สวัสดีค่ะ ใครที่เข้ามาอ่านก็ ร่วมแสดงความคิดเห็นได้นะคะ เพราะเรามาระบายเรื่องที่อึดอัดในใจ เฉยๆค่ะ
เราอึดอัดกับครอบครัวค่ะ เรากำลังขึ้นมหาลัยด้วย เรามีพี่ชาย1คน พ่อแม่หย่ากัน เราอยู่กับพ่อนะคะ คือตอนเด็กๆเราไม่ค่อยมีใครสอนคะโตมาเลยบกพร่องไปบางเรื่อง เรื่องการใช้ชีวิตนี่คือเด่นๆเลยค่ะ เรามักจะโดนมองอยู่ตลอดว่า เราไม่เก่งอะไรเลยสักอย่าง คุณแม่ด้วยความที่ห่างไกลเรา เขาก็ยังมองเราอ่อนด้อยตลอดทุกครั้งนะคะ ทั้งที่เราพยายามทำทุกอย่าง หาข้อมูลเรียนต่อเองบ้าง ลองทำกิจกรรมใหม่ๆ ลองทำงาน ลองเป็นพิธีกร แต่คุณแม่ก็ยังมองเราไม่เอาไหนอยู่ดีค่ะ มีแต่คุณพ่อที่คิดว่าเราหน่ะทำได้เก่ง ขนาด สอบจะเข้า ม.รัฐคุณพ่อยังคิดว่าเราทำได้ มีแต่คุณแม่ที่คิดว่าเราทำไม่ได้ ไม่ได้เรื่องสักอย่าง มันเลยเกิดความท้อในใจเรื่อยๆ เขาเอาแต่พูดข้อเสียของเรานะคะ ไม่เคยพูดข้อดีสักครั้ง ให้คนอื่นฟัง เราพยายามไม่สนใจนะคะ แต่คนในครอบครัวพูดมันก็บั่นทอนทุกๆวันจริงไหมคะ คุณแม่มองตัวเอง ว่าเป็นยังไง เลยมองเราเป็นอย่างนั้นด้วยเลยค่ะ อย่างเรื่องกู้กยศ.เราไม่รู่นะคะว่าต้องทำไง ไปทำที่มหาลัยพร้อมกับสมัครเรียนไหม หรือทำทีหลัง คุณแม่ก็ต่อว่าเราสะงั้นว่าเรา ไม่ได้เรื่องไม่ใส่ใจ ทั้งที่ เราหน่ะถามเกี่ยวกับเรื่องเรียนเรื่องกู้กับคุณแม่แล้วนะคะว่าทำไงไรบ้าง แต่เขาก็เปลี่ยนเรื่องคุยทุกที จนเราไม่มั่นใจในตัวแม่นะคะว่าจะส่งเสียค่ากินตอนเราเรียนไหมเพราะแม่ผิดสัญญาปล่อยทิ้งกลางอากาศหลายรอบแล้วค่ะ คุณยายก็เตือนแม่เสมอนะคะว่า อย่าให้ความหวังเรา ไม่งั้นเราก็เสียใจ แต่ท่านก็ดูไม่ได้สนใจกะบคำพูดของยายเลย
ตามนั้นแหละค่ะ เรื่องที่อึดอัดภายในใจ เราอาจจะมีมุมอ่อนแอบ้างก็จริงแต่เราก็ลุกขึ้นสู้ได้นะคะ ถึงที่ผ่านมาในระยะ10กว่าปีนี้ คุณแม่ไม่เคยชื่นชมเราเลยมองเราไม่ได้เรื่องตลอด เราก็ไม่สนแล้วค่ะ เราก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาบอกเสมอไป เรารู้แก่ใจว่าเราเป็นคนยังไง ขอบคุณที่หลงเข้ามาอ่านกันนะคะ
ระบายความในใจ
เราอึดอัดกับครอบครัวค่ะ เรากำลังขึ้นมหาลัยด้วย เรามีพี่ชาย1คน พ่อแม่หย่ากัน เราอยู่กับพ่อนะคะ คือตอนเด็กๆเราไม่ค่อยมีใครสอนคะโตมาเลยบกพร่องไปบางเรื่อง เรื่องการใช้ชีวิตนี่คือเด่นๆเลยค่ะ เรามักจะโดนมองอยู่ตลอดว่า เราไม่เก่งอะไรเลยสักอย่าง คุณแม่ด้วยความที่ห่างไกลเรา เขาก็ยังมองเราอ่อนด้อยตลอดทุกครั้งนะคะ ทั้งที่เราพยายามทำทุกอย่าง หาข้อมูลเรียนต่อเองบ้าง ลองทำกิจกรรมใหม่ๆ ลองทำงาน ลองเป็นพิธีกร แต่คุณแม่ก็ยังมองเราไม่เอาไหนอยู่ดีค่ะ มีแต่คุณพ่อที่คิดว่าเราหน่ะทำได้เก่ง ขนาด สอบจะเข้า ม.รัฐคุณพ่อยังคิดว่าเราทำได้ มีแต่คุณแม่ที่คิดว่าเราทำไม่ได้ ไม่ได้เรื่องสักอย่าง มันเลยเกิดความท้อในใจเรื่อยๆ เขาเอาแต่พูดข้อเสียของเรานะคะ ไม่เคยพูดข้อดีสักครั้ง ให้คนอื่นฟัง เราพยายามไม่สนใจนะคะ แต่คนในครอบครัวพูดมันก็บั่นทอนทุกๆวันจริงไหมคะ คุณแม่มองตัวเอง ว่าเป็นยังไง เลยมองเราเป็นอย่างนั้นด้วยเลยค่ะ อย่างเรื่องกู้กยศ.เราไม่รู่นะคะว่าต้องทำไง ไปทำที่มหาลัยพร้อมกับสมัครเรียนไหม หรือทำทีหลัง คุณแม่ก็ต่อว่าเราสะงั้นว่าเรา ไม่ได้เรื่องไม่ใส่ใจ ทั้งที่ เราหน่ะถามเกี่ยวกับเรื่องเรียนเรื่องกู้กับคุณแม่แล้วนะคะว่าทำไงไรบ้าง แต่เขาก็เปลี่ยนเรื่องคุยทุกที จนเราไม่มั่นใจในตัวแม่นะคะว่าจะส่งเสียค่ากินตอนเราเรียนไหมเพราะแม่ผิดสัญญาปล่อยทิ้งกลางอากาศหลายรอบแล้วค่ะ คุณยายก็เตือนแม่เสมอนะคะว่า อย่าให้ความหวังเรา ไม่งั้นเราก็เสียใจ แต่ท่านก็ดูไม่ได้สนใจกะบคำพูดของยายเลย
ตามนั้นแหละค่ะ เรื่องที่อึดอัดภายในใจ เราอาจจะมีมุมอ่อนแอบ้างก็จริงแต่เราก็ลุกขึ้นสู้ได้นะคะ ถึงที่ผ่านมาในระยะ10กว่าปีนี้ คุณแม่ไม่เคยชื่นชมเราเลยมองเราไม่ได้เรื่องตลอด เราก็ไม่สนแล้วค่ะ เราก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาบอกเสมอไป เรารู้แก่ใจว่าเราเป็นคนยังไง ขอบคุณที่หลงเข้ามาอ่านกันนะคะ