจึงพร้อมจะหนีทัพในทันทีที่มีโอกาส
ตอนแรกการหนีทัพยังไม่เป็นปัญหาสักเท่าไร แต่พอรัฐบาลเริ่มอพยพไปจุงกิง ทุกคนในเมืองนานกิงก็เสียขวัญ การหนีทัพก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นปัญหามาก ทหารที่หนีทัพจะใช้วิธีปลอมตัวเป็นพลเรือนปนออกไปกับประชาชนที่อพยพออกจากเมือง ทำให้กองทัพต้องตรวจสอบการเข้าออกเมืองอย่างเข้มงวด และมีคำสั่งให้ประหารชีวิตทันทีที่ถ้าจับได้ ซึ่งก็ปรากฏว่ามีคนถูกจับได้และถูกประหารประมาณวันละหนึ่งร้อยคน ประเมินว่าตลอดยุทธการนานกิงมีทหารหนีทัพถูกประหารชีวิตประมาณหนึ่งพันคน ศพนั้นถูกฝังอยู่ข้างประตูเมืองยี่เจียงจนมองเห็นเป็นเนิน หลังการยุทธการมีบางคนนึกว่าเป็นศพที่ถูกญี่ปุ่นสังหารหมู่
กรณีที่ถามมานี้ก็น่าจะเป็นการหนีทหาร แต่ความแปลกคือผู้บังคับบัญชาหายไปไหน เพราะนายทหารที่คุมกำลังไปไม่น่าจะหนีไปกับพวกพลทหาร ข้อสันนิษฐานของผมคือ ผู้บังคับบัญชาน่าจะขัดขวางอย่างสุดความสามารถ เลยถูกฆ่าฝังหมกป่า หลังจากนั้นไพร่พลก็พากันหนีกลับบ้านไปหมดทั้งกองพัน
หลังจากพ่ายแพ้ที่เซี่ยงไฮ้ กองทัพจีนก็ล่าถอยมานานกิงโดยมีญี่ปุ่นตามมาติดๆ และเนื่องจากเสียกำลังทหารไปมาก จีนจึงต้องเกณฑ์ทหารใหม่เพิ่มอย่างเร่งด่วน การเกณฑ์ทหารใหม่ตอนนั้นทำแบบฉุกเฉิน ไม่มีเวลาตรวจสอบทะเบียบราษฎร์และออกหมายเรียกระดมพล รัฐบาลจึงใช้วิธีโบราณ คือใช้รถบรรทุกและเรือแล่นเข้าไปตามหมู่บ้าน พอเห็นผู้ชายคนไหนท่าทางพอจะเป็นทหารได้ก็ทำแบบลักพาตัว คือเอาปืนจี้บังคับให้ขึ้นรถลงเรือมาส่งที่ค่าย มีข้อมูลว่าทหารที่รักษาเมืองนานกิงจำนวนสามหมื่นคนเป็นทหารที่ถูกเกณฑ์มาแบบเถื่อนๆ โดย 16000 คนจากพื้นที่รอบๆนานกิง และ 14000 คนจากฮันเค้า
รัฐบาลจีนนั้นต้องการจะเก็บทหารที่ฝึกมาดีที่ยังเหลืออยู่สองแสนคนไว้เพื่อการตีโต้ในวันข้างหน้า จึงออกคำสั่งให้ถอยทัพไปจุงกิง ส่วนการรักษาเมืองนานกิงนั้นก็มีความคิดที่จะให้ทหารใหม่ทำการสู้ตายเพื่อถ่วงเวลา เพื่อเปิดโอกาสให้ทหารที่ฝึกมาดีถอยหนีไปได้อย่างปลอดภัย ทหารใหม่พวกนี้จะได้รับการฝึกแค่การยิงปืนเท่านั้นแล้วก็ส่งออกไปรบเลย พวกเขาจะถูกนายทหารเกลี้ยกล่อมด้วยคำพูดที่สวยหรูให้ยอมสละชีพเพื่อชาติ แต่ไม่ค่อยจะได้ผล พวกเขารู้สึกไม่ยุติธรรมที่พวกเขาซึ่งเป็นพลเรือนต้องมาสู้ตายกับข้าศึก ในขณะที่ทหารจริงๆกลับได้ถอยหนีไปสู่ที่ที่ปลอดภัย ดังนั้นพวกเขาจึงพร้อมจะหนีทัพในทันทีที่มีโอกาส
ตอนแรกการหนีทัพยังไม่เป็นปัญหาสักเท่าไร แต่พอรัฐบาลเริ่มอพยพไปจุงกิง ทุกคนในเมืองนานกิงก็เสียขวัญ การหนีทัพก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นปัญหามาก ทหารที่หนีทัพจะใช้วิธีปลอมตัวเป็นพลเรือนปนออกไปกับประชาชนที่อพยพออกจากเมือง ทำให้กองทัพต้องตรวจสอบการเข้าออกเมืองอย่างเข้มงวด และมีคำสั่งให้ประหารชีวิตทันทีที่ถ้าจับได้ ซึ่งก็ปรากฏว่ามีคนถูกจับได้และถูกประหารประมาณวันละหนึ่งร้อยคน ประเมินว่าตลอดยุทธการนานกิงมีทหารหนีทัพถูกประหารชีวิตประมาณหนึ่งพันคน ศพนั้นถูกฝังอยู่ข้างประตูเมืองยี่เจียงจนมองเห็นเป็นเนิน หลังการยุทธการมีบางคนนึกว่าเป็นศพที่ถูกญี่ปุ่นสังหารหมู่
กรณีที่ถามมานี้ก็น่าจะเป็นการหนีทหาร แต่ความแปลกคือผู้บังคับบัญชาหายไปไหน เพราะนายทหารที่คุมกำลังไปไม่น่าจะหนีไปกับพวกพลทหาร ข้อสันนิษฐานของผมคือ ผู้บังคับบัญชาน่าจะขัดขวางอย่างสุดความสามารถ เลยถูกฆ่าฝังหมกป่า หลังจากนั้นไพร่พลก็พากันหนีกลับบ้านไปหมดทั้งกองพัน
แสดงความคิดเห็น
ตำนาน เหตุการณ์ปริศนาทหารจีน 3,000 นายหายสาบสูญ คิดว่าพวกเค้าไปใหน?
เหตุการณ์ เรื่องย่อๆ
ช่วงสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นได้รับชัยชนะครั้งใหญ่คือการเข้ายึดครองทั้งเมืองเซี่ยงไฮ้และเมืองหลวงของจีนอย่าง "นานกิง" (Nankin) ในปี 1937 ซึ่งการต่อสู้ระหว่างสองฝ่ายก็ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ มีการสูญเสียมากมายไม่เว้นวัน แต่ทว่าในสงครามครั้งนั้นการสูญเสียที่แปลกประหลาดมากที่สุดก็คือ กองพันทหารจีนกว่า 3,000 นายที่ได้รับมอบหมายให้ไปคุ้มกันและเฝ้าระวังยังพื้นที่รอบๆ ของสมรภูมินานกิง ซึ่งมีหลักฐานจากคลื่นวิทยุว่าพวกเขาทั้งหมดได้เดินทางข้ามแม่น้ำแยงซีเพื่อเข้าไปยังเมืองนานกิงเรียบร้อยแล้ว แต่ถัดมาอีกวัน เหล่าทหารทั้งหมดในกองพันนั้นได้หายตัวไปอย่างไม่มีเหตุผลและไม่มีข้อพิสูจน์ที่แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา เหลือไว้เพียงอาวุธสู้รบที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์และกองไฟที่เพิ่งจะมอดดับลงไม่นาน
ทุกสนามรบล้วนมีวิญญาณ และข้าศึกที่แท้จริงอาจไม่ได้อยู่ในสมรภูมิ