▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวต่างประเทศ
บันทึกนักเดินทาง
ท่องเที่ยว
แผนการเดินทางและท่องเที่ยว
สถานที่ท่องเที่ยว
เกาะใต้ นิวซีแลนด์...ประเทศนี้ไม่ได้มีแค่แกะ
ในทริปไปกัน 9 คนทุกคนเป็นสว.หมด .... ไปกัน 3 route
นัดเจอกันที่ Christchurch ทริปนี้เราใช้ local agency จัดรถและคนขับให้ผมเดินทางด้วย Qantas airline จากกรุงเทพฯไปtransit ที่Sydney. เพิ่งรู้สึกว่า Newzelandอยู่ไกลมาก Bkk>Sydney 7900 km Sydney>Christchurch 2209 kmรวมๆแล้วก็เกือบหมื่นกิโลเมตรครับ
เวลาที่ Christchurch ล่วงหน้าไทยไป 5 ชั่วโมงและจะปรับให้เร็วขึ้นไปอีก เป็น 6 ชั่วโมงในช่วง day light saving time คือ ตั้งแต่วันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 4 ของเดือนกันยายน ถึงวันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 1 ของเดือนเมษายน
ถึงสนามบิน Christchurchซึ่งเป็นสนามบินขนาดไม่ใหญ่มาก
อากาศเย็นกำลังดีดอกไม้สวย ทางเดินไปสู่ลานจอดรถบัสเข้าเมืองสะดวกสว่างไสว ป้ายตารางเวลารถชัดเจน...อะไรๆก็กำลังจะดีๆแต่บนรถใช้ไม่ได้ทั้ง debit และ credit card โชคดีที่แลกเงิน Newzeland เอาไว้เผื่อเข้าห้องน้ำไว้บ้างก็เลยได้ใช้ไปก่อน...และสุดท้ายเงินเผื่อเข้าห้องน้ำก็กลายเป็นเงินใช้ขึ้นรถประจำทางทั้งหมด.....เพราะNew Zealand มีบริการห้องน้ำสาธารณะซึ่งไม่คิดค่าบริการ ห้องน้ำสาธารณะ ทั่วทั้งเกาะ เป็นห้องน้ำที่สะอาดสะอ้าน ในชนบท บางครั้งก็จะมี
ดอกไม้ในแจกันให้สดชื่นด้วย...ดูเหมือนคนดูแลจะเป็นชาวบ้านในละแวกนั้นๆเป็นผู้ดูแล อัธยาศัยไมตรีดีมาก....แต่ที่ทึ่งจริงๆ คือไม่คิดเงิน !!!
แผนการเดินทางที่วางไว้กับ agency คือเดินทางตามroute ในรูป และเขาจัด bus กับคนขับซึ่งเป็นไกด์ไปด้วยทำให้เราสะดวกสบายในการเดินทางมาก
ท่ารถบัสในเมือง Christchurch ทำเป็นช่องให้รถเข้าไปในอาคารทำให้คนที่ยืนคอยบัสในอาคารซึ่งมีกระจกมิดชิดไม่ต้องยืนหนาวคอย
...ดูเข้าท่ามาก เมืองก็ขนาดกำลังดีตึกสูงมีน้อยมากส่วนใหญ่จะเป็นชั้นเดียวหรือสองชั้น คงเนื่องจากเคยเป็นเมืองที่โดนแผ่นดินไหวมาก่อน
ช่วงที่มาเป็นช่วงที่ดอกไม้บานพอดี เมืองจึงเต็มไปด้วยสีสรร สถานที่เราได้มีโอกาสไปชมได้แก่ Christchurch Botanic Garden,Te Matatiki Toi Ora The Arts Centre,River market,Avon river,The Bridge of Remembrance,Victoria Square,The Canterbury Earthquake Memorial สถานที่เหล่านี้อยู่ติดๆกันถ้าฟิตสักนิดก็จะเดินเล่นถ่ายรูปไปได้เพลินๆ ใช้เวลากับตรงนี้เต็มๆ 1 วันได้เลยครับ
เราพักกันที่ Scenic Hotel Cotswold ครับที่พักสะดวกสบายดี อาหารและ เครื่องดื่มของrestaurant ของโรงแรมก็ราคาไม่แพงครับ โรงแรมอยู่ห่างจากใจกลางเมืองสักนิด มี bus และแท็กซี่ให้บริการได้ครับ แท็กซี่นั้นเรียกจาก uber จะได้ราคาดีที่สุด เขาให้นั่งกันได้คันละไม่เกิน4 คน
หลังอาหารเช้าที่โรงแรม แล้วก็เดินทางจาก Christchurch เพื่อมุ่งหน้าไปยัง Lake tekapo ระหว่างทางเราได้แวะเพื่อ เดิน trekking ที่Big Tree Walk at Peel Forest เป็นทางเดินในที่ความสูงประมาณ 870 เมตร เป็นการเดินไประหว่างทางเพื่อสำรวจต้นไม้ใหญ่ คือ Kahikatea และ Totara ซึ่งมีอยู่ตลอด 2 ข้างทาง เดินทางประมาณ 30 นาทีไปกลับเรียกเหงื่อได้พอสมควรครับ ป่าก็ดูอุดมสมบูรณ์ดีชุ่มชื้นสูงในช่วงที่เราไปทางเดินก็จะแฉะๆเล็กน้อย ก็ต้องระวังเรื่องการลื่นกันนะครับ
หลังจากนั้นก็แวะกินอาหารเที่ยงกันที่เมืองGeraldine ตรงข้ามกับจุดที่แวะรับประทานอาหารก็จ๊ะเอ๋กับโรงหนังประจำเมืองเอารูปมาฝากครับ
เส้นทางในชนบท ทางหลวงอยู่ในสภาพดีมาก รถรามีน้อย แอบนึกถึงการปั่นจักรยานแต่คงไม่ไหวถนนแคบเกินไปไหล่ทางก็แทบไม่มีคงจะอันตรายถ้ามีจักรยานมาปั่นซึ่งเลนจักรยานยังมีบ้างก็เฉพาะในเมืองเท่านั้น
ที่Lake tekapo พวกเราก็พักผ่อนกันชิวๆ ที่พลาดไม่ได้คือ The Church of good Shepherd กิจกรรม ถ่ายทางช้างเผือกตอนกลางคืน และวิ่งริมทะเลสาบในตอนเช้า ก็ทำให้ชิวมากขึ้น ...ที่ไม่สนุกเลยของที่นี่คือ ราคาอาหารเย็นแพงมาก เราได้กินราเมง ที่แพงที่สุดที่เคยกินมาก็ที่นี่แหละ...แต่ก็ถือว่าสนับสนุนกิจการของน้องๆเพราะพนักงานในร้านก็เป็นคนไทยหลายคน 55
เช้าวันรุ่งขึ้นเรากินอาหารเช้าที่โรงแรมที่พักคือโรงแรม Peppers Bluewater Resort อาหารเช้าค่อนข้างดีมีให้เลือกหลากหลาย แต่ห้องพักเล็กมากอันนี้บ่นกันทุกคน
เป้าหมายต่อไปเราคือAoraki/Mount Cook Village คราวนี้ก็จะได้ออกแรงกันละครับ trekking ไป Hooger glacier กันครับ ทำ link Vdo บรรยากาศมาฝากครับ บอกเลยชอบมากๆๆ https://youtu.be/0GS-0v4oifU?si=5ipXjDSOn5eIPzrYวิวอลังการ
ใช้เวลาเดินกันราวๆ 3-4 ชั่วโมงอาหารเที่ยงเราทานกันเป็นแซนวิชเบอร์เกอร์ง่ายๆที่เตรียมมา กินอาหารกันเสร็จ ฝนตกปรอยๆ เราเดินทางต่อเข้าที่พักที่ Twizel เมือง เล็กๆน่ารักๆราคาไม่แรงเหมือนโรงแรมที่เมาท์คุก เหนื่อยยังไงก็ไม่แนะนำให้หลับนะครับช่วงนี้ สำหรับคนที่ชอบภูเขาวิวสองข้างทางสวยงามมาก เราจะได้เห็นการเลี้ยงแกะmerino, กวาง,ม้า และวัวอยู่สองข้างทาง เป็นช่วงๆ
ที่ Twizel พักที่โรงแรม the
Distinction Mackenzie Country Hotel โรงแรมใหญ่แต่ค่อนข้างเก่านิดหน่อย ที่นี่มีที่ส่วนกลางให้เราได้นั่งเม้าท์เรื่องราวสมัยเอ๊าะๆกันตอนกลางคืนด้วยครับ...ฟิน
เช้าวันใหม่ของเราที่ Twizel เป็นวันอาทิตย์ที่ 4 ของเดือนกันยายน ตั้งแต่ตี 2 เวลาก็จะเปลี่ยนมาเร็วขึ้นอีก 1 ชั่วโมง ตาม daylight savings times เราต้องตื่น 7:00 น เท่าเดิมแต่กลับได้นอนน้อยลง 1 ชั่วโมง 555 ... เวลาที่นิวซีแลนด์ในช่วง daylight saving time ก็จะเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 6 ชั่วโมงครับ แล้วจะเป็นอย่างนี้ไปจนถึงอาทิตย์ที่ 1 ของเดือนเมษายน ของทุกปี จึงจะกลับลงมาเท่าเดิม
เราออกเดินทางไปชม elephant rock แล้วไปเมือง Oamaru ชมอาคารสถาปัตย์เก่าๆ แวะชม ชายหาดและเมืองที่ตั้งบนหุบเขาและเนินเขา ถนนบางถนนจะชันมากๆ แปลกดี คงขับรถกันลำบากน่าดู
[img]h
แวะไปชมMoeraki Boulders หินทรงกลมน่าตาเหมือนไข่ตัวอะไรสักอย่างริมหาดที่ริมหาด แต่เราไม่มีโอกาสได้เห็นเพนกวินแคระครับ
หลังจากนั้นก็เดินทางไปเมือง Dunedin เมืองการศึกษาที่ตั้งของมหาวิทยาลัย University of Otago ซึ่งมีชื่อเสียงและมีนักเรียนจากต่างประเทศมาเรียนมาก ที่นี่เราแวะชมมหาวิทยาลัย สถานีรถไฟ และ sightseeing รอบตัวเมือง...ซึ่งก็มีเรื่องเล่าจากไกด์เนื่องจากเป็นเมืองที่นักศึกษาเยอะ จึงมีปัญหาต่างๆตามมาจากความนิยมที่จะชอบจัดปาร์ตี้ของนักศึกษาและจะมีแหล่งเสื่อมโทรมบ้าง ก็คงเป็นธรรมดาเข้าใจได้ 55 คืนนี้เราพักที่โรงแรม Kingsgate Hotel Dunedin ซึ่งตั้งอยู่ใกล้จัตุรัส The Octagon ผังเมืองรูปแปดเหลี่ยม ตอนเช้าก็เลยได้มีโอกาสวิ่งสำรวจเมืองสบายๆ
อาหารเช้าที่โรงแรมวันที่ 4 ทำให้เรารู้สึกได้ถึงความซ้ำของเมนูอาหารโรงแรม คิดถึงอาหารสำเร็จรูปของไทย ที่เราไม่สามารถเอามาได้เนื่องจาก Customs ของNZ ไม่อนุญาตให้นำเข้ามาครับ ถ้าไม่ได้ declare เอาเข้ามาถูกจับได้จะเป็นเรื่องใหญ่จ้า.วันนี้เราเดินทางไปตาม Catlins Coast แวะดูหาดต่างๆในช่วงเช้า เลาะหาดต่างๆและเมืองชนบทชายทะเล มุ่งหน้าไปยัง Te Anau ชายฝั่งทะเล Tasman เมืองท่าสำหรับการสำรวจFiordland National park