สวัสดีค่ะ เราอายุ 40ปี มีลูกติด2คน
เมื่อ 10ปีที่แล้ว รู้จักกับสามีคนปจบ เป็นคนไทยเรียนจบตปทและกำลังยื่นเรื่องเป็นพลเมืองที่นั่น
เขาเข้ากับลูกเราได้ดีมากๆ พาเราไปเจอพ่อแม่เขา ทุกอย่างดูราบรื่น จนมีแต่คนบอกว่าเราโชคดีมาก เขาเสนอว่าให้เราแต่งงานแล้วย้ายไปอยู่ด้วยกัน หาอะไรทำเป็นของตัวเอง แล้วค่อยมารับลูกไปอยู่ด้วย……ลืมบอกไปว่าตอนนั้นเราขายของออนไลน์เล็กๆ สามารถเลี้ยงแม่ เลี้ยงลูกๆได้….ส่วนเรื่องรายจ่ายที่บ้าน เขาบอกจะช่วยเอง
เราเลยโอเค ถ้าไม่ดีก็กลับบ้านเรา…..จู่ๆเขามาบอกว่าคงไม่มีงานแต่ง เราก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะเขาคือคนที่อยากจัดงานตั้งแต่แรก เขาบอกแม่เขาบอกว่า ไม่ใช่เนื้อคู่ เราก็อึ้ง งงๆ……แต่แฟนก็บอกว่าไม่เป็นไร เขาเชื่อมั่นใจตัวเรา และรู้จักพ่อแม่เค้าดี เดี๋ยวพ่อแม่เขาก็โอเค เขารู้จักพ่อแม่เขาดี
สุดท้ายจดทะเบียนแล้วก็ย้ายมาอยู่กับที่ตปท สามีใช้เวลาปีกว่าๆ จนได้งานประจำ เขาเป็นคนออกค่าอยู่ค่ากิน สามีเป็นคนสม่ำเสมอ ชิวๆ แอบเอาแต่ใจ เป็นคนวาทศิลป์ดีมีแต่คนรัก ชอบสังคม แต่ปัญหาพอดื่มแล้วเหมือนเป็นคนละคน หยาบคาย และจะติดลม ไปต่อตลอด…..ชีวิตวนอยู่แบบนี้ ทะเลาะกันเขาไล่เรา เราให้อภัยเพราะคิดว่าคงเมา คิดว่าไม่เมาเขาก็ดี จ่ายค่าบ้าน ค่ากิน
ส่วนดิฉันวิ่งทำงานพาร์ทไทม์3ที่ ส่งเงินกลับบ้าน ส่งตัวเองเรียนต่อหวังว่าจะได้มีงานที่มั่นคง ผ่านไป3ปี เรียนจบเราได้งานประจำ การงานเราดีขึ้นเรื่อยๆ แต่สุขภาพคือไม่ได้เลย เป็นโรคเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันตัวเอง ผ่าตัดและต้องทานยา ปรับยาตลอดชีวิต….แอบโทษที่ดูแลตัวเองไม่ดี
เราซื้อบ้าน แล้วรับลูกลูกมาอยู่ด้วย แต่เป็นเงินเรา 70% เค้า 30% ในบชร่วม เราคิดว่าเค้าออกค่าที่อยู่ที่กินมาตลอด3ปี และตอนนี้การงานเราก็ดีกว่าเขาแล้ว ช่วยกันทำช่วยกันสร้าง
แต่พอลูกมาอยู่ด้วยจริงๆ เหมือนเค้าไม่เข้าในบริบทครอบครัว หลายๆอย่างไม่เหมือนที่คุยกันไว้ มีปัญหาทะเลาะกันบ่อยมาก เราอึดอัดและสงสารลูกมาก
แฟนคาดหวังในตัวลูกเรา ถ้าไม่เป็นแบบที่เขาคิดคือไม่ดี ลูกรู้สึกได้ เข้าใจว่าลูกเราก็มีดื้อ นิสัยไม่ดีบ้าง คนต่างกัน เด็กเขาก็มีเหตุผล เหตุผลผู้ใหญ่ก็ไม่ใช่จะถูกเสมอ
ชอบเถียงเอาชนะลูกเราเหมือนเด็กขาดความรัก แต่มาตัดพ้อกับเราว่าเขาเหมือนเป็นคนเกิน
ยังดื่ม ติดลม เมาแล้วขับ ทะเลาะกันตลอดมา
ค่าเทอมลูก เขาบอกช่วยๆกัน ให้เอาเงินบช ร่วมจ่าย แล้วก็ไปพูดกับเพื่อนว่าเนี่ย ช่วยส่งเสีย เราอึดอัดมากเหมือนเราเอาลูกมาเกาะเขา ส่วนค่าใช่จ่ายลูกอื่อนๆเราออกหมด
เราเพิ่งมารู้ว่าเขาเอาเงินไปลงทุนกับที่บ้าน หลายปีแล้ว เราจะไม่ติดใจเลย ถ้าเขาบอกเราสักนิดในฐานะเมีย
ส่วนเรื่องพ่อแม่ เราไม่เห็นเขาทำอะไรเลย นอกจากปล่อยให้เวลามันผ่านไป
เราป่วย มีลูกไม่ได้ เขาก็ไม่บอกไม่ชี้แจงพ่อแม่เขา พ่อแม่เขาก็บอกว่าเราไม่ได้รักลูกเขา
ตลอดเวลาที่มาอยู่ที่นี่ เขาแอบคุยกับที่บ้าน เหมือนไม่ให้รู้ว่ามีเราอยู่ด้วย เราไม่ได้เอ๊ะใจเพราะคิดว่าเรื่องส่วนตัว
ฟางเส้นสุดท้าย เราแอบเห็นข้อความที่เขาคุยกับที่บ้าน แล้วคำตอบคือ พ่อแม่รังเกียจที่เราจน แต่งงานหวังสมบัติและจะเกาะลูกเขา ตัดภาพมาเราลำบากมากกว่าอยู่ไทย เราไม่ได้นั่งงอมืองอเท้าให้ลูกเขาเลี้ยง เงินทางบ้านเราก็ส่งเสียเอง…จุดพีค คือแฟนรู้เรื่องทุกอย่าง แต่เลือกที่โกหกมาตลอดเรา
ตอนนี้เรารู้สึกสมเพชตัวเองมาก ปากกัดตีนถีบเพราะคำว่าช่วยกันทำช่วยกันสร้าง พยายามทุกทาง….โง่ที่ไม่ได้หยุดตั้งแต่ไม่ใช่เนื้อคู่แล้ว มันไม่ชัดเจน มันใช่ที่ของเราตั้งแต่แรก….แฟนก็ทำงานชิวๆ ไม่เคยมีคำตอบเรื่องแพลน/อนาคต หรือเรื่องที่บ้านเขา
รู้สึกผิดมากๆๆๆๆที่ทิ้งแม่ทิ้งลูกมาหลายปี และ สงสารลูกที่ต้องมาเริ่มต้นชีวิตใหม่เพราะเรา
เหนื่อย อยากเลิก อยากหย่าแล้วกลับไทย แต่ลูกเพิ่งจะเริ่มปรับตัวได้ปีกว่าๆกับที่นี่ได้ค่ะ เรีองหลักสูตรการเรียนด้วย เพราะใกล้เข้ามหาลัยด้วย
เครียดมากๆๆ เหมือนแบกปัญหาอยู่คนเดียว อยากขอความคิดเห็นจากหลายๆด้านค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ชีวิตคู่ไม่ใช่เรื่องคน2คน
เมื่อ 10ปีที่แล้ว รู้จักกับสามีคนปจบ เป็นคนไทยเรียนจบตปทและกำลังยื่นเรื่องเป็นพลเมืองที่นั่น
เขาเข้ากับลูกเราได้ดีมากๆ พาเราไปเจอพ่อแม่เขา ทุกอย่างดูราบรื่น จนมีแต่คนบอกว่าเราโชคดีมาก เขาเสนอว่าให้เราแต่งงานแล้วย้ายไปอยู่ด้วยกัน หาอะไรทำเป็นของตัวเอง แล้วค่อยมารับลูกไปอยู่ด้วย……ลืมบอกไปว่าตอนนั้นเราขายของออนไลน์เล็กๆ สามารถเลี้ยงแม่ เลี้ยงลูกๆได้….ส่วนเรื่องรายจ่ายที่บ้าน เขาบอกจะช่วยเอง
เราเลยโอเค ถ้าไม่ดีก็กลับบ้านเรา…..จู่ๆเขามาบอกว่าคงไม่มีงานแต่ง เราก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะเขาคือคนที่อยากจัดงานตั้งแต่แรก เขาบอกแม่เขาบอกว่า ไม่ใช่เนื้อคู่ เราก็อึ้ง งงๆ……แต่แฟนก็บอกว่าไม่เป็นไร เขาเชื่อมั่นใจตัวเรา และรู้จักพ่อแม่เค้าดี เดี๋ยวพ่อแม่เขาก็โอเค เขารู้จักพ่อแม่เขาดี
สุดท้ายจดทะเบียนแล้วก็ย้ายมาอยู่กับที่ตปท สามีใช้เวลาปีกว่าๆ จนได้งานประจำ เขาเป็นคนออกค่าอยู่ค่ากิน สามีเป็นคนสม่ำเสมอ ชิวๆ แอบเอาแต่ใจ เป็นคนวาทศิลป์ดีมีแต่คนรัก ชอบสังคม แต่ปัญหาพอดื่มแล้วเหมือนเป็นคนละคน หยาบคาย และจะติดลม ไปต่อตลอด…..ชีวิตวนอยู่แบบนี้ ทะเลาะกันเขาไล่เรา เราให้อภัยเพราะคิดว่าคงเมา คิดว่าไม่เมาเขาก็ดี จ่ายค่าบ้าน ค่ากิน
ส่วนดิฉันวิ่งทำงานพาร์ทไทม์3ที่ ส่งเงินกลับบ้าน ส่งตัวเองเรียนต่อหวังว่าจะได้มีงานที่มั่นคง ผ่านไป3ปี เรียนจบเราได้งานประจำ การงานเราดีขึ้นเรื่อยๆ แต่สุขภาพคือไม่ได้เลย เป็นโรคเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันตัวเอง ผ่าตัดและต้องทานยา ปรับยาตลอดชีวิต….แอบโทษที่ดูแลตัวเองไม่ดี
เราซื้อบ้าน แล้วรับลูกลูกมาอยู่ด้วย แต่เป็นเงินเรา 70% เค้า 30% ในบชร่วม เราคิดว่าเค้าออกค่าที่อยู่ที่กินมาตลอด3ปี และตอนนี้การงานเราก็ดีกว่าเขาแล้ว ช่วยกันทำช่วยกันสร้าง
แต่พอลูกมาอยู่ด้วยจริงๆ เหมือนเค้าไม่เข้าในบริบทครอบครัว หลายๆอย่างไม่เหมือนที่คุยกันไว้ มีปัญหาทะเลาะกันบ่อยมาก เราอึดอัดและสงสารลูกมาก
แฟนคาดหวังในตัวลูกเรา ถ้าไม่เป็นแบบที่เขาคิดคือไม่ดี ลูกรู้สึกได้ เข้าใจว่าลูกเราก็มีดื้อ นิสัยไม่ดีบ้าง คนต่างกัน เด็กเขาก็มีเหตุผล เหตุผลผู้ใหญ่ก็ไม่ใช่จะถูกเสมอ
ชอบเถียงเอาชนะลูกเราเหมือนเด็กขาดความรัก แต่มาตัดพ้อกับเราว่าเขาเหมือนเป็นคนเกิน
ยังดื่ม ติดลม เมาแล้วขับ ทะเลาะกันตลอดมา
ค่าเทอมลูก เขาบอกช่วยๆกัน ให้เอาเงินบช ร่วมจ่าย แล้วก็ไปพูดกับเพื่อนว่าเนี่ย ช่วยส่งเสีย เราอึดอัดมากเหมือนเราเอาลูกมาเกาะเขา ส่วนค่าใช่จ่ายลูกอื่อนๆเราออกหมด
เราเพิ่งมารู้ว่าเขาเอาเงินไปลงทุนกับที่บ้าน หลายปีแล้ว เราจะไม่ติดใจเลย ถ้าเขาบอกเราสักนิดในฐานะเมีย
ส่วนเรื่องพ่อแม่ เราไม่เห็นเขาทำอะไรเลย นอกจากปล่อยให้เวลามันผ่านไป
เราป่วย มีลูกไม่ได้ เขาก็ไม่บอกไม่ชี้แจงพ่อแม่เขา พ่อแม่เขาก็บอกว่าเราไม่ได้รักลูกเขา
ตลอดเวลาที่มาอยู่ที่นี่ เขาแอบคุยกับที่บ้าน เหมือนไม่ให้รู้ว่ามีเราอยู่ด้วย เราไม่ได้เอ๊ะใจเพราะคิดว่าเรื่องส่วนตัว
ฟางเส้นสุดท้าย เราแอบเห็นข้อความที่เขาคุยกับที่บ้าน แล้วคำตอบคือ พ่อแม่รังเกียจที่เราจน แต่งงานหวังสมบัติและจะเกาะลูกเขา ตัดภาพมาเราลำบากมากกว่าอยู่ไทย เราไม่ได้นั่งงอมืองอเท้าให้ลูกเขาเลี้ยง เงินทางบ้านเราก็ส่งเสียเอง…จุดพีค คือแฟนรู้เรื่องทุกอย่าง แต่เลือกที่โกหกมาตลอดเรา
ตอนนี้เรารู้สึกสมเพชตัวเองมาก ปากกัดตีนถีบเพราะคำว่าช่วยกันทำช่วยกันสร้าง พยายามทุกทาง….โง่ที่ไม่ได้หยุดตั้งแต่ไม่ใช่เนื้อคู่แล้ว มันไม่ชัดเจน มันใช่ที่ของเราตั้งแต่แรก….แฟนก็ทำงานชิวๆ ไม่เคยมีคำตอบเรื่องแพลน/อนาคต หรือเรื่องที่บ้านเขา
รู้สึกผิดมากๆๆๆๆที่ทิ้งแม่ทิ้งลูกมาหลายปี และ สงสารลูกที่ต้องมาเริ่มต้นชีวิตใหม่เพราะเรา
เหนื่อย อยากเลิก อยากหย่าแล้วกลับไทย แต่ลูกเพิ่งจะเริ่มปรับตัวได้ปีกว่าๆกับที่นี่ได้ค่ะ เรีองหลักสูตรการเรียนด้วย เพราะใกล้เข้ามหาลัยด้วย
เครียดมากๆๆ เหมือนแบกปัญหาอยู่คนเดียว อยากขอความคิดเห็นจากหลายๆด้านค่ะ
ขอบคุณค่ะ