ในช่วงที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเคยซบเซา ชายชราวัย 88 ปีคนหนึ่งกลับสร้างปรากฏการณ์ที่น่าทึ่ง เขาคือ ชิเงรุ ฟูจิโมโตะ นักลงทุนรุ่นเก๋าที่พิสูจน์ให้เห็นว่าอายุเป็นเพียงตัวเลข จนสามารถสร้างมูลค่าสินทรัพย์ส่วนตัวสูงถึง 450 ล้านบาท
ก่อนที่ปู่วอร์เรน บัฟเฟตต์ จะเข้ามาจุดประกายความหวังให้กับ “ตลาดหุ้นญี่ปุ่น” ตลาดหุ้นแห่งนี้เคยจมอยู่ในห้วงแห่งความซบเซาเป็นเวลานานหลายสิบปี จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “ทศวรรษที่สูญหาย” ดัชนีตลาดหุ้นนิกเกอิแทบจะนิ่งสนิท เหมือนย่ำอยู่กับที่ ไม่เคลื่อนไหวไปในทิศทางใดอย่างชัดเจน
ท่ามกลางช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นดูเหมือนจะหยุดนิ่ง มีชายผู้หนึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าโอกาสยังคงมีอยู่เสมอ “ชิเงรุ ฟูจิโมโตะ” (Shigeru Fujimoto) วัย 88 ปี พ่อค้าผู้หันมาเทรดหุ้นจนสามารถสร้างมูลค่าสินทรัพย์ส่วนตัวสูงถึง 2 พันล้านเยน หรือราว 450 ล้านบาท จนแฟนคลับและสื่อญี่ปุ่นท้องถิ่นขนานนามเขาว่าเป็น “บัฟเฟตต์แห่งญี่ปุ่น”
เรื่องราวของเขาเปรียบเสมือนแรงบันดาลใจให้กับนักลงทุนทั่วโลก ที่แสดงให้เห็นว่าอายุเป็นเพียงตัวเลข ความสำเร็จทางการเงินนั้นเกิดขึ้นได้จากความมุ่งมั่นและอดทนโดยไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับอายุ
ในการหากำไรจากตลาดหุ้น ฟูจิโมโตะมักเลือกซื้อขายหุ้นของบริษัทที่มีรายได้ กำไร และเงินปันผลเพิ่มขึ้น รวมถึงบริษัทที่ดำเนินการซื้อคืนหุ้นและให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ถือหุ้น
นอกจากนี้ เขายังพิจารณาตัวชี้วัดทางเทคนิค เช่น ตัวชี้วัดความแข็งแรงของตลาดในแต่ละช่วงเวลา (RSI) และตัวชี้วัดที่บอกทิศทางแนวโน้มของราคาหุ้น (MACD) โดยฟูจิโมโตะบันทึกข้อมูลการซื้อขายไว้ในสมุดเสมอ ตั้งแต่วันที่ รายการหุ้น จำนวน และราคาที่ซื้อขายได้
สำนักข่าวอาซาฮีรายงานว่า ถึงแม้จะมีอายุแปดสิบกว่าปี แต่คุณลุงท่านนี้ก็ยังคงติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด โดยเริ่มทำงานตั้งแต่ตีสอง ขณะที่คนส่วนใหญ่ยังคงหลับอยู่ ทุกเช้าหลังจากยืดเส้นยืดสายเบา ๆ ฟูจิโมโตะจะชงกาแฟดื่มคู่ไปกับการวิเคราะห์ตลาดหุ้นสหรัฐ และศึกษาเอกสารทางการเงินต่าง ๆ ผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์สามเครื่อง โดยเขาใช้ข้อมูลนี้เพื่อคาดการณ์ทิศทางโดยรวมของตลาดญี่ปุ่นและเลือกหุ้นที่จะซื้อขาย
“ผมยุ่งที่สุดระหว่าง 9 ถึง 10 โมงเช้า” ฟูจิโมโตะบ่นพลางพิมพ์คีย์บอร์ดด้วยนิ้วชี้เพียงนิ้วเดียวเพื่อสั่งซื้อ อย่างไรก็ตาม บางครั้งเขาพิมพ์ผิดและมีข้อความ “Error” ปรากฏบนหน้าจอ
“จะแย่มากถ้าผมสับสนระหว่างคำสั่งซื้อและคำสั่งขาย” เขากล่าวพลางเพ่งตามองจอมอนิเตอร์คอมพิวเตอร์และคีย์บอร์ด
เครดิตจาก กรุงเทพฯธุรกิจ
https://www.bangkokbiznews.com/world/1150752
รู้จัก ‘บัฟเฟตต์แห่งญี่ปุ่น’ วัย 88 ปี เทรดหุ้นจนสร้าง 450 ล้านบาทด้วยตัวเอง
ในช่วงที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเคยซบเซา ชายชราวัย 88 ปีคนหนึ่งกลับสร้างปรากฏการณ์ที่น่าทึ่ง เขาคือ ชิเงรุ ฟูจิโมโตะ นักลงทุนรุ่นเก๋าที่พิสูจน์ให้เห็นว่าอายุเป็นเพียงตัวเลข จนสามารถสร้างมูลค่าสินทรัพย์ส่วนตัวสูงถึง 450 ล้านบาท
ก่อนที่ปู่วอร์เรน บัฟเฟตต์ จะเข้ามาจุดประกายความหวังให้กับ “ตลาดหุ้นญี่ปุ่น” ตลาดหุ้นแห่งนี้เคยจมอยู่ในห้วงแห่งความซบเซาเป็นเวลานานหลายสิบปี จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “ทศวรรษที่สูญหาย” ดัชนีตลาดหุ้นนิกเกอิแทบจะนิ่งสนิท เหมือนย่ำอยู่กับที่ ไม่เคลื่อนไหวไปในทิศทางใดอย่างชัดเจน
ท่ามกลางช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นดูเหมือนจะหยุดนิ่ง มีชายผู้หนึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าโอกาสยังคงมีอยู่เสมอ “ชิเงรุ ฟูจิโมโตะ” (Shigeru Fujimoto) วัย 88 ปี พ่อค้าผู้หันมาเทรดหุ้นจนสามารถสร้างมูลค่าสินทรัพย์ส่วนตัวสูงถึง 2 พันล้านเยน หรือราว 450 ล้านบาท จนแฟนคลับและสื่อญี่ปุ่นท้องถิ่นขนานนามเขาว่าเป็น “บัฟเฟตต์แห่งญี่ปุ่น”
เรื่องราวของเขาเปรียบเสมือนแรงบันดาลใจให้กับนักลงทุนทั่วโลก ที่แสดงให้เห็นว่าอายุเป็นเพียงตัวเลข ความสำเร็จทางการเงินนั้นเกิดขึ้นได้จากความมุ่งมั่นและอดทนโดยไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับอายุ
ในการหากำไรจากตลาดหุ้น ฟูจิโมโตะมักเลือกซื้อขายหุ้นของบริษัทที่มีรายได้ กำไร และเงินปันผลเพิ่มขึ้น รวมถึงบริษัทที่ดำเนินการซื้อคืนหุ้นและให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ถือหุ้น
นอกจากนี้ เขายังพิจารณาตัวชี้วัดทางเทคนิค เช่น ตัวชี้วัดความแข็งแรงของตลาดในแต่ละช่วงเวลา (RSI) และตัวชี้วัดที่บอกทิศทางแนวโน้มของราคาหุ้น (MACD) โดยฟูจิโมโตะบันทึกข้อมูลการซื้อขายไว้ในสมุดเสมอ ตั้งแต่วันที่ รายการหุ้น จำนวน และราคาที่ซื้อขายได้
สำนักข่าวอาซาฮีรายงานว่า ถึงแม้จะมีอายุแปดสิบกว่าปี แต่คุณลุงท่านนี้ก็ยังคงติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด โดยเริ่มทำงานตั้งแต่ตีสอง ขณะที่คนส่วนใหญ่ยังคงหลับอยู่ ทุกเช้าหลังจากยืดเส้นยืดสายเบา ๆ ฟูจิโมโตะจะชงกาแฟดื่มคู่ไปกับการวิเคราะห์ตลาดหุ้นสหรัฐ และศึกษาเอกสารทางการเงินต่าง ๆ ผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์สามเครื่อง โดยเขาใช้ข้อมูลนี้เพื่อคาดการณ์ทิศทางโดยรวมของตลาดญี่ปุ่นและเลือกหุ้นที่จะซื้อขาย
“ผมยุ่งที่สุดระหว่าง 9 ถึง 10 โมงเช้า” ฟูจิโมโตะบ่นพลางพิมพ์คีย์บอร์ดด้วยนิ้วชี้เพียงนิ้วเดียวเพื่อสั่งซื้อ อย่างไรก็ตาม บางครั้งเขาพิมพ์ผิดและมีข้อความ “Error” ปรากฏบนหน้าจอ
“จะแย่มากถ้าผมสับสนระหว่างคำสั่งซื้อและคำสั่งขาย” เขากล่าวพลางเพ่งตามองจอมอนิเตอร์คอมพิวเตอร์และคีย์บอร์ด
เครดิตจาก กรุงเทพฯธุรกิจ
https://www.bangkokbiznews.com/world/1150752