แอ่วเหนือคนละครึ่ง เงียบเหงา ร้านอาหารชี้ขั้นตอนยุ่งยาก ลูกค้าเสียโอกาสอื้อ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9488406
แอ่วเหนือคนละครึ่ง เงียบเหงา ร้านอาหารชี้ขั้นตอนยุ่งยาก ส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจวิธีใช้สิทธิ ทำลูกค้าเสียโอกาสอื้อ ชี้ควรลดขั้นตอนให้สะดวกกว่านี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ร้านผาม ร้านอาหารเหนือชื่อดัง ตั้งอยู่ ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย และเป็นหนึ่งในร้านที่สมัครเข้าร่วมโครงการ “
แอ่วเหนือคนละครึ่ง”
โดยพบว่าบรรยากาศภายในร้าน แม้จะเข้าร่วมโครงการ แต่ยังไม่มีคึกคักมาก มีนักท่องเที่ยว ลูกค้าเข้าไปใช้บริการบ้างแต่ก็ไม่มากนัก
นาย
วัชิรานุวัฒน์ วงศ์ทะจักร์ ผู้จัดการร้าน กล่าวว่า ปกติทุกปีในช่วงเดือน พ.ย. ซึ่งเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูหนาว จะมีลูกค้ามาใช้บริการกันอย่างหนาแน่น ประมาณร้อยละ 60-70 แต่ปีนี้พบว่าลูกค้าน้อยเหลือไม่ถึงร้อยละ 50 คาดว่าน่าจะมาจากปัญหาน้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา ทำให้นักท่องเที่ยวยังไม่กล้าตัดสินใจวางแพลนมาเที่ยวเชียงราย
ขณะที่โครงการ “
แอ่วเหนือคนละครึ่ง” เริ่มมีเข้ามาบริการบ้างแล้ว แต่ยังถือว่าน้อย สามารถใช้สิทธิได้เพียงไม่กี่ราย เนื่องจากส่วนใหญ่ยังเข้าใจว่าจะสามารถมาใช้สิทธิที่ร้านได้เลย จึงไม่ได้มีการลงทะเบียนขอรับสิทธิยังที่พักที่โรงแรม ซึ่งจะต้องสแกนคิวอาร์โค้ดและกรอกข้อมูลเสียก่อนถึงจะมาใช้สิทธิได้ ทำให้ลูกค้าหลายคนเสียโอกาสที่จะใช้สิทธิดังกล่าวไป
หลายคนมาสอบถาม เพื่อต้องการใช้สิทธิ “
แอ่วเหนือคนละครึ่ง” แต่ก็ไม่ได้ เพราะยังมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก จึงอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้โครงการไม่ได้รับการตอบรับเท่าที่ควร ซึ่งอยากให้ภาครัฐเร่งทำการประชาสัมพันธ์การใช้สิทธิให้ละเอียดกว่านี้ หรือลดขั้นตอนการใช้สิทธิให้สะดวกขึ้นกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวยังเชื่อว่าโครงการ “
แอ่วเหนือคนละครึ่ง” จะกระตุ้นการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายได้เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงโครงการเที่ยวด้วยกันที่กำลังจะเปิดให้ใช้สิทธิ หวังว่าในช่วงปลายปีจนถึงช่วงต้นปีการท่องเที่ยวของเชียงรายจะกลับมาถึงคัดเหมือนทุกปี
ปชน.เปิดเวทีปราศรัยชิงนายก อบจ.อุดรธานี ชู 5นโยบายด่วน “เปลี่ยนอุดร ให้ก้าวไกล อบจ.รับใช้ประชาชน”
https://www.matichon.co.th/politics/news_4880006
ปชน.เปิดเวทีปราศรัยชิงนายก อบจ.อุดรธานี ชู 5 นโยบายด่วน “เปลี่ยนอุดร ให้ก้าวไกล อบจ.รับใช้ประชาชน”
เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ที่ศาลาหน้าวัดรัตนมงคล บ.อูบมุง ม.1 ต.อูบมุง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี นาย
คณิศร ขุริรัง ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี พรรคประชาชน หมายเลข 1 เปิดเวทีปราศรัยย่อยรณรงค์หาเสียง “เปลี่ยนอุดร ให้ก้าวไกล อบจ.รับใช้ประชาชน” ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน
2567 โดยมีนาย
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ปราศรัยแนะนำว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี และนาย
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียง ปราศรัยสนับสนุนการกระจายอำนาจ และความสำคัญของการเลือกตั้งนายก อบจ. มีประชาชนในเขตเลือกตั้งที่ 2 อำเภอหนองวัวซอ มาร่วมรับฟังราว 500 คน
นาย
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า ในการเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครั้งก่อนเราได้คะแนนเสียง 180,000 คะแนน การเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งล่าสุดเราเติบโตขึ้นได้เพิ่มมาเป็น 280,000 คะแนน ครั้งนี้เราส่งนาย
คณิศร ขุริรัง ลงสมัคร ซึ่งมีความพร้อมสามารถทำงานได้ทันที เคยเป็นสมาชิกสภาเทศบาลนครอุดรธานี, สมาชิกสภา อบจ.อุดรธานี, รองนายก อบจ.อุดรธานี และเป็นประธานสภาทนายความอุดรธานีถึง 2 สมัย การเลือกนาย
คณิศร ชาวอุดรธานีจะได้ “
3 เด้ง 4 ป. 5 ด่วน” เด้งแรกได้
ธนาธรมาช่วย เด้งสองได้
พิธามาช่วย และเด้งสามได้ตนเองมาช่วย 4 ป. ป.แรกประชาธิปไตย แม้พรรคเราจะถูกยุบไป จุดยืนเราก็ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ป.สองประชาชนต้องเป็นศูนย์กลาง ป.สามโปร่งใสตรวจสอบได้ และ ป.สี่ประสิทธิภาพ กระจายอำนาจไม่รวมศูนย์
ด้านนาย
คณิศร ขุริรัง ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี หมายเลข 1 พรรคประชาชน กล่าวด้วยภาษาถิ่นแนะนำตัวเองว่า มีความพร้อมขอเสนอตัวเป็นทางเลือก เปลี่ยนพรรคที่เคยทำงานให้เรามา 12 ปี มาเลือกพรรคประชาชน โดยขอเสนอนโยบาย 5 ด่วน เมื่อได้รับเลือกเป็นนายก อบจ.อุดรธานี ทำทันที 5 แผนงาน คือ อบจ.โปร่งใส ไทอุดรมีส่วนร่วม คอร์รัปชั่นเป็น 0, รพ.สต.ก้าวหน้า ด้วยรับโอน รพ.สต.ที่สมัครใจ และพร้อม ทันทีอำเภอละ 2 แห่ง ยกระดับการรักษาปฐมภูมิ, น้ำประปาใสดื่มได้ตลอดปี ระบบประปาในระดับหมู่บ้านจะได้รับการปรับปรุง, ถนนปลอดหลุม ไฟสว่างจุดเสี่ยง สำรวจถนน อบจ.แบ่งเป็น 3 ระดับ ระดับรุนแรง หรือ ไอซียู. ต้องรับการแก้ไขทันที และชุมชนปลอดภัย ขจัดยาเสพติด อุดหนุนงบประมาณตรวจสารเสพติดทั้งจังหวัด งบประมาณปีละ 1,200 ล้านบาท เงินสะสมอีก 1,500 ล้านบาท สามารถทำ 5 ด่วนให้เป็นจริงได้แน่นอน และรู้สึกเสียดายงบเลือกตั้ง อบจ.อุดรธานี จากการลาออกของนายกฯ ทำให้ต้องเลือกตั้ง 2 ครั้ง ครั้งละราว 80 ล้านบาท ต้องใช้งบประมาณถึง 2 เท่า
นาย
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียง กล่าวว่า เดิมพรรคการเมืองจะไม่ส่งผู้สมัครลงแข่งขันในสนามเล็กหรือท้องถิ่น ที่ชัดเจนหน่อยก็ได้ชัดคือ กทม. แต่เรามองว่าการจะเปลี่ยนประเทศ การเมืองระดับประเทศไม่พอ จะต้องควบคู่กันไปกับท้องถิ่น ระดับชาติและระดับท้องถิ่นต้องช่วยกัน ผู้มีอำนาจต้องรับใช้ประชาชน ทำแนวนโยบายจัดการสาธารณะให้ดีขึ้น การเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งก่อน พรรคเราได้รับเลือกเข้ามาด้วย พื้นที่เราได้รับเลือกได้ทำต้นแบบ น้ำประปาใสสะอาดดื่มได้รวม 11 แห่ง ที่อุดรธานีก็มี 1 แห่ง เมื่อทำได้ก็ต้องขยายต่อไป, การรับโอน รพ.สต.หลายจังหวัดทำแล้ว บางจังหวัดครบ 100% แต่ อบจ.อุดรธานี ยังไม่มีการรับโอน เราได้ไปทดลองทำที่ รพ.สต.หนองแคน 8 หมู่บ้าน ติดตั้ง “
เทเลเมดิซีน” ตรวจสุขภาพที่หมู่บ้าน ออนไลน์ไปให้หมอที่ รพ.วินิจฉัย นอกจากนี้ยังมี โรงเรียน อบจ.ใกล้บ้าน และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เราทำสำเร็จมีตัวอย่างให้เห็น
นาย
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน เปิดเผยว่า ในการลงชิงเก้าอี้นายก อบจ.อุดรธานี นาย
คณิศร ขุริรัง ตัวแทนของพรรคประชาชน มีหลายอย่างเป็นจุดแข็ง ตัวจริงเสียงจริงของชาวอุดรธานี เกิดตั้งแต่ จ.หนองบัวลำภู ยังไม่แยกจากอุดรธานี ทำงานการเมืองในระดับท้องถิ่น เป็นสมาชิกสภาเทศบาลนครอุดรธานีมาก่อน และเคยดำรงตำแหน่ง รองนายก อบจ.ด้วย ถือว่าเป็นคนที่มีประสบการณ์สูง ชัดเจนในเรื่องอุดมการณ์ เข้าร่วมทำงานตั้งแต่สมัยพรรคก้าวไกล ก่อนมาเป็นพรรคประชาชนมาโดยตลอด เนื่องจากเมืองอุดรธานี เป็นเมืองหลวงแห่งประชาธิปไตย ที่พิสูจน์ให้เห็นแล้ว
“
ถ้าพ่อแม่พี่น้องชาวอุดรธานี อยากจะเลือกตัวแทนที่อยู่ข้างประชาธิปไตยจริงๆ คิดว่ากาเบอร์ 1 ไม่ผิดหวังแน่นอน หากวันที่ 24 พฤศจิกายน 67 ได้รับการเลือกเป็นนายก อบจ.อุดรธานี พร้อมทำงานทันทีนับตั้งแต่วันแรก และขณะนี้ในทีมผู้สมัคร ส.อบจ. ทางเราได้วางผู้ลงสมัครไว้แล้ว 40 เขต
จาก 42 เขต และทุกคนช่วยกันลงพื้นที่เดินหน้าหาเสียงช่วยผู้ลงสมัครชิงนายก อบจ. แบบปูพรม ก่อนจะมีการเลือกตั้ง ส.อบจ. ในช่วง กุมภาพันธ์ 2568 ทำให้พื้นที่รอบนอกหรือต่างอำเภอ ทางพรรคเราก็ไม่หวั่น เพราะเราไม่ได้โฟกัสแต่พื้นที่ตัวเมืองอุดรธานี เห็นจากที่เราตระเวนจัดเวทีปราศรัยไปตามต่างอำเภอ และก็มีประชาชนมาฟันกันแน่นทุกเวที”
นาย
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หน.พรรคประชาชน เปิดเผยต่อว่า การทำงานในครั้งนี้ ไม่มีความกดดันอะไร เพราะทราบดีอยู่ว่า ทุกการเลือกตั้งคือโอกาสแห่งชัยชนะและแพ้ได้เช่นเดียวกัน แต่เราไม่คิดล่วงหน้าว่าจะแพ้หรือชนะ แต่ตอนนี้ต้องทำให้ดีที่สุดในการมาขอเสียงจากพ่อแม่พี่น้องชาวอุดรธานี ให้เราได้คะแนนมากที่สุด ทำอย่างไรที่จะยืนยันว่า เราชัดเจนในอุดมการณ์ประชาธิปไตย เรามีนโยบายที่พร้อมจะเดินหน้าให้กับ จ.อุดรธานี เช่นเป็นการแก้ไขปัญหายาเสพติดที่ชาว จ.อุดรธานี ประสบเหตุอยู่ทุกวัน การถ่ายโอน รพ.สต. หรือระบบสาธารณสุข ที่ไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาลที่ห่างไกลบ้าน รวมทั้งน้ำประปาสะอาด ที่ใช้ดื่มได้อย่างถูกหลักอนามัย
“
หลังจากนี้ทางพรรคประชาชน จะเดินหน้าส่งคนลงสมัครชิงนายก อบจ.ทั่วทุกภูมิภาคอย่างแน่นอน ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 67 ทางพรรคเราก็จะมีการเปิดตัวที่ชั้น 7 อาคารอนาคตใหม่ ทางพรรคจะแถลงพร้อมกันว่าจะส่งลงในจังหวัดไหนบ้าง ส่วนการจะดึงคะแนนนิยมของพรรคกลับคืนมานั้น คิดว่าเราต้องยืนหยัดในอุดมการณ์ให้ชัดเจนก่อน และนโยบายที่สอดคล้องกับแต่ละพื้นที่จริงๆ อย่างเช่น คุณคณิศรได้สื่อสารนโยบาย 8 เสาหลัก เรายังมีนโยบาย 5 ด่วน”
นาย
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หน.พรรคประชาชน เปิดเผยอีกว่า นโยบาย 5 ด่วน ไม่ว่าจะเป็นการกำจัดทุจริตคอร์รัปชั่นให้หมดไป, ถนนหนทางไม่เป็นหลุมเป็นบ่อ มีไฟส่องสว่าง เดินทางต้องปลอดภัย, การถ่ายโอน รพ.สต., ประชาชนต้องมีส่วนร่วม และปัญหายาเสพติด ปัญหา 5 ด่วน 5 ด้านนี้ เป็นเสียงสะท้อนของชาว จ.อุดรธานี และใช่ว่าทุกจังหวัดจะมีปัญหาเหมือนกัน หรือแบบเดียวกันทั้งหมด เพราะฉะนั้นทางพรรคประชาชน จะทำงานต่อจากนี้ให้สอดคล้องกับปัญหาที่สะท้อนจากเสียงของประชาชนในพื้นที่ด้วย ตามยุทธศาสตร์ของพรรคประชาชนที่จะทำให้ชนะการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น.
พริษฐ์ เผย กม.การศึกษาฉบับปชน.เสร็จแล้ว อยู่ในขั้นรับฟังความเห็น เชื่อทุกร่างถูกพิจารณาพร้อมกัน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4880061
พริษฐ์เผย พ.ร.บ.การศึกษาฉบับพรรค ปชน.เสร็จแล้ว อยู่ในขั้นตอนรับฟังความคิดเห็น เชื่อทุกร่างถูกพิจารณาพร้อมกัน แต่จะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับ ครม.จะยื่นร่างของตนเข้ามาเมื่อไหร่
เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน นาย
พริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติการศึกษา (พ.ร.บ.) ฉบับพรรคประชาชน
นาย
พริษฐ์กล่าวว่า พ.ร.บ.การศึกษาฉบับใหม่จัดทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว และอยู่ในขั้นตอนการนำไปรับฟังความคิดเห็นในวงกว้างทั้งผู้ปกครอง นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งเนื้อหาหลักของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้เป็นร่างที่มาแทนที่ พ.ร.บ.การศึกษาฉบับปัจจุบัน มีสาระสำคัญคือ การเพิ่มหมวดที่เกี่ยวข้องกับสิทธิของผู้เรียน เป็นการรับประกันสิทธิของผู้เรียนทุกคนในประเทศควรจะได้รับเกี่ยวกับการศึกษาที่มีคุณภาพ และสวัสดิการด้านการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นสิทธิในการเรียนฟรี การเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และการวางกลไกที่จะทำให้หลักสูตรการศึกษาของไทยเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง จะมีการวางกลไกเพื่อทบทวนหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานของประเทศทุกๆ 3 ถึง 5 ปี และจะมีการกระจายอำนาจให้โรงเรียนมีความยืดหยุ่นในการออกแบบหลักสูตรการศึกษาได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงส่งเสริมการศึกษานอกระบบโรงเรียนด้วย
JJNY : 5in1 แอ่วเหนือคนละครึ่งเหงา│ปชน.เปิดเวทีปราศรัย│พริษฐ์เผยกม.เสร็จแล้ว│พริษฐ์มองพท.อย่าแก้ตัว│สหรัฐร่วมร่วมซ้อมรบ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9488406
แอ่วเหนือคนละครึ่ง เงียบเหงา ร้านอาหารชี้ขั้นตอนยุ่งยาก ส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจวิธีใช้สิทธิ ทำลูกค้าเสียโอกาสอื้อ ชี้ควรลดขั้นตอนให้สะดวกกว่านี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ร้านผาม ร้านอาหารเหนือชื่อดัง ตั้งอยู่ ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย และเป็นหนึ่งในร้านที่สมัครเข้าร่วมโครงการ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง”
โดยพบว่าบรรยากาศภายในร้าน แม้จะเข้าร่วมโครงการ แต่ยังไม่มีคึกคักมาก มีนักท่องเที่ยว ลูกค้าเข้าไปใช้บริการบ้างแต่ก็ไม่มากนัก
นายวัชิรานุวัฒน์ วงศ์ทะจักร์ ผู้จัดการร้าน กล่าวว่า ปกติทุกปีในช่วงเดือน พ.ย. ซึ่งเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูหนาว จะมีลูกค้ามาใช้บริการกันอย่างหนาแน่น ประมาณร้อยละ 60-70 แต่ปีนี้พบว่าลูกค้าน้อยเหลือไม่ถึงร้อยละ 50 คาดว่าน่าจะมาจากปัญหาน้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา ทำให้นักท่องเที่ยวยังไม่กล้าตัดสินใจวางแพลนมาเที่ยวเชียงราย
ขณะที่โครงการ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง” เริ่มมีเข้ามาบริการบ้างแล้ว แต่ยังถือว่าน้อย สามารถใช้สิทธิได้เพียงไม่กี่ราย เนื่องจากส่วนใหญ่ยังเข้าใจว่าจะสามารถมาใช้สิทธิที่ร้านได้เลย จึงไม่ได้มีการลงทะเบียนขอรับสิทธิยังที่พักที่โรงแรม ซึ่งจะต้องสแกนคิวอาร์โค้ดและกรอกข้อมูลเสียก่อนถึงจะมาใช้สิทธิได้ ทำให้ลูกค้าหลายคนเสียโอกาสที่จะใช้สิทธิดังกล่าวไป
หลายคนมาสอบถาม เพื่อต้องการใช้สิทธิ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง” แต่ก็ไม่ได้ เพราะยังมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก จึงอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้โครงการไม่ได้รับการตอบรับเท่าที่ควร ซึ่งอยากให้ภาครัฐเร่งทำการประชาสัมพันธ์การใช้สิทธิให้ละเอียดกว่านี้ หรือลดขั้นตอนการใช้สิทธิให้สะดวกขึ้นกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวยังเชื่อว่าโครงการ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง” จะกระตุ้นการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายได้เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงโครงการเที่ยวด้วยกันที่กำลังจะเปิดให้ใช้สิทธิ หวังว่าในช่วงปลายปีจนถึงช่วงต้นปีการท่องเที่ยวของเชียงรายจะกลับมาถึงคัดเหมือนทุกปี
ปชน.เปิดเวทีปราศรัยชิงนายก อบจ.อุดรธานี ชู 5นโยบายด่วน “เปลี่ยนอุดร ให้ก้าวไกล อบจ.รับใช้ประชาชน”
https://www.matichon.co.th/politics/news_4880006
ปชน.เปิดเวทีปราศรัยชิงนายก อบจ.อุดรธานี ชู 5 นโยบายด่วน “เปลี่ยนอุดร ให้ก้าวไกล อบจ.รับใช้ประชาชน”
เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ที่ศาลาหน้าวัดรัตนมงคล บ.อูบมุง ม.1 ต.อูบมุง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี พรรคประชาชน หมายเลข 1 เปิดเวทีปราศรัยย่อยรณรงค์หาเสียง “เปลี่ยนอุดร ให้ก้าวไกล อบจ.รับใช้ประชาชน” ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน
2567 โดยมีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ปราศรัยแนะนำว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียง ปราศรัยสนับสนุนการกระจายอำนาจ และความสำคัญของการเลือกตั้งนายก อบจ. มีประชาชนในเขตเลือกตั้งที่ 2 อำเภอหนองวัวซอ มาร่วมรับฟังราว 500 คน
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า ในการเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครั้งก่อนเราได้คะแนนเสียง 180,000 คะแนน การเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งล่าสุดเราเติบโตขึ้นได้เพิ่มมาเป็น 280,000 คะแนน ครั้งนี้เราส่งนายคณิศร ขุริรัง ลงสมัคร ซึ่งมีความพร้อมสามารถทำงานได้ทันที เคยเป็นสมาชิกสภาเทศบาลนครอุดรธานี, สมาชิกสภา อบจ.อุดรธานี, รองนายก อบจ.อุดรธานี และเป็นประธานสภาทนายความอุดรธานีถึง 2 สมัย การเลือกนายคณิศร ชาวอุดรธานีจะได้ “3 เด้ง 4 ป. 5 ด่วน” เด้งแรกได้ธนาธรมาช่วย เด้งสองได้พิธามาช่วย และเด้งสามได้ตนเองมาช่วย 4 ป. ป.แรกประชาธิปไตย แม้พรรคเราจะถูกยุบไป จุดยืนเราก็ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ป.สองประชาชนต้องเป็นศูนย์กลาง ป.สามโปร่งใสตรวจสอบได้ และ ป.สี่ประสิทธิภาพ กระจายอำนาจไม่รวมศูนย์
ด้านนายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี หมายเลข 1 พรรคประชาชน กล่าวด้วยภาษาถิ่นแนะนำตัวเองว่า มีความพร้อมขอเสนอตัวเป็นทางเลือก เปลี่ยนพรรคที่เคยทำงานให้เรามา 12 ปี มาเลือกพรรคประชาชน โดยขอเสนอนโยบาย 5 ด่วน เมื่อได้รับเลือกเป็นนายก อบจ.อุดรธานี ทำทันที 5 แผนงาน คือ อบจ.โปร่งใส ไทอุดรมีส่วนร่วม คอร์รัปชั่นเป็น 0, รพ.สต.ก้าวหน้า ด้วยรับโอน รพ.สต.ที่สมัครใจ และพร้อม ทันทีอำเภอละ 2 แห่ง ยกระดับการรักษาปฐมภูมิ, น้ำประปาใสดื่มได้ตลอดปี ระบบประปาในระดับหมู่บ้านจะได้รับการปรับปรุง, ถนนปลอดหลุม ไฟสว่างจุดเสี่ยง สำรวจถนน อบจ.แบ่งเป็น 3 ระดับ ระดับรุนแรง หรือ ไอซียู. ต้องรับการแก้ไขทันที และชุมชนปลอดภัย ขจัดยาเสพติด อุดหนุนงบประมาณตรวจสารเสพติดทั้งจังหวัด งบประมาณปีละ 1,200 ล้านบาท เงินสะสมอีก 1,500 ล้านบาท สามารถทำ 5 ด่วนให้เป็นจริงได้แน่นอน และรู้สึกเสียดายงบเลือกตั้ง อบจ.อุดรธานี จากการลาออกของนายกฯ ทำให้ต้องเลือกตั้ง 2 ครั้ง ครั้งละราว 80 ล้านบาท ต้องใช้งบประมาณถึง 2 เท่า
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียง กล่าวว่า เดิมพรรคการเมืองจะไม่ส่งผู้สมัครลงแข่งขันในสนามเล็กหรือท้องถิ่น ที่ชัดเจนหน่อยก็ได้ชัดคือ กทม. แต่เรามองว่าการจะเปลี่ยนประเทศ การเมืองระดับประเทศไม่พอ จะต้องควบคู่กันไปกับท้องถิ่น ระดับชาติและระดับท้องถิ่นต้องช่วยกัน ผู้มีอำนาจต้องรับใช้ประชาชน ทำแนวนโยบายจัดการสาธารณะให้ดีขึ้น การเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งก่อน พรรคเราได้รับเลือกเข้ามาด้วย พื้นที่เราได้รับเลือกได้ทำต้นแบบ น้ำประปาใสสะอาดดื่มได้รวม 11 แห่ง ที่อุดรธานีก็มี 1 แห่ง เมื่อทำได้ก็ต้องขยายต่อไป, การรับโอน รพ.สต.หลายจังหวัดทำแล้ว บางจังหวัดครบ 100% แต่ อบจ.อุดรธานี ยังไม่มีการรับโอน เราได้ไปทดลองทำที่ รพ.สต.หนองแคน 8 หมู่บ้าน ติดตั้ง “เทเลเมดิซีน” ตรวจสุขภาพที่หมู่บ้าน ออนไลน์ไปให้หมอที่ รพ.วินิจฉัย นอกจากนี้ยังมี โรงเรียน อบจ.ใกล้บ้าน และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เราทำสำเร็จมีตัวอย่างให้เห็น
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน เปิดเผยว่า ในการลงชิงเก้าอี้นายก อบจ.อุดรธานี นายคณิศร ขุริรัง ตัวแทนของพรรคประชาชน มีหลายอย่างเป็นจุดแข็ง ตัวจริงเสียงจริงของชาวอุดรธานี เกิดตั้งแต่ จ.หนองบัวลำภู ยังไม่แยกจากอุดรธานี ทำงานการเมืองในระดับท้องถิ่น เป็นสมาชิกสภาเทศบาลนครอุดรธานีมาก่อน และเคยดำรงตำแหน่ง รองนายก อบจ.ด้วย ถือว่าเป็นคนที่มีประสบการณ์สูง ชัดเจนในเรื่องอุดมการณ์ เข้าร่วมทำงานตั้งแต่สมัยพรรคก้าวไกล ก่อนมาเป็นพรรคประชาชนมาโดยตลอด เนื่องจากเมืองอุดรธานี เป็นเมืองหลวงแห่งประชาธิปไตย ที่พิสูจน์ให้เห็นแล้ว
“ถ้าพ่อแม่พี่น้องชาวอุดรธานี อยากจะเลือกตัวแทนที่อยู่ข้างประชาธิปไตยจริงๆ คิดว่ากาเบอร์ 1 ไม่ผิดหวังแน่นอน หากวันที่ 24 พฤศจิกายน 67 ได้รับการเลือกเป็นนายก อบจ.อุดรธานี พร้อมทำงานทันทีนับตั้งแต่วันแรก และขณะนี้ในทีมผู้สมัคร ส.อบจ. ทางเราได้วางผู้ลงสมัครไว้แล้ว 40 เขต
จาก 42 เขต และทุกคนช่วยกันลงพื้นที่เดินหน้าหาเสียงช่วยผู้ลงสมัครชิงนายก อบจ. แบบปูพรม ก่อนจะมีการเลือกตั้ง ส.อบจ. ในช่วง กุมภาพันธ์ 2568 ทำให้พื้นที่รอบนอกหรือต่างอำเภอ ทางพรรคเราก็ไม่หวั่น เพราะเราไม่ได้โฟกัสแต่พื้นที่ตัวเมืองอุดรธานี เห็นจากที่เราตระเวนจัดเวทีปราศรัยไปตามต่างอำเภอ และก็มีประชาชนมาฟันกันแน่นทุกเวที”
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หน.พรรคประชาชน เปิดเผยต่อว่า การทำงานในครั้งนี้ ไม่มีความกดดันอะไร เพราะทราบดีอยู่ว่า ทุกการเลือกตั้งคือโอกาสแห่งชัยชนะและแพ้ได้เช่นเดียวกัน แต่เราไม่คิดล่วงหน้าว่าจะแพ้หรือชนะ แต่ตอนนี้ต้องทำให้ดีที่สุดในการมาขอเสียงจากพ่อแม่พี่น้องชาวอุดรธานี ให้เราได้คะแนนมากที่สุด ทำอย่างไรที่จะยืนยันว่า เราชัดเจนในอุดมการณ์ประชาธิปไตย เรามีนโยบายที่พร้อมจะเดินหน้าให้กับ จ.อุดรธานี เช่นเป็นการแก้ไขปัญหายาเสพติดที่ชาว จ.อุดรธานี ประสบเหตุอยู่ทุกวัน การถ่ายโอน รพ.สต. หรือระบบสาธารณสุข ที่ไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาลที่ห่างไกลบ้าน รวมทั้งน้ำประปาสะอาด ที่ใช้ดื่มได้อย่างถูกหลักอนามัย
“หลังจากนี้ทางพรรคประชาชน จะเดินหน้าส่งคนลงสมัครชิงนายก อบจ.ทั่วทุกภูมิภาคอย่างแน่นอน ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 67 ทางพรรคเราก็จะมีการเปิดตัวที่ชั้น 7 อาคารอนาคตใหม่ ทางพรรคจะแถลงพร้อมกันว่าจะส่งลงในจังหวัดไหนบ้าง ส่วนการจะดึงคะแนนนิยมของพรรคกลับคืนมานั้น คิดว่าเราต้องยืนหยัดในอุดมการณ์ให้ชัดเจนก่อน และนโยบายที่สอดคล้องกับแต่ละพื้นที่จริงๆ อย่างเช่น คุณคณิศรได้สื่อสารนโยบาย 8 เสาหลัก เรายังมีนโยบาย 5 ด่วน”
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หน.พรรคประชาชน เปิดเผยอีกว่า นโยบาย 5 ด่วน ไม่ว่าจะเป็นการกำจัดทุจริตคอร์รัปชั่นให้หมดไป, ถนนหนทางไม่เป็นหลุมเป็นบ่อ มีไฟส่องสว่าง เดินทางต้องปลอดภัย, การถ่ายโอน รพ.สต., ประชาชนต้องมีส่วนร่วม และปัญหายาเสพติด ปัญหา 5 ด่วน 5 ด้านนี้ เป็นเสียงสะท้อนของชาว จ.อุดรธานี และใช่ว่าทุกจังหวัดจะมีปัญหาเหมือนกัน หรือแบบเดียวกันทั้งหมด เพราะฉะนั้นทางพรรคประชาชน จะทำงานต่อจากนี้ให้สอดคล้องกับปัญหาที่สะท้อนจากเสียงของประชาชนในพื้นที่ด้วย ตามยุทธศาสตร์ของพรรคประชาชนที่จะทำให้ชนะการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น.
พริษฐ์ เผย กม.การศึกษาฉบับปชน.เสร็จแล้ว อยู่ในขั้นรับฟังความเห็น เชื่อทุกร่างถูกพิจารณาพร้อมกัน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4880061
พริษฐ์เผย พ.ร.บ.การศึกษาฉบับพรรค ปชน.เสร็จแล้ว อยู่ในขั้นตอนรับฟังความคิดเห็น เชื่อทุกร่างถูกพิจารณาพร้อมกัน แต่จะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับ ครม.จะยื่นร่างของตนเข้ามาเมื่อไหร่
เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติการศึกษา (พ.ร.บ.) ฉบับพรรคประชาชน
นายพริษฐ์กล่าวว่า พ.ร.บ.การศึกษาฉบับใหม่จัดทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว และอยู่ในขั้นตอนการนำไปรับฟังความคิดเห็นในวงกว้างทั้งผู้ปกครอง นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งเนื้อหาหลักของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้เป็นร่างที่มาแทนที่ พ.ร.บ.การศึกษาฉบับปัจจุบัน มีสาระสำคัญคือ การเพิ่มหมวดที่เกี่ยวข้องกับสิทธิของผู้เรียน เป็นการรับประกันสิทธิของผู้เรียนทุกคนในประเทศควรจะได้รับเกี่ยวกับการศึกษาที่มีคุณภาพ และสวัสดิการด้านการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นสิทธิในการเรียนฟรี การเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และการวางกลไกที่จะทำให้หลักสูตรการศึกษาของไทยเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง จะมีการวางกลไกเพื่อทบทวนหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานของประเทศทุกๆ 3 ถึง 5 ปี และจะมีการกระจายอำนาจให้โรงเรียนมีความยืดหยุ่นในการออกแบบหลักสูตรการศึกษาได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงส่งเสริมการศึกษานอกระบบโรงเรียนด้วย