คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 23
เราต้องเข้าใจก่อนว่าสมัยนั้นการแต่งงานส่วนมากเป็นเรื่องทางการเมืองค่ะ
พระสนมต่างๆ ถ้าไม่ใช่ลูกท่านหลานเธอก็เป็นลูกสาวเจ้าเมืองประเทศราช จะไปฆ่าตายง่ายๆ ไม่ได้หรอก ถ้าไม่ได้ทำอะไรผิด
ดังนั้น ถ้าผลัดแผ่นดินแล้ว ถ้ากษัตริย์องค์ใหม่ไม่รับเคลม ก็อาจจะให้อยู่ในวังต่อไป หรืออาจจะให้กลับบ้านเกิดเมืองนอนก็ได้ค่ะ
แต่ความซับซ้อนของการเมืองอยุธยา คือมันมีหลายฝักหลายฝ่าย ใครพวกใคร ใครไม่ถูกกับใคร ดังนั้นถ้ากษัตริย์องค์ใหม่เป็นฝ่ายที่ไม่ถูกกัน การบวชชีก็อาจเป็นคำตอบเพื่อลดบทบาทตัวเองและการปะทะลง
ยกตัวอย่างเคสคุณท้าวทองกีบม้า อันนี้แบบคนธรรมดาด้วยนะ ไม่ได้เป็นเจ้าเป็นนายมาจากไหน เพียงแต่นางเป็นเมียของคอนสแตนติน ฟอลคอน ผู้มีอำนาจมากในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ หลังผลัดแผ่นดินนางก็ตกระกำลำบากพอสมควร อันนี้ไม่เกี่ยวกับการที่พระเพทราชาไม่ถูกกับฟอลคอนนะ แต่เป็นเพราะหลวงสรศักดิ์ที่เป็นลูกชายของพระเพทราชาอยากเคลมนางเป็นเมีย แต่ไม่สำเร็จ จึงสร้างความลำบากต่างๆ นาๆ ให้นาง พอพ้นแผ่นดินของหลวงสรศักดิ์ไปแล้ว เปลี่ยนเป็นพระเจ้าท้ายสระ คุณท้าวก็ได้มีโอกาสกลับมาทำงานในวังเช่นเดิม แถมพระเจ้าท้ายสระเอาลูกของนางไปรับใช้ใกล้ชิดด้วย
หรือถ้าเคสใหม่หน่อยอย่างเจ้าดารารัศมีที่เป็นเชื้อสายเจ้าจากทางล้านนา ที่มารับราชการเป็นพระภรรยาเจ้าในสมัย ร.5 แม้จะมีประสูติกาลพระธิดา แต่ก็สิ้นพระชนม์ไปตั้งแต่อายุยังน้อย แล้วไม่มีลูกอีกเลย จนผลัดแผ่นดินมาสมัย ร.6 เจ้าดารารัศมีก็กราบบังคมทูลลากลับไปอยู่เชียงใหม่เหมือนเดิม แล้วก็ใช้ชีวิตอยู่ที่เชียงใหม่จนสิ้นพระชนม์
สมัยอยุธยา มันไม่ใช่รูปแบบประเทศแบบปัจจุบันค่ะ มันมีเมืองใหญ่เมืองเล็ก แต่ละเมืองมีอำนาจมีกำลังมีเจ้าของตัวเอง ถ้าเมืองไหนมีอำนาจโดดเด่นขึ้นมา เมืองอื่นๆ ก็จะมาสวามิภักดิ์ แต่ถ้าเมื่อไหร่อำนาจสั่นคลอน เมืองอื่นๆ ก็พร้อมจะไปหาเมืองใหม่ที่มั่นคงกว่า หรือถ้าโอกาสอำนวยก็จะประกาศไม่ขึ้นกับใครไปเลย อย่างสมัยอยุธยา ก็จะมีหัวเมืองเหนือทั้ง 7 เช่น พิษณุโลก (เจ้าเชื้อสายสุโขทัย) ศรีสัชนาลัย พิชัย กำแพงเพชร นครสวรรค์ ที่เหลือจำไม่ได้ พวกนี้ก็มีเจ้ามีราชวงศ์ของตัวเอง อย่างช่วงใกล้เสียกรุงครั้งที่ 1 พิษณุโลกเห็นว่ากรุงศรีจะไปต่อไม่ไหวแล้ว ก็เลยเปลี่ยนข้างไปเข้ากับพระเจ้าบุเรงนองแทน พิษณุโลกเลยปลอดภัยตอนสงครามเสียกรุงครั้งที่ 1 แถมพระมหาธรรมราชาที่เป็นผู้ปกครองพิษณุโลกตอนนั้นก็ได้รับแต่งตั้งจากพระเจ้าบุเรงนองให้เข้ามามีอำนาจปกครองอยุธยาแทนสายสุพรรณภูมิด้วย ถือว่าเป็นต้นวงศ์ของเจ้าเชื้อสายสุโขทัยที่มาปกครองอยุธยาค่ะ แต่พระมหาธรรมราชา ก็ได้พระวิสุทธิกษัตริย์ที่เป็นลูกสาวของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิกับพระสุริโยทัยเป็นเมีย ความเป็นญาติมันเลยเกี่ยวพันกันยุ่งไปหมดแบบนี้ล่ะค่ะ เวลาผลัดแผ่นดินจึงไม่ได้ประหารฝ่ายในกันง่ายๆ หรอกค่ะ ถ้าไม่ได้ทำอะไรผิด
พระสนมต่างๆ ถ้าไม่ใช่ลูกท่านหลานเธอก็เป็นลูกสาวเจ้าเมืองประเทศราช จะไปฆ่าตายง่ายๆ ไม่ได้หรอก ถ้าไม่ได้ทำอะไรผิด
ดังนั้น ถ้าผลัดแผ่นดินแล้ว ถ้ากษัตริย์องค์ใหม่ไม่รับเคลม ก็อาจจะให้อยู่ในวังต่อไป หรืออาจจะให้กลับบ้านเกิดเมืองนอนก็ได้ค่ะ
แต่ความซับซ้อนของการเมืองอยุธยา คือมันมีหลายฝักหลายฝ่าย ใครพวกใคร ใครไม่ถูกกับใคร ดังนั้นถ้ากษัตริย์องค์ใหม่เป็นฝ่ายที่ไม่ถูกกัน การบวชชีก็อาจเป็นคำตอบเพื่อลดบทบาทตัวเองและการปะทะลง
ยกตัวอย่างเคสคุณท้าวทองกีบม้า อันนี้แบบคนธรรมดาด้วยนะ ไม่ได้เป็นเจ้าเป็นนายมาจากไหน เพียงแต่นางเป็นเมียของคอนสแตนติน ฟอลคอน ผู้มีอำนาจมากในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ หลังผลัดแผ่นดินนางก็ตกระกำลำบากพอสมควร อันนี้ไม่เกี่ยวกับการที่พระเพทราชาไม่ถูกกับฟอลคอนนะ แต่เป็นเพราะหลวงสรศักดิ์ที่เป็นลูกชายของพระเพทราชาอยากเคลมนางเป็นเมีย แต่ไม่สำเร็จ จึงสร้างความลำบากต่างๆ นาๆ ให้นาง พอพ้นแผ่นดินของหลวงสรศักดิ์ไปแล้ว เปลี่ยนเป็นพระเจ้าท้ายสระ คุณท้าวก็ได้มีโอกาสกลับมาทำงานในวังเช่นเดิม แถมพระเจ้าท้ายสระเอาลูกของนางไปรับใช้ใกล้ชิดด้วย
หรือถ้าเคสใหม่หน่อยอย่างเจ้าดารารัศมีที่เป็นเชื้อสายเจ้าจากทางล้านนา ที่มารับราชการเป็นพระภรรยาเจ้าในสมัย ร.5 แม้จะมีประสูติกาลพระธิดา แต่ก็สิ้นพระชนม์ไปตั้งแต่อายุยังน้อย แล้วไม่มีลูกอีกเลย จนผลัดแผ่นดินมาสมัย ร.6 เจ้าดารารัศมีก็กราบบังคมทูลลากลับไปอยู่เชียงใหม่เหมือนเดิม แล้วก็ใช้ชีวิตอยู่ที่เชียงใหม่จนสิ้นพระชนม์
สมัยอยุธยา มันไม่ใช่รูปแบบประเทศแบบปัจจุบันค่ะ มันมีเมืองใหญ่เมืองเล็ก แต่ละเมืองมีอำนาจมีกำลังมีเจ้าของตัวเอง ถ้าเมืองไหนมีอำนาจโดดเด่นขึ้นมา เมืองอื่นๆ ก็จะมาสวามิภักดิ์ แต่ถ้าเมื่อไหร่อำนาจสั่นคลอน เมืองอื่นๆ ก็พร้อมจะไปหาเมืองใหม่ที่มั่นคงกว่า หรือถ้าโอกาสอำนวยก็จะประกาศไม่ขึ้นกับใครไปเลย อย่างสมัยอยุธยา ก็จะมีหัวเมืองเหนือทั้ง 7 เช่น พิษณุโลก (เจ้าเชื้อสายสุโขทัย) ศรีสัชนาลัย พิชัย กำแพงเพชร นครสวรรค์ ที่เหลือจำไม่ได้ พวกนี้ก็มีเจ้ามีราชวงศ์ของตัวเอง อย่างช่วงใกล้เสียกรุงครั้งที่ 1 พิษณุโลกเห็นว่ากรุงศรีจะไปต่อไม่ไหวแล้ว ก็เลยเปลี่ยนข้างไปเข้ากับพระเจ้าบุเรงนองแทน พิษณุโลกเลยปลอดภัยตอนสงครามเสียกรุงครั้งที่ 1 แถมพระมหาธรรมราชาที่เป็นผู้ปกครองพิษณุโลกตอนนั้นก็ได้รับแต่งตั้งจากพระเจ้าบุเรงนองให้เข้ามามีอำนาจปกครองอยุธยาแทนสายสุพรรณภูมิด้วย ถือว่าเป็นต้นวงศ์ของเจ้าเชื้อสายสุโขทัยที่มาปกครองอยุธยาค่ะ แต่พระมหาธรรมราชา ก็ได้พระวิสุทธิกษัตริย์ที่เป็นลูกสาวของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิกับพระสุริโยทัยเป็นเมีย ความเป็นญาติมันเลยเกี่ยวพันกันยุ่งไปหมดแบบนี้ล่ะค่ะ เวลาผลัดแผ่นดินจึงไม่ได้ประหารฝ่ายในกันง่ายๆ หรอกค่ะ ถ้าไม่ได้ทำอะไรผิด
แสดงความคิดเห็น
ชะตากรรมอดีตพระสนมในสมัยโบราณที่ไม่มีพระราชบุตรจะเป็นอย่างไรหลังผลัดเปลี่ยนแผ่นดิน
ในจีนบางราชวงศ์ มีทั้งออกบวช ฝังไปพร้อมพระสวามี หรือปล่อยให้ไปแต่งงานใหม่
ในญี่ปุ่น มีออกบวช และกลับบ้านเดิมได้ (หมายถึงบ้านเดิมจริงๆ)
ในโซชอน มีทั้งอยู่ในวังต่อ ออกบวช กลับบ้านเดิม
ในอยุธยาไม่ค่อยได้ยินว่า ถ้าหลังจากนั้นมีชีวิตปั้นปลายยังไง
ตอนนี้ลุ้นพระสนมตันหยง คือทรงมาคือไม่มาแข่งกับใครเพราะไม่ชนะแน่ แล้วไม่น่ามีพระราชบุตร แต่ฉันต้องรอดและไม่กลับไปมือเปล่า
เลยอยากทราบว่าถ้าหลังจากแม่หยัวศรีสุดาจันทน์ขึ้นนั่งเมือง พระสนมเอกในรัชกาลพระไชยก็ไม่จำเป็นต้องมีอีก
หากพระสนมตันหยงรอดมาได้จนถึงเพลานั้น ชะตากรรมของนางจะออกไปในทางดีที่สุดคือเป็นอย่างไรคะ?