ธุรกิจขายตรง.. ด้านดีที่ไม่ถูกพูดถึง

หลายเพจช่วงนี้ กล่าวถึงธุรกิจขายตรงในแง่ร้าย ขออนุญาต เล่าถึงด้านดี
โดยรวม ไม่เจาะจงบริษัทใดบริษัทหนึ่ง แนวคิดธุรกิจขายตรง มาจาก
การลดต้นทุนด้าน... 1. การตลาดแนวขนบ เช่น ซื้อสื่อทีวี-สื่อสิ่งพิมพ์โฆษณา 
2. การวางสินค้าขายตามร้าน ซึ่งร้านได้รับส่วนต่างจากราคาขายส่งกับราคาขายปลีก
ธุรกิจขายตรง นำเงินส่วนนั้นมาแจกจ่ายให้สมาชิก แทน
ซึ่งเป็นโมเดลธุรกิจที่ต่างจากแนวขนบเดิม ที่เน้นการหาลูกจ้างขององค์กร

ธุรกิจขายตรงไม่เน้นปริญญา ใครๆก็เข้ามาได้ หากอยากพัฒนาตนเอง
ทำความรู้จักสินค้า สื่อสารเป็น บริหารเงินและเวลาเป็น
มีการสร้าง mindset สอนการตั้งเป้าหมาย และวางแผนกลยุทธิ์ 

ทำไมแม่ข่ายต้องรวยกว่า 
แม่ข่าย ก็เหมือนกับ supervisor ที่สร้างคน สร้างทีม 
ยิ่งสร้างคนที่สามารถขายได้เก่ง ก็จะยิ่งได้ส่วนแบ่งจากแต่ละคน ที่ตนเองบริหารอยู่

สินค้าบางตัว เหมาะกับการขายตรง เพราะมีรายละเอียดจำนวนมาก 
ที่เล่าไม่หมด ในโฆษณา 2 นาที บางทีต้องผ่านการทดลองใช้ จากผู้ขายเอง

ในธุรกิจแบบทุนนิยม ความร่ำรวย ไปกระจุกอยู่ที่องค์กรใหญ่ ซึ่งผู้บริหาร
ก็ได้เงินเดือนจำนวนมาก เจ้าของก็ได้มาก ขีดเส้นกั้น ระหว่างลูกค้า กับ บริษัท ชัดเจน

ในธุรกิจขายตรง ทุกคน คือ เจ้าของธุรกิจ 
หรือ แม้แต่ผู้ใช้สินค้า ก็อาจจะรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจได้มากกว่า 
การซื้อสินค้าจากซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป

อะไรคือ โฆษณาชวนเชื่อ  โฆษณาเกินจริง 
ตราบเท่าที่มีสัญญาระบุ ว่า หากทำได้ตามสัญญา ก็จะมีการให้ตำแหน่งหรือ รางวัลตามสัญญา
โดยไม่เบี้ยว 

ถ้าเราเอาคำพูดในโฆษณา มากมายหลายสโลแกน เกินจริงทั้งนั้น
Acer, empowering people 
1. การใช้เทคโนโลยีทำให้ผู้ใช้รู้สึกมีอำนาจ
2. การมีคอมพิวเตอร์ ทำให้ทำงานหาข้อมูลได้มากขึ้น ชีวิตประสพความสำเร็จง่ายขึ้น 
สมมุติ คนคนหนึ่ง ใช้คอมพิวเตอร์เอเซ่อร์ แต่ไม่ได้ผลแบบการตีความทั้งสองข้อ 
การโฆษณา Acer ถือเป็นการกล่าวเกินจริงหรือเปล่า 
เพื่อนๆ ลองช่วยแชร์โฆษณาที่ไม่สมจริง  build อารมณ์ ซึ่งเราว่า มันก็ปกตินะ 
เพราะที่เราเสพไป มันคือ โฆษณาเชิญชวน  ไม่ใช่ข้อมูลทางวิชาการเกี่ยวกับสินค้า
การให้ข้อมูลเท็จ เช่น มีภรรยาหลายคน แต่ระบุว่า มีภรรยา 1 คน
แบบนั้น คือ ให้ข้อมูลเท็จหรือเปล่า ? หรือ การใช้สารชนิดหนึ่ง 10% ในตัวสินค้า
แต่ใส่สารนั้นจริงๆ เพียง 5% นั่นคือ ข้อมูลเท็จ

หากบริษัทธุรกิจขายตรง นิมนต์พระมาเทศน์ในองค์กร พระท่านจะทราบไหมว่า เรื่องราวภายใน
ของบริษัทเป็นอย่างไร นอกจากสร้างกำลังใจให้สมาชิกที่มาฟังเทศน์
ให้รู้จักขยันทางโลกในทางที่ดี เช่น ตามหลักอิทธิบาท 4 ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา 
ธุรกิจก็เกี่ยวข้องกับธรรมะ หากสินค้าและการบริหารจัดการนั้น แก้ปัญหาให้ผู้คน
ซึ่งก็อาจจะไม่ทุกคน ยาแก้สิวหลอดหนึ่ง ไม่ใช่ทุกคน ที่ใช้ได้ผล 
แต่จำเป็นว่า หลักแนวทางบริหาร สาระเกี่ยวกับสินค้า ต้องชัดเจน เพื่อให้การสื่อสารจากองค์กรตรงกัน 

ดังนั้น ในกรณี
1. พระมาเทศน์ในองค์กร = เป็นเครื่องมือ ในการโฆษณา 
2. ทุกอย่างที่ดาราพูด = ชวนเชื่อ
เป็นเรื่องที่ทำกันมาเป็นปกติแล้วนับพันๆ กรณี 
จึงต้องพิจารณาในรายละเอียดเนื้อหา และบริบท ก่อนตัดสิน 

ทั้งคนโชว์รวย และ คนหมั่นไส้คนรวย 
อยากให้เว้นที่ว่างให้คนกลางๆ ที่ต้องการข้อมูล หาเหตุผล
ก่อนที่จะกระพือให้ไฟลุกด้วยอารมณ์

การโชว์รวย คือ ความสุขส่วนบุคคล 
หากไม่จริง ก็พิสูจน์กันไป
แต่ถ้าจริง ก็ถือว่า เขาทำให้เห็น เป็นให้ดู 
ส่วนจะหาความสุขแบบเขาหรือไม่ เรามีสิทธิเลือก
ทั้งหมดนี้  สะท้อนถึง ระดับวิจารณญาณของสังคมในการเสพคอนเทน

อย่างไรก็ดี สำหรับดิไอคอนกรุ๊ป เขาทำธุรกิจประเภท การตลาดแบบตรง / direct marketing 
ซึ่งเน้นการขายผ่านสื่อโซเชี่ยล โดยกลุ่มคนที่เข้าอบรมหลักสูตรของเขา 
บริษัทนี้ไม่ได้จดทะเบียนในฐานะ ธุรกิจขายตรง / direct sale  
ในทางปฏิบัติ น่าจะตรวจดูว่า คนเหล่านั้นที่เข้าอบรม กลายเป็น ผู้ขาย หรือ เพียงอบรมให้เป็นนักการตลาด

ธุรกิจขายตรง ไม่ควรถูกคว่ำบาตร โดยสังคมไทย ด้วยวิธีคิดแบบเหมารวม 
คนในธุรกิจขายตรงที่ประสพความสำเร็จตามครรลอง นั้นมีอยู่จริง
(แต่ไม่ใช่เจ้าของกระทู้)
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่