เกือบเคยตกเป็น เหยือ จากบริษัท ดิ... ที่เป็นข่าว ลองมาฟังวิธีการของพวกเค้ากัน

ก่อนอื่นบอกก่อนเลยว่า บริษัท นั้นไม่ได้เงินเราสักบาท แถมเสียเงินเลี้ยงอาหาร น้ำ ขนมไปเยอะ แต่เพราะอะไรกันที่เราไม่หลงเชื่อ มาจะเล่าให้ฟัง
 
เพื่อนรักชักจูง
 
เรื่องนี้เกิดปี 2019 ก่อนโควิดนิดหน่อย เราเป็นคนทำบริษัท อีเว้นท์ ได้รับการติดต่อมาจาก เพื่อน ซึ่งเป็นลูกทีม ของหัวหน้าทีมท่านนึ่ง เป็นผู้ชาย(ไม่แท้) ร่างท้วม ตอนนั้นเค้ามีระดับสูงอยู่นะ  ขอเรียกนามสมมุตว่า พี่ ก.
 
พี่ ก.ให้ลูกน้อง(ไม่ใช่เพื่อนเรา)ติดต่อมาขอคุย เพราะจะมีการจัดงานอีเว้นท์ต่างๆ  นัดกันหมู่บ้านใหญ่ที่เป็นลักษณะออฟฟิศติดถนนรามอินทรา นัดคุยกันในร้านกาแฟ เพราะร้านกาแฟนั้นมีห้องประชุมด้านหลัง  การประชุมมีการพูดถึงการจัดงานอีเว้นท์สัมมนา จะมีทุกสัปดาห์ บ.มีสถานที่ให้ เราคิดกิจกรรมที่หวือหวากว่าปกติ ไม่อยากได้งานประชุมธรรมดา อยากมีการจับแจกรางวัล แต่พอคุยไปได้แปบเดียวปฏิบัติการหาลูกค่ายก็เริ่มขึ้น
 
โดยก่อนจะจัดงาน อยากจะเชิญไปร่วมเข้าประชุมสัมมนาโดยเสียเงิน 89 บาท  เพื่อให้ทราบถึงกิจกรรมที่เกิดขึ้น “เอาทีมงานที่บริษัท อีเว้นท์ของเรามาฟังด้วยนะ”   เราเลยรู้สึกเอ๊ะ เลยบอกว่า เราไม่สะดวกหรอกพี่ ก . แจ้งเลยได้มั้ยว่า มันคืออะไร เราเป็นคนทันคนประมาณหนึ่ง และเคยตีกะเพื่อนมาหลายคนแล้ว ที่ทำบริษัทขายสินค้าแล้วหาลูกค่ายแบบนี้ เรียกว่าเราเป็นคนที่เดินห้างแล้วใครมาขายคอร์ส เรากำจัดได้หมด มีความแข็งเกร่ง ดุจทานอธก็ว่าได้ เลยแกล้งทำตาโตและสนใจอย่างมาก
 
 
จากนั้น พี่ ก. และ ลูกน้อง ก็เริ่มร่ายยาว ถึงพรีเซนต์เตอร์ ผลิตภัณฑ์ ซื้อใช้เองเสียเงิน หลักพัน ซื้อแบบขายต่อน่าจะ 25000 บาทถ้าจำไม่ผิดนะ  แต่ ตอนนี้เปิดรับแม่ทีมเลย จ่ายเงินทีเดียว 2xxxxx บาท แล้วได้สิทธิพิเศษมากมาย  เหตุการ์ณเกิดขึ้นเร็วมากๆ แบบเค้าเตรียมมาแล้ว สินค้าเต็มโต๊ะเลย กล่องชมพูสดใสฟรุ้งฟริ้ง  พี่ ก. บอกว่า คนที่จะยกระดับเป็นแม่ค่ายได้โดยใช้เงิน 2 แสนนี่ยากมากเพราะ พี่ ก. ก็ได้สิทธินี้เหลือแค่ 2 สิทธิ ในใจคิดทันทีเลยว่า “แหม...มุกนี้ดูออก” แต่ก็ยังสนุกต่อไป เราก็ถามแบบถามละเอียดมากๆ สนใจแบบสุดๆ  
 
จากนั้น พี่ ก. การละครก็เกิดขึ้น 
 
ขณะพูดคุยกันอย่างออกรส พี่ ก. รับโทรศัพท์ มีการโทรเข้ามาจริงเพราะได้ยินเสียงปลายสายโทรมาแจ้งว่า “พี่ ก. มีคนรับสิทธิ จ่าย 2 แสนได้ตำแหน่งแล้วนะพี่” อุ้ยตายหละซิเหลือแค่ตำแหน่งเดียว โอ้วว ว้าวุ่นเลย ต้องรีบแล้วซินะ 
พี่ ก. : น้องถ้าสนใจต้องรีบเลยนะ พี่เหลือแค่สิทธิเดียว
เรา : สนใจมากเลยค่า สนใจจริงๆ แต่ต้องไปเบิกเงินจากธนาคารเงินในแอปไม่พอ
 
จากนั้น พี่ ก. ก็บอก เนี่ยไปตอนนี้ยังทันนะ ธนาคารยังเปิดสมัครสมาชิกได้ก่อนเลย เราก็บ่ายเบี่ยงว่าใครจะเอาสมุดบัญชีมา พี่ ก. ให้เขียนใบสมัครก่อนเพราะติดมาพอดี ตอนนั้นเราก็เดินไปสั่งกาแฟอีก 1 แก้ว บอกว่าเราสมัครแน่ เอาหัวเป็นประกัน เพราะอยากทำมาก โดยเบี่ยงประเด็นว่า เนี่ยเรารู้จักคนเยอะมาก ว่าจะชวนกันมาทำ สินค้าแพคเกจดี น่าจะขายง่าย มีทั้ง คลอลาเจน กาแฟ ไฟเบอร์ เราเป็นสายออกกำลังกาย เลย อุ้ยพี่ไฟเบอร์ดี เพื่อนในวงออกกำลังกายน่าจะชอบ แต่..ทำไมไม่มีแคลบอกเลย ..กี่แคลหรอ1 ซอง พี่ ก. ก็รีบพลิกๆๆ หาข้อมูล และตอบหน้าเจื่อนๆว่า “เดียวพี่ต้องเชคบริษัทก่อนนะ ว่าซองละกี่แคล” เราเลยบอกว่าพรุ่งนี้เจอกันพี่ ก. หาข้อมูลมานะ เราอยากขายมากแล้ว
ตอนนี้เรามุ่งไปที่ตั้งใจหาข้อมูลสินค้าต่างๆ ถามละเอียดยิบเพื่อทำการขายต่อให้บุคคลอื่นและชวนมาเข้าทีม จนพี่ ก. มีความหวังว่า ถ้าได้เรามาเราก็จะช่วยเค้าได้เยอะ อารมณ์แบบอุ้ย ขายเก่ง...
 
พลิกวิกฤตเป็นโอกาส
 
เราคุยกับ พี่ ก. และลูกน้องเค้านานมากๆ เกิน 3 ชม.จากนั้นเราก็บอกพี่ ก. หิวมั้ย พี่ ก. ด้วยความต้องอวดรวย เลยบอกให้เราสั่งอาหารทีร้านกาแฟเลย ถึงแม้ว่าจะเป็นอาหารแช่แข็ง เราก็ไม่ปฏิเสธ เพราะเอาสนุกไว้ก่อน สั่ง อาหาร น้ำขนม ชุดใหญ่ และแน่นอนพี่ ก. จ่ายให้ จากนั้นเราบอกพี่ ก.ว่าพรุ่งนี้ขอไปหา และจะทำการโอนเงินให้พรุ่งนี้ โดยพี่ ก. ให้ไปเจอที่บริษัทเค้าเลย จะได้เข้าสู่กระบวนการล้างเสมอ เอ้ย..จะได้รู้จักคนในทีมและรู้จักสินค้ามากขึ้น และมีการแลกเบอร์ไลน์ต่างๆไว้ครบ พร้อมจับไม้จับมือ และพี่ก.ขอถ่ายรูปตอนประชุมไปให้บอสใหญ่ดูด้วยนะ 

ความเป็นห่วงที่ไร้ค่า
 
หากยังจำกันได้ เพื่อนเรานี่แหละเป็นคนแนะนำไปให้ พี่ ก. คุยเรื่องจัดอีเว้นท์ เราเลยมีการโทรไปหา เพื่อนคนนั้น แล้วเตือนเพื่อนว่า มันแปลกๆนะ มันไม่ปกตินะแบบนี้ มันเหมือนหลอกเงินเราไปทำ โดยเพื่อนบอกว่า เพื่อนสมัครไปแล้วเสียเงินไปแล้ว และคิดว่ายังไงก็ต้องทำสำเร็จ เพราะบริษัทใหญ่โต มีพรีเซนต์มีชื่อมากมาย “บริษัทไม่หลอกแน่นอน” และบอกว่าถ้าเราไม่ทำ เราโง่มากนะ ได้แต่อึ้งไปเลยว่า อะไรวะเนี่ยไปเชื่ออะไรขนาดนั้น เลยจบกันที่เราไม่คุยต่อ โดยเพื่อนยังต่อว่าเราที่สรุปไม่ทำแล้วหรอเห็นพี่ ก.บอกว่าจะทำแล้วจะไม่ทำได้ไง คือพูดไม่ดีว่าเราบอกไปแล้วว่าจะสมัคร  เราก็บอกเพื่อน “ว่าเรามาคิดดูแล้ว ว่ามันแปลก” หลังจากนั้นเราก็บล๊อกเบอร์พี่ ก. แต่พี่ ก.ยังให้ลูกน้องโทรมาและไลน์มาอย่างต่อเนื่อง แต่ผ่านไปสักพัก ก็หายไป รวมถึงเพื่อนเราก็บล็อกเราทุกช่องทางและหายจากเราไปเลย 
 
วันนี้ความจริงปรากฏแล้ว แต่เราก็เลิกคบเพื่อนคนนั้นไปแล้ว ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง แต่ก็ขอให้ไม่เสียอะไรไปมากก็แล้วกัน เราเชื่อว่า ทำงานที่จะได้เงินคือการทำงานจริงๆ ไม่ค่อยอินเรื่องความรวยล้นฟ้าอะไรแบบนี้เลย เลยไม่ตกเป็นเครื่องมือของคนอื่นง่ายๆ เชื่อว่าในอนาคตจะมีอีกหลายบ.ที่หาวิธีการแบบนี้อีกแน่ ตั้งสติ ตั้งข้อสงสัย อย่าหลงเชื่ออย่าหลงไปกับความโลภนะทุกคน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่