วัยใกล้ 30 แต่อยากให้ผิวหน้าหยุดอายุไว้ที่เลข 2 จังเลย 🥺 ไม่พร้อมรับมือกับปัญหาริ้วรอยหรือตีนกาจริงๆ
มีใครเป็นเหมือนมิ้นมั้ยคะ? พออายุใกล้จะเข้าเลข 3 รู้สึกว่าผิวมันไม่เหมือนเดิมบางวันผิวแห้งแบบลอกเป็นขุย บางวันหน้ามันเยิ้มเฉยเลย แล้วผิวมันก็ไม่เด้งเหมือนตอนอายุ 19-20 อีกแล้ว อาจจะเพราะมิ้นเป็นคนไม่ค่อยดื่มน้ำด้วยแหละมั้ง บวกกับความเครียดจากการทำงาน สภาพผิวก็เลยยิ่งแย่เข้าไปกันใหญ่ ซึ่งมันจะไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยถ้าไม่ได้รู้ว่าสาเหตุของพวกริ้วรอย ตีนกา หรือร่องลึกต่างๆ บนใบหน้ามันเกิดจากการที่ผิวแห้งขาดน้ำ จนผิวที่เคยเด้งตามวัยกลายเป็นผิวแก่ไปเลย

ไม่ต้องตกใจนะคะ นี่หน้าสดของมิ้นเอง จะเห็นได้ว่ารูขุมขนค่อนข้างชัดจากความมันบนใบหน้า ตรงช่วงบริเวณจมูกกับหน้าผากผิวจะแห้งกร้านกว่าส่วนอื่นๆ แล้วก็จะมีทั้งรอยดำสิวและสิวอุดตันขึ้นอยู่ประปราย ถึงแม้ริ้วรอยจะยังไม่มา แต่ร่องลึกใต้ตากับร่องแก้มมาเดบิวต์แล้วค่ะ 😅 ถึงได้รีบร้อนหาตัวช่วยมาบำรุงผิวหน้าแบบเร่งด่วนน
ซึ่งคนผิวแพ้ง่ายมากกกแบบมิ้น ก็ต้องเฟ้นหาพวกครีมหรือเซรั่มบำรุงที่มีส่วนผสมจากสมุนไพรหรือสารสกัดธรรมชาติเป็นหลัก ยิ่งเป็นออร์แกนิกแท้ๆ ยิ่งเลิฟ เพราะจะลดโอกาสการแพ้ไปได้มากเลย เคยเจอบางผลิตภัณฑ์ใช้ดีมาก แต่ผิวเราแพ้ก็ไปต่อไม่ไหว เสียดาย (เงิน) นะคะ แต่ความสวยมันต้องไปต่ออะเนอะ ปฏิบัติการตามหาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากสมุนไพรจึงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง

จนมาเจอตัวนี้ค่ะครีมบัวหิมะในตำนาน แต่ไม่ใช่กระปุกฟ้าตัวดังในพันทิปเมื่อหลายปีก่อนนะคะ อันนั้นก็ดีเหมือนกันเห็นคุณแม่ใช้ทาเวลาเป็นแผล แต่สารสกัดหลายๆ ตัวที่เราเห็นบนหลังกล่องยังไม่ค่อยตอบโจทย์ปัญหาผิวของเราในตอนนี้สักเท่าไหร่ เน้นเอาไว้ติดบ้านเวลาน้ำร้อนลวกดีกว่า
ครีมบัวหิมะมาแรงปี 2024 สำหรับมิ้นนะคะ ขอยกให้ SANNY SNOW LOTUS CREAM HYA 15X เป็นที่ 1 ในใจนะคะ ไม่เคยเจอครีมบัวหิมะที่ผสมไฮยารูลอนมาก่อน เพิ่งเคยเห็นครั้งแรกนี่แหละค่ะ แถมยังเป็นไฮยารูลอน 15 เท่าอีก เรื่องความชุ่มชื้นที่มิ้นต้องการบอกเลยว่า 10 10 10 มีรูปประกอบให้ดูนะคะ เป็นหน้าสดที่เพิ่งถ่ายสดๆ ร้อนๆ เมื่อคืนเลย ตกใจเหมือนกันที่หน้าฉ่ำขนาดนั้น เลื่อนดูด้านล่างได้เลยย แต่ถ้าอยากทำความรู้จักกับครีมบัวหิมะตัวนี้ว่ามันมีดีที่ตรงไหน มาค่ะเดี๋ยวมิ้นบอกต่อให้ฟัง 😉

ป้ายยาแบบง่ายๆ ไม่ใช่ทางของมิ้นจริงๆ อยากให้ทุกคนรู้ว่าเออ มันดีจริงๆ นะ กระทู้นี้เลยจะมาแกะสูตรสารสกัดให้ดูเลยค่ะว่าปัญหาผิวทั้งหมดทั้งมวลของมิ้นที่บอกไปในตอนต้น มันมีสารสกัดอะไรบ้างที่ช่วยบำรุงผิวของมิ้นไม่ให้เสี่ยงผิวแก่ไปมากกว่านี้
แต่บอกไว้ก่อนน้า~ มิ้นไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ข้อมูลสารสกัดทั้งหมดนี้มิ้นรวบรวมมาจากหลายที่ รวมถึงพวกเปเปอร์ต่างๆ ที่พอจะหาอ่านได้ ผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยล่วงหน้าเลยนะคะ แต่เอาเป็นว่าจะพยายามสรุปให้ครอบคลุมมากที่สุด เพื่อนๆ จะได้ตัดสินใจถูกว่าควรไปต่อหรือพอแค่นี้ 🙏
ครีมบัวหิมะ Sanny Expert เน้นส่วนผสมจากธรรมชาตินะคะ ปราศจากซิลิโคน แอลกอฮอล์ พาราเบน เมนทอล การบูร และน้ำมันตามหน้ากล่องเลยค่ะ พูดง่ายๆ ก็คือไม่มีสารเคมีหรือสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองนั่นเอง ตอบโจทย์คนผิวแพ้ง่ายแบบมิ้นแล้วหนึ่ง โดยมีสารสกัดหลักจากดอกบัวหิมะ อ่านมาถึงตรงนี้ทุกคนน่าจะนึกถึงภาพผลบัวหิมะสีน้ำตาลที่รสชาติเหมือนมันแกวแน่เลยอะ แต่ไม่ใช่นะคะ สกัดจากดอกบัวหิมะที่ขึ้นอยู่บนเทือกเขาหิมะสูงๆ มันเป็นดอกไม้เมืองหนาวชื่อว่า Snow Lotus ค่ะ
จากการหาข้อมูลของมิ้นนะคะเจ้าดอกบัวหิมะนี้ มีสรรพคุณช่วยฟื้นฟูผิวให้เนียนนุ่ม เหมาะกับการบำรุงผิวที่บอบบาง แพ้ง่าย หรืออักเสบง่ายสุดๆ แล้วก็ยังช่วยปรับสมดุลผิวหนังให้แข็งแรงยิ่งขึ้นด้วย มิ้นเลยคิดว่าน่าจะเหมาะกับคนแพ้ง่ายแบบมิ้น เพราะผิวบางมาก เวลาสิวขึ้นก็จะทิ้งรอยไว้นาน หรือเวลากดสิวรอยแดงจะเห่อขึ้นจนน่ากลัว จากการลองใช้ก็รู้สึกว่า เออ มันปลอบประโลมผิวดีจัง เนื้อครีมเย็นๆ ทาทิ้งไว้ชั่วโมงสองชั่วโมงรอยแดงก็ค่อยๆ จางลงจากแต่ก่อนที่ปล่อยชิลไม่ทาอะไร ต้องรอข้ามวันให้มันหายไปเอง

ส่วนเรื่องปัญหาผิวแห้งกร้านที่มิ้นกังวลมากๆ อาจจะยังไม่ใช่ทางของดอกบัวหิมะ แต่ว่าเขาผสมสาร Hyaluronan 15 Multi-Complex หรือไฮยารูลอนมาด้วย ซึ่งจากข้อมูลและรีวิวต่างๆ ผลลัพธ์ออกมาในทางเดียวกันว่ามันให้ความชุ่มชื้นและกักเก็บน้ำในชั้นผิวได้ดีเลย ถามว่าผิวที่มีน้ำกักเก็บอยู่ดีมั้ย ส่วนตัวมิ้นว่าดีเพราะหลังใช้ผิวมันจะยืดหยุ่นขึ้นอะ ผิวดูฟูอิ่มน้ำ ใครเคยทาสลีปปิ้งมาส์กก่อนนอนจะรู้ว่าผิวตอนตื่นนอนมันฟู มันฉ่ำแค่ไหน ตัวนี้ก็ไม่ต่างค่ะ เพราะมิ้นใช้โบกหน้าโบกคอแทนสลีปปิ้งมาส์กในช่วงนี้
มิ้นว่าเหมาะกับคนผิวแห้ง หน้าแห้งดีนะคะ ส่วนคนผิวมันหรือผิวผสมแบบมิ้นก็ใช้ได้เหมือนกัน จากที่ลองทาก่อนนอนและก่อนไปทำงานทุกวัน ชอบในความไม่เหนียวเหนอะนี่แหละ เนื้อครีมเหมือนจะหนักนะคะถ้าดูจากสี แต่ความจริงคือเนื้อเบามาก ซึมไวไม่ต้องรอแห้งนาน เวลารีบๆ ตอนเช้ามิ้นจะโบกๆ ไว้บนหน้าให้ผิวมันฉ่ำ รอซึมแป๊บเดียวก็แต่งหน้าต่อได้เลยค่ะ (ส่วนตัวว่าวันนั้นหน้าจะดรอปช้ามาก)

ส่วนสารสกัดอื่นๆ ที่ใส่มาก็จะมี Niacinamide หรือ Vitamin B3 ซึ่งทางแบรนด์เขาระบุมาเลยว่าเป็นสารสกัดที่ช่วยในเรื่องผิวใส ผิวสว่างเหมือนเปิดไฟให้ผิวจากธรรมชาติที่ปลอดภัยต่อผิวกว่าสาร Hydroquinone ซึ่งเมื่อใช้ไปนานๆ จะทำให้ผิวหน้าเป็นจุดด่างขาว เป็นฝ้าถาวร แล้วยังเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนังอีก (อันนี้ตอนซื้อมิ้นไม่รู้นะ แต่พอรู้แล้วก็ขอบคุณตัวเองมากที่เลือกไว้ใจไม่ผิดแบรนด์)
แล้วก็สารสกัด Cacay Oil ที่มิ้นเพิ่งเคยได้ยินเหมือนกัน เลยได้ไปศึกษาเพิ่มเติมนิดหน่อยว่ามันคืออะไร จนได้รู้ว่าครีมบัวหิมะ Sanny Expert ก็ช่วยบำรุงผิวในเรื่องรอยแผลเป็นได้เหมือนกัน เพราะสารสกัดน้ำมันคาเคย์นี่แหละค่ะ แต่น้องเขาไม่ใช่น้ำมันธรรมดานะคะ เป็นน้ำมันบำรุงผิวที่มีเครื่องหมาย Ecocert Cosmos รองรับว่าน้องคือสารสกัดออร์แกนิกที่จริงใจ ทั้งยังมีปริมาณ Vitamin A มากกว่าสารสกัด Rosehip Oil ถึง 2 เท่า ซึ่งหน้าที่ของวิตามินเอก็คือช่วยคงสภาพปกติของเนื้อเยื่อผิวนั่นเอง ผิวอ่อนแอ ผิวบอบบาง ริ้วรอย รอยแผลเป็น โดนน้องตัวนี้สกัดดาวรุ่งแน่ๆ
ความคิดเห็นส่วนตัวหลังลองใช้จากมิ้นนะคะ ชอบเนื้อครีมที่บางเบาและซึมไวมาก ไม่ให้โอกาสความเหนียวได้ทำงาน ก็เลยไม่รู้สึกหนักผิวใช้บำรุงก่อนนอนจะค่อนข้างฟินเป็นพิเศษ ทาตั้งแต่ใบหน้า ลำคอ แขน ขา เอาให้คุ้ม 30 กรัมที่เขาให้มา ส่วนผลลัพธ์หลังการใช้ที่รู้สึกได้เลยคือ ผิวดูเนียนนุ่มขึ้นมาก Glass Skin ที่ต้องการเริ่มมีเค้าโครง ถือเป็นครีมบำรุงผิวหน้าที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการฟื้นฟูผิวและป้องกันการระคายเคือง บอกเลยว่าคุ้มค่า ใช้ต่อไปเรื่อยๆ แน่นอนค่ะ ไว้อีกเดือนสองเดือนมิ้นจะมาอัปเดตสภาพผิวอีกทีนะคะ เอารูปปัจจุบันไปดูเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนน้า😻
ราคา : 499 บาท
พิกัด : Shopee พิมพ์ชื่อแบรนด์หรือชื่อสินค้าได้เลยค่ะ
[SR] ป้ายยา ครีมบัวหิมะ ปี 2024 สำหรับชาวออฟฟิศวัยใกล้ 30 (CR)
มีใครเป็นเหมือนมิ้นมั้ยคะ? พออายุใกล้จะเข้าเลข 3 รู้สึกว่าผิวมันไม่เหมือนเดิมบางวันผิวแห้งแบบลอกเป็นขุย บางวันหน้ามันเยิ้มเฉยเลย แล้วผิวมันก็ไม่เด้งเหมือนตอนอายุ 19-20 อีกแล้ว อาจจะเพราะมิ้นเป็นคนไม่ค่อยดื่มน้ำด้วยแหละมั้ง บวกกับความเครียดจากการทำงาน สภาพผิวก็เลยยิ่งแย่เข้าไปกันใหญ่ ซึ่งมันจะไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยถ้าไม่ได้รู้ว่าสาเหตุของพวกริ้วรอย ตีนกา หรือร่องลึกต่างๆ บนใบหน้ามันเกิดจากการที่ผิวแห้งขาดน้ำ จนผิวที่เคยเด้งตามวัยกลายเป็นผิวแก่ไปเลย
ไม่ต้องตกใจนะคะ นี่หน้าสดของมิ้นเอง จะเห็นได้ว่ารูขุมขนค่อนข้างชัดจากความมันบนใบหน้า ตรงช่วงบริเวณจมูกกับหน้าผากผิวจะแห้งกร้านกว่าส่วนอื่นๆ แล้วก็จะมีทั้งรอยดำสิวและสิวอุดตันขึ้นอยู่ประปราย ถึงแม้ริ้วรอยจะยังไม่มา แต่ร่องลึกใต้ตากับร่องแก้มมาเดบิวต์แล้วค่ะ 😅 ถึงได้รีบร้อนหาตัวช่วยมาบำรุงผิวหน้าแบบเร่งด่วนน
ซึ่งคนผิวแพ้ง่ายมากกกแบบมิ้น ก็ต้องเฟ้นหาพวกครีมหรือเซรั่มบำรุงที่มีส่วนผสมจากสมุนไพรหรือสารสกัดธรรมชาติเป็นหลัก ยิ่งเป็นออร์แกนิกแท้ๆ ยิ่งเลิฟ เพราะจะลดโอกาสการแพ้ไปได้มากเลย เคยเจอบางผลิตภัณฑ์ใช้ดีมาก แต่ผิวเราแพ้ก็ไปต่อไม่ไหว เสียดาย (เงิน) นะคะ แต่ความสวยมันต้องไปต่ออะเนอะ ปฏิบัติการตามหาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากสมุนไพรจึงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
จนมาเจอตัวนี้ค่ะครีมบัวหิมะในตำนาน แต่ไม่ใช่กระปุกฟ้าตัวดังในพันทิปเมื่อหลายปีก่อนนะคะ อันนั้นก็ดีเหมือนกันเห็นคุณแม่ใช้ทาเวลาเป็นแผล แต่สารสกัดหลายๆ ตัวที่เราเห็นบนหลังกล่องยังไม่ค่อยตอบโจทย์ปัญหาผิวของเราในตอนนี้สักเท่าไหร่ เน้นเอาไว้ติดบ้านเวลาน้ำร้อนลวกดีกว่า
ครีมบัวหิมะมาแรงปี 2024 สำหรับมิ้นนะคะ ขอยกให้ SANNY SNOW LOTUS CREAM HYA 15X เป็นที่ 1 ในใจนะคะ ไม่เคยเจอครีมบัวหิมะที่ผสมไฮยารูลอนมาก่อน เพิ่งเคยเห็นครั้งแรกนี่แหละค่ะ แถมยังเป็นไฮยารูลอน 15 เท่าอีก เรื่องความชุ่มชื้นที่มิ้นต้องการบอกเลยว่า 10 10 10 มีรูปประกอบให้ดูนะคะ เป็นหน้าสดที่เพิ่งถ่ายสดๆ ร้อนๆ เมื่อคืนเลย ตกใจเหมือนกันที่หน้าฉ่ำขนาดนั้น เลื่อนดูด้านล่างได้เลยย แต่ถ้าอยากทำความรู้จักกับครีมบัวหิมะตัวนี้ว่ามันมีดีที่ตรงไหน มาค่ะเดี๋ยวมิ้นบอกต่อให้ฟัง 😉
ป้ายยาแบบง่ายๆ ไม่ใช่ทางของมิ้นจริงๆ อยากให้ทุกคนรู้ว่าเออ มันดีจริงๆ นะ กระทู้นี้เลยจะมาแกะสูตรสารสกัดให้ดูเลยค่ะว่าปัญหาผิวทั้งหมดทั้งมวลของมิ้นที่บอกไปในตอนต้น มันมีสารสกัดอะไรบ้างที่ช่วยบำรุงผิวของมิ้นไม่ให้เสี่ยงผิวแก่ไปมากกว่านี้
แต่บอกไว้ก่อนน้า~ มิ้นไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ข้อมูลสารสกัดทั้งหมดนี้มิ้นรวบรวมมาจากหลายที่ รวมถึงพวกเปเปอร์ต่างๆ ที่พอจะหาอ่านได้ ผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยล่วงหน้าเลยนะคะ แต่เอาเป็นว่าจะพยายามสรุปให้ครอบคลุมมากที่สุด เพื่อนๆ จะได้ตัดสินใจถูกว่าควรไปต่อหรือพอแค่นี้ 🙏
ครีมบัวหิมะ Sanny Expert เน้นส่วนผสมจากธรรมชาตินะคะ ปราศจากซิลิโคน แอลกอฮอล์ พาราเบน เมนทอล การบูร และน้ำมันตามหน้ากล่องเลยค่ะ พูดง่ายๆ ก็คือไม่มีสารเคมีหรือสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองนั่นเอง ตอบโจทย์คนผิวแพ้ง่ายแบบมิ้นแล้วหนึ่ง โดยมีสารสกัดหลักจากดอกบัวหิมะ อ่านมาถึงตรงนี้ทุกคนน่าจะนึกถึงภาพผลบัวหิมะสีน้ำตาลที่รสชาติเหมือนมันแกวแน่เลยอะ แต่ไม่ใช่นะคะ สกัดจากดอกบัวหิมะที่ขึ้นอยู่บนเทือกเขาหิมะสูงๆ มันเป็นดอกไม้เมืองหนาวชื่อว่า Snow Lotus ค่ะ
จากการหาข้อมูลของมิ้นนะคะเจ้าดอกบัวหิมะนี้ มีสรรพคุณช่วยฟื้นฟูผิวให้เนียนนุ่ม เหมาะกับการบำรุงผิวที่บอบบาง แพ้ง่าย หรืออักเสบง่ายสุดๆ แล้วก็ยังช่วยปรับสมดุลผิวหนังให้แข็งแรงยิ่งขึ้นด้วย มิ้นเลยคิดว่าน่าจะเหมาะกับคนแพ้ง่ายแบบมิ้น เพราะผิวบางมาก เวลาสิวขึ้นก็จะทิ้งรอยไว้นาน หรือเวลากดสิวรอยแดงจะเห่อขึ้นจนน่ากลัว จากการลองใช้ก็รู้สึกว่า เออ มันปลอบประโลมผิวดีจัง เนื้อครีมเย็นๆ ทาทิ้งไว้ชั่วโมงสองชั่วโมงรอยแดงก็ค่อยๆ จางลงจากแต่ก่อนที่ปล่อยชิลไม่ทาอะไร ต้องรอข้ามวันให้มันหายไปเอง
ส่วนเรื่องปัญหาผิวแห้งกร้านที่มิ้นกังวลมากๆ อาจจะยังไม่ใช่ทางของดอกบัวหิมะ แต่ว่าเขาผสมสาร Hyaluronan 15 Multi-Complex หรือไฮยารูลอนมาด้วย ซึ่งจากข้อมูลและรีวิวต่างๆ ผลลัพธ์ออกมาในทางเดียวกันว่ามันให้ความชุ่มชื้นและกักเก็บน้ำในชั้นผิวได้ดีเลย ถามว่าผิวที่มีน้ำกักเก็บอยู่ดีมั้ย ส่วนตัวมิ้นว่าดีเพราะหลังใช้ผิวมันจะยืดหยุ่นขึ้นอะ ผิวดูฟูอิ่มน้ำ ใครเคยทาสลีปปิ้งมาส์กก่อนนอนจะรู้ว่าผิวตอนตื่นนอนมันฟู มันฉ่ำแค่ไหน ตัวนี้ก็ไม่ต่างค่ะ เพราะมิ้นใช้โบกหน้าโบกคอแทนสลีปปิ้งมาส์กในช่วงนี้
มิ้นว่าเหมาะกับคนผิวแห้ง หน้าแห้งดีนะคะ ส่วนคนผิวมันหรือผิวผสมแบบมิ้นก็ใช้ได้เหมือนกัน จากที่ลองทาก่อนนอนและก่อนไปทำงานทุกวัน ชอบในความไม่เหนียวเหนอะนี่แหละ เนื้อครีมเหมือนจะหนักนะคะถ้าดูจากสี แต่ความจริงคือเนื้อเบามาก ซึมไวไม่ต้องรอแห้งนาน เวลารีบๆ ตอนเช้ามิ้นจะโบกๆ ไว้บนหน้าให้ผิวมันฉ่ำ รอซึมแป๊บเดียวก็แต่งหน้าต่อได้เลยค่ะ (ส่วนตัวว่าวันนั้นหน้าจะดรอปช้ามาก)
ส่วนสารสกัดอื่นๆ ที่ใส่มาก็จะมี Niacinamide หรือ Vitamin B3 ซึ่งทางแบรนด์เขาระบุมาเลยว่าเป็นสารสกัดที่ช่วยในเรื่องผิวใส ผิวสว่างเหมือนเปิดไฟให้ผิวจากธรรมชาติที่ปลอดภัยต่อผิวกว่าสาร Hydroquinone ซึ่งเมื่อใช้ไปนานๆ จะทำให้ผิวหน้าเป็นจุดด่างขาว เป็นฝ้าถาวร แล้วยังเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนังอีก (อันนี้ตอนซื้อมิ้นไม่รู้นะ แต่พอรู้แล้วก็ขอบคุณตัวเองมากที่เลือกไว้ใจไม่ผิดแบรนด์)
แล้วก็สารสกัด Cacay Oil ที่มิ้นเพิ่งเคยได้ยินเหมือนกัน เลยได้ไปศึกษาเพิ่มเติมนิดหน่อยว่ามันคืออะไร จนได้รู้ว่าครีมบัวหิมะ Sanny Expert ก็ช่วยบำรุงผิวในเรื่องรอยแผลเป็นได้เหมือนกัน เพราะสารสกัดน้ำมันคาเคย์นี่แหละค่ะ แต่น้องเขาไม่ใช่น้ำมันธรรมดานะคะ เป็นน้ำมันบำรุงผิวที่มีเครื่องหมาย Ecocert Cosmos รองรับว่าน้องคือสารสกัดออร์แกนิกที่จริงใจ ทั้งยังมีปริมาณ Vitamin A มากกว่าสารสกัด Rosehip Oil ถึง 2 เท่า ซึ่งหน้าที่ของวิตามินเอก็คือช่วยคงสภาพปกติของเนื้อเยื่อผิวนั่นเอง ผิวอ่อนแอ ผิวบอบบาง ริ้วรอย รอยแผลเป็น โดนน้องตัวนี้สกัดดาวรุ่งแน่ๆ
ความคิดเห็นส่วนตัวหลังลองใช้จากมิ้นนะคะ ชอบเนื้อครีมที่บางเบาและซึมไวมาก ไม่ให้โอกาสความเหนียวได้ทำงาน ก็เลยไม่รู้สึกหนักผิวใช้บำรุงก่อนนอนจะค่อนข้างฟินเป็นพิเศษ ทาตั้งแต่ใบหน้า ลำคอ แขน ขา เอาให้คุ้ม 30 กรัมที่เขาให้มา ส่วนผลลัพธ์หลังการใช้ที่รู้สึกได้เลยคือ ผิวดูเนียนนุ่มขึ้นมาก Glass Skin ที่ต้องการเริ่มมีเค้าโครง ถือเป็นครีมบำรุงผิวหน้าที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการฟื้นฟูผิวและป้องกันการระคายเคือง บอกเลยว่าคุ้มค่า ใช้ต่อไปเรื่อยๆ แน่นอนค่ะ ไว้อีกเดือนสองเดือนมิ้นจะมาอัปเดตสภาพผิวอีกทีนะคะ เอารูปปัจจุบันไปดูเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนน้า😻
ราคา : 499 บาท
พิกัด : Shopee พิมพ์ชื่อแบรนด์หรือชื่อสินค้าได้เลยค่ะ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้