ลองหัดสลับมุมมองการเล่า ขอความเห็นครับผม

กระทู้สนทนา
*ที่เคยเขียนมาเหมือนมีปัญหาเรื่อง info dump เลยลองเปลี่ยนมุมมองการเล่าเหมือนเรื่องเซปติมัสฯ เผื่อจะกระจายข้อมูลออกไปได้บ้าง ขอความเห็นด้วยว่าควรแก้ไขยังไง เอาแค่นี้พอ ค่อนตอน* ***ยังไม่ตรวจคำผิดเนื้อ เด๋วไปทำเอง*

 
            เซธผู้เป็นอมตะแสร้งนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อย่างใจเย็น การเดินทางสามร้อยปีสอนหลายอย่างรวมถึงการอดทนรอ คำสาปซึ่งได้รับจากเทพเจ้าแห่งดินแดนทำให้ตัวเขาต้องกลายเป็นอมตะเพื่อตามล่าไถ่ถอนความผิดในอดีต ความจริงเขาเกือบหมดหวังในการตามหาเป้าหมายตั้งแต่ห้าสิบปีก่อนกระทั่งเงื่อนงำหลายอย่างผุดขึ้นต่อเนื่องจนน่าสงสัย เมื่อแกะรอยตามการชี้นำจนถึงเมืองหลวงของสหพันธรัฐพลันพบเรื่องปกติในหมู่เรื่องปกติ 
 
            ประธานาธิบดีคนใหม่เป็นคนฉ้อฉลใช้อำนาจในทางที่ผิด ผู้บริสุทธิ์เป็นแพะรับบาปในคดีความ ผู้มีอิทธิพลได้รับความช่วยเหลือขนาดแก้กฏหมายให้ และอื่น ๆ อีกมากมาย
 
            ตลอดสามร้อยปีเซธพบเรื่องนี้ทุกหัวระแหงตั้งแต่วิทยาศาสตร์ถือกำเนิดจนถึงยุคแห่งการติดต่อไร้สาย เขาไม่สนเรื่องนี้แต่ท่านผู้นั้นซึ่งเดินทางมาด้วยกันเห็นต่าง
 
            “บังเอิญเกินไป มีร่องรอยเทเป็นทางจนถึงเมืองหลวงซึ่งผู้ปกครองทำตัวชั่วช้า เหมือนติดป้ายล่อพวกเราไม่มีผิด ถ้าไม่เข้าไปหาก็เท่ากับประกาศว่ากลัว สมัยก่อนถือเป็นการท้าทายกันซึ่งหน้า!” 
 
            เซธผู้เป็นดั่งบริวารของท่านผู้นั้นมองอย่างอิหนาระอาใจว่าอีกฝ่ายไม่ค่อยยอมมีความอาวุโสตามอายุขัยจริง
 
            ท่านผู้นั้นเป็นหนึ่งในกลุ่มนักรบเทพ ตำนานเล่าว่าในยุคแห่งเทพเจ้ามีการปะทะกันระหว่างสองกลุ่มอำนาจ สี่เสาค้ำจุนกับเทพปิศาจ ซึ่งเหล่านักรบเทพได้รับการเลือกสรรมาเป็นลูกน้องของเสาค้ำจุนอีกต่อหนึ่ง ทุกนามที่กล่าวมาล้วนทรงอำนาจระดับป่นทวีปใหญ่เป็นผงธุลีและควบคุมการแตกดับของทุกชีวิตบนดินแดนนี้ได้เหมือนทำอาหารในห้องครัว
 
            ทว่ายุคแห่งเทพเจ้าผ่านพ้นมาอย่างน้อยครึ่งศตวรรษ นักวิชาการและนักโบราณคดีทุกคนลงความเห็นว่านั่นเป็นเพียงนิทานผูกโยงกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ ไม่มีผู้บงการสายลม ไม่มีผู้กำหนดโชคชะตาของชีวิต มีเพียงมนุษย์ที่ดำรงอยู่ด้วยเจตจำนงเสรี
 
            เซธเคยเชื่อว่าเทพเจ้าเป็นแค่นิทานหลอกเด็ก กระทั่งโดนสาปให้เป็นอมตะ ถ้าตอนนั้นเขาจบชีวิตตัวเองเสียคงไม่ต้องลำบากอย่างที่เห็น
 
            แผนครั้งนี้คือการเข้าใกล้ประธานาธิบดีเพื่อตรวจหาร่องรอยมังกรร้าย ท่านผู้นั้นอ้างว่าหากเจ้าตัวไปเองเป้าหมายอาจม้วนหางเก็บร่องรอยหนีเหมือนครั้งก่อนหน้าอีก
 
            เซธผู้ไม่เคยตามสมัยนิยมทันเลือกเสื้อผ้าชุดที่สะอาดที่สุด เสื้อคอกลม กางเกงยีนส์ เสื้อคลุมตัวหนาและรองเท้าผ้าใบโทรม ๆ ช่วยให้กลมกลืนเข้ากับทุกโอกาสทุกสถานการณ์ เขาพับหนังสือพิมพ์วางบนตักเมื่อเจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่งออกมาจัดระเบียบการขับขี่บนถนนเพื่อเตรียมต้อนรับประธานาธิบดี 
 
            ตามตารางงานของรัฐ ประธานาธิบดีจะมาร่วมงานเปิดสถานออกกำลังกายใหม่นานสิบห้านาที หน้าที่ของเซธคือเข้าใกล้ประธานาธิบดีเพื่อดูว่าอุปกรณ์เวทมนตร์ซึ่งใช้ค้นหาร่องรอยมีปฏิกิริยาอย่างไร ถ้าเป้าหมายใช้เวทมนตร์เพื่ออำพรางท่านผู้นั้นจะสามารถรู้ได้ทันที ผู้เป็นอมตะโยนหนังสือพิมพ์ลงถังขยะเพื่อเดินไปดูลานจัดงานให้ใกล้ขึ้น 
 
            ทุกสิ่งดำเนินไปตามสมควร ชายชุดดำซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สื่อสารกันด้วยวิทยุพกพา คนเดินถนนเหลียวมองการวางดอกไม้กับกระดาษสีอย่างใคร่รู้ ถนนแคบลงหนึ่งเลนแต่มีผู้รักษากฏหมายช่วยควบคุมการจราจรอย่างคล่องแคล่ว แววตาจากบางสิ่งยังคงมองเซธเหมือนคนในห้องมองเด็กที่ออกมาอ่านกวีหน้าชั้นเรียนเป็นตาเดียว ท่านผู้นั้นคงทิ้งระยะห่างเพราะเขาไม่กระสากลิ่นอย่างทุกครั้ง
 
            เซธเดินไปเดินไปรวมกลุ่มกับคนพื้นที่ซึ่งออกมารอดูการกล่าวเปิดงานอย่างกระตือรือร้น เขาเริ่มสัมผัสเวทมนตร์บางอย่างได้จากอากาศจากอาคารพาณิชย์ห่างไปสักสองช่วงตึก มีใครสักคนวางแผนทำบางสิ่งด้วยเวทมนตร์ อาจทำอาหารเช้าหรือเตรียมลอบสังหาร เขาแยกเวทมนตร์ได้คร่าว ๆ จากกลิ่น ยิ่งกลิ่นแรงยิ่งโบราณแก่กล้า กลิ่นจากอาคารดังกล่าวเหมือนกลิ่นดอกไม้สดเหมือนของทางการซึ่งใช้ป้องกันเหตุร้าย ส่วนเวทมนตร์ของท่านผู้นั้นมีกลิ่นเหมือนดอกไม้ป่าชนิดที่ใช้ดับกลิ่นตามสุสานหรืองานศพ หมายความว่าเป็นฝีมือของผู้ใช้เวทมนตร์ในยุคปัจจุบัน
 
            ฝูงชนเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้งเมื่อจักรยานยนต์วิ่งนำรถหรูมาจอดเทียบให้ประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐก้าวเท้าออกมาอย่างสง่าผ่าเผย
 
            ความวุ่นวายบังเกิดก่อนนักข่าวเริ่มถ่ายรูปใบแรก กำแพงป้องกันของรัฐส่งเสียงเตือนพร้อมทั้งมีประกายไฟแลบออกมาในอากาศว่างเปล่าราวมีบางสิ่งพยายามล้ำเส้นด้วยประสงค์ร้าย ฝูงชนหยุดนิ่งใกล้แตกตื่นส่วนเซธรอโอกาสเข้าไปอยู่ใกล้ประธานาธิบดีในระยะห้าเมตร พวกที่ส่งศรเวทมนตร์มาคงเป็นกลุ่มก่อการร้ายในข่าวรายวัน ไม่มีความสำคัญเลยสักนิด 
 
            ผู้คนกรีดร้องเมื่อปราการป้องกันร้าวและแตกเหมือนกระจกใส เจ้าหน้าที่ทางเวทมนตร์พยายามสร้างกำแพงอีกครั้งอย่างยากลำบากเพราะเวทมนตร์บางอย่างถูกยิงลงมาจากอาคารไกลออกไปเหมือนปืนกล เซธสบโอกาสตอนฝูงชนวิ่งพล่านก้าวเข้าไปหาประธานาธิบดีซึ่งกำลังขึ้นรถเพื่อหลบหนีโดยมีผู้รักษาความปลอดภัยคอยล้อมไว้อยู่
 
            เซธแทรกตัวและผลักบางคนออกเพื่อไปหยุดหน้ารถของประธานาธิบดี อย่างน้อยก็อยู่ในระยะตรวจสอบได้สักที พอจะร้องให้คนพลขับหยุดรอก็มีมือเล็ก ๆ ดึงเขาให้ออกไปพ้นทางรถวิ่ง พอผู้เป็นอมตะจะปัดให้พ้นทางก็ต้องหยุดเพราะหญิงสาวตรงหน้านั้นมีรูปลักษณ์เหมือนคนรักของเขาไม่มีผิด นาทีนั้นทุกอย่างนิ่งราวเวลาถูกหยุดเอาไว้ 
 
            ผู้เป็นอมตะมองใบหน้ารูปไข่อย่างคิดคำนึงราวตกอยู่ในภวังค์จนสังเกตได้ว่าเวลารอบตัวถูกหยุดเอาไว้ด้วยเวทมนตร์โบราณ! กลิ่นดอกไม้ป่าฉุนแสบจมูกคลุ้งตลบราวแทรกตัวอยู่ทุกอณูของอากาศ 
 
 
            นักรบเทพอิกริดเห็นสมควรออกพ้นผ้าม่านอีกครั้ง ร่างกายภายนอกของเขาถูกติดตรึงในช่วงหนุ่มคะนองทรงพลังอย่างที่สุดแม้เวลาจะผ่านมากว่าพันปี ดวงตาสีพระจันทร์แดงคมกล้ามองทุกสิ่งอย่างผู้สังเกตการณ์พึงกระทำ แม้สามารถบัญชาแลหยิบยื่นความตายแก่สรรพสิ่ง แต่มิอาจทำตามใจชอบได้ด้วยเหตุผลบางประการ
 
            เหตุผลที่หนึ่ง เสาค้ำจุนทั้งสี่ต้องการให้มนุษย์ปกครองดินแดนนี้เพียงผู้เดียว ไม่มีเทพเจ้า ไม่มีอมนุษย์ซึ่งอาจพัฒนาทัดเทียมเข้ามาแทรกแซง ทำให้สองพวกที่ว่าย้ายไปแดนพันธสัญญาซึ่งอุดมสมบูรณ์เช่นเดียวกับดินแดนนี้
 
            เหตุผลที่สองสืบเนื่องจากข้อแรก นักรบเทพอิกริดถูกสั่งห้ามทำร้ายชีวิตโดยเด็ดขาด
 
            เหตุผลสุดท้ายนั้นฝังในอกข้างซ้ายของเขาจนกว่าทุกสิ่งจะสิ้นสุด
 
            นักรบเทพอิกริดมองเห็นเส้นสายทางเวทมนตร์ชัดเจน ร่างแกร่งอย่างนักกีฬาของประธานาธิบดีถูกรัดพันบงการด้วยเวทมนตร์บางอย่างซึ่งมีสภาพทางมนตราคล้ายกับเป้าหมาย เขาทดลองด้วยการใช้เวทมนตร์หยุดเวลาระดับต่ำกับแถบนี้ทั้งหมด หากไม่มีมนตราแก่กล้าจะหยุดแข็งเหมือนหิน หากมีฝีมือและฉลาดจะถอยหนี
 
            รอบด้านหยุดแต่รยางค์มนตราซึ่งรัดพันประธานาธิบดียังคงขมวดปมเต้นตุบ ๆ เป็นจังหวะ เป้าหมายล่าคืออดีตขุนพลปิศาจของเทพปิศาจ ไม่โง่จนไม่รู้ระดับชั้น มีแต่ต้องแสดงตัวเพื่อให้รู้เจตนาของอีกฝ่าย
 
            นักรบเทพอิกริดเปิดเผยร่างโดยไม่พูดพล่าม ชุดคลุมจอมเวทสีดำสนิทเป็นหนึ่งเดียวกับรัตติกาล แววตาสีประหลาดเป็นตราแสดงอำนาจจากบรรพกาล ใบหน้าเรียบเฉยหันไปสนใจผู้อยู่ในรถหรูพร้อมออกไปจากที่เกิดเหตุขอแค่การหยุดเวลาสิ้นสุด เพียงเอ่ยคำประตูรถก็ถูกกระชากออกเหมือนใบไม้แห้ง ทันใดนั้นผู้ควบคุมประธานาธิบดีก็เผยตัวออกมา
 
            อากาศเย็นลงจนสัมผัสความแตกต่างได้ ธาตุดินบีบอัดตัวเองในอากาศสร้างทางเชื่อมสำหรับสื่อสาร ไม่ว่าอีกฝ่ายเป็นใครก็ไม่ได้อยู่ในระยะมองเห็นแน่นอน จนกลุ่มก้อนอากาศสีดำก่อตัวเหนือรถหรู ข้างในมีแววตาสีทองของสัตว์เลื้อยคลานมองลงมามีแผนการ นักรบเทพอิกริดจำความฉลาดในแววตาได้ก็ร้องทักอย่างสหายเก่าซึ่งไม่ได้พบหน้ามานานปี
            “เจอจนได้ อยู่ตรงนี้นี่เอง” รอยยิ้มของนักรบเทพไม่ได้มีความเจ้าเล่ห์อย่างสมัยรุ่งโรจน์อีกแล้วนับตั้งแต่ ‘เขา’ จากไป
 
            “เจอจนได้ นักรบเทพอิกริด...สิ่งที่น่ากลัวจับใจ” ดวงตาสีทองตอบกลับอย่างใจเย็น
 
            นักรบเทพอิกริดเริ่มตั้งข้อสงสัยตามประสา “ขุนพลปิศาจผู้หยิ่งผยองตนนั้นทำไมถึงมาบงการมนุษย์เดินดินเล่นกัน ทุกร่างทุกชื่อของเจ้าแข็งแกร่งทรงอำนาจ มอบตัวหรือจะให้เอาจิตกับวิญญาณไปตรวจว่ามีตนอื่นอีกไหม”
 
            ความเงียบมักมาเยือนช่วงสุดท้ายก่อนการหยุดเวลาจบลงเสมอ ดวงตาสีเหลืองพร้อมกลุ่มก้อนอากาศสีดำหายไปเสียดื้อ ๆ แต่ทิ้งร่องรอยเวทมนร์เป็นทางให้สังเกตและติดตามไปได้ หมายความว่าอีกฝ่ายเจตนาล่อเขามาด้วยเหตุผลบางอย่าง
 
            นักรบเทพอิกริดมองร่างแน่นิ่งว่างเปล่าของประธานาธิบดีด้วยความรู้สึกบางอย่าง เขาปล่อยให้สหพันธรัฐฟื้นตัวเองได้ ผู้นำคนนี้อาจกลับมาเป็นคนดี อาจมีการเลือกตั้งใหม่ มันไม่ใช่เรื่องของเขาอีกแล้วนับตั้งแต่ท่านผู้นั้นมีบัญชาให้อพยพแบบขุดรากถอนโคน
 
            ในอดีตเหล่านักรบเทพเข้าแทรกแซงเมืองน้อยใหญ่นับไม่ถ้วนเพื่อแต้มต่อในสงคราม หรือนี่คือโอกาสปฏิบัติภารกิจเชิงรุก นอกจากรื้อฟื้นสหพันธรัฐแล้วยังใช้เส้นสายเพื่อตามหาเป้าหมายได้ ภารกิจของเจ้าหนุ่มนั่นจะได้จบลงสักที
 
            เพียงเอ่ยคำชุดจอมเวทสีดำปักลายทองพลันเปลี่ยนเป็นชุดสูทสีดำแบบเดียวกับเจ้าหน้าที่รัฐทันที นักรบเทพตนสุดท้ายมองตัวเองอย่างพออกพอใจแล้วรีบคลายการหยุดเวลาไม่ให้เกิดความต่างมากเกินไป อาณาเขตเวทมนตร์อ่อน ๆ รอบพื้นที่ก็สามารถกันห่ากระสุนของผู้ก่อการร้ายได้แล้ว 
 
            นักรบเทพปรบมือแล้วเอ่ยคำ เส้นสายเวทมนตร์พุ่งจากฝ่ามือไปยังตึกด้านหนึ่งเป็นทิศทางเดียว “ตามไป พวกผู้ก่อการร้ายอยู่ที่นั่น!”
 
            เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐทุกคนอยู่ในความสับสนก็ได้เวลาของเวทมนตร์ควบคุมเข้าไปแทรกแซงความทรงจำและความคิด ตั้งแต่นี้นักรบเทพอิกริดคือผู้สั่งการแทนประธานาธิบดีตัวจริงทั้งหมด! คลื่นเวทมนตร์กลืนกินสตินึกคิดของทุกคนในบริเวณให้เชื่ออย่างไม่สงสัย ชายชุดดำรีบใช้วิทยุสื่อสารส่งข้อความให้เข้าตรวจสอบอาคารต้องสงสัยเร็วที่สุด
 
 
            ทุกสิ่งเกิดขึ้นเร็วจนเซธไม่เข้าใจมากนัก ท่านผู้นั้นหยุดเวลาเพื่อแสดงตัว บางสิ่งซึ่งควบคุมประธานาธิบดีออกมาแล้วหายไป จากนั้นฝ่าบาทของเขาก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของเจ้าหน้าที่รัฐสภาเสียอย่างนั้น 
 
            “ไปหลบในอาคารก่อน เร็ว!” หญิงหน้าเหมือนเร่งให้เซธวิ่งตามไปหาที่กำบังเพราะไม่เข้าใจว่าเหตุการณ์สงบแล้ว
 
            เซธยิ้มให้อย่างเป็นมิตรทำท่าวิ่งตามทำให้หญิงสาวออกตัวไปก่อนอย่างเร่งร้อน เขาหยุดมองด้านหลังจนนางกลืนเข้าไปกับกลุ่มคนแล้วเดินไปหาท่านผู้นั้นที่พยุงประธานาธิบดีให้นั่งหลับบนพนักพิงของเบาะหลังในท่าที่สบายที่สุด
 
            ท่านผู้นั้นดูตัวเล็กลงเมื่อใส่ชุดดำของเจ้าหน้าที่ ผมสีเหลืองอ่อนตัดสั้นดูลำลองเกินไป บารมีทางเวทมนตร์แผ่ออกมามากเกินไป แววตาดุดันมากเกินไป ร่างบางกว่าชายชุดดำคนอื่นราวมีกล้ามเนื้อน้อยเกินไป ทุกสิ่งของนักรบเทพดูเกินไปเสียทั้งหมด
 
            อิกริดหันมามองเซธแล้วสั่งงานทันที “กลับไปเก็บของแล้วรอที่โรงแรม เรามีเกมยาวต้องเล่น” ...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่