เช่นเรื่องของค่าใช้จ่าย บางคนเห็นเรื่องที่ควรจัดการ แต่ไม่จัดการ เอาเงินซื้อความสุขของตัวเองก่อน
แบบอยากทำอะไรก็ทำตามใจตัวเองเกินไป แต่รายรับสวนทางกับความอยากของตัวเอง
พอเลือกตามใจตัวเองแล้ว เรื่องที่ควรจัดการก็ปล่อยไว้แบบนั้น ไม่ทำอะไร
แล้วก็มาบ่นว่า เงินไม่พอใช้ ไม่มีเงินเพื่อไปจัดการ แต่จริงๆ
ถ้าไม่ตามใจตัวเองในทุกๆเรื่อง จนติดนิสัย มันจะไม่แย่แบบนั้นนะ
อย่างผมเนี่ย ยกตัวอย่างเช่นเรื่องเงิน การบริการจัดการต่างๆในชีวิต
เดือนนี้มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ค่าน้ำค่าไฟ อันนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าจำเป็นไหม
- ค่าอาหาร อันนี้จำเป็นสิ แต่ต้องรู้จักกิน อันไหนประหยัดได้ก็ประหยัด (ดูรายรับของเรา ถ้าเรากินๆๆๆของแพง แล้วไม่เหลือเงินเก็บ ผมจะไม่กินนะ ทุกวันนี้ยังทำกับข้าวกินเองเลย ยันของว่าง ขนมปัง เบเกอรี่ เครื่องดื่มพวกชา ผมยังทำกินเอง .... โอเคล่ะ แพงตอนซื้อวัตถุดิบ แต่เฉลี่ยกันแล้วถ้าไปซื้อเขากินหลายๆครั้ง (หากชอบกิน) การทำเองจะประหยัดกว่า
แต่มันจะมีบางคนที่กินของแพงทุกอย่าง แล้วก็บ่นว่ากลางเดือนทักมาบอกว่ายืมเงินหน่อย เงินหมดแล้ว
แล้วคือมันเพิ่งกลางเดือน บอกเงินหมด เงินเดือนเยอะเอาไปทำอะไรหมด
เขาบอว่า ก็ซื้อข้าวกินนี่แหละ ซื้อกุ้งล็อบสเตอร์มา ไปกินชาบูมื้อที่ร้านหัวละ 500กว่าบาท เดือนนึงกิน 5-6 ครั้ง
- ค่าเน็ตบ้าน (แต่ผมจ่ายรายปี) การติดเน็ตบ้านของผมคึอความจำเป็นเพราะผม wfh ที่บ้านมาจะ 5 ปีแล้ว ถ้าไม่มีเน็ต ผมก็ทำงานให้บริษัทไม่ได้ อันนี้คือจำเป็นครับ แหล่งหารายได้ของผม
*** ผมเติมเงินซิมมือถือปีละ 100 บาท เพราะซื้อวันของซิมไม่ให้หมดอายุ และเผื่อไว้เวลาที่ต้องติดต่อหาคนข้างนอก หรือมีเหตุจำเป็นจริงๆเท่านั้น **
ย้ำว่าแค่นี้จริงๆครับ เพราะมีเน็ตบ้านแล้ว ผมโทรไลน์ โทรเฟส หรือโทรผ่านเน็ตเป็นหลัก และยังไม่เคยมีปัญหาใดๆ
ติดต่อเพื่อนร่วมงาน คุยกับเจ้านาย คุยกับลูกค้า ประชุม โทรหาใครต่างๆ ผมโทรผ่านเน็ตหมด
ถ้ามีคนโทรเข้ามา เราไม่เสียเงิน ซึ่งถ้าผมจะโทรหาใคร ผมโทรผ่านเน็ตเท่านั้น
แต่เพื่อนของผมบางคน เงินเดือน 2-3 หมื่น ไม่ได้มีหนี้อะไร
อยู่บ้านพ่อแม่ด้วย ทำงานรัฐวิสาหกิจ การงานมั่นคง แต่วันหยุดก็เล่นเกมส์ เติมเงินที 5-6 พันต่อเดือน!!!!
ผมเสียดายเงินมากนะถ้าตัดส่วนนี้ไปได้ ชีวิตจะมีเงินเก็บมากขึ้น ผมจะไม่เดือดร้อนเลย
ถ้าไม่ทักมายืมเงินแล้วเล่าสาเหตุว่าเติมเกมส์หมดแล้วกับผม คืออ่านแล้ว อิหยังวะมาก
แล้วคือ กินเหล้าทุกอาทิตย์ เข้าผับควักเงินจ่ายทีละ 3-4 พัน ลงสตอรี่ว่าเปย์คนนั้นคนนี้ เลี้ยงเหล้าสาว
หมดไป3-4พัน .. นั่นคือแค่วันเดียวนะ ผมนี่เสียดายเงินมากกกกกกกกก เอาไว้จ่ายค่าน้ำค่าไฟได้ 2 เดือนเลยนะ 4 พันเนี่ย
แล้วคนนี้นี่แหละ ที่ชอบทักมายืมเงินผมตลอด แต่ผมไม่เคยให้สักบาท
ปกติผมไม่เคยให้ใครยืมเงินอยู่แล้วครับ เป็นคนแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
กับเพื่อนสนิทก็ไม่ให้ยืม กลัวเสียเพื่อน และเพื่อนก็ไม่เคยโกรธไรผมนะ
ถ้าสนิทกันจริง จะรู้เหตุผลว่าทำไม ทุกวันนี้ก็ยังคบกันปกติ
และก็ขอบคุณเพื่อนที่เข้าใจ และไม่เลิกคบกันเพียงเพราะเรื่องเงิน
- ค่าสกินแคร์ นี่ผมตั้งไว้เลย ปีละ 10,000 บาทถ้วน ภายใน12เดือนจะใช้อะไรก็ต้องไม่เกินนี้
ซึ่งผมก็ทำมาหลายปีแล้ว ถ้าใกล้สิ้นปีแล้วงบเหลือ ก็ซื้อสกินแคร์ดีๆสักตัวมาลองใช้ เสริมหล่อ55555
อีกอย่างคือเรื่องของค่าใช้จ่ายกับรถ
มันจะมีเพื่อนบางคนที่ไม่มีเงินแม้แต่จะซื้อประกันชั้น 3 นี่คือถูกแล้วนะ
แต่เลือกที่จะไม่ทำ เอาเงินไปแต่งรถแทน ทำล้อ ทำนั่นนี่ ซึ่งจริงๆ ถ้าคิดได้สักนิด ควรจะรู้ว่าเรื่องไหนจำเป็นกว่า
******
มันมีคนแบบนี้จริงๆนะ หลายคนเลยที่รู้จัก
ผมเป็นคนนึงที่วางแผนทุกอย่าง เวลาจะซื้อจะใช้อะไร ถ้าไม่จำเป็น ไม่ได้เงินผมแน่นอน
อายุ 30+ มันควรจะคิดได้แล้วว่าเรื่องไหนจำเป็นกว่า ก็ควรจัดการเรื่องนั้นก่อนเพราะมันมีผลกับชีวิตเรา
อย่างผมเนี่ย อายุ33ละ เป็นมนุษย์เงินเดือนพนักงานเอกชน รายรับต่อเดือนผม 42k+6k(ปล่อยเช่าบ้าน) ผมยังใช้เงินเดือนนึงรวมค่าใช้จ่ายส่วนตัวและในบ้าน ที่ผมเป็นคนรับผิดชอบ ยังไม่เกิน 15k เลยนะ (โดยเฉลี่ย 12 เดือน) ที่เหลือคือเก็บอย่างเดียว มีเหตุจำเป็นถึงใช้ แต่ยังไม่มี แม่ตายาย มีโรคประจำตัวแค่ความดันเท่านั้น ก็กินยาดูแลตัวเองกันไป ค่าใช้จ่ายในบ้านโดยรวมต่อเดือนเลยไม่ได้เยอะอะไร และตากับยายผมเป็นข้าราชการเกษียณมีเงินบำนาญต่อเดือนอยู่แล้วด้วย ส่วนแม่ผมเปิดร้านอาหารตามสั่ง มันก็มีค่าใช้จ่ายบ้างแหละ ช่วยแม่บริหาร
แม่จะสอนผมเสมอว่า วันใดที่มีเงินเยอะหรือหาเงินได้เยอะ
อย่าหลงระเริง อย่าเหลิง อย่าใช้เงินมือเติบเกินตัวเด็ดขาด เพราะมันเป็นการทำร้ายเราโดยที่เราไม่รู้ตัว
ช่วงนี้มีคนทักมายืมเงินบ่อยอยู่ แต่ผมไม่เคยให้ใครยืมแม้แต่คนเดียว
นาทีนี้ เศรษฐกิจแบบนี้ ผมต้องเอาตัวรอดก่อน และแคร์แค่คนในครอบครัวเท่านั้น
มันมีจริงนะกับคนที่เรียงลำดับความสำคัญของแต่ละเรื่องไม่เป็น ว่าเรื่องที่ควรทำก่อนคือเรื่องไหน แต่ไม่ทำจนตัวเดือดร้อน
แบบอยากทำอะไรก็ทำตามใจตัวเองเกินไป แต่รายรับสวนทางกับความอยากของตัวเอง
พอเลือกตามใจตัวเองแล้ว เรื่องที่ควรจัดการก็ปล่อยไว้แบบนั้น ไม่ทำอะไร
แล้วก็มาบ่นว่า เงินไม่พอใช้ ไม่มีเงินเพื่อไปจัดการ แต่จริงๆ
ถ้าไม่ตามใจตัวเองในทุกๆเรื่อง จนติดนิสัย มันจะไม่แย่แบบนั้นนะ
อย่างผมเนี่ย ยกตัวอย่างเช่นเรื่องเงิน การบริการจัดการต่างๆในชีวิต
เดือนนี้มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ค่าน้ำค่าไฟ อันนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าจำเป็นไหม
- ค่าอาหาร อันนี้จำเป็นสิ แต่ต้องรู้จักกิน อันไหนประหยัดได้ก็ประหยัด (ดูรายรับของเรา ถ้าเรากินๆๆๆของแพง แล้วไม่เหลือเงินเก็บ ผมจะไม่กินนะ ทุกวันนี้ยังทำกับข้าวกินเองเลย ยันของว่าง ขนมปัง เบเกอรี่ เครื่องดื่มพวกชา ผมยังทำกินเอง .... โอเคล่ะ แพงตอนซื้อวัตถุดิบ แต่เฉลี่ยกันแล้วถ้าไปซื้อเขากินหลายๆครั้ง (หากชอบกิน) การทำเองจะประหยัดกว่า
แต่มันจะมีบางคนที่กินของแพงทุกอย่าง แล้วก็บ่นว่ากลางเดือนทักมาบอกว่ายืมเงินหน่อย เงินหมดแล้ว
แล้วคือมันเพิ่งกลางเดือน บอกเงินหมด เงินเดือนเยอะเอาไปทำอะไรหมด
เขาบอว่า ก็ซื้อข้าวกินนี่แหละ ซื้อกุ้งล็อบสเตอร์มา ไปกินชาบูมื้อที่ร้านหัวละ 500กว่าบาท เดือนนึงกิน 5-6 ครั้ง
- ค่าเน็ตบ้าน (แต่ผมจ่ายรายปี) การติดเน็ตบ้านของผมคึอความจำเป็นเพราะผม wfh ที่บ้านมาจะ 5 ปีแล้ว ถ้าไม่มีเน็ต ผมก็ทำงานให้บริษัทไม่ได้ อันนี้คือจำเป็นครับ แหล่งหารายได้ของผม
*** ผมเติมเงินซิมมือถือปีละ 100 บาท เพราะซื้อวันของซิมไม่ให้หมดอายุ และเผื่อไว้เวลาที่ต้องติดต่อหาคนข้างนอก หรือมีเหตุจำเป็นจริงๆเท่านั้น **
ย้ำว่าแค่นี้จริงๆครับ เพราะมีเน็ตบ้านแล้ว ผมโทรไลน์ โทรเฟส หรือโทรผ่านเน็ตเป็นหลัก และยังไม่เคยมีปัญหาใดๆ
ติดต่อเพื่อนร่วมงาน คุยกับเจ้านาย คุยกับลูกค้า ประชุม โทรหาใครต่างๆ ผมโทรผ่านเน็ตหมด
ถ้ามีคนโทรเข้ามา เราไม่เสียเงิน ซึ่งถ้าผมจะโทรหาใคร ผมโทรผ่านเน็ตเท่านั้น
แต่เพื่อนของผมบางคน เงินเดือน 2-3 หมื่น ไม่ได้มีหนี้อะไร
อยู่บ้านพ่อแม่ด้วย ทำงานรัฐวิสาหกิจ การงานมั่นคง แต่วันหยุดก็เล่นเกมส์ เติมเงินที 5-6 พันต่อเดือน!!!!
ผมเสียดายเงินมากนะถ้าตัดส่วนนี้ไปได้ ชีวิตจะมีเงินเก็บมากขึ้น ผมจะไม่เดือดร้อนเลย
ถ้าไม่ทักมายืมเงินแล้วเล่าสาเหตุว่าเติมเกมส์หมดแล้วกับผม คืออ่านแล้ว อิหยังวะมาก
แล้วคือ กินเหล้าทุกอาทิตย์ เข้าผับควักเงินจ่ายทีละ 3-4 พัน ลงสตอรี่ว่าเปย์คนนั้นคนนี้ เลี้ยงเหล้าสาว
หมดไป3-4พัน .. นั่นคือแค่วันเดียวนะ ผมนี่เสียดายเงินมากกกกกกกกก เอาไว้จ่ายค่าน้ำค่าไฟได้ 2 เดือนเลยนะ 4 พันเนี่ย
แล้วคนนี้นี่แหละ ที่ชอบทักมายืมเงินผมตลอด แต่ผมไม่เคยให้สักบาท
ปกติผมไม่เคยให้ใครยืมเงินอยู่แล้วครับ เป็นคนแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
กับเพื่อนสนิทก็ไม่ให้ยืม กลัวเสียเพื่อน และเพื่อนก็ไม่เคยโกรธไรผมนะ
ถ้าสนิทกันจริง จะรู้เหตุผลว่าทำไม ทุกวันนี้ก็ยังคบกันปกติ
และก็ขอบคุณเพื่อนที่เข้าใจ และไม่เลิกคบกันเพียงเพราะเรื่องเงิน
- ค่าสกินแคร์ นี่ผมตั้งไว้เลย ปีละ 10,000 บาทถ้วน ภายใน12เดือนจะใช้อะไรก็ต้องไม่เกินนี้
ซึ่งผมก็ทำมาหลายปีแล้ว ถ้าใกล้สิ้นปีแล้วงบเหลือ ก็ซื้อสกินแคร์ดีๆสักตัวมาลองใช้ เสริมหล่อ55555
อีกอย่างคือเรื่องของค่าใช้จ่ายกับรถ
มันจะมีเพื่อนบางคนที่ไม่มีเงินแม้แต่จะซื้อประกันชั้น 3 นี่คือถูกแล้วนะ
แต่เลือกที่จะไม่ทำ เอาเงินไปแต่งรถแทน ทำล้อ ทำนั่นนี่ ซึ่งจริงๆ ถ้าคิดได้สักนิด ควรจะรู้ว่าเรื่องไหนจำเป็นกว่า
******
มันมีคนแบบนี้จริงๆนะ หลายคนเลยที่รู้จัก
ผมเป็นคนนึงที่วางแผนทุกอย่าง เวลาจะซื้อจะใช้อะไร ถ้าไม่จำเป็น ไม่ได้เงินผมแน่นอน
อายุ 30+ มันควรจะคิดได้แล้วว่าเรื่องไหนจำเป็นกว่า ก็ควรจัดการเรื่องนั้นก่อนเพราะมันมีผลกับชีวิตเรา
อย่างผมเนี่ย อายุ33ละ เป็นมนุษย์เงินเดือนพนักงานเอกชน รายรับต่อเดือนผม 42k+6k(ปล่อยเช่าบ้าน) ผมยังใช้เงินเดือนนึงรวมค่าใช้จ่ายส่วนตัวและในบ้าน ที่ผมเป็นคนรับผิดชอบ ยังไม่เกิน 15k เลยนะ (โดยเฉลี่ย 12 เดือน) ที่เหลือคือเก็บอย่างเดียว มีเหตุจำเป็นถึงใช้ แต่ยังไม่มี แม่ตายาย มีโรคประจำตัวแค่ความดันเท่านั้น ก็กินยาดูแลตัวเองกันไป ค่าใช้จ่ายในบ้านโดยรวมต่อเดือนเลยไม่ได้เยอะอะไร และตากับยายผมเป็นข้าราชการเกษียณมีเงินบำนาญต่อเดือนอยู่แล้วด้วย ส่วนแม่ผมเปิดร้านอาหารตามสั่ง มันก็มีค่าใช้จ่ายบ้างแหละ ช่วยแม่บริหาร
แม่จะสอนผมเสมอว่า วันใดที่มีเงินเยอะหรือหาเงินได้เยอะ
อย่าหลงระเริง อย่าเหลิง อย่าใช้เงินมือเติบเกินตัวเด็ดขาด เพราะมันเป็นการทำร้ายเราโดยที่เราไม่รู้ตัว
ช่วงนี้มีคนทักมายืมเงินบ่อยอยู่ แต่ผมไม่เคยให้ใครยืมแม้แต่คนเดียว
นาทีนี้ เศรษฐกิจแบบนี้ ผมต้องเอาตัวรอดก่อน และแคร์แค่คนในครอบครัวเท่านั้น