เรื่องมีอยู่ว่า
------
เมื่อก่อนเราไม่เคยเป็นแบบนี้เลย เรามักจะคุยกับคน คนเดียว ไม่เคยมีเรื่องนอกใจ หลังจากที่เราเลิกกับแฟนมาได้ประมาณ 5-6 เดือน
ก่อนวันเกิด: ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม ตอนนั้นเราไม่มีแฟนเลยลองหาคู่ผ่าน Facebook และทักไปหลายคน ในที่สุดก็มีคนคุยด้วยถึง 4-5 คน สำหรับเรา มันเหมือนกับว่า เราคุยกับคนนี้เสร็จแล้วก็ไปคุยกับคนอื่นต่อ แต่ในใจเราไม่ได้หวังว่าจะต้องได้ใครเป็นพิเศษ แค่คุยเพื่อคลายเหงาเท่านั้น แต่ถ้าจะมีอย่างอื่นก็คิดไว้บ้าง 555+
หลังจากคุยกับหลายคน สุดท้ายก็มาลงตัวที่ 3 คน ได้แก่:
1. ครูข้าราชการ จากพิษณุโลก
2. ครูอัตราจ้าง ที่ฉะเชิงเทรา
3. สาวพนักงานรถทัวร์ อยู่แถวหมอชิต
สำหรับสาวคนแรกที่เป็นครูข้าราชการ ตอนแรกคุยกันสนุก เธอเล่าปัญหาส่วนตัวให้ฟัง บอกว่าเคยหมั้นมาแล้ว และเธอไม่ได้ลบข้อมูลของแฟนเก่าใน Facebook เพราะไม่ได้มีความสัมพันธ์กันอีกแล้ว ดังนั้นเธอจึงยินดีคุยกับเราไหม
คนที่สองเป็นครูอัตราจ้าง อายุไล่เลี่ยกัน เราคุยกันสนุก เหมือนเป็นเพื่อน มีงอนมีง้อกันบ้าง โทรคุยกันเป็นปกติ คุยกันทุกวัน และมีความรู้สึกดีต่อกัน
คนที่สามเป็นสาวพนักงานรถทัวร์ อายุ 27 ปี มีลูกสองคน คุยกันเรื่อยๆ ตอนแรกเรายังไม่รู้สึกอะไร แต่คุยโทรศัพท์กันทุกคืน ถามว่าไปไหน ทำอะไรบ้าง
เราคุยกับสาวทั้งสามคนพร้อมกัน เปิดหน้าต่างแชทค้างไว้หมดเลย 555+ ถ้าใครโทรมาก็รับได้ ถ้าติดสายก็จะโกหกว่า “คุยกับเพื่อน” แล้วส่งให้ดู
---
ก่อนวันเกิด 1 วัน (วันที่ 10)
เรากลับบ้านต่างจังหวัดและบอกสาวทั้ง 3 คนว่าเราจะกลับบ้าน ระยะทางที่กลับบ้านก็ผ่านจังหวัดใกล้ๆ บ้านเรา ระหว่างทาง เราเล่นแอพสีเขียวอ่อน ปัดไปเรื่อยๆ ถ้าแมชก็ทักไป สุดท้ายก็ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมงถึงบ้าน ในช่วงบ่าย เราบอกสาวทั้งสามคนว่าเราถึงบ้านแล้ว
สาวหมอชิตโทรมาถามเราอยู่เรื่อยๆ ว่าถึงยัง เป็นไงบ้าง เราก็คุยไปเรื่อยๆ จนรู้สึกว่าเธอเริ่มมีใจและเป็นห่วงเรามาก หลังจากที่สาวหมอชิตวางสายไป เราก็โทรไปหาสาวฉะเชิงเทราที่เป็นครูอัตราจ้าง คุยกันปกติ ถามว่าเธอทำอะไร อยู่ไหน ส่วนคนพิษณุโลก เราก็แค่ทักไปบอกเขาว่าเราถึงบ้านแล้ว คุยเรื่อยๆ ปกติ
ช่วงนี้มันดูจิ๊บๆ เหมือนเราคุยกับเขาแค่แก้เหงา เรายังไม่รู้สึกอะไรจริงจัง
หลังจากคุยกับสาวทั้งสามคนเสร็จ จำตอนที่เราเล่นแอพสีเขียวอ่อนได้ไหม? มีสาวทักมาคนหนึ่ง ระยะทางไม่ห่างมาก อยู่จังหวัดใกล้ๆ บ้านเราเลย คุยกันถูกคอ ถามว่าอยู่แถวไหน ทำงานอะไร จากนั้นเราขอ IG เขา เขาก็ให้ เราคุยกันต่อ เขาถามว่ากลับบ้านบ่อยไหม เราก็ตอบไปว่า 2-3 เดือนกลับที ถ้ามีหวานใจแถวนี้ก็จะกลับทุกวันเลย 555+ มันเหมือนการจีบกันจริงจังเลย
เมื่อคุยกันสักพัก เธออยากเจอเรา เราดีใจมาก 555+ นานๆ จะมีสาวบอกตรงๆ เราก็ตอบรับทันที เธอก็ให้เบอร์มาเพราะเธออาจจะตอบช้าตอนที่ขึ้นเวร (เธอเป็นพยาบาล) เราก็คิดว่าจะขึ้นรถไฟไปหานาง เพราะระยะทางบ้านเรากับเธออยู่คนละจังหวัด คำนวณเวลาแล้วมันน่าจะสะดวกดี
พอถึงเวลา เราก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไปที่สถานีรถไฟ ซึ่งบ้านเราห่างจากตัวเมืองประมาณ 20 กว่าโล ในช่วงนั้นเป็นเวลาประมาณ 3 ทุ่ม ดึกๆ เลย ไม่กลัวอะไร ขี่ปกติ 555+ จากนั้นเราก็บอกสาวทั้ง 3 คนว่าไปกินเหล้าบ้านเพื่อนที่ต่างจังหวัดนะ 555+ โกหกแบบเนียนๆ
นั่งรถไฟไปถึงก็ไปห้องเธอเลย เธอก็ให้ผมนอนที่ห้องคนเดียว เพราะเธอขึ้นเวรดึกและจะลงเวรตอน 8 โมงเช้า คืนนั้นผมนอนที่ห้องเธอ จนมาถึงเช้าวันเกิด ผมก็ไปรับเธอไปกินข้าวด้วยกัน ตอนนั้นผมได้ปิดการแจ้งเตือนทุกช่องทางเลย เพื่อไม่ให้ใครโทรมา 555+
ในคืนที่เรานอนกอดกัน (18+) รู้สึกดีมาก เหมือนผมห่างอ้อมกอดมานาน อบอุ่นจนบอกไม่ถูก... ตกช่วงเย็นผมก็นั่งรถไฟกลับบ้าน พอกลับถึงบ้านได้สักพัก 2-3 ชั่วโมง สาวทั้ง 3 คนที่เราโกหกว่าไปกินเหล้าบ้านเพื่อนทักมา ถามว่าหายไปไหน ทำอะไรอยู่ ผมรู้สึกผิดมากที่ไม่ได้ตอบ จึงปรึกษาพี่ที่ทำงาน พี่เขาก็ดีบอกว่า ถ้าจะเลือกคนนี้ก็ต้องตัดคนอื่นไปเลย แต่ต้องดูให้ดีๆ ก่อนว่าเขามีแฟนหรือยัง
หลังจากนั้นเราก็ตัดสินใจทักบอกทั้ง 3 คนว่า ถ้าเราหายไป ให้รับรู้ไว้ว่าเรามีคนอื่น หลังจากนั้นก็เกิดปัญหาขึ้น บางคนบอกว่า “ตามสบาย จะไม่ยุ่งไม่กวนอีก”, “ก็ดีจะได้ไม่คุย ลบเพื่อนไปเลย” และสาวหมอชิตบอกว่า “ทำไมทำอย่างนี้ เราเสียใจนะที่เธอบอกแบบนี้ เราเป็นห่วงเธอ เรารู้สึกว่าจะมีใจกับเธอแต่ทำไมทำแบบนี้”
พอได้ยินแบบนี้ ผมก็จุกเหมือนกัน 555+ จึงอธิบายกับเขาไปว่าเป็นอย่างไร แต่ก็โกหกไปว่าเราไม่ได้มีใคร หลังจากนั้นเราก็ไม่คุยกับสาวทั้งสามคนเลย
หลังจากที่ถึงบ้านได้สักพัก ผมทักไอจีไปหาสาวพยาบาลที่ผมไปหา สักพักเธอก็บอกว่า “ขอโทษนะเธอ เรามีแฟนอยู่แล้ว แต่แฟนเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน อยู่คนละจังหวัด นานๆ จะเจอกัน” ความรู้สึกตอนนั้นคือจุก
แบบว่าผมเลิกคุยทุกคนเพื่อมาจริงใจกับเธอ แต่กลับโดนโกหก 555+
หลังจากอึ้งเสร็จ เธอก็ขอโทษ และในช่วงนั้นแฟนเธอก็ทักมาหาผม บอกว่า “บอกว่า คุยกับเมียกูหรอ” จากนั้นผมกลัว
เลย เราเลยไปบอกสาวพยาบาลว่าแฟนเธอทักมา 555+
จากนั้นเราทั้งคู่ก็ร่วมกันโกหก สร้างเรื่องต่างๆ จนแฟนเขาไม่ทักมา สาวพยาบาลบอกว่า “ที่จริงเราไม่มีใจกับเขาแล้ว เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่ แต่เราก็ให้เขาปรับ” ผมจึงถามว่า “ทำไมไม่เลิกไปให้จบๆ จะยื้อทำไม”
เธอจึงบอกว่า “เรากลัว กลัวว่าถ้าเลิกกับเขาไปแล้วจะไม่มีใครรักเราเท่าเขา ซัพพอร์ตเรา”
ผมจึงบอกว่า “เธอคิดแบบนี้จริงๆ เหรอ ทำไมคิดแบบนี้ คิดว่าไม่มีใครรักเธอจริงๆ หรอ”
จากนั้นคุยกันสักพัก สาวพยาบาลบอกว่า “เราอยากเจอเธอจริงๆ นะ แต่ถ้าเธอรู้แบบนี้แล้วเธอยังอยากเจอเราอยู่ไหม” ตอนนั้นในใจผมไม่อยากเป็นชู้รักใครเลย แต่ผมตอบไปว่า “อยากเจอ พรุ่งนี้เดี๋ยวไปหา” 555+
เมื่อถึงวันไปหาเธอ ผมก็ทำตัวเฉยๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น วันนั้นทั้งวันอยู่ที่ห้องเธอ เป็นเวลาที่นับได้เลย ผมกลับบ้าน 5 วัน อยู่บ้านตัวเอง 1 คืน 3 คืนอยู่ห้องเขายันกลับมาทำงาน 555+ ในวันที่อยู่กับเธอ ผมรู้สึกดีมาก เป็นวันเกิดที่มีความสุข พากันไปเที่ยว ไปกิน รู้สึกได้เลยว่านี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุด แต่ใจผมก็รู้สึกผิดที่ทำแบบนี้
วันสุดท้ายที่จะกลับ เขาชวนผมไปไหว้พระก่อนกลับ เหมือนผมเป็นแฟนกัน แต่ไม่สามารถพูดออกมาได้ ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนเพลง “ชู้รัก” ที่ว่า “เอาฉันออกไปจากความสัมพันธ์นี้สักที ถ้าเป็นได้แค่ที่สองของใคร ฉันไม่ต้องการ”
---
มีต่อด้านล่าง
รีวิว เดือนตุลา ก่อนวันเกิด และหลังวันเกิด
------
เมื่อก่อนเราไม่เคยเป็นแบบนี้เลย เรามักจะคุยกับคน คนเดียว ไม่เคยมีเรื่องนอกใจ หลังจากที่เราเลิกกับแฟนมาได้ประมาณ 5-6 เดือน
ก่อนวันเกิด: ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม ตอนนั้นเราไม่มีแฟนเลยลองหาคู่ผ่าน Facebook และทักไปหลายคน ในที่สุดก็มีคนคุยด้วยถึง 4-5 คน สำหรับเรา มันเหมือนกับว่า เราคุยกับคนนี้เสร็จแล้วก็ไปคุยกับคนอื่นต่อ แต่ในใจเราไม่ได้หวังว่าจะต้องได้ใครเป็นพิเศษ แค่คุยเพื่อคลายเหงาเท่านั้น แต่ถ้าจะมีอย่างอื่นก็คิดไว้บ้าง 555+
หลังจากคุยกับหลายคน สุดท้ายก็มาลงตัวที่ 3 คน ได้แก่:
1. ครูข้าราชการ จากพิษณุโลก
2. ครูอัตราจ้าง ที่ฉะเชิงเทรา
3. สาวพนักงานรถทัวร์ อยู่แถวหมอชิต
สำหรับสาวคนแรกที่เป็นครูข้าราชการ ตอนแรกคุยกันสนุก เธอเล่าปัญหาส่วนตัวให้ฟัง บอกว่าเคยหมั้นมาแล้ว และเธอไม่ได้ลบข้อมูลของแฟนเก่าใน Facebook เพราะไม่ได้มีความสัมพันธ์กันอีกแล้ว ดังนั้นเธอจึงยินดีคุยกับเราไหม
คนที่สองเป็นครูอัตราจ้าง อายุไล่เลี่ยกัน เราคุยกันสนุก เหมือนเป็นเพื่อน มีงอนมีง้อกันบ้าง โทรคุยกันเป็นปกติ คุยกันทุกวัน และมีความรู้สึกดีต่อกัน
คนที่สามเป็นสาวพนักงานรถทัวร์ อายุ 27 ปี มีลูกสองคน คุยกันเรื่อยๆ ตอนแรกเรายังไม่รู้สึกอะไร แต่คุยโทรศัพท์กันทุกคืน ถามว่าไปไหน ทำอะไรบ้าง
เราคุยกับสาวทั้งสามคนพร้อมกัน เปิดหน้าต่างแชทค้างไว้หมดเลย 555+ ถ้าใครโทรมาก็รับได้ ถ้าติดสายก็จะโกหกว่า “คุยกับเพื่อน” แล้วส่งให้ดู
---
ก่อนวันเกิด 1 วัน (วันที่ 10)
เรากลับบ้านต่างจังหวัดและบอกสาวทั้ง 3 คนว่าเราจะกลับบ้าน ระยะทางที่กลับบ้านก็ผ่านจังหวัดใกล้ๆ บ้านเรา ระหว่างทาง เราเล่นแอพสีเขียวอ่อน ปัดไปเรื่อยๆ ถ้าแมชก็ทักไป สุดท้ายก็ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมงถึงบ้าน ในช่วงบ่าย เราบอกสาวทั้งสามคนว่าเราถึงบ้านแล้ว
สาวหมอชิตโทรมาถามเราอยู่เรื่อยๆ ว่าถึงยัง เป็นไงบ้าง เราก็คุยไปเรื่อยๆ จนรู้สึกว่าเธอเริ่มมีใจและเป็นห่วงเรามาก หลังจากที่สาวหมอชิตวางสายไป เราก็โทรไปหาสาวฉะเชิงเทราที่เป็นครูอัตราจ้าง คุยกันปกติ ถามว่าเธอทำอะไร อยู่ไหน ส่วนคนพิษณุโลก เราก็แค่ทักไปบอกเขาว่าเราถึงบ้านแล้ว คุยเรื่อยๆ ปกติ
ช่วงนี้มันดูจิ๊บๆ เหมือนเราคุยกับเขาแค่แก้เหงา เรายังไม่รู้สึกอะไรจริงจัง
หลังจากคุยกับสาวทั้งสามคนเสร็จ จำตอนที่เราเล่นแอพสีเขียวอ่อนได้ไหม? มีสาวทักมาคนหนึ่ง ระยะทางไม่ห่างมาก อยู่จังหวัดใกล้ๆ บ้านเราเลย คุยกันถูกคอ ถามว่าอยู่แถวไหน ทำงานอะไร จากนั้นเราขอ IG เขา เขาก็ให้ เราคุยกันต่อ เขาถามว่ากลับบ้านบ่อยไหม เราก็ตอบไปว่า 2-3 เดือนกลับที ถ้ามีหวานใจแถวนี้ก็จะกลับทุกวันเลย 555+ มันเหมือนการจีบกันจริงจังเลย
เมื่อคุยกันสักพัก เธออยากเจอเรา เราดีใจมาก 555+ นานๆ จะมีสาวบอกตรงๆ เราก็ตอบรับทันที เธอก็ให้เบอร์มาเพราะเธออาจจะตอบช้าตอนที่ขึ้นเวร (เธอเป็นพยาบาล) เราก็คิดว่าจะขึ้นรถไฟไปหานาง เพราะระยะทางบ้านเรากับเธออยู่คนละจังหวัด คำนวณเวลาแล้วมันน่าจะสะดวกดี
พอถึงเวลา เราก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไปที่สถานีรถไฟ ซึ่งบ้านเราห่างจากตัวเมืองประมาณ 20 กว่าโล ในช่วงนั้นเป็นเวลาประมาณ 3 ทุ่ม ดึกๆ เลย ไม่กลัวอะไร ขี่ปกติ 555+ จากนั้นเราก็บอกสาวทั้ง 3 คนว่าไปกินเหล้าบ้านเพื่อนที่ต่างจังหวัดนะ 555+ โกหกแบบเนียนๆ
นั่งรถไฟไปถึงก็ไปห้องเธอเลย เธอก็ให้ผมนอนที่ห้องคนเดียว เพราะเธอขึ้นเวรดึกและจะลงเวรตอน 8 โมงเช้า คืนนั้นผมนอนที่ห้องเธอ จนมาถึงเช้าวันเกิด ผมก็ไปรับเธอไปกินข้าวด้วยกัน ตอนนั้นผมได้ปิดการแจ้งเตือนทุกช่องทางเลย เพื่อไม่ให้ใครโทรมา 555+
ในคืนที่เรานอนกอดกัน (18+) รู้สึกดีมาก เหมือนผมห่างอ้อมกอดมานาน อบอุ่นจนบอกไม่ถูก... ตกช่วงเย็นผมก็นั่งรถไฟกลับบ้าน พอกลับถึงบ้านได้สักพัก 2-3 ชั่วโมง สาวทั้ง 3 คนที่เราโกหกว่าไปกินเหล้าบ้านเพื่อนทักมา ถามว่าหายไปไหน ทำอะไรอยู่ ผมรู้สึกผิดมากที่ไม่ได้ตอบ จึงปรึกษาพี่ที่ทำงาน พี่เขาก็ดีบอกว่า ถ้าจะเลือกคนนี้ก็ต้องตัดคนอื่นไปเลย แต่ต้องดูให้ดีๆ ก่อนว่าเขามีแฟนหรือยัง
หลังจากนั้นเราก็ตัดสินใจทักบอกทั้ง 3 คนว่า ถ้าเราหายไป ให้รับรู้ไว้ว่าเรามีคนอื่น หลังจากนั้นก็เกิดปัญหาขึ้น บางคนบอกว่า “ตามสบาย จะไม่ยุ่งไม่กวนอีก”, “ก็ดีจะได้ไม่คุย ลบเพื่อนไปเลย” และสาวหมอชิตบอกว่า “ทำไมทำอย่างนี้ เราเสียใจนะที่เธอบอกแบบนี้ เราเป็นห่วงเธอ เรารู้สึกว่าจะมีใจกับเธอแต่ทำไมทำแบบนี้”
พอได้ยินแบบนี้ ผมก็จุกเหมือนกัน 555+ จึงอธิบายกับเขาไปว่าเป็นอย่างไร แต่ก็โกหกไปว่าเราไม่ได้มีใคร หลังจากนั้นเราก็ไม่คุยกับสาวทั้งสามคนเลย
หลังจากที่ถึงบ้านได้สักพัก ผมทักไอจีไปหาสาวพยาบาลที่ผมไปหา สักพักเธอก็บอกว่า “ขอโทษนะเธอ เรามีแฟนอยู่แล้ว แต่แฟนเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน อยู่คนละจังหวัด นานๆ จะเจอกัน” ความรู้สึกตอนนั้นคือจุก
หลังจากอึ้งเสร็จ เธอก็ขอโทษ และในช่วงนั้นแฟนเธอก็ทักมาหาผม บอกว่า “บอกว่า คุยกับเมียกูหรอ” จากนั้นผมกลัว
จากนั้นเราทั้งคู่ก็ร่วมกันโกหก สร้างเรื่องต่างๆ จนแฟนเขาไม่ทักมา สาวพยาบาลบอกว่า “ที่จริงเราไม่มีใจกับเขาแล้ว เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่ แต่เราก็ให้เขาปรับ” ผมจึงถามว่า “ทำไมไม่เลิกไปให้จบๆ จะยื้อทำไม”
เธอจึงบอกว่า “เรากลัว กลัวว่าถ้าเลิกกับเขาไปแล้วจะไม่มีใครรักเราเท่าเขา ซัพพอร์ตเรา”
ผมจึงบอกว่า “เธอคิดแบบนี้จริงๆ เหรอ ทำไมคิดแบบนี้ คิดว่าไม่มีใครรักเธอจริงๆ หรอ”
จากนั้นคุยกันสักพัก สาวพยาบาลบอกว่า “เราอยากเจอเธอจริงๆ นะ แต่ถ้าเธอรู้แบบนี้แล้วเธอยังอยากเจอเราอยู่ไหม” ตอนนั้นในใจผมไม่อยากเป็นชู้รักใครเลย แต่ผมตอบไปว่า “อยากเจอ พรุ่งนี้เดี๋ยวไปหา” 555+
เมื่อถึงวันไปหาเธอ ผมก็ทำตัวเฉยๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น วันนั้นทั้งวันอยู่ที่ห้องเธอ เป็นเวลาที่นับได้เลย ผมกลับบ้าน 5 วัน อยู่บ้านตัวเอง 1 คืน 3 คืนอยู่ห้องเขายันกลับมาทำงาน 555+ ในวันที่อยู่กับเธอ ผมรู้สึกดีมาก เป็นวันเกิดที่มีความสุข พากันไปเที่ยว ไปกิน รู้สึกได้เลยว่านี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุด แต่ใจผมก็รู้สึกผิดที่ทำแบบนี้
วันสุดท้ายที่จะกลับ เขาชวนผมไปไหว้พระก่อนกลับ เหมือนผมเป็นแฟนกัน แต่ไม่สามารถพูดออกมาได้ ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนเพลง “ชู้รัก” ที่ว่า “เอาฉันออกไปจากความสัมพันธ์นี้สักที ถ้าเป็นได้แค่ที่สองของใคร ฉันไม่ต้องการ”
---
มีต่อด้านล่าง