จากที่เห็นข่าวมาไม่กี่วันมานี้เกี่ยวกับการฝากขัง
ไม่เข้าใจครับ อย่างน้อยคือขังแยกไม่ได้เลยหรอ การเอาผู้บริสุทธิ์ไปขังรวมกับสภาพสังคมคุกมันแฟร์แล้วหรอ ถ้าจะมาอ้างแค่ว่าที่คุกไม่พอ ต้องเอามาขังรวมๆ
ต้องมากินอาหาร‘พอประทังชีวิต’ที่รสชาติก็…‘กินๆไปไม่ให้ตาย’จริงๆ
การฝากขังนี่มันต่างอะไรกับการกักขังหน่วงเหนี่ยวโดยชอบด้วยกฏหมายอะครับ แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าเค้ารีบทำคดีให้เรา หรือขังยาวๆไป ค่อยทำ?
อีกอย่างคนส่วนมากพอโดนฝากขังก็มองว่าผิดแล้ว โดนมองเป็นคนคุก
แถมยังมีบทปฏิญาณตนที่รูปประโยคคือบังคับให้ยอมรับว่าผิดอีก
“ข้าพเจ้าเป็นผู้มีกรรมเป็นของตน จึงต้องรับผลของกรรมนั้น... “
ได้ยินประโยคนี้แล้วนึกถึงใจแพะรับบาปเลยครับ
ผมไม่เข้าใจอะครับ เราไม่มีวิธีปฏิบัติกับผู้ต้องหาที่ดีกว่านี้แล้วหรอครับ ทำไมเหมือนไม่ได้ให้ค่า‘เวลา’ในชีวิตของคนๆนึง ที่ยังไม่รู้ด้วยซํ้ามีความผิดหรือไม่เลย
ส่วนคนที่กระทำผิดจริง ติดแปปๆก็ได้ออกแล้ว เพราะเหตุผลเดิม คือ พื้นที่คุกน้อย คำถามคือ แล้วทำไมไม่เอาเงินส่วนที่ทุบถนนดีๆแล้วสร้างใหม่ไปสร้างคุกเพิ่มอะครับ
ทำไมคนที่โดนฝากขังถึงถูกปฏิบัติเหมือนเป็นคนผิด ทั้งที่ยังไม่ตัดสินอะครับ
ไม่เข้าใจครับ อย่างน้อยคือขังแยกไม่ได้เลยหรอ การเอาผู้บริสุทธิ์ไปขังรวมกับสภาพสังคมคุกมันแฟร์แล้วหรอ ถ้าจะมาอ้างแค่ว่าที่คุกไม่พอ ต้องเอามาขังรวมๆ
ต้องมากินอาหาร‘พอประทังชีวิต’ที่รสชาติก็…‘กินๆไปไม่ให้ตาย’จริงๆ
การฝากขังนี่มันต่างอะไรกับการกักขังหน่วงเหนี่ยวโดยชอบด้วยกฏหมายอะครับ แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าเค้ารีบทำคดีให้เรา หรือขังยาวๆไป ค่อยทำ?
อีกอย่างคนส่วนมากพอโดนฝากขังก็มองว่าผิดแล้ว โดนมองเป็นคนคุก
แถมยังมีบทปฏิญาณตนที่รูปประโยคคือบังคับให้ยอมรับว่าผิดอีก
“ข้าพเจ้าเป็นผู้มีกรรมเป็นของตน จึงต้องรับผลของกรรมนั้น... “
ได้ยินประโยคนี้แล้วนึกถึงใจแพะรับบาปเลยครับ
ผมไม่เข้าใจอะครับ เราไม่มีวิธีปฏิบัติกับผู้ต้องหาที่ดีกว่านี้แล้วหรอครับ ทำไมเหมือนไม่ได้ให้ค่า‘เวลา’ในชีวิตของคนๆนึง ที่ยังไม่รู้ด้วยซํ้ามีความผิดหรือไม่เลย
ส่วนคนที่กระทำผิดจริง ติดแปปๆก็ได้ออกแล้ว เพราะเหตุผลเดิม คือ พื้นที่คุกน้อย คำถามคือ แล้วทำไมไม่เอาเงินส่วนที่ทุบถนนดีๆแล้วสร้างใหม่ไปสร้างคุกเพิ่มอะครับ