สวัสดีอีกครั้งครับพี่ๆน้องๆชาวพันทิปหลังจากบทความที่แล้ว ผมได้ตัดสินใจเล่าเรื่องนี้ให้ฟังก็มีคนชื่นชอบพอสมควร ตอนแรกผมก็แอบกังวลว่า อาจจะต้องมีคนไม่ชอบแน่เลย เพราะพ๊อตเรื่องค่อนข้างจะเป็นไปไม่ได้ บางครั้งก็กลัวถูกด่าเหมือนกันครับว่าอ่านไม่รู้เรื่อง555 พอวันนี้ได้มาอ่านคอมเม้นต์จากชาวพันทิป ก็รู้สึกมีความมั่นใจขึ้นมาพอประมานครับ
เอาเป็นว่าผมจะไม่เล่าความยาวสาวความยืดนะครับ มาต่อกันเลยล่ะกันครับจากตอนที่แล้ว กับเรื่องที่แม่เล่าให้ฟัง
ผีอีแก้ว EP2เก็บรอยเท้า Part1/3 เสียงโหยหวน
พอหลังจากที่ชาวบ้านทำพิธีศพป้าแก้วเสร็จ แม่เล่าให้ฟังว่าประมานคืนที่3ได้ ด้วยความที่บ้านแม่กับบ้านป้าแก้วอยู่ใกล้ๆกัน คืนนั้นแม่ได้ยินเสียงร้องไห้เบาๆมาจากทางบ้านป้าแก้ว เสียงนั้นเบาราวกับว่ามันลอยมาตามลม ที่แปลกก็คือพ่อผมก็ได้ยินเสียงอันโหยหวนนั้นด้วย แม่ผมกลัวมากเพราะรู้อยู่แล้วครับว่าไม่ใช่เสียงคนแน่นอน ต่างจากพ่อผมที่ไม่เชื่อเรื่องผีซาง ตอนนั้นแม่เล่าว่าพ่อผมถือตะเกียงลงไปบ้านป้าแก้วพร้อมในมือพ่อถือมีดพร้าไปด้วยเล่มหนึง พ่อกลัวว่าขโมยจะขึ้นบ้านป้าแก้ว ตอนนั้นแม่ผมเตือนพ่อแล้วครับว่าขโมยที่ใหนมันจะมาร้องไห้ตอนกลางคืน แต่ห้ามไปก็เท่านั้นพ่อผมเป็นคนหัวรั้นครับ10ปากว่าไม่เท่า1ตาเห็น(เอาจริงๆครับผมเองก็ไม่แปลกใจว่าผมได้เชื้อหัวรั้นมาจากใคร😁😁😁) พ่อบอกให้แม่รอบนบ้าน พ่อจะลงไปดู หลังจากที่พ่อผมลงไปได้ไม่นานครับ แม่ผมที่นั่งรออยู่บนบ้านอยู่ดีๆก็ได้ยินเสียงวิ่งขึ้นมา (สมัยก่อนเป็นบ้านผมเป็นไม้ครับบรรไดก็เป็นบรรไดไม้) สิ่งที่แม่เห็นคือพ่อที่ดูท่าทีตื่นตระหนกวิ่งขึ้นมาพร้อมกับเหงื่อที่เต็มตัวไปหมด พ่อบอกให้แม่ ดับตะเกียงนอน แม่ผมพยายามถามว่าพ่อเจออะไร แต่พ่อกลับบอกให้แม่รีบนอนเดี๋ยวเช้าๆจะเล่าให้ฟัง พอแม่ดับตะเกียงบ้านเต็มไปด้วยความมืด เสียงร้องไห้นั้นก็ยังไม่ไปใหนยังคงโหยหวนลอยมาตามลม จนรุ่งเช้า แม่ตื่นขึ้นมาเห็นตากับพ่อนั่งคุยกันยายผมก็โกรธแม่ผมที่ไม่ยอมห้ามพ่อ จนแม่ต้องแก้ตัวกับยายยกใหญ่ พ่อได้เล่าถึงเหตุการณ์คืนนั้นว่า แกเดินลงบ้านหยิบพร้ากับตะเกียงไปที่บ้านป้าแก้ว ยังได้ยินเสียงร้องไห้นั้นอยู่ตอนนั้นพ่อผมได้เดินข้ามถนนแกได้ใช้ตะเกียงส่องไฟขึ้นไปบนบ้านป้าแก้วแต่ก็ยังไม่ได้ก้าวขึ้นบรรไดครับ ปรากฏว่าที่พ่อเห็นคือ มีร่างหญิงท้องกลมยืนรอพ่ออยู่บนบ้าน นุ่งผ้าซิ่นกระโจม อก ที่น่าตกใจคือคอของหญิงร่างนั้นมันกลับหักแอ่นไปข้างหลัง ไม่นานคอของหญิงท้องกลมนั้นก็หักกลับมาด้านหน้าราวกลับว่าไม่มีกระดูกคอ ตอนนั้นเองพ่อก็ได้รู้นั้นคือผีป้าแก้วที่ยืนร้องไห้อยู่บนบ้านเหมือนว่ากำลังรอใครสักคน พ่อผมก็ได้รีบวิ่งขึ้นมาหาแม่ พร้อมบอกให้แม่รีบดับตะเกียงนอน ส่วนตากับยายผมด้วยความที่บ้านตากับยายอยู่จากบ้านแม่ไม่ไกลหนัก ตาบอกเมื่อคืนยายก็ได้ยินเสียงร้องไห้นั้นแต่ตาได้ต่อว่ายายว่าห้ามทัก แต่ในคืนนั้นพอดึกพอประมาน(สมัยนั้นตากับยายไม่มีน าฬิกาครับเลยไม่รู้ว่าดึกเท่าไหร่) ตาสังเกตุเห็นว่ายายหลับไปแล้ว สายตาของตาผมมองไปรอบๆตาได้เห็นร่างเด็กคนหนึงยืนโบกมือให้ตาอยู่ด้านล่างตาถามว่าใครนะดึกๆดื่นทำไมไม่ไปหาอยู่หานอน พ่อกับแม่อยู่ใหน ด้วยความมืดตามองเห็นหน้าเด็กนั้นไม่ชัด ตาเลยจะหยิบตะเกียงจุดไฟเดินลงไปหา เสียงเด็กนั้นได้ถามตาผม มองเห็นผมหรอ ตาผมที่กำลังจุดตะเกียงเสร็จจะหันมาหาเด็กแต่กับไม่มีใครยืนอยู่ตรงนั้น ตาผมก็พอรู้อยู่ครับว่าเด็กนั้นมันไม่ใช่คน แต่มันคือลูกของป้าแก้ว จนตาบอกพ่อกับแม่ว่าช่วง6-7วันนี้ให้รีบทำกับข้าวก่อนตะวันตกดิน เพราะตอนกลางคืนผีตายโหงมันจะตามมาเก็บรอยเท้าตามขบวนศพที่เราแห่ เราแห่ไปทางใหน กลางคืนผีมันก็จะเดินไปทางนั้น ตาบอกว่าที่พ่อเห็นมันยืนอยู่บนบ้านนั้นมันอาจจะกำลังเดินลงมาเพื่อที่จะไปผูกคอตายอีกครั้ง พวกตายผิดธรรมชาติ มันจะต้องทำแบบเดิมซ้ำๆจนกว่าจะจะหมดเวรหมดกรรม หลังจากนั้น7วันแม่ผมก็ทำตามที่ตาแนะนำจนคืนหนึงด้วยความที่แม่ยากรู้บ้านผมสมัยก่อนบนบ้านแม่เล่าว่า ผนังไหม้มันจะมีรูเล็กๆเป็นช่องพอให้ตาเราส่องแล้วมองเห็นภายนอกคืนนั้นเสียงหมาเริ่มเห่าหอนน่ากลัวมากๆ เสียงร้องไห้เริ่มแว่วมาเหมือนกันเวลาเดิมทุกคืน แม่ผมแกแอบส่องไปที่รูบนผนังจากบนบ้านไปทางบ้านป้าแก้ว ปรากฏว่ามีเงาของหญิงท้องยืนอยู่บนบ้านหลังนั้น แม่บอกว่าเงานั้นมันไม่ได้เดิน เหมือนกับว่ามันลอยลงมาจากบ้านของป้าแก้ว เพราะแม่ผมบอกว่ามันมองเห็นทุกส่วนยกเว้นส่วนเท้า พอมันเริ่มลอยไปไกลเรื่อยเสียงร้องไห้ก็เริ่มหายไปพร้อมกับเสียงหมาหอนที่ไล่ตามทางจนค่อยๆหายไป.........
หลายวันที่ได้ยินเสียงร้องไห้อันโหยหวนซ้ำๆเกือบทุกวันยกเว้นวันพระ(อันนี้อาจจะย้อยแย้งกับความเชื่อหลายๆคนหน่อยนะครับ) ผ่านมาแล้วเกือบ8วันซึ่งหลายๆคนอาจจะคิดว่ามันจบแล้วใช่ไหมครับ ตอนนั้นแม่กับชาวบ้านผมก็คิดเหมือนกันล่ะครับว่ามันผ่านมาก็8วันแล้ว ผีป้าแก้วคงจะไปตามภพภูมิของแก จนชาวบ้านหลายคนเริ่มออกหาปูหาปลาในตอนกลางคืนตามฮีตฮอยอีสาน ที่สืบต่อกันมา เท่านั้นและครับ แม่เล่าต่อว่า ทีแรกว่าแม่นมันสิจบแล้ว แต่นานเหมือนมันจะยิ่งเฮี้ยน เพราะหลังจากนั้นดึกๆคืนหนึ่งแม่ผมได้ยินเสียงโวกเวกโวยวายในกลางดึกจนหลายๆบ้านต้องรีบเปิดประตูออกมาดู ปรากฏว่ามันคือเสียงของลุงศรที่วิ่งตกอกตกใจ มาที่บ้านตาผม ตอนนั้นแม่เล่าว่าลุงศรเหมือนสติหลุดไปพักใหญ่ ตาผมมองเห็นท่าไม่ดีจึงได้พาลุงศรและชาวบ้านไปหาหลวงตาที่วัด หลวงตาได้รดน้ำมนต์ให้ทุกคนในหมู่บ้านต่างพากันเรียกลุงศรเพื่อที่จะดึงสติลุงแกกลับมา ไม่นานลุงแกเริ่มได้สติ ตามหา แกจึงถามลุงศรว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงได้วิ่งตะโกนโวยวายยามกลางค่ำกลางคืน
เอาล่ะครับที่นี้เพื่อความที่ผู้เขียนจะได้เรียงลำดับเรื่องง่ายๆ ทางผมเองขอแบ่งแยกพาร์ทของลุงศรออกมาล่ะกันนะครับ เพราะถ้าเขียนรวมผมเองเองกลัวผู้อ่านจะไม่เข้าใจเพราะตอนนี้ผู้เขียนเองก็เริ่มจะงงไทมไลน์แล้วเหมือนกันครับ ด้วยความที่สมัยก่อนแม่บอกบ้านผมไม่มีนาฬิกาเหมือนสมัยนี้ และด้วยความที่เรื่องมันหลายปีแล้วแม่ผมเองก็เริ่มจะจำเรื่องราวไม่ค่อยได้😁😁😁😁
#ผีอีแก้วEP2 เก็บรอยเท้าPart2/3 ลุงศร
ลุงศรพอแกเริ่มได้สติจึงได้เล่าเรื่องให้ทุกคนฟังว่า ตอนนั้นแกกำลังส่องหากบอยู่ ลุงศรแกก็ใช้ตะเกียงเดินตามหากินไปเรื่อยๆ จนแกเดินไปถึงทางที่แห่ขบวนศพของป้าแก้วตอนแรกก็ไม่เจออะไร แกก็หากบไปปกติ อยู่ดีๆก็มีเสียงผู้หญิงเรียก...พี่ศร...จากด้านหลัง พอแกหันไปกลับไม่มีใครมองเห็นแต่ทุ่งนาตอนแรกแกคิดว่าตัวแกเองหูแว่ว แกเลยหันกลับหาส่องหากบหาเขียดแบบเดิม จังหวะที่ลุงแกกำลังใช้ตะเกียงส่องหากบอยู่นั้น ปรากฏมีเสียงเท้าเดินลุยน้ำมาทางด้านหลัง แกเองก็คิดว่าเป็นคนหมู่บ้านอื่นมาหากบเหมือนกัน ลุงแกเลยถามเสียงที่เดินลุยน้ำมาทางด้านหลังนั้นตามประสาคนหากบเขียดในยามกลางคืน ....หมานบ่น้อท้าว...(ไม่รู้จะแปลไทยยังไงครับ😁😁โอ้ยลำบากเด้) โดยที่ลุงไม่ได้หันหลังกลับไปดู แต่ก็มีเสียงผู้หญิงตอบกลับลุงมาว่า...พี่ศรผัวหนูมันกลับล่ะบ่อ.... ลุงศรก็เลยหันกลับไปดูปรากฏว่า มันมีผู้หญิงท้องคนหนึงกำลังเดินย่ำน้ำมาหาลุงศร ที่มันน่าสยองก็คือคอของหญิงท้องนั้นมันกลับพับไปด้านหลังพร้อมเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาเหมือนกำลังจะขาดแต่ไม่ขาด...พี่ศรผัวข่อยมันกลับมาหาค่อยบ่อ.... ลุงศรรู้ได้ทันทีนี่มันคือผีป้าแก้ว เพราะคนที่เอาศพป้าแก้วลงมาจากต้นมะขามคือลุงศร แกจำผ้าซิ่นที่นุ่งกระโจม อกได้ ของป้าแก้วได้ ลุงศรแกเห็นแบบนั้นแกเลยทิ้งตะเกียง วิ่งแบบไม่คิดชีวิต ขณะที่แกวิ่งด้วยความกลัวก็มีเสียงหัวเราะของเด็กวิ่งไล่หลังแกมา แกเลยได้หันกลับไปดูกลับเห็นมีร่างเด็กคนหนึงกำลังวิ่งเหมือนวิ่งไล่จับแก ถัดจากเด็กคนนั้นก็คือร่างของป้าแก้วผีตายโหง ที่เหมือนจะลอยมาทางลุงศรพร้อมกลับเสียงร้องไห้ถามลุงศร...ผัวหนูมันกลับมาหาหนูสักครั้งไหมพี่ศร.... เท่านั้นและครับลุงศร แกก็วิ่งตะโกนสติหลุดเหงื่อแตกชุ่มเข้าหมู่บ้าน ลุงศรเล่าให้ฟังว่าตอนแกวิ่งแกไม่มีสติเลย มาถึงหมู่บ้านได้ไงไม่รู้ มารู้ตัวและมีสติกลับมา ก็ตอนที่ทุกคนใหนหมู่บ้าน ต่างพากันตะโกนเขย่าเรียกชื่อแก
ผีอีแก้ว EP2 เก็บรอยเท้า Part3/3 ยืนรำก่อนตาย
มาถึงPart สุดท้ายของEPนี้ นะครับ อาจจะสั้นหน่อยเพราะแม่เองจำที่ลุงเคน แกเล่าไม่ค่อยได้มันนานแล้ว ในคืนเดียวกันนั้นและครับลุงเคนที่นั่งอยู่ข้างๆตาก็ได้เล่าให้ชาวบ้านฟัง ตั้งแต่วันแรกที่เอาศพป้าแก้วลงมา หลังจากนั้นด้วยความที่ต้นมะขามต้นนั้นกลับเถียงนาของลุงเคน อยู่ห่างกันพอที่สายตาจะมองเห็นไม่ไกล้ไม่ไกล คืนวันต่อมาหลังจากที่เอาศพป้าแก้วลงนั้น ช่วงค่ำๆ ลุงเคนมักจะเห็นเงาของป้าแก้วจูงเด็กคนหนึงเดินมาจากทางหมู่บ้าน มายืนร้องไห้ใต้ต้นมะขาม จากนั้นร่างท้องแก่ของป้าแก้วก็จะร่ายรำใต้ต้นมะขาม พร้อมด้วยส่วนต้นคอที่หักพับไปด้านหลังราวกลับกำลังจะขาด (ลุงเคนตอนเด็กๆผมเคยเห็นแกอยู่ครับแกมีวิชาอาคมพอตัวแกเลยไม่ค่อยกลัวผี) แกก็ยืนมองดูสักพัก พอผีป้าแก้วร่ายรำเสร็จ แกก็เห็นว่าผีป้าแก้วปีนขึ้นไปบนต้นมะขาม จากนั้นก็ทิ้งตัวลงมาผูกคออยู่บนกิ่งมะขามกิ่งหนึง พร้อมมีเด็กน้อยกระโดดปรบมือเหมือนดีใจอยู่ด้านล่าง ลุงเคนแกชี้ให้เมียแกดูหลายครั้งแต่ป้าเพ็ญแกกลัว แกไม่กล้าดู ลุงเคนเล่าต่อว่าทุกวันเวลาเดิมจะเห็นป้าแก้วจูงมือเด็กมาต้นมะขามต้นนี้ พร้อมกับร่ายรำร้องไห้ก่อนจะขึ้นไปชดใช้กรรมแบบเดิมซ้ำๆ และทุกๆครั้งเด็กคนนั้นก็จะปรบมือกระโดดโลดเต้นแทบทุกครั้ง
แต่ที่ลุงเคนแปลกใจคือ ตอนทำพิธีศพป้าแก้ว ทุกคนต่างก็เห็นว่าตามหาได้ทำพิธีผ่าเอาศพออกจากท้องป้าแก้วแล้ว แล้วเด็กที่ป้าแก้วพามาด้วยมาจากใหน เพราะด้วยความเชื่อของคนอีสานสมัยก่อนเชื่อว่าการเอาศพเด็กจากแม่เพื่อฝังแยก ก็เพื่อให้วิญญานที่ตายทั้ง กลมสงบสุข อันนี้ทีแรกผมก็งงๆ ครับ แต่เอาเป็นว่าผมจะมาเฉลยในEP สุดท้ายครับ เพราะเรื่องมันค่อนข้างๆจะงงๆ เพราะคนที่เล่าให้ผมฟังตอนี้ก็อายุ68 แล้วครับ😁😁😁 ผมขอไปเรียบเรียงไทมไลน์ดีๆ ก่อน เดี๋ยวจะเอามาเล่าสรุปให้ฟังเข้าใจกันง่ายๆครับ
ผีอีแก้วEP3 มันกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่(ตอนจบ)
ผีอีแก้ว EP2 เก็บรอยเท้า (เรื่องที่แม่เล่าให้ฟัง)
เอาเป็นว่าผมจะไม่เล่าความยาวสาวความยืดนะครับ มาต่อกันเลยล่ะกันครับจากตอนที่แล้ว กับเรื่องที่แม่เล่าให้ฟัง
ผีอีแก้ว EP2เก็บรอยเท้า Part1/3 เสียงโหยหวน
พอหลังจากที่ชาวบ้านทำพิธีศพป้าแก้วเสร็จ แม่เล่าให้ฟังว่าประมานคืนที่3ได้ ด้วยความที่บ้านแม่กับบ้านป้าแก้วอยู่ใกล้ๆกัน คืนนั้นแม่ได้ยินเสียงร้องไห้เบาๆมาจากทางบ้านป้าแก้ว เสียงนั้นเบาราวกับว่ามันลอยมาตามลม ที่แปลกก็คือพ่อผมก็ได้ยินเสียงอันโหยหวนนั้นด้วย แม่ผมกลัวมากเพราะรู้อยู่แล้วครับว่าไม่ใช่เสียงคนแน่นอน ต่างจากพ่อผมที่ไม่เชื่อเรื่องผีซาง ตอนนั้นแม่เล่าว่าพ่อผมถือตะเกียงลงไปบ้านป้าแก้วพร้อมในมือพ่อถือมีดพร้าไปด้วยเล่มหนึง พ่อกลัวว่าขโมยจะขึ้นบ้านป้าแก้ว ตอนนั้นแม่ผมเตือนพ่อแล้วครับว่าขโมยที่ใหนมันจะมาร้องไห้ตอนกลางคืน แต่ห้ามไปก็เท่านั้นพ่อผมเป็นคนหัวรั้นครับ10ปากว่าไม่เท่า1ตาเห็น(เอาจริงๆครับผมเองก็ไม่แปลกใจว่าผมได้เชื้อหัวรั้นมาจากใคร😁😁😁) พ่อบอกให้แม่รอบนบ้าน พ่อจะลงไปดู หลังจากที่พ่อผมลงไปได้ไม่นานครับ แม่ผมที่นั่งรออยู่บนบ้านอยู่ดีๆก็ได้ยินเสียงวิ่งขึ้นมา (สมัยก่อนเป็นบ้านผมเป็นไม้ครับบรรไดก็เป็นบรรไดไม้) สิ่งที่แม่เห็นคือพ่อที่ดูท่าทีตื่นตระหนกวิ่งขึ้นมาพร้อมกับเหงื่อที่เต็มตัวไปหมด พ่อบอกให้แม่ ดับตะเกียงนอน แม่ผมพยายามถามว่าพ่อเจออะไร แต่พ่อกลับบอกให้แม่รีบนอนเดี๋ยวเช้าๆจะเล่าให้ฟัง พอแม่ดับตะเกียงบ้านเต็มไปด้วยความมืด เสียงร้องไห้นั้นก็ยังไม่ไปใหนยังคงโหยหวนลอยมาตามลม จนรุ่งเช้า แม่ตื่นขึ้นมาเห็นตากับพ่อนั่งคุยกันยายผมก็โกรธแม่ผมที่ไม่ยอมห้ามพ่อ จนแม่ต้องแก้ตัวกับยายยกใหญ่ พ่อได้เล่าถึงเหตุการณ์คืนนั้นว่า แกเดินลงบ้านหยิบพร้ากับตะเกียงไปที่บ้านป้าแก้ว ยังได้ยินเสียงร้องไห้นั้นอยู่ตอนนั้นพ่อผมได้เดินข้ามถนนแกได้ใช้ตะเกียงส่องไฟขึ้นไปบนบ้านป้าแก้วแต่ก็ยังไม่ได้ก้าวขึ้นบรรไดครับ ปรากฏว่าที่พ่อเห็นคือ มีร่างหญิงท้องกลมยืนรอพ่ออยู่บนบ้าน นุ่งผ้าซิ่นกระโจม อก ที่น่าตกใจคือคอของหญิงร่างนั้นมันกลับหักแอ่นไปข้างหลัง ไม่นานคอของหญิงท้องกลมนั้นก็หักกลับมาด้านหน้าราวกลับว่าไม่มีกระดูกคอ ตอนนั้นเองพ่อก็ได้รู้นั้นคือผีป้าแก้วที่ยืนร้องไห้อยู่บนบ้านเหมือนว่ากำลังรอใครสักคน พ่อผมก็ได้รีบวิ่งขึ้นมาหาแม่ พร้อมบอกให้แม่รีบดับตะเกียงนอน ส่วนตากับยายผมด้วยความที่บ้านตากับยายอยู่จากบ้านแม่ไม่ไกลหนัก ตาบอกเมื่อคืนยายก็ได้ยินเสียงร้องไห้นั้นแต่ตาได้ต่อว่ายายว่าห้ามทัก แต่ในคืนนั้นพอดึกพอประมาน(สมัยนั้นตากับยายไม่มีน าฬิกาครับเลยไม่รู้ว่าดึกเท่าไหร่) ตาสังเกตุเห็นว่ายายหลับไปแล้ว สายตาของตาผมมองไปรอบๆตาได้เห็นร่างเด็กคนหนึงยืนโบกมือให้ตาอยู่ด้านล่างตาถามว่าใครนะดึกๆดื่นทำไมไม่ไปหาอยู่หานอน พ่อกับแม่อยู่ใหน ด้วยความมืดตามองเห็นหน้าเด็กนั้นไม่ชัด ตาเลยจะหยิบตะเกียงจุดไฟเดินลงไปหา เสียงเด็กนั้นได้ถามตาผม มองเห็นผมหรอ ตาผมที่กำลังจุดตะเกียงเสร็จจะหันมาหาเด็กแต่กับไม่มีใครยืนอยู่ตรงนั้น ตาผมก็พอรู้อยู่ครับว่าเด็กนั้นมันไม่ใช่คน แต่มันคือลูกของป้าแก้ว จนตาบอกพ่อกับแม่ว่าช่วง6-7วันนี้ให้รีบทำกับข้าวก่อนตะวันตกดิน เพราะตอนกลางคืนผีตายโหงมันจะตามมาเก็บรอยเท้าตามขบวนศพที่เราแห่ เราแห่ไปทางใหน กลางคืนผีมันก็จะเดินไปทางนั้น ตาบอกว่าที่พ่อเห็นมันยืนอยู่บนบ้านนั้นมันอาจจะกำลังเดินลงมาเพื่อที่จะไปผูกคอตายอีกครั้ง พวกตายผิดธรรมชาติ มันจะต้องทำแบบเดิมซ้ำๆจนกว่าจะจะหมดเวรหมดกรรม หลังจากนั้น7วันแม่ผมก็ทำตามที่ตาแนะนำจนคืนหนึงด้วยความที่แม่ยากรู้บ้านผมสมัยก่อนบนบ้านแม่เล่าว่า ผนังไหม้มันจะมีรูเล็กๆเป็นช่องพอให้ตาเราส่องแล้วมองเห็นภายนอกคืนนั้นเสียงหมาเริ่มเห่าหอนน่ากลัวมากๆ เสียงร้องไห้เริ่มแว่วมาเหมือนกันเวลาเดิมทุกคืน แม่ผมแกแอบส่องไปที่รูบนผนังจากบนบ้านไปทางบ้านป้าแก้ว ปรากฏว่ามีเงาของหญิงท้องยืนอยู่บนบ้านหลังนั้น แม่บอกว่าเงานั้นมันไม่ได้เดิน เหมือนกับว่ามันลอยลงมาจากบ้านของป้าแก้ว เพราะแม่ผมบอกว่ามันมองเห็นทุกส่วนยกเว้นส่วนเท้า พอมันเริ่มลอยไปไกลเรื่อยเสียงร้องไห้ก็เริ่มหายไปพร้อมกับเสียงหมาหอนที่ไล่ตามทางจนค่อยๆหายไป.........
หลายวันที่ได้ยินเสียงร้องไห้อันโหยหวนซ้ำๆเกือบทุกวันยกเว้นวันพระ(อันนี้อาจจะย้อยแย้งกับความเชื่อหลายๆคนหน่อยนะครับ) ผ่านมาแล้วเกือบ8วันซึ่งหลายๆคนอาจจะคิดว่ามันจบแล้วใช่ไหมครับ ตอนนั้นแม่กับชาวบ้านผมก็คิดเหมือนกันล่ะครับว่ามันผ่านมาก็8วันแล้ว ผีป้าแก้วคงจะไปตามภพภูมิของแก จนชาวบ้านหลายคนเริ่มออกหาปูหาปลาในตอนกลางคืนตามฮีตฮอยอีสาน ที่สืบต่อกันมา เท่านั้นและครับ แม่เล่าต่อว่า ทีแรกว่าแม่นมันสิจบแล้ว แต่นานเหมือนมันจะยิ่งเฮี้ยน เพราะหลังจากนั้นดึกๆคืนหนึ่งแม่ผมได้ยินเสียงโวกเวกโวยวายในกลางดึกจนหลายๆบ้านต้องรีบเปิดประตูออกมาดู ปรากฏว่ามันคือเสียงของลุงศรที่วิ่งตกอกตกใจ มาที่บ้านตาผม ตอนนั้นแม่เล่าว่าลุงศรเหมือนสติหลุดไปพักใหญ่ ตาผมมองเห็นท่าไม่ดีจึงได้พาลุงศรและชาวบ้านไปหาหลวงตาที่วัด หลวงตาได้รดน้ำมนต์ให้ทุกคนในหมู่บ้านต่างพากันเรียกลุงศรเพื่อที่จะดึงสติลุงแกกลับมา ไม่นานลุงแกเริ่มได้สติ ตามหา แกจึงถามลุงศรว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงได้วิ่งตะโกนโวยวายยามกลางค่ำกลางคืน
เอาล่ะครับที่นี้เพื่อความที่ผู้เขียนจะได้เรียงลำดับเรื่องง่ายๆ ทางผมเองขอแบ่งแยกพาร์ทของลุงศรออกมาล่ะกันนะครับ เพราะถ้าเขียนรวมผมเองเองกลัวผู้อ่านจะไม่เข้าใจเพราะตอนนี้ผู้เขียนเองก็เริ่มจะงงไทมไลน์แล้วเหมือนกันครับ ด้วยความที่สมัยก่อนแม่บอกบ้านผมไม่มีนาฬิกาเหมือนสมัยนี้ และด้วยความที่เรื่องมันหลายปีแล้วแม่ผมเองก็เริ่มจะจำเรื่องราวไม่ค่อยได้😁😁😁😁
#ผีอีแก้วEP2 เก็บรอยเท้าPart2/3 ลุงศร
ลุงศรพอแกเริ่มได้สติจึงได้เล่าเรื่องให้ทุกคนฟังว่า ตอนนั้นแกกำลังส่องหากบอยู่ ลุงศรแกก็ใช้ตะเกียงเดินตามหากินไปเรื่อยๆ จนแกเดินไปถึงทางที่แห่ขบวนศพของป้าแก้วตอนแรกก็ไม่เจออะไร แกก็หากบไปปกติ อยู่ดีๆก็มีเสียงผู้หญิงเรียก...พี่ศร...จากด้านหลัง พอแกหันไปกลับไม่มีใครมองเห็นแต่ทุ่งนาตอนแรกแกคิดว่าตัวแกเองหูแว่ว แกเลยหันกลับหาส่องหากบหาเขียดแบบเดิม จังหวะที่ลุงแกกำลังใช้ตะเกียงส่องหากบอยู่นั้น ปรากฏมีเสียงเท้าเดินลุยน้ำมาทางด้านหลัง แกเองก็คิดว่าเป็นคนหมู่บ้านอื่นมาหากบเหมือนกัน ลุงแกเลยถามเสียงที่เดินลุยน้ำมาทางด้านหลังนั้นตามประสาคนหากบเขียดในยามกลางคืน ....หมานบ่น้อท้าว...(ไม่รู้จะแปลไทยยังไงครับ😁😁โอ้ยลำบากเด้) โดยที่ลุงไม่ได้หันหลังกลับไปดู แต่ก็มีเสียงผู้หญิงตอบกลับลุงมาว่า...พี่ศรผัวหนูมันกลับล่ะบ่อ.... ลุงศรก็เลยหันกลับไปดูปรากฏว่า มันมีผู้หญิงท้องคนหนึงกำลังเดินย่ำน้ำมาหาลุงศร ที่มันน่าสยองก็คือคอของหญิงท้องนั้นมันกลับพับไปด้านหลังพร้อมเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาเหมือนกำลังจะขาดแต่ไม่ขาด...พี่ศรผัวข่อยมันกลับมาหาค่อยบ่อ.... ลุงศรรู้ได้ทันทีนี่มันคือผีป้าแก้ว เพราะคนที่เอาศพป้าแก้วลงมาจากต้นมะขามคือลุงศร แกจำผ้าซิ่นที่นุ่งกระโจม อกได้ ของป้าแก้วได้ ลุงศรแกเห็นแบบนั้นแกเลยทิ้งตะเกียง วิ่งแบบไม่คิดชีวิต ขณะที่แกวิ่งด้วยความกลัวก็มีเสียงหัวเราะของเด็กวิ่งไล่หลังแกมา แกเลยได้หันกลับไปดูกลับเห็นมีร่างเด็กคนหนึงกำลังวิ่งเหมือนวิ่งไล่จับแก ถัดจากเด็กคนนั้นก็คือร่างของป้าแก้วผีตายโหง ที่เหมือนจะลอยมาทางลุงศรพร้อมกลับเสียงร้องไห้ถามลุงศร...ผัวหนูมันกลับมาหาหนูสักครั้งไหมพี่ศร.... เท่านั้นและครับลุงศร แกก็วิ่งตะโกนสติหลุดเหงื่อแตกชุ่มเข้าหมู่บ้าน ลุงศรเล่าให้ฟังว่าตอนแกวิ่งแกไม่มีสติเลย มาถึงหมู่บ้านได้ไงไม่รู้ มารู้ตัวและมีสติกลับมา ก็ตอนที่ทุกคนใหนหมู่บ้าน ต่างพากันตะโกนเขย่าเรียกชื่อแก
ผีอีแก้ว EP2 เก็บรอยเท้า Part3/3 ยืนรำก่อนตาย
มาถึงPart สุดท้ายของEPนี้ นะครับ อาจจะสั้นหน่อยเพราะแม่เองจำที่ลุงเคน แกเล่าไม่ค่อยได้มันนานแล้ว ในคืนเดียวกันนั้นและครับลุงเคนที่นั่งอยู่ข้างๆตาก็ได้เล่าให้ชาวบ้านฟัง ตั้งแต่วันแรกที่เอาศพป้าแก้วลงมา หลังจากนั้นด้วยความที่ต้นมะขามต้นนั้นกลับเถียงนาของลุงเคน อยู่ห่างกันพอที่สายตาจะมองเห็นไม่ไกล้ไม่ไกล คืนวันต่อมาหลังจากที่เอาศพป้าแก้วลงนั้น ช่วงค่ำๆ ลุงเคนมักจะเห็นเงาของป้าแก้วจูงเด็กคนหนึงเดินมาจากทางหมู่บ้าน มายืนร้องไห้ใต้ต้นมะขาม จากนั้นร่างท้องแก่ของป้าแก้วก็จะร่ายรำใต้ต้นมะขาม พร้อมด้วยส่วนต้นคอที่หักพับไปด้านหลังราวกลับกำลังจะขาด (ลุงเคนตอนเด็กๆผมเคยเห็นแกอยู่ครับแกมีวิชาอาคมพอตัวแกเลยไม่ค่อยกลัวผี) แกก็ยืนมองดูสักพัก พอผีป้าแก้วร่ายรำเสร็จ แกก็เห็นว่าผีป้าแก้วปีนขึ้นไปบนต้นมะขาม จากนั้นก็ทิ้งตัวลงมาผูกคออยู่บนกิ่งมะขามกิ่งหนึง พร้อมมีเด็กน้อยกระโดดปรบมือเหมือนดีใจอยู่ด้านล่าง ลุงเคนแกชี้ให้เมียแกดูหลายครั้งแต่ป้าเพ็ญแกกลัว แกไม่กล้าดู ลุงเคนเล่าต่อว่าทุกวันเวลาเดิมจะเห็นป้าแก้วจูงมือเด็กมาต้นมะขามต้นนี้ พร้อมกับร่ายรำร้องไห้ก่อนจะขึ้นไปชดใช้กรรมแบบเดิมซ้ำๆ และทุกๆครั้งเด็กคนนั้นก็จะปรบมือกระโดดโลดเต้นแทบทุกครั้ง
แต่ที่ลุงเคนแปลกใจคือ ตอนทำพิธีศพป้าแก้ว ทุกคนต่างก็เห็นว่าตามหาได้ทำพิธีผ่าเอาศพออกจากท้องป้าแก้วแล้ว แล้วเด็กที่ป้าแก้วพามาด้วยมาจากใหน เพราะด้วยความเชื่อของคนอีสานสมัยก่อนเชื่อว่าการเอาศพเด็กจากแม่เพื่อฝังแยก ก็เพื่อให้วิญญานที่ตายทั้ง กลมสงบสุข อันนี้ทีแรกผมก็งงๆ ครับ แต่เอาเป็นว่าผมจะมาเฉลยในEP สุดท้ายครับ เพราะเรื่องมันค่อนข้างๆจะงงๆ เพราะคนที่เล่าให้ผมฟังตอนี้ก็อายุ68 แล้วครับ😁😁😁 ผมขอไปเรียบเรียงไทมไลน์ดีๆ ก่อน เดี๋ยวจะเอามาเล่าสรุปให้ฟังเข้าใจกันง่ายๆครับ
ผีอีแก้วEP3 มันกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่(ตอนจบ)