ขอบฟ้าอันดามัน (66)...รักได้ตามใจปรารถนา
“ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ดีแล้วลูก” มิดากอดลูกสาวไว้แนบอก ความรักแม่ไม่เคยลดหรือหมดลงมีแต่จะมากขึ้น แม้ลูกจะโตเพียงใด สุมิตาดา
อดนึกถึงท่านแม่ไม่ได้ ท่านแม่คงใจหายที่เห็นลูกออกเรือนไปเช่นเดียวกับเธอ การมีครอบครัวแม้จะเป็นสิ่งที่เกิดตามธรรมชาติของมนุษย์ แต่แม่ก็อดใจหายไม่ได้ น้ำตาไหลเป็นทางลงมาตามร่องแก้ม
“แม่เป็นอะไรหรือเปล่าคะ” ลันดารู้สึกได้ถึงน้ำตาที่หยดลงบนคอเสื้อ
“แม่ดีใจน่ะลูก...ลูกจะมีคู่ครองที่เหมาะสมกันดีแล้ว แม่ดีใจและหมดห่วง”
“ถึงหนูจะมีครอบครัว หนูก็ยังเป็นลูกของแม่มิดาเหมือนเดิมและรักแม่เสมอค่ะ” สุมิตาดาพยักหน้า วายุเข้ามากอดภรรยาและซับน้ำตาให้
“รักแต่แม่หรือแล้วพ่อล่ะ” วายุแหย่
“รักพ่อมาก ๆ ค่ะ ลันดาไม่เคยเปลี่ยนแปลง” ทั้งสามกอดกัน กวินท์เข้าไปร่วมอีกคนหนึ่ง หมึกคิดว่าพ่อเขาคงมีความรู้สึกคล้ายกัน เมื่อเขาหรือ
พี่เค็มแต่งงานไป แต่ดีที่ยังอยู่ในบริเวณใกล้กัน
“ไปทานข้าวที่โรงแรมดีกว่านะ” ปู่ทรงพลเอ่ยชวน
“ไปกันหมดนี่แหละครับ ลันดาให้พี่หมึกช่วยดูแล พี่หมึกเอาอยู่ ๆ แล้ว” พี่ชายเอ่ย ตามมาด้วยเสียงหัวเราะ มิดาค้อนให้ลูกชาย
“ไอ้เรื่องพูดจาสามแง่สองแง่ นี่เก่งเหมือนพ่อนะเรานะ”
“ไปกันเถอะครับ ไม่ต้องห่วงอาหารเที่ยงเดี๋ยวผมสั่งขึ้นมาทานเอง”
ห้องเงียบลง ลันดาลงมาจากเตียง “ไปนั่งนอกระเบียงรับลมหน่อยไหมคะพี่หมึก อากาศยังไม่ร้อน ด้านนี้แดดจะส่องเข้าช่วงบ่าย ได้ลมธรรมชาติ
ดีกว่าข้างในห้องค่ะ”
ทั้งคู่ออกไปนอกระเบียงคนไข้ ระเบียงห้องมีเก้าอี้นั่งอาบแดด เหยียดยาวได้สบาย บุด้วยเบาะหนังสีครีมลายน้ำตาลทองกางไว้สองตัว ข้างโต๊ะ
มีแจกันแต่งด้วยกล้วยไม้ดอกงามและร่มกันแดดสีขาว ระเบียงโปร่งเป็นลูกกรงห่าง ๆ มองทอดตาไปเห็นป่ากงกางและชายน้ำสีเขียวมรกต
หมึกเอาหมอนมารองหลัง เขานั่งโอบลันดาเข้ามาชิด เธอซบลงที่ไหล่ มองออกไปไกล เขาจับเรียวนิ้วที่สวมแหวนมุกวงสวยขึ้นดู “ลันดาได้มา
แต่มุกไว้พี่หมึกจะหาเพชรเม็ดงามมาทำแหวนให้นะครับ”
“เราเป็นลูกทะเล ลันดาชอบมุกค่ะ มันเป็นเครื่องประดับที่ดูแล้วสวยธรรมชาติ อ่อนโยน งามอย่างล้ำลึก ไม่เหมือนอัญมณี” ลันดามองสบตาปราการ...ดวงตาสวยมีแววหวาน
“ลันดางามเหนือมุกและมณี หรือสำหรับใจเขาเธอมีค่าควรเมือง” หมึกคิดขณะที่จ้องมองแววหวานอย่างไม่รู้เบื่อ
“เราจะอยู่ดูแลกันไปจนแก่เฒ่านะคะ”
“ครับ” ลันดาเอนซบอยู่เคียงข้าง ความสุขเพียงนี้ก็พอแล้วสำหรัเธอ
“ลันดาจะตะลอนไปทั่วท้องทะเลอันดามันกับพี่หมึกในยามฤดูท่องเที่ยวค่ะ”
“ได้เลยครับ” อ้อมแขนที่โอบกอดอบอุ่นนัก...ความเงียบและความสุขของคนสองคน ปราการเสยผมลันดาขึ้น ลูบไปทั่วเส้นผมหนานุ่มดำขลับ
ลำคอระหงอยู่ใกล้ปลายจมูกได้กลิ่นหอมกรุ่น ลันดาเผลอหลับไปในอ้อมแขน
เธอลืมตาขึ้น “กี่โมงแล้วคะ”
“สิบเอ็ดโมงแล้ว พยาบาลเอายาก่อนอาหารมาให้ เข้าไปข้างในเถอะครับ”
หมอเซ็นให้ออกในวันที่สามและนัดมาตรวจดู หากกระดูกติดดีแล้วจะได้เอาเฝือกออกให้ หมึกใช้ปากกาปลายแหลมวาดหน้าลันดาล้อมด้วย
หัวใจบนเฝือก”
“อื้อฮือ! ฝีมือไม่เบานะคะคล้ายลันดามากเลย”
“ก็พี่หมึกวาดหน้าลันดานี่ครับ จะเหมือนพี่หมึกได้ยังไงล่ะ”
“พี่หมึกนี่จริงเลย”
“ดูแลตัวเองดี ๆ นะครับ พี่หมึกเป็นห่วง” เขาลากลับหลังจากส่งสาวน้อยคืนสู่เหย้า
“ไงจ๊ะน้องชายพี่เค็ม...หายไปหลายวันเลยนะ” พี่เค็มเอ่ยทักยืนรออยู่ที่เรือนใหญ่พร้อมเคิร์กซึ่งกลับมาก่อนหลังจากได้คุยกับลันดาแล้ว
“พวกเราเห็นภาพวันหมั้นที่คุณตาจัดให้แล้ว กวินท์ส่งไลน์มาให้ คุณตานี่ก็เหมาะกันจริงเลย สมแล้วที่เป็นเพื่อนปู่ ใจร้อนพอกันเลย คุยปุ๊บพอ
ทางพ่อไฟเขียวทางแม่มิดาไฟเขียวก็จับมัดมือชกเลย ดูทั้งคู่จะยอมให้จับง่ายดายซะด้วย” อานุชพูดไปยิ้มไปอย่างมีความสุข... หมึกยิ้ม
“เห็นรอยยิ้มแล้วอิจฉาคุณหมึกครับ” เคิร์กเอ่ยแม้สำเนียงไม่ชัด ตาสีฟ้าเทาทอประกายแจ่มใส
“ว่าที่เจ้าสาวสวยขนาดนี้ ตอนเรียนอยู่กี่คนมาจีบก็ไม่เคยสำเร็จครับ ผมว่าหัวใจลันดาถูกจองไว้นานแล้วแน่”
“คุณเคิร์กได้ครูดีพูดเก่งขึ้นมากนะครับ” หมึกชม เขาก้มศีรษะให้ว่าที่เพื่อนเขย
หมึกขึ้นไปถึงก็เข้าไปกราบปู่และย่า “ปู่และย่าอยู่ที่เรือนใหญ่นี่สบายดีนะครับ”
“อือ! ดี ๆ ช่วงหมึกไม่อยู่ ปู่กับเคิร์ก มีอาลีและฟาตินพาไปเยี่ยมลูกหลานที่สตูล รู้ว่าเขามีความเป็นอยู่ดี ปู่ก็เบาใจแล้ว” แม้สายตาไร้แววแต่ใบ
หน้าปู่บอกให้รู้ว่าเขามีความสุข
หมึกขึ้นไปนั่งโอบปู่และย่า “คิดถึงใช่ไหม” ย่าถาม
“ครับผม ที่เกาะใหญ่เป็นอย่างไรบ้างครับ”
“ย่าได้ติ๋มกับตั้มคอยดูแลต้นไม้ สวนผัก และบ้านช่องให้ เห็นอานุชว่าเรียบร้อยดีนะ”
“ถ้าคิดถึงเกาะใหญ่ก็ไปนอนค้างได้นะครับ ผมจะพาไปและจะอยู่เป็นเพื่อนด้วย ทางนี้...เริ่มจะหมดฤดูการการท่องเที่ยวแล้วไม่นานก็เข้าฤดู
มรสุมแล้วครับ”
“ ไงไอ้เสือปืนไว ได้ตาเป็นกองหนุนถูกใจล่ะสิ ใจร้อนเหมือนกันนะ” เสียงนายหัวกัมปนาทเพิ่งกลับมาถึงเรือนใหญ่ ฟาติมะฮ์และคาดียะฮ์เอา
น้ำมะตูมมาเสิร์ฟพร้อมของว่าง
“คุยเรื่องหมึกก่อนดีกว่านะ หาฤกษ์แต่งก่อนฝนจะมาดีไหมปู่”
“ดีอยู่แล้ว รักกันขนาดนี้มัวรออะไรใช่ไหมย่า” ย่ายิ้ม รู้นิสัยนายหัวกัมปนาทดี
“ว่าไงหมึก” ปู่ถามความมั่นใจและความพร้อม
“ผมไม่มีปัญหาครับ
”ใจร้อนเหมือนไฟลนก้นเลยนะ นี่ดีที่ไม่ฉุดลูกสาวเขาไปก่อนแล้วมาขอรับรองวายุยิงไส้ไหลแน่” ย่าเอ่ย
“ตกลงพ่อจะคุยกับทางโน้น และให้ปู่ทรงพลไปขอฤกษ์แต่งกับหลวงปู่เลยนะ”
“หมึก...พี่เอกนะ”
“ครับ สบายดีนะครับ”
“สบายดี ได้ข่าวดีด้วยยิ่งดีใหญ่...แล้วดอกเตอร์รูปหล่อก็หลงบ่วงเสน่หาของลันดาจนได้ ฮะฮา ได้ฤกษ์แล้วรีบโทรบอกนะ สถานที่จัดงานไว้ให้
พี่เอกจัดการเอง แขกเยอะต้องหาที่กว้าง ๆ วิวสวย เจ้าหน้าที่และบริการเตรียมไว้ให้พร้อม ไม่ต้องห่วง อาหารก็ให้กุ๊กโรงแรม กับรีสอร์ทจัดการ แต่ง
หล่อแต่งสวยไว้รอแล้วกันนะ” ดูพี่เอกจะตื่นเต้นล่วงหน้าไปแล้ว ขนาดอาสาหาสถานที่และเจ้าหน้าที่เสิร์ฟให้เสร็จ
“พี่เอก มันเป็นภาระเปล่า ๆ แค่พี่มาผมก็ดีใจแล้วครับ”
“อย่าพูดอย่างนั้นทางกรมเรือเรียกหมึกมาเป็นวิทยากรทุกปี และที่หมึกมาก็เพราะรักที่จะให้ความรู้และเพราะพี่เอกเป็นคนขอร้อง พี่รู้ดีนะไม่
ต้องเกรงใจงานนี้เต็มที่มีเซอร์ไพรส์”
“พี่เอกคุยกับพ่อแล้วหรือครับ”
“คุยแล้ว ตั้งแต่นี้ก็ดูแลตัวเองให้ดี พี่ฝากนายหัวให้อานุชตุ๋นปลิงทะเลเครื่องยาให้กินบ่อยขึ้นนะ”เสียงหัวเราะร่วนของพี่เอก เรื่องเก่งแบบนี้ผู้
ชายถนัด
หลวงปู่ผูกดวงทั้งสองหาฤกษ์ให้ “ความจริงดอกเตอร์ปราการเกิดช่วงดวงมหาอุด อันเป็นฤกษ์ที่ดวงดาวสุกสว่างที่สุด เขาเป็นคนดวงแข็งมี
บารมี ส่วนลูกสาวโยมวายุเกิดเทวีฤกษ์ จะเป็นคนมีเสน่ห์ ทำการใดจะสำเร็จและจะได้คู่ครองดี ไม่มีปัญหาด้วยกันทั้งคู่ วันดีเป็นวันอาทิตย์ที่แปดเดือน
หน้า และได้วันเป็นวันธงไชยกับแปดเป็นเลขมงคล ดีทุกอย่าง ว่าแต่จะทันไหมล่ะ”
“เหลืออีกสิบสองวัน ทันครับผม”
เสียงหลวงปู่หัวเราะ “ปราการช่างชื่อได้เหมาะนัก อาณาจักรอันดามันเหนือใต้จะได้ประสานกันเป็นหนึ่งดุจท้องน้ำอันอุดมสมบูรณ์ เฉกเช่นครอบครัวใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น ดี ๆ ” หลวงปู่จบประโยค สายตามองออกไปไกลลิบนิ่งนาน ทั้งปู่และวายุอยู่ในความสงบ นั่งรอจนหลวงปู่ออกจาก
วิปัสสนา
“อาตมาแผ่อานิสงส์แห่งความดีให้แก่เขาสองคนแล้วกลับกันเถอะ” ทั้งหมดกราบหลวงปู่และกลับออกมา
วายุขับรถตรงไปที่โรงแรม แม่มิดา ย่านิสา นายหัวอาวุธพร้อมครอบครัวและแฝดรวมถึงว่าที่เจ้าสาวอยู่ครบ ลันดาได้รับเกียรติให้นั่งหัวโต๊ะ
คนละฝั่งกับนายหัวทรงพล
“มาทั้งตระกูลอย่างกับจะออกศึกเลยนะพ่อ” กวินท์เหน็บเล็ก ๆ ให้น้องสาว เธอทำปากยื่นให้
“ข่าวดีอย่างนี้ธรรมดาอยู่แล้ว มากันครบพี่เจมส์กับพี่บอนด์นำไปคนละสองคนแล้วนะ ลูกชายหนึ่งหญิงหนึ่ง เมื่อไรถึงคิวกวินท์บ้าง โดนแซง
แล้วเห็นไหม” นายหัวอาวุธเอ่ย
“ไม่เป็นไรครับ ปีหน้ายังตามทัน” นายหัววายุเริ่มสงสัย
“ดีไม่ดีปีหน้าได้จัดงานแต่งอีกแน่”
นายหัววายุแจ้งในที่ประชุมของตระกูล “นาวาโทเอกสิทธิ หลานนายหัวกัมปนาท หาสถานที่ไว้แล้วจุคนได้มากมายพร้อมเจ้าหน้าที่รับแขก ช่างภาพ และเด็กเสิร์ฟ เห็นว่าจะให้หน้าหาดตั้งเต็นท์ ทำซุ้มเพิ่มรองรับอีก ผมว่าดีไม่ดีคงต้องหาโต๊ะเสริมกันให้วุ่น เพราะบรรดานายหัว ปู่สองท่านล้วน
เป็นที่รู้จักของผู้คนเหนือน่านน้ำพอควรนะครับ” หลานชายเอ่ย
“พ่อกะกันกับพวกเรา คงเชิญแขกที่สนิทกัน คงไม่กว้านแจกทั้งสี่หัวเมืองแน่” นายหัววายุสรุป
“ลันดาก็เตรียมอาบน้ำแร่แช่น้ำนมให้ผ่องเลยนะน้องรัก” กวินท์ดูจะสนุกที่ได้แหย่น้อง
“เอาหนูลงแช่ในผงฟอกขาวเลยเป็นไงคะ“ เสียงลันดาเริ่มขึ้นจมูกพร้อมที่จะกระโจนใส่พี่ชาย
“ไม่เอาน่า นี่ก็ช่างยั่วน้องนักหนูเองก็ต้องรู้จักรักษามารยาท ไปอยู่ทางโน้นไม่ใช่จะพูดอะไรให้คิดก่อนนะลูก” แม่มิดาสอน
“ไว้ให้ใกล้วันแต่งค่อยสอนกันอีกที ลันดาไม่ใช่เด็กโง่นะแม่มิดา ไง ๆ ย่ารับรองไม่เสียหน้าเราแน่” ย่า
นิสามองหลานสาวคนงามอย่างชื่นใจ “อือ! แม่มิดาอย่าลืมส่งข่าวให้ท่านพี่ทราบด้วยนะลูก”
“ค่ะคุณแม่” สุมิตาดาพูดตอบคุณย่า
ขอบฟ้าอันดามัน (66)...รักที่ได้ตามใจปรารถนา
“ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ดีแล้วลูก” มิดากอดลูกสาวไว้แนบอก ความรักแม่ไม่เคยลดหรือหมดลงมีแต่จะมากขึ้น แม้ลูกจะโตเพียงใด สุมิตาดา
อดนึกถึงท่านแม่ไม่ได้ ท่านแม่คงใจหายที่เห็นลูกออกเรือนไปเช่นเดียวกับเธอ การมีครอบครัวแม้จะเป็นสิ่งที่เกิดตามธรรมชาติของมนุษย์ แต่แม่ก็อดใจหายไม่ได้ น้ำตาไหลเป็นทางลงมาตามร่องแก้ม
“แม่เป็นอะไรหรือเปล่าคะ” ลันดารู้สึกได้ถึงน้ำตาที่หยดลงบนคอเสื้อ
“แม่ดีใจน่ะลูก...ลูกจะมีคู่ครองที่เหมาะสมกันดีแล้ว แม่ดีใจและหมดห่วง”
“ถึงหนูจะมีครอบครัว หนูก็ยังเป็นลูกของแม่มิดาเหมือนเดิมและรักแม่เสมอค่ะ” สุมิตาดาพยักหน้า วายุเข้ามากอดภรรยาและซับน้ำตาให้
“รักแต่แม่หรือแล้วพ่อล่ะ” วายุแหย่
“รักพ่อมาก ๆ ค่ะ ลันดาไม่เคยเปลี่ยนแปลง” ทั้งสามกอดกัน กวินท์เข้าไปร่วมอีกคนหนึ่ง หมึกคิดว่าพ่อเขาคงมีความรู้สึกคล้ายกัน เมื่อเขาหรือ
พี่เค็มแต่งงานไป แต่ดีที่ยังอยู่ในบริเวณใกล้กัน
“ไปทานข้าวที่โรงแรมดีกว่านะ” ปู่ทรงพลเอ่ยชวน
“ไปกันหมดนี่แหละครับ ลันดาให้พี่หมึกช่วยดูแล พี่หมึกเอาอยู่ ๆ แล้ว” พี่ชายเอ่ย ตามมาด้วยเสียงหัวเราะ มิดาค้อนให้ลูกชาย
“ไอ้เรื่องพูดจาสามแง่สองแง่ นี่เก่งเหมือนพ่อนะเรานะ”
“ไปกันเถอะครับ ไม่ต้องห่วงอาหารเที่ยงเดี๋ยวผมสั่งขึ้นมาทานเอง”
ห้องเงียบลง ลันดาลงมาจากเตียง “ไปนั่งนอกระเบียงรับลมหน่อยไหมคะพี่หมึก อากาศยังไม่ร้อน ด้านนี้แดดจะส่องเข้าช่วงบ่าย ได้ลมธรรมชาติ
ดีกว่าข้างในห้องค่ะ”
ทั้งคู่ออกไปนอกระเบียงคนไข้ ระเบียงห้องมีเก้าอี้นั่งอาบแดด เหยียดยาวได้สบาย บุด้วยเบาะหนังสีครีมลายน้ำตาลทองกางไว้สองตัว ข้างโต๊ะ
มีแจกันแต่งด้วยกล้วยไม้ดอกงามและร่มกันแดดสีขาว ระเบียงโปร่งเป็นลูกกรงห่าง ๆ มองทอดตาไปเห็นป่ากงกางและชายน้ำสีเขียวมรกต
หมึกเอาหมอนมารองหลัง เขานั่งโอบลันดาเข้ามาชิด เธอซบลงที่ไหล่ มองออกไปไกล เขาจับเรียวนิ้วที่สวมแหวนมุกวงสวยขึ้นดู “ลันดาได้มา
แต่มุกไว้พี่หมึกจะหาเพชรเม็ดงามมาทำแหวนให้นะครับ”
“เราเป็นลูกทะเล ลันดาชอบมุกค่ะ มันเป็นเครื่องประดับที่ดูแล้วสวยธรรมชาติ อ่อนโยน งามอย่างล้ำลึก ไม่เหมือนอัญมณี” ลันดามองสบตาปราการ...ดวงตาสวยมีแววหวาน
“ลันดางามเหนือมุกและมณี หรือสำหรับใจเขาเธอมีค่าควรเมือง” หมึกคิดขณะที่จ้องมองแววหวานอย่างไม่รู้เบื่อ
“เราจะอยู่ดูแลกันไปจนแก่เฒ่านะคะ”
“ครับ” ลันดาเอนซบอยู่เคียงข้าง ความสุขเพียงนี้ก็พอแล้วสำหรัเธอ
“ลันดาจะตะลอนไปทั่วท้องทะเลอันดามันกับพี่หมึกในยามฤดูท่องเที่ยวค่ะ”
“ได้เลยครับ” อ้อมแขนที่โอบกอดอบอุ่นนัก...ความเงียบและความสุขของคนสองคน ปราการเสยผมลันดาขึ้น ลูบไปทั่วเส้นผมหนานุ่มดำขลับ
ลำคอระหงอยู่ใกล้ปลายจมูกได้กลิ่นหอมกรุ่น ลันดาเผลอหลับไปในอ้อมแขน
เธอลืมตาขึ้น “กี่โมงแล้วคะ”
“สิบเอ็ดโมงแล้ว พยาบาลเอายาก่อนอาหารมาให้ เข้าไปข้างในเถอะครับ”
หมอเซ็นให้ออกในวันที่สามและนัดมาตรวจดู หากกระดูกติดดีแล้วจะได้เอาเฝือกออกให้ หมึกใช้ปากกาปลายแหลมวาดหน้าลันดาล้อมด้วย
หัวใจบนเฝือก”
“อื้อฮือ! ฝีมือไม่เบานะคะคล้ายลันดามากเลย”
“ก็พี่หมึกวาดหน้าลันดานี่ครับ จะเหมือนพี่หมึกได้ยังไงล่ะ”
“พี่หมึกนี่จริงเลย”
“ดูแลตัวเองดี ๆ นะครับ พี่หมึกเป็นห่วง” เขาลากลับหลังจากส่งสาวน้อยคืนสู่เหย้า
“ไงจ๊ะน้องชายพี่เค็ม...หายไปหลายวันเลยนะ” พี่เค็มเอ่ยทักยืนรออยู่ที่เรือนใหญ่พร้อมเคิร์กซึ่งกลับมาก่อนหลังจากได้คุยกับลันดาแล้ว
“พวกเราเห็นภาพวันหมั้นที่คุณตาจัดให้แล้ว กวินท์ส่งไลน์มาให้ คุณตานี่ก็เหมาะกันจริงเลย สมแล้วที่เป็นเพื่อนปู่ ใจร้อนพอกันเลย คุยปุ๊บพอ
ทางพ่อไฟเขียวทางแม่มิดาไฟเขียวก็จับมัดมือชกเลย ดูทั้งคู่จะยอมให้จับง่ายดายซะด้วย” อานุชพูดไปยิ้มไปอย่างมีความสุข... หมึกยิ้ม
“เห็นรอยยิ้มแล้วอิจฉาคุณหมึกครับ” เคิร์กเอ่ยแม้สำเนียงไม่ชัด ตาสีฟ้าเทาทอประกายแจ่มใส
“ว่าที่เจ้าสาวสวยขนาดนี้ ตอนเรียนอยู่กี่คนมาจีบก็ไม่เคยสำเร็จครับ ผมว่าหัวใจลันดาถูกจองไว้นานแล้วแน่”
“คุณเคิร์กได้ครูดีพูดเก่งขึ้นมากนะครับ” หมึกชม เขาก้มศีรษะให้ว่าที่เพื่อนเขย
หมึกขึ้นไปถึงก็เข้าไปกราบปู่และย่า “ปู่และย่าอยู่ที่เรือนใหญ่นี่สบายดีนะครับ”
“อือ! ดี ๆ ช่วงหมึกไม่อยู่ ปู่กับเคิร์ก มีอาลีและฟาตินพาไปเยี่ยมลูกหลานที่สตูล รู้ว่าเขามีความเป็นอยู่ดี ปู่ก็เบาใจแล้ว” แม้สายตาไร้แววแต่ใบ
หน้าปู่บอกให้รู้ว่าเขามีความสุข
หมึกขึ้นไปนั่งโอบปู่และย่า “คิดถึงใช่ไหม” ย่าถาม
“ครับผม ที่เกาะใหญ่เป็นอย่างไรบ้างครับ”
“ย่าได้ติ๋มกับตั้มคอยดูแลต้นไม้ สวนผัก และบ้านช่องให้ เห็นอานุชว่าเรียบร้อยดีนะ”
“ถ้าคิดถึงเกาะใหญ่ก็ไปนอนค้างได้นะครับ ผมจะพาไปและจะอยู่เป็นเพื่อนด้วย ทางนี้...เริ่มจะหมดฤดูการการท่องเที่ยวแล้วไม่นานก็เข้าฤดู
มรสุมแล้วครับ”
“ ไงไอ้เสือปืนไว ได้ตาเป็นกองหนุนถูกใจล่ะสิ ใจร้อนเหมือนกันนะ” เสียงนายหัวกัมปนาทเพิ่งกลับมาถึงเรือนใหญ่ ฟาติมะฮ์และคาดียะฮ์เอา
น้ำมะตูมมาเสิร์ฟพร้อมของว่าง
“คุยเรื่องหมึกก่อนดีกว่านะ หาฤกษ์แต่งก่อนฝนจะมาดีไหมปู่”
“ดีอยู่แล้ว รักกันขนาดนี้มัวรออะไรใช่ไหมย่า” ย่ายิ้ม รู้นิสัยนายหัวกัมปนาทดี
“ว่าไงหมึก” ปู่ถามความมั่นใจและความพร้อม
“ผมไม่มีปัญหาครับ
”ใจร้อนเหมือนไฟลนก้นเลยนะ นี่ดีที่ไม่ฉุดลูกสาวเขาไปก่อนแล้วมาขอรับรองวายุยิงไส้ไหลแน่” ย่าเอ่ย
“ตกลงพ่อจะคุยกับทางโน้น และให้ปู่ทรงพลไปขอฤกษ์แต่งกับหลวงปู่เลยนะ”
“หมึก...พี่เอกนะ”
“ครับ สบายดีนะครับ”
“สบายดี ได้ข่าวดีด้วยยิ่งดีใหญ่...แล้วดอกเตอร์รูปหล่อก็หลงบ่วงเสน่หาของลันดาจนได้ ฮะฮา ได้ฤกษ์แล้วรีบโทรบอกนะ สถานที่จัดงานไว้ให้
พี่เอกจัดการเอง แขกเยอะต้องหาที่กว้าง ๆ วิวสวย เจ้าหน้าที่และบริการเตรียมไว้ให้พร้อม ไม่ต้องห่วง อาหารก็ให้กุ๊กโรงแรม กับรีสอร์ทจัดการ แต่ง
หล่อแต่งสวยไว้รอแล้วกันนะ” ดูพี่เอกจะตื่นเต้นล่วงหน้าไปแล้ว ขนาดอาสาหาสถานที่และเจ้าหน้าที่เสิร์ฟให้เสร็จ
“พี่เอก มันเป็นภาระเปล่า ๆ แค่พี่มาผมก็ดีใจแล้วครับ”
“อย่าพูดอย่างนั้นทางกรมเรือเรียกหมึกมาเป็นวิทยากรทุกปี และที่หมึกมาก็เพราะรักที่จะให้ความรู้และเพราะพี่เอกเป็นคนขอร้อง พี่รู้ดีนะไม่
ต้องเกรงใจงานนี้เต็มที่มีเซอร์ไพรส์”
“พี่เอกคุยกับพ่อแล้วหรือครับ”
“คุยแล้ว ตั้งแต่นี้ก็ดูแลตัวเองให้ดี พี่ฝากนายหัวให้อานุชตุ๋นปลิงทะเลเครื่องยาให้กินบ่อยขึ้นนะ”เสียงหัวเราะร่วนของพี่เอก เรื่องเก่งแบบนี้ผู้
ชายถนัด
หลวงปู่ผูกดวงทั้งสองหาฤกษ์ให้ “ความจริงดอกเตอร์ปราการเกิดช่วงดวงมหาอุด อันเป็นฤกษ์ที่ดวงดาวสุกสว่างที่สุด เขาเป็นคนดวงแข็งมี
บารมี ส่วนลูกสาวโยมวายุเกิดเทวีฤกษ์ จะเป็นคนมีเสน่ห์ ทำการใดจะสำเร็จและจะได้คู่ครองดี ไม่มีปัญหาด้วยกันทั้งคู่ วันดีเป็นวันอาทิตย์ที่แปดเดือน
หน้า และได้วันเป็นวันธงไชยกับแปดเป็นเลขมงคล ดีทุกอย่าง ว่าแต่จะทันไหมล่ะ”
“เหลืออีกสิบสองวัน ทันครับผม”
เสียงหลวงปู่หัวเราะ “ปราการช่างชื่อได้เหมาะนัก อาณาจักรอันดามันเหนือใต้จะได้ประสานกันเป็นหนึ่งดุจท้องน้ำอันอุดมสมบูรณ์ เฉกเช่นครอบครัวใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น ดี ๆ ” หลวงปู่จบประโยค สายตามองออกไปไกลลิบนิ่งนาน ทั้งปู่และวายุอยู่ในความสงบ นั่งรอจนหลวงปู่ออกจาก
วิปัสสนา
“อาตมาแผ่อานิสงส์แห่งความดีให้แก่เขาสองคนแล้วกลับกันเถอะ” ทั้งหมดกราบหลวงปู่และกลับออกมา
วายุขับรถตรงไปที่โรงแรม แม่มิดา ย่านิสา นายหัวอาวุธพร้อมครอบครัวและแฝดรวมถึงว่าที่เจ้าสาวอยู่ครบ ลันดาได้รับเกียรติให้นั่งหัวโต๊ะ
คนละฝั่งกับนายหัวทรงพล
“มาทั้งตระกูลอย่างกับจะออกศึกเลยนะพ่อ” กวินท์เหน็บเล็ก ๆ ให้น้องสาว เธอทำปากยื่นให้
“ข่าวดีอย่างนี้ธรรมดาอยู่แล้ว มากันครบพี่เจมส์กับพี่บอนด์นำไปคนละสองคนแล้วนะ ลูกชายหนึ่งหญิงหนึ่ง เมื่อไรถึงคิวกวินท์บ้าง โดนแซง
แล้วเห็นไหม” นายหัวอาวุธเอ่ย
“ไม่เป็นไรครับ ปีหน้ายังตามทัน” นายหัววายุเริ่มสงสัย
“ดีไม่ดีปีหน้าได้จัดงานแต่งอีกแน่”
นายหัววายุแจ้งในที่ประชุมของตระกูล “นาวาโทเอกสิทธิ หลานนายหัวกัมปนาท หาสถานที่ไว้แล้วจุคนได้มากมายพร้อมเจ้าหน้าที่รับแขก ช่างภาพ และเด็กเสิร์ฟ เห็นว่าจะให้หน้าหาดตั้งเต็นท์ ทำซุ้มเพิ่มรองรับอีก ผมว่าดีไม่ดีคงต้องหาโต๊ะเสริมกันให้วุ่น เพราะบรรดานายหัว ปู่สองท่านล้วน
เป็นที่รู้จักของผู้คนเหนือน่านน้ำพอควรนะครับ” หลานชายเอ่ย
“พ่อกะกันกับพวกเรา คงเชิญแขกที่สนิทกัน คงไม่กว้านแจกทั้งสี่หัวเมืองแน่” นายหัววายุสรุป
“ลันดาก็เตรียมอาบน้ำแร่แช่น้ำนมให้ผ่องเลยนะน้องรัก” กวินท์ดูจะสนุกที่ได้แหย่น้อง
“เอาหนูลงแช่ในผงฟอกขาวเลยเป็นไงคะ“ เสียงลันดาเริ่มขึ้นจมูกพร้อมที่จะกระโจนใส่พี่ชาย
“ไม่เอาน่า นี่ก็ช่างยั่วน้องนักหนูเองก็ต้องรู้จักรักษามารยาท ไปอยู่ทางโน้นไม่ใช่จะพูดอะไรให้คิดก่อนนะลูก” แม่มิดาสอน
“ไว้ให้ใกล้วันแต่งค่อยสอนกันอีกที ลันดาไม่ใช่เด็กโง่นะแม่มิดา ไง ๆ ย่ารับรองไม่เสียหน้าเราแน่” ย่า
นิสามองหลานสาวคนงามอย่างชื่นใจ “อือ! แม่มิดาอย่าลืมส่งข่าวให้ท่านพี่ทราบด้วยนะลูก”
“ค่ะคุณแม่” สุมิตาดาพูดตอบคุณย่า