JJNY : ดัน 6 ตุลา ขึ้นปฏิทิน│น้ำน่านวิกฤต เตือนปชช.พื้นที่ลุ่ม│น้ำท่วมอยุธยา ขาดรายได้│ฟิลิปปินส์ร่วมประณามจีน เหตุโจมตี

น.ศ. จี้รัฐ ดัน 6 ตุลา ขึ้นปฏิทิน เป็นวันปกป้องเสรีภาพ หลากพรรค-ภาคปชช.วางหรีดล้นมธ.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4830575
 
 
น.ศ. จี้รัฐ ดัน 6 ตุลา ขึ้นปฏิทิน เป็นวันปกป้องเสรีภาพ หลากพรรค-ภาคปชช.วางหรีดล้นมธ.
 
เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ มีการจัดงาน ‘ครบรอบ 48 ปี 6 ตุลาฯ 2519’ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณสวนประติมากรรมประวัติศาสตร์ ‘ธรรมศาสตร์กับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย’ เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. ว่ามีบุคคลต่างๆ ทยอยเดินทางเข้าร่วมอย่างต่อเนื่อง
 
นอกจากนี้ พวงหรีดไว้อาลัยจากบุคคลและหน่วนงานต่างๆ ทยอยมาถึงสถานที่จัดงาน
 
อีกทั้ง ยังมีการติดโปสเตอร์ภาพและรายชื่อนักกิจกรรมที่ถูกจองจำ และข้อความเรียกร้องนิรโทษกรรมประชาชน อาทิ ภาพของ มานี, วารุณี, อานนท์ นำภา, ทิวากร วิถีตน, สมบัติ ทองย้อย, ขนุน สิรภพ เป็นต้น
 
เวลา 08.05 น. ศ.ดร.ศุภสวัสดิ์ ชัชวาลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวเปิดงาน
 
จากนั้น มีการอ่านรายชื่อผู้เสียชีวิต 40 ราย แล้วร่วมยืนสงบนิ่งไว้อาลัย โดยในตอนหนึ่งตัวแทนจากชมรมโดมรวมใจ กล่าวว่า ปัจจุบัน วันที่ 6 ตุลาคม ยังไม่ปรากฏบนปฏิทินว่าเป็น ‘วันสำคัญ’ จึงอยากเรียกร้องให้มีการให้ความสำคัญกับสันดังกล่าว โดยอาจให้เป็นวันต่อต้านเผด็จการ
 
กระทั่งเวลา 08.18 น. เข้าสู่การวางพวงมาลารำลึกจากตัวแทนภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาคการเมือง และภาคประชาชน อาทิ พวงมาลาของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมี นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง, นางนันทนา นันทวโรภาส วางพวงหรีดในนาม ‘กลุ่ม ส.ว.พันธุ์ใหม่’ 

นายชัยธวัช ตุลาธน นำพวงมาลาของคณะก้าวหน้า ร่วมรำลึก, ศาสตราจารย์ พิเศษ ดร. ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ วางช่อดอกไม้ของมุลนิธิ จิตร ภูมิศักดิ์ , นางศรีไพร นนทรีย์ วางพวงหรีดของกลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง, นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และนางนภัสสร บุญรีย์ หรือ ป้านก วางพวงหรีดในนามกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย เป็นต้น
 
จากนั้น รศ.ดร.กนกรัตน์ เลิศชูสกุล อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวปาฐกถา
 
ต่อมา เป็นการวางดอกไม้ไว้อาลัยโดยอิสระของประชาชน บริเวณสวนประติมากรรมประวัติศาสตร์ ‘ธรรมศาสตร์กับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย’
ในตอนท้ายของกำหนดการช่วงเช้า เครือข่ายนักศึกษาจัดงานรำลึก 6 ตุลา ร่วมกันแถลงถึงการจัดงานรำลึกการครบรอบ 50 ปี เหตุการณ์ 6 ตุลาใน พ.ศ. 2569 โดยจะมีการจัดพิพิธภัณฑ์เคลื่อนที่ รวมถึงผลักดันให้วันที่ 6 ตุลาเป็นสำคัญ เช่น อาจถือเป็น ‘วันปกป้องเสรีภาพ’

สำหรับ พวงหรีดไว้อาลัยจากบุคคลและหน่วยงานต่างๆ ที่ส่งเข้าร่วม ได้แก่ แพทองธาร ชินวัตร นายยกรัฐมนตรี, พรรคเพื่อไทย, สุธรรม แสงประทุม, กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่, มูลนิธิจิตร ภูมิศักดิ์, มูลนิธินิคม จันทรวิทุร, กลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง, ชมรมมิตรสัมพันธ์, สำนักพิมพ์ประชาธิปไตยแรงงาน-กปร., สโมสร ’19 อีสานใต้, สมัขชาคนจน, พรรคประชาชาติ, ชมรมโดมรวมใจ, พรรคประชาชน, ญาติและวีรชน 14 ตุลา, กลุ่ม Oct Dem
 
นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ ม.ธรรมศาสตร์, จาตุรนต์ ฉายแสง, มูลนิธิไชยวนา, ดร. ปิติพงศ์ เต็มเจริญ พรรคเป็นธรรม, ชมรมหลากทัศนะประวัติศาสตร์ ต.อ., ประธานรัฐสภา, กมธ. การพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชย และคุ้มครองผู้บริโภค, พรรคจุฬาสามัญชน, สภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน, สถาบันปรีดี พนมยงค์, สถานีข่าว สปท, คณะประชาชนทวงความยุติธรรม 2553 เป็นต้น



น้ำน่านวิกฤต เทศบาลเมืองพิจิตร เตือนปชช.พื้นที่ลุ่ม ย้ายทรัพย์สิน-สัตว์เลี้ยงขึ้นที่สูง
https://www.matichon.co.th/region/news_4830640
 
แม่น้ำน่าน ที่ไหลผ่านตัวเมืองพิจิตรสูงเกินจุดวิกฤต เทศบาลเมืองพิจิตรแจ้งประชาชนในพื้นที่ลให้รีบขนย้ายทรัพย์สินสิ่งของสัตว์เลียงไว้ในที่สูง
 
เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ด.ร.สุรพล เตียวตระกูล นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองพิจิตร กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำน่าน บริเวณจุดระบายน้ำหน้าศาลเก่า ดูสถานการณ์น้ำในแม่น้ำน่านในเขตเทศบาลเมืองพิจิตร ขณะนี้สถานการณ์น่าเป็นห่วงมาก เนื่องจากมวลน้ำจากพื้นที่ภาคเหนือตอนบนไหลบ่าลงมาตามแม่น้ำน่านอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมวลน้ำป่าจากลำคลองสาขาด้านเทือกเขาเพชรบูรณ์ไหลสมทบลงสู่แม่น้ำน่านอย่างต่อเนื่อง
 
โดยวันนี้สถานีวัดระดับน้ำสะพานร่วมใจเทศบาลเมืองพิจิตร เช้าวันนี้วัดได้ 09.70 เมตร ระดับตลิ่ง 09.87 เมตร อัตราการไหลอยู่ที่ 944.30 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งอยู่ในเกณฑ์วิกฤต เหลืออีกเพียงไม่กี่เซนติเมตร จะล้นแนวตลิ่งพนังกั้นน้ำของเทศบาลเมืองพิจิตร อีกทั้งขณะนี้มวลน้ำน่านได้สูงกว่าท่อระบายน้ำของแทศบาล และไหลย้อนท่อเข้ามาในเขตชุมชนและเขตย่านเศรษฐกิจเมืองพิจิตร

โดยเทศบาลเมืองพิจิตร ได้นำกระสอบทราบอุดท่อระบายน้ำของทางเทศบาลทั้งหมดทุกจุด พร้อมกับเดินเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ (12 นิ้ว) จำนวน 4 จุด
จุดละ 2 เครื่อง รวม 8 เครื่อง คอยสูบน้ำจากท่อระบายน้ำย่านชุมชนออกตลอดเวลา เพื่อป้องกันน้ำท่วมในเขตทศบาลเมืองพิจิตรชั้นใน
 
ทั้งนี้ มวลน้ำในปีนี้ค่อนข้างมาก ทางเทศบาลเมืองพิจิตร เพื่อความไม่ประมาท และเพื่อความปลอดภัยในการป้องกันทรัพย์สินอาจเสียหายได้ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตชุมชนเมืองพิจิตร ให้รีบขนย้ายสิ่งของ ทรัพย์สิน ยานพาหะนะ และสัตว์เลี้ยงขึ้นที่สูง ภายใน 1-2 วันนี้เพราะว่าจะมีมวลน้ำเหนือก้อนใหญ่ไหลผ่านอีกระลอก อย่างไรก็ตาม เทศบาลเมืองพิจิตรได้จัดเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เฝ้าติดตามระดับน้ำน่านทุกๆ ชั่วโมง



น้ำท่วมอยุธยาหลายอาชีพระทมใจ ต้องหยุดขาย-ขาดรายได้ประทังชีวิต. 
https://www.dailynews.co.th/news/3944023/
 
น้ำท่วมอยุธยาหลายอาชีพระทมใจ ต้องหยุดขาย-ขาดรายได้ประทังชีวิต
 
สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.พระนครศรีอยุธยา ยังอ่วม 7 อำเภอ 96 ตำบล 545 ได้รับความเดือดร้อน กระทบหลายอาชีพต้องหยุดขาย ขาดรายได้ประทังชีวิต
เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ยังคงได้รับผลกระทบจากเขื่อนเจ้าพระยาเร่งระบายน้ำลงสู้พื้นที่ท้ายเขื่อน ในอัตรา 2,150 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย ที่ถูกน้ำท่วมระดับน้ำมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น โดยถูกน้ำท่วมแล้ว 7 อำเภอ 96 ตำบล 545 ได้รับความเดือดร้อน จำนวน 23,497 ครัวเรือน วัดถูกน้ำท่วม 14 แห่ง มัสยิด 2 แห่ง โรงเรียน 21 แห่ง (เป็นศูนย์เด็กเล็ก 2 แห่ง) สถานที่ราชการ 5 แห่ง ถนนภายในหมู่บ้าน 26 สาย
 
โดยระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยประมาณ 20-30 เซ็นติเมตร ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตทั้งในเรื่องของการเดินทางเข้าออกจากชุมชน ถนนถูกน้ำท่วมสูง รวมไปถึงการประกอบอาชีพ
 
ส่วนที่ ศาลาเอนกประสงค์ หมู่ที่ 3 ต.บางหลวง อ.บางบาล ชาวบ้านนำรถจักรยานยนต์มาจอดเพื่อหนีน้ำท่วมในชุมมชน นอกจากนี้กลุ่มชาวบ้านที่เป็นผู้สูงอายุช่วยกันคัดเลือก ล้าง พืชผักสวนครัว เพื่อนำไปขาย
 
นางอรวรรณ รุจิวรรณ อายุ 45 ปี เจ้าของผัก เล่าว่า ตนมีอาชีพขายผักสดที่ตลาดเจ้าพรหม จ.พระนครศรีอยุธยา ปกติตนจะรับซื้อพืชผักสวนครัวจากชาวบ้านที่บ้านด้วยตัวเอง เพื่อนำไปขายที่ตลาดเจ้าพรหม แต่ช่วงนี้พืชผักสวนครัวชาวบ้านถูกน้ำท่วม ต้องไปซื้อผักสวนครัว มาจาก จ.อ่างทอง เพื่อนำไปขายแทน เพราะถ้าเราหยุดขายจะขาดรายได้ ส่วนชาวบ้านส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ เราจะจ้างช่วยกันคัดเลือกช่วยกันล้าง เพื่อเป็นรายได้เสริมให้ด้วย
 
ด้าน น.ส.รัชนี ผกามาศ อายุ 60 ปี ชาวบ้านที่มารับจ้างล้างผัก เล่าว่า บ้านของตนถูกน้ำท่วม 2 รอบ มาเกือบเดือน ทำมาหากินอะไรไม่ได้เลย ตนมีสวนผักก็ถูกน้ำท่วมหมด เลยมารับจ้างล้างผัก เลือกผัก พอมีรายได้บ้าง จะเข้าออกไปทำที่บ้านก็ลำบาก ตอนนี้จะเข้าไปบ้านก็แค่ตอนนอน เพราะน้ำท่วมเข้าออกลำบาก สวนผักสวนครัว กล้วย อ้อย ถูกน้ำท่วมทั้งหมด..
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่