สวัสดีชาวพันทิปทุกท่าน วันนี้พวกเราจะมาแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบประหยัดงบฉบับนศ. มาให้ทุกท่านได้อ่านกัน กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของพวกเราอาจมีผิดถูกกันบ้างอย่าว่ากันน้า ก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวก่อนพวกเราเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยพระจอมธนบุรี(บางมด) ซึ่งพวกเราเนี่ยเรียกได้ว่าเป็น ว่าที่บัญฑิตที่อยากไปเที่ยวด้วยกันก่อนจะจบ พวกเราเลยนัดหมายกันลืมตาตื่นแต่เช้าตรู่และสมัครแพ็คเกจอินเตอร์เน็ตความไวสูงเพื่อมาลงเรียนวิชา GEN441 Culture And Excursion หรือเจนท่องเที่ยว และแล้วด้วยความไม่ย่อท้อตำแหน่งนั้นก็ตกเป็นของพวกเรา! และในรายวิชานี้พวกเราได้รับมอบหมางาน Backpack Trip เที่ยวไหนดีในคอนเซปต์ที่ว่า
"low price high experience" และจังหวัดที่พวกเราเลือกหลังจากการปรึกษาหารือ(ตบตี)กันมาเป็นระยะเวลาหนึ่งก็คืออออออออ “เกาะกลาง จังหวัดกระบี่“ วุหู้วว หลังจากได้สถานที่แล้วสิ่งที่เราต้องทำคือการวางแผนการเดินทาง ค่าใช้จ่ายต่างๆ เก็บกระเป๋าจองตั๋วรถทัวร์อย่างไม่รีรอ ลืมบอกไปเลยทริปนี้เราจะไปใช้ชีวิตที่กระบี่เป็นเวลา 3 วัน 2 คืนน้าาาา
DAY 0 ออกเดินทาง
เนื่องด้วยจังหวัดกระบี่อยู่ค่อยข้างไกลจากกรุงเทพฯ และไม่มีสถานีรถไฟ หนทางที่จะไปถึงกระบี่ได้เหลือแค่นั่งเครื่อง 1 ชม.กับนั่งรถทัวร์ 11 ชม. เท่านั้น เวลาห่างกันขนาดนี้แน่นอนว่าพวกเราเลือกเดินทางด้วยรถทัวร์ ด้วยความที่ราคาที่แตกต่างกันค่อนข้างมาก และตีมของเราคือ low price high experience จะมาใช้เงินหมดตั้งแต่การเดินทางแรกไม่ด้ายยเลยต้องนั่งรถกันยาวๆ ค่ารถทั้งขาไปและขากลับตกคนละ 1,530 บาท เราออกเดินทางจากกรุงเทพตอน 19:10 น. รถมีจอดพักให้เข้าห้องน้ำทานข้าวที่หัวหิน 20 นาที และเดินทางต่อยาวๆโดยไม่มีหยุดพัก
DAY 1 ดินแดนกระบี่
จากการเดินทางสิบกว่าชั่วโมงในที่สุดเท้าของเราก็ได้แตะพื้นกระบี่ในเวลาแปดโมงกว่าๆ ยังไม่ได้ล้างหน้าล้างตาก็มีรถสองแถววิ่งกรูเข้ามาเสนอขายในราคา 250 บาท(ราคาต่อแล้ว) ราคาถูกกว่าเรียกแกร็บแบบนี้พวกเราก็ไม่รอช้ารีบหอบหิ้วกระเป๋าขึ้นรถคุณลุงไปที่ท่าเรือเจ้าฟ้า
จากนั้นเราได้ทำการนั่งเรือต่อเพื่อที่จะกลับเข้าที่พัก แต่คุณลุงบังหมี่คนขับเรือของเราเสนอให้ไปที่เขาขนาบน้ำก่อนเพราะถ้านั่งเรือออกจากเกาะมาที่นี่ค่อนข้างราคาสูง เราเลยเปลี่ยนแพลนไปตามคำแนะนำของคุณลุงในราคา 300 บาท ระหว่างนั่งเรือบรรยากาศที่นี่ดีมากอากาศปลอดโปร่ง น้ำบริเวณนี้เป็นน้ำทะเลและน้ำกร่อยทำให้สีของน้ำมีทั้งสีเขียวและสีน้ำตาลปะปนกัน สองข้างทางเต็มไปด้วยป่าชายเลน นั่งเรือไม่นานเราก็ถึงเขาขนาบน้ำที่เป็นโลเคชั่นหลักของจังกวัดกระบี่ ลุงเล่าว่าเกิดจากหินปูนสองลูกตั้งตระหง่านขนาบแม่น้ำกระบี่ด้านตัวเมืองจึงเรียกว่าเขาขนาบน้ำ
เราได้ลงจากเรือไปสำรวจบริเวณถ้ำเขาขนาบน้ำ ที่นี่มีหุ่นจำลองของมนุษย์ในยุคต่างๆ มีทั้งภาพเขียนผนัง หุ่นจำลองโครงกระดูกมนุษย์ขนาดยักษ์ หุ่นจำลองช่วงสงครามโลก คุณลุงเล่าว่าที่นี่มีหนังมาถ่ายทำหลายเรื่องโดยเรื่องล่าสุด คือ Jurassic Park และ Fast and Furious
นั่งเรือเดินทางเข้าที่พักกันต่อเรือพาเราไปส่งที่ท่าเรือท่าหิน เพื่อไปโฮมสเตย์ที่เราได้จองไว้ล่วงหน้า รอไม่นานทางโฮมสเตย์ก็ส่งรถ 3 ล้อออกมารับ ระหว่างทางนั่งชมบรรยากาศโดยรอบทำให้เห็นวิถีชีวิตของคนแถบนี้ คนที่นี่เกือบทั้งหมดเป็นชาวมุสลิม มีการเกษตรกรรมปลูกข้าวนาปีพันธุ์ข้าวที่นิยมปลูกกันคือข้าวสังข์หยด ที่นี่จะปลูกข้าวได้ปีละหนเนื่องจากต้องรอฝนเพราะไม่มีเขื่อนเก็บน้ำ ปศุสัตว์ที่นี่นิยมเลี้ยงคือ แพะ วัว ควาย และไก่ คนดั้งเดิมส่วนใหญ่ทำอาชีพชาวประมง
เราเดินทางถึงที่พักช่วง 11 โมง เจ้าของที่นี่เป็นชาวมุสลิมเดินเข้ามาต้อนรับด้วยความอบอุ่น เจ้าของที่นี่บริหารธุระกิจแบบครอบครัวให้ความรู้สึกเป็นกันเอง ที่นี่บรรยากาศสงบร่มรื่น ห้องพักสะอาดกว้างขวาง และมีห้องน้ำที่ใหญ่โต มีแมวให้น้วยด้วย หลังจากเก็บข้าวของเข้าห้องพัก ทำความสะอาดชำระร่างกายเรียบร้อยแล้ว เจ้าบ้านก็เตรียมขนมจีนน้ำยากะทิ และน้ำพริกเราให้เราทาน พร้อมกับไก่ทอดร้อนๆ บอกเลยว่ารสชาติอร่อยจนต้องขอเพิ่ม
พอทานข้าวเสร็จ หนังท้องตึงหนังตาก็หย่อน ด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง+กับบรรยากาศฝนตก เราก็เลยพักผ่อนเอาแรงพร้อมกับเติมแมวก่อนออกไปตะลอนเที่ยวในตอนเย็น
หลังจากตื่นนอนพวกเราก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งพร้อมลุยกันต่อ สถานที่ที่เราเดินทางไปคือ กลุ่มOTOP ผลิตภัณฑ์กะลามะพร้าวก่อตั้งโดย คุณนิวัฒน์ สีหมุ่น เริ่มต้นจากเป็นคนจับปูมาก่อน เขาหยิบกะลามาเพราะอยากลองทำอะไรใหม่ๆ สิ่งแรกที่เขาทำสินค้าเกี่ยวกับกะลาคือ เรือเนื่องจากมันเกี่ยวข้องกับจังหวัดกระบี่ และเขาก็ทำมายาวนาน 6 ปี จนถึงปัจจุบันนี้มีการพัฒนามาทำรูปทรงอื่นๆ เช่น ปู กรอบรูปไม้จากเศษกะลา
เดินทางกันต่อที่ ฟาร์มผึ้งชันโรงตาหวาน ที่นี่เป็นแหล่งผลิตน้ำผึ้งจากผึ้งชันโรง เจ้าของฟาร์มได้เล่าว่า ชันโรงเป็นแมลงตระกูลผึ้งไม่มีเหล็กใน จะทำรังอยู่ในลำต้นไม้ และจัดการรังได้เป็นระเบียบมากกว่าผึ้ง มีการแบ่งโซนที่อยู่อาศัย โซนกักเก็บน้ำผึ้ง และมีการแบ่งหน้าที่ออกเป็น 3 ส่วนคือ 1.ทหารทำหน้าที่เฝ้าประตู 2. แม่บ้านคอยทำความสะอาดรัง และ 3.ผึ้งกระตุกไข่กระตุกน้ำหวานคอยดูแลนางพญา น้ำผึ้งจะเก็บได้มากสุดปีละครั้งสามรถนำมาทำสินค้าOTOPได้มากมาย เช่น สบู่ ยาสระผม ยาแก้เจ็บคอ กระเทียมดองน้ำผึ้ง และมะนาวดองน้ำผึ้ง
รู้ตัวอีกทีก็เย็นซะแล้วระหว่างทางกลับบ้านพี่คนขับรถ3ล้อ ก็พาเราแวะไปเดินหาด พระอาทิตย์ตกดินที่นี่สวยมากกกกกก ก.ล้านตัว ฟ้าสีทองเป็นประกายกระทบกับผืนน้ำกว้างสุดลูกหูลูกตา ฉากด้านหลังเป็นสายรุ้งเต็มวงจากฝนที่พึ่งจะหยุดตกไม่นาน
และแล้วพระอาทิตย์ก็ตกตามเวลาพวกเราหอบหิ้วร่างกายที่หิวโซและเหนื่อยล้ากลับเข้าที่พัก พบกับกับข้าวที่หอมกรุ่น มะและบัง(เจ้าของโฮมสเตย์)ได้เตรียมกับข้าวมื้อเย็นไว้รอเราเต็มโต๊ะ (ปล.ข้าวมื้อนี้เสียตังนะ) โดยวัตถุดิปหลักของมื้อนี้คือปลาเก๋าและกุ้งจากตลาด เมนูที่ทำออกมาได้แก่ แกงส้มปลาเก๋า ปลาเก๋าทอดน้ำปลา ปลาสามรส กุ้งต้มเค็ม และกุ้งราดซอสมะขาม รสชาติบอกเลยว่าเด็ดมาก ได้ทานแล้วต้องบอกว่าว่าหร๊อยแรง!
กินของคาวแล้วต้องตามด้วยของหวาน เพราะกับข้าวที่นี่มันช่างเด็ดซะเหลือเกินต้องหาของหวานมาดับความแซ่บซะหน่อย นั่งรถสามล้อมากันที่ร้านโรตีเจ้าเก่าเจ้าแก่ ร้านนี้ไม่มีหน้าร้านแต่คนต่อแถวรอกันเพียบ คนที่นี่บอกว่าร้านนี้แหละเด็ดสุดในย่านนี้ พอได้ลองชิมแล้วต้องบอกเลยว่าสมคำร่ำลือ แป้งหอมกรอบอร่อย มีความหอมเป็นเอกลักษณ์ เสิร์ฟคู่กับนมร้อนๆ บอกเลยฟินเฟ่อร์ สิ้นสุดทริป Day1 ด้วยความอิ่มเอม
[CR] แชร์ประสบการณ์เที่ยว Low price high experience ที่เกาะกลาง จังหวัดกระบี่
จากการเดินทางสิบกว่าชั่วโมงในที่สุดเท้าของเราก็ได้แตะพื้นกระบี่ในเวลาแปดโมงกว่าๆ ยังไม่ได้ล้างหน้าล้างตาก็มีรถสองแถววิ่งกรูเข้ามาเสนอขายในราคา 250 บาท(ราคาต่อแล้ว) ราคาถูกกว่าเรียกแกร็บแบบนี้พวกเราก็ไม่รอช้ารีบหอบหิ้วกระเป๋าขึ้นรถคุณลุงไปที่ท่าเรือเจ้าฟ้า
เดินทางกันต่อที่ ฟาร์มผึ้งชันโรงตาหวาน ที่นี่เป็นแหล่งผลิตน้ำผึ้งจากผึ้งชันโรง เจ้าของฟาร์มได้เล่าว่า ชันโรงเป็นแมลงตระกูลผึ้งไม่มีเหล็กใน จะทำรังอยู่ในลำต้นไม้ และจัดการรังได้เป็นระเบียบมากกว่าผึ้ง มีการแบ่งโซนที่อยู่อาศัย โซนกักเก็บน้ำผึ้ง และมีการแบ่งหน้าที่ออกเป็น 3 ส่วนคือ 1.ทหารทำหน้าที่เฝ้าประตู 2. แม่บ้านคอยทำความสะอาดรัง และ 3.ผึ้งกระตุกไข่กระตุกน้ำหวานคอยดูแลนางพญา น้ำผึ้งจะเก็บได้มากสุดปีละครั้งสามรถนำมาทำสินค้าOTOPได้มากมาย เช่น สบู่ ยาสระผม ยาแก้เจ็บคอ กระเทียมดองน้ำผึ้ง และมะนาวดองน้ำผึ้ง
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น