ถ้าพระสนมมีพระโอรสได้องค์แรก คือพระมเหสี แล้วทำไมพระมารดาของพระเทียรถึงไม่ได้เป็นโดยอัตโนมัติ?

ชี้แจงก่อนว่า เราเข้าใจอยู่แล้วว่า คอนเซปของซีรีส์ แม่หยัว คือเรื่องพระสนมชิงอำนาจกัน โดยตั้งโจทย์ว่า ใครมีพระโอรสก่อนจะได้เป็นพระมเหสี

เราไม่ม่าเรื่องทำไมซีรีส์ไม่ทำตามประวัติศาสตร์ เพราะเข้าใจอยู่แล้วว่าทีมงานสร้างจากการ อิง ประวัติศาสตร์

เราแค่ชวนมาถกกันตามเชิงประวัติศาสตร์ในซีรีส์ไทย

ทีนี้เราสงสัยแค่ว่าในสมัยนั้นจริงๆ การกำหนดแบบนั้นมีจริงๆ หรือเปล่าคะ ใครมีพระโอรสได้ก่อน ได้เป็นพระมเหสีก่อน?

เราขอออกตัวว่า ไม่มีความรู้เรื่องประวัติศาสตร์แน่นจริงๆ เรียนรู้แค่ผ่านตัวภาพยนตร์เท่านั้น

เพราะถ้าดูจากหนังสุริโยทัย พระเทียร ก็เป็นพระโอรสของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 (หน่อพุทธางกูร) เกิดจากพระสนม แต่พอได้ทรงขึ้นนั่งเมือง กลับแต่งพระสนมเพิ่ม ต่อมาก็เป็นพระราชมารดาของสมเด็จพระรัษฎาธิราช ได้ขึ้นเป็นพระอัครชายา...ไม่เห็นว่าพระมารดาของพระเทียรจะได้เป็นพระมเหสี (ไม่แน่ใจว่าสิ้นพระชนม์ไปก่อนหรือเปล่า) หรือต่อให้สิ้นพระชนม์ไป ก็น่าจะมีพระสนมลำดับอื่นที่น่าจะให้พระโอรสได้ แต่กลับตั้งพระสนมใหม่ขึ้นเป็นพระอัครชายา 

ในตัวภาพยนตร์ เหมือนนำเสนอให้เห็นว่า สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 (หน่อพุทธางกูร) ดูลุ่มหลงพระสนมสาวรุ่นลูก แม้จะโชคดีมีพระโอรสให้ แต่ตระกูลของพระอัครชายาก็ใช่กระจอก เป็นขุนนางใหญ่ที่คุมการค้า

จริงมองว่า องค์ประกอบของสตรีที่จะขึ้นเป็นพระมเหสีได้ ประกอบด้วยพระโอรสและฐานกำลังอำนาจเป็นสำคัญ ความรักอาจจะเป็นเรื่องสุดท้ายด้วยซ้ำ

ทีนี้กลับมาที่ แม่หยัว ถ้าใช้เกณฑ์ว่ามีพระโอรสได้ก่อนจึงได้เป็นพระมเหสี พระสนมจิตรวดีก็ควรได้เป็น ถ้ามองข้ามเรื่องความผิดปกติของพระโอรส 

แต่พระไชยราชากลับไม่แต่งตั้ง เพราะมองเรื่องความผิดปกติของพระโอรสเป็นสำคัญ ทำให้แม่ชวดตำแหน่ง ทั้งที่ฐานกำลังของพระสนมจิตรวดีก็น่าจะใหญ่

ตรงนี้เราอยากรู้ว่าสมัยนั้นจริงๆ ถ้าพระโอรสมีความผิดปกติ มีผลต่อการชวดตำแหน่งวังหน้าด้วยหรือเปล่าคะ? ต่อให้พระมารดา ฐานอำนาจจะแกร่งก็ตาม

จริงๆในประวัติศาสตร์หลายชาติ พระมารดาขององค์รัชทายาท ก็ไม่ได้เป็นพระราชินีเสียทุกองค์ อย่างโชซอน พระสนมยังต้องยกพระโอรสให้พระมเหสีเป็นพระราชบุตรแทน เพื่อให้ลูกเป็นองค์รัชทายาท เพราะฐานอำนาจแม่ไม่เพียงพอจะเป็นกำลังให้ลูก
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 17
ต้องเข้าใจว่า เรื่องพระสนมสี่ทิศ ก็เป็นที่สงสัยอยู่ ว่า "ต้องตั้ง" หรือ ตั้งมั่งไม่ตั้งมั่ง แบบไม่ได้จำเป็น เพียงแต่หากเวลานั้นในหลวงไปได้เมียเชื้อสายใด แล้วโปรดให้เข้าระบบ ถึงจะตั้งเมียเชื้อสายผู้นั้น เป็นพระสนมเอก ชื่อตามชัยภูมิที่นางมา
.
สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 มีพระราชโอรสที่สำคัญอยู่ 3 พระองค์
- สมเด็จพระบรมราชาหน่อพุทธางกูร ประสูติแต่พระอัครมเหสี (ไม่แน่ชัดว่าอาจจะเป็นหนึ่งในพระสนมสี่ทิศนั้นหรือไม่ ซึ่งมีสองแง่คือ เป็นพระสนมสี่ทิศมาก่อน หรือไม่ก็เป็นเมียที่ยกย่องอยู่กันมานานแล้วตั้งเป็นพระอัครมเหสีก็เป็นได้) องค์นี้ถ้าเทียบแบบรัตนโกสินทร์คือ ลูกที่เกิดจากเมียที่ยกย่องที่สุด หรือเมียเจ้าที่ยกย่องที่สุดแบบหม่อมเจ้ารำเพย ที่เป็นเมียเจ้า ร.4 ที่ยกให้เหนือเมียอื่น (ประมาณสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชเทวี หรือพระบรมราชินี)
- พระไชยราชา ประสูติแต่พระสนม (ธรรมดา) ถ้าเทียบแบบสมัยรัตนโกสินทร์คือ ลูกที่เกิดจากเจ้าจอม
- พระเทียรราชา ประสูติแต่พระสนม (ธรรมดา) เทียบแบบพระไชยราชา
.
ดังนั้น จริง ๆ สายพระไชย และ พระเทียร จึงไม่เกี่ยวข้องกับราชสมบัติใด ๆ เพราะท้ายแถวมาก แต่พังเพราะพระบรมราชาหน่อพุทธางกูรประชวรไว สิ้นไว พระอัครมเหสีคือพระอัครชายาเธอไม่เก่ง ทีมงานพ่อตาไม่เก่ง พระรัฎฐาธิราช ยังไม่ทันโตเป็นหนุ่ม
.
เรื่องนี้ถ้าพระบรมราชาสิ้นช้ากว่านี้สัก 15 ปี ทีมพ่อตาเก่ง พระรัฏฐาอายุ 20 แล้วเก่ง พระไชย พระเทียร ก็จะอายุ 50 อาจจะแทบไม่สนเรื่องแย่งแผ่นดินแล้วก็ได้ เรื่องก็จะคนละเทปกับเรื่องที่เกิดขึ้นจริง 5555
ความคิดเห็นจาก Expert Account
ความคิดเห็นที่ 20
ในสมัยอยุทธยามาจนถึงรัตนโกสินทร์ ไม่มีการกำหนดว่าพระสนมที่สามารถประสูติพระโอรสก่อนจะได้เป็นพระอัครมเหสีครับ

ตามกฎมณเฑียรบาลสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถ ตำแหน่งพระภรรยาเจ้าและพระสนมของกษัตริย์มีหลายระดับ คือ “ฝ่ายพระราชกุมารเกิดด้วยพระอัคมเหษีคือสมเดจ์หน่อพระพุทธเจ้า อันเกิดด้วยแม่หยัวเมืองเปนพระมหาอุปราช เกิดด้วยลูกหลวงกินเมืองเอก เกิดด้วยหลานหลวงกินเมืองโท เกิดด้วยพระสนมเปนพระเยาวราช”

พระสนม คือหญิงสามัญชนที่ถวายตัวเป็นบาทบริจาริกา มีพระโอรสเป็นได้แค่ "พระเยาวราช" ซึ่งเป็นพระราชกุมารศักดิ์ต่ำที่สุด ต้องนั่งหลังและกราบพระราชกุมารชั้นสูงกว่า

มีพระภรรยาเจ้าสูงกว่าพระสนมหลายระดับ ทั้งพระอัครมเหสี แม่หยัวเมือง พระภรรยาชั้นลูกหลวงและหลานหลวง (มักเป็นลูกหรือหลานกษัตริย์ในรัชกาลก่อน ในสมัยหลังถ้ามีพระราชกุมารสามารถเป็นเจ้าฟ้าได้)   และในกฎมณเฑียรบาลมาตราอื่นๆ ยังมีตำแหน่งพระภรรยาเจ้าชั้นรองลงมาจากพระอัครมเหสีอีก เช่น พระภรรยาเจ้าที่สูงกว่าแม่หยัวเมือง   และมีตำแหน่งพระราชเทวี พระอรรคชายา ที่ถูกจัดลำดับใกล้ๆ กับแม่หยัวเมืองด้วย


ทั้งนี้ตำแหน่งพระมเหสีเทวีต่างๆ ขึ้นอยู่กับการสถาปนาของกษัตริย์ครับ  แม้เดิมเป็นสามัญชนก็อาจยกขึ้นเป็นพระมเหสีได้ เช่น พระเจ้าปราสาททอง พระเพทราชา ที่มีภรรยาเดิมอยู่แล้วตั้งแต่ยังไม่เป็นกษัตริย์ ก็สถาปนาภรรยาเดิมเป็นพระมเหสี   อย่างพระเพทราชาให้ภรรยาเดิมเป็นพระมเหสีฝ่ายขวา ให้พระธิดาสมเด็จพระนารายณ์ซึ่งเป็นลูกหลวงเป็นพระมเหสีฝ่ายซ้าย     

พระเจ้าเอกทัศมีพระชายาเดิมคือ หม่อมเพ็ง หม่อนแมนมาตั้งแต่ยังไม่เป็นกษัตริย์ เมื่อครองราชย์ทรงตั้งเป็นพระสนมเอก แต่พงศาวดารบางฉบับระบุว่าโปรดให้ยกเป็นที่พระมเหสี มีพระโอรสธิดาด้วยกันเป็นแค่พระองค์เจ้า แต่โปรดให้ยกมีศักดินาสถานะเครื่องยศเสมอพระธิดาชั้นเจ้าฟ้าที่ประสูติจากพระองค์เจ้าแมงเม่าที่เป็นพระภรรยาเจ้าชั้นลูกหลวง


ในกรณีของแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ในรัชกาลสมเด็จพระไชยราชาธิราช  สันนิษฐานว่าเดิมเป็นแค่ "นางท้าวพระสนมเอก" (ไม่มีหลักฐานว่าต้องมาจากทิศใด เมืองใด ราชวงศ์ใด) ในตำแหน่ง “ท้าวศรีสุดาจันทร์” โดยอาจเป็นเชื้อพระวงศ์หรือเชื้อสายเจ้าผู้ครองเมืองในอดีต หรืออาจเป็นพระชายาเดิมของสมเด็จพระไชยราชาธิราชตั้งแต่ก่อนขึ้นเป็นกษัตริย์  แต่เนื่องจากไม่ได้มีสถานะเป็นเจ้า จึงสถาปนายศเป็นเพียง 1 ใน 4 นางท้าวพระสนมเอก  มีศักดินาแค่ 1,000 เสมอท้าวนางผู้ใหญ่ฝ่ายใน

แต่สันนิษฐานว่าในรัชกาลสมเด็จพระไชยราชาธิราชอาจไม่ได้สถาปนาพระราชวงศ์เป็นพระมเหสี  หรือมีพระมเหสีอื่นแต่ไม่ทรงมีพระโอรสด้วยกัน  ในขณะที่ท้าวศรีสุดาจันทร์ประสูติพระโอรสถึง 2 องค์คือสมเด็จพระยอดฟ้าและพระศรีสิน  จึงอาจเป็นสาเหตุให้สมเด็จพระไชยราชาธิราชทรงยกย่องสถานะให้สูงขึ้น โดยสถาปนาท้าวศรีสุดาจันทร์เป็น "นางพระยาแม่อยู่หัว" หรือ “แม่หยัวเมือง” มีศักดิ์เทียบเป็นพระมเหสี แต่รองลงมาจากพระอัครมเหสีครับ



ในบทภาพยนตร์สุริโยไท นำเสนอตามทฤษฎีของ อ.พิเศษ เจียจันทร์พงษ์  ว่าอยุทธยาปกครองโดยสมเด็จพระรามาธิบดี (ที่ 2)  พิษณุโลกปกครองโดยสมเด็จพระอาทิตย์ที่เป็นโอรสสมเด็จพระบรมราชาธิราช (ที่ 3 พระเชษฐาของสมเด็จพระรามาธิบดี) ที่เป็นพระมหาอุปราช   เมื่อสมเด็จพระรามาธิบดีสวรรคต สมเด็จพระอาทิตย์จึงลงมาปกครองอยุทธยาในพระนามสมเด็จพระบรมราชาหน่อพุทธางกูร     ส่วนสมเด็จพระไชยราชาเป็นโอรสสมเด็จพระรามาธิบดีขึ้นไปเป็นพระมหาอุปราชครองเมืองพิษณุโลกแทน

พระเทียรราชาเป็นโอรสสมเด็จพระบรมราชาหน่อพุทธางกูรที่ประสูติจากพระสนม จึงมีศักดิ์เป็นแค่ "พระเยาวราช"    ส่วนสมเด็จพระรัฏฐาธิราชกุมาร มีมารดาเดิมเป็นสามัญชนคือเป็นธิดาออกญายมราช แต่ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นพระอัครมเหสี (แต่ตอนอื่นเรียกเป็น 'พระอัครชายา' ชวนให้สับสน)  ทำให้สมเด็จพระรัฏฐาธิราชกุมารสามารถมีสถานะเป็น "สมเด็จหน่อพระพุทธเจ้า" ซึ่งเป็นพระราชกุมารลำดับสูงสุด ซึ่งมีโอกาสได้รับราชสมบัติสูงสุดครับ



แต่พิจารณาจากหลักฐานประวัติศาสตร์ รวมถึงช่วงอายุ   สมเด็จพระบรมราชาหน่อพุทธางกูร (พระอาทิตย์) เป็นโอรสสมเด็จพระรามาธิบดี พิจารณาจากพระนามเชื่อว่าทรงมีสถานะเป็น "สมเด็จหน่อพระพุทธเจ้า" ที่ประสูติจากพระอัครมเหสี (สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงสันนิษฐานว่าเป็นราชวงศ์พระร่วง โดยพิจารณาจากพระนาม "พระอาทิตย์" ที่น่าจะเชื่อมโยงกับพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ต้นราชวงศ์พระร่วงสุโขทัย)  ได้รับการสถาปนาเป็นพระมหาอุปราชครองเมืองพิษณุโลก  หลังสมเด็จพระรามาธิบดีสวรรคตจึงลงมาครองกรุงศรีอยุทธยาใน พ.ศ. 2072  ขณะมีพระชนม์ได้ 27 พรรษา

สมเด็จพระไชยราชาธิราช ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าพระบิดาเป็นใคร พงศาวดารเขียนเพียงว่าเป็นพระราชวงศ์ของสมเด็จพระรามาธิบดี (ที่ 2) เท่านั้น  ส่วนใหญ่เชื่อตามการวิเคราะห์ของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพว่าเป็นโอรสสมเด็จพระรามาธิบดีที่ประสูติจากพระสนม   แต่หากพิจารณาจากเอกสารสังคีติยวงศ์จะระบุว่าเป็น "ภาคิไนย" (ลูกของพี่สาวหรือน้องสาว) ของสมเด็จพระรามาธิบดี แสดงว่าพระมารดาเป็นพระธิดาของสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถซึ่งเป็นลูกหลวง   หากพระบิดาไม่ได้เป็นกษัตริย์ก็ควรจะเป็นเจ้าชั้นสูง  พิจารณาจากหลักฐานอายุของพระไชยราชาแล้วน่าจะมีอายุมากกว่าสมเด็จพระบรมราชาหน่อพุทธางกูรอีกครับ

สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ (พระเทียรราชา)  ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าพระบิดาเป็นใครเหมือนกัน  พงศาวดารเขียนเพียงว่าเป็นเชื้อพระวงศ์ของสมเด็จพระไชยราชา  ส่วนหลักฐานโปรตุเกสระบุว่าเป็นพระอนุชาต่างมารดาของสมเด็จพระไชยราชา ซึ่งค่อนข้างตรงกับเอกสารสมัยหลังอย่างคำให้การชาวกรุงเก่าที่ระบุว่าเป็นพี่น้องกันแต่รายละเอียดอื่นคลาดเคลื่อนพอสมควร   สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงทรงสันนิษฐานว่าเป็นโอรสสมเด็จพระรามาธิบดีที่ประสูติจากพระสนมโดยต่างมารดากับพระไชยราชา     ในขณะที่สังคีติยวงศ์ระบุว่าพระเทียรราชาเป็น "ภาคิไนย" คือลูกของพี่สาวหรือน้องสาวของพระไชยราชา  ซึ่งจะสอดคล้องกับพงศาวดารฉบับเยเรเมียส ฟาน ฟลีต สมัยพระเจ้าปราสาททองที่ระบุว่าพระเทียรราชาเป็น neef หรือลูกพี่ลูกน้องสมเด็จพระยอดฟ้า

หลักฐานชิ้นใดชิ้นหนึ่งอาจจะคลาดเคลื่อน เพราะถ้าพระเทียรราชาเป็นพระอนุชาต่างมารดากับพระไชยราชา แต่มีพระมารดาเป็นพี่สาวหรือน้องสาวของพระไชยราชาด้วย แสดงว่าพระบิดาแต่งงานกับลูกสาวตัวเองซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ นอกจากสันนิษฐานว่าพระมารดาเป็นพี่น้องต่างบิดากับพระไชยราชา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่