สตรีชาวเซี่ยงไฮ้ปลูกป่าพื้นที่ 40,000 มู่

 .
.
.
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
.
Into the Sandstorm: 
The 75-Year-Old Grieving Mother
Creating a Green Miracle in the Desert
.
.


ทุกปี อี้เจี๋ยเฟิง Yi Jeifeng จะทำทุกวิถีทาง
เพื่อหยุดยั้งไม่ให้จีนกลายเป็นทะเลทราย

ในช่วง 22 ปีที่ผ่านมา
สตรีชาวเซี่ยงไฮ้เป็นแกนนำจิตอาสา
มีทั้งคนจีนคนต่างชาติกว่า 50,000 คน
ในการปลูกต้นไม้ในมองโกเลียใน
เพื่อพยายามปลูกป่าทดแทนในภูมิภาคนี้
แต่ยังรวมถึงการรักษาความทรงจำ
ของลูกชายที่เสียชีวิตให้คงอยู่ด้วย

ในปี 2543
หยางรุ่ยเจ๋อ  Yang Ruizhe 
ลูกชายคนเดียวของอี้ เจี๋ยเฟิง
เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในญี่ปุ่น
เธอกับสามีต่างเศร้าโศกมากในเรื่องนี้
แต่แล้วกลับตัดสินใจอุทิศชีวิต
เพื่อทำตามความฝันของลูกชาย
ในการปลูกต้นไม้ในทะเลทรายมองโกเลียใน

“ ลูกชายชื่นชอบธรรมชาติมาตั้งแต่เด็ก
เขาสนใจสิ่งต่าง ๆ ในธรรมชาติ
เช่น ลม ฝน พืช และสัตว์
ในตอนแรก ฉันทำการกุศลนี้ในฐานะแม่
ที่ต้องการทำให้ความฝันของลูกชายเป็นจริง "

ทั้งคู่ได้ตั้งองค์กรไม่แสวงหากำไร Green Life
โครงการนี้ได้เปลี่ยนนโยบายโครงการ
จากการแสดงความเคารพ/ระลึกถึงลูกของเธอ
เป็นแคมเปญเพื่อสร้างความตระหนักรู้
เกี่ยวกับความเสื่อมโทรมของที่ดิน
ซึ่งกำลังเปลี่ยนทุ่งหญ้าของจีน
ให้กลายเป็นที่ราบอันแห้งแล้งอย่างรวดเร็ว

หลังจากอุบัติเหตุที่น่าเศร้า 
ทั้งคู่ได้ใช้เงินประกันจาก
การเสียชีวิตของลูกชาย
จำนวน 30 ล้านเยนของญี่ปุ่น
เพื่อก่อตั้ง Green Life ในปี 2546
รวมกับขายบ้าน 2 หลังในเซี่ยงไฮ้

ในตอนแรกไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ในการปลูกป่าในพื้นที่ทะเลทราย
แต่ในช่วง 11 ปีแรกที่ผ่านมา
กลุ่มนี้ได้ปลูกต้นไม้ไปแล้ว
จำนวนมากกว่าหนึ่งล้านต้น

“ ในตอนแรก ฉันทำการกุศลนี้
ในฐานะแม่คนที่ต้องการ
ทำให้ความฝันของลูกชายเป็นจริง
แต่ต่อมาฉันก็ตระหนักว่า จีนมีปัญหา
การกลายเป็นทะเลทรายที่ร้ายแรงจริง ๆ
หากสถานการณ์ยังคงเลวร้ายลง
ชาวจีน 1,300 ล้านคนจะอยู่รอดได้อย่างไร
ดังนั้นเราจึงรู้สึกถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ”

พื้นที่เกือบหนึ่งในสี่ของจีน
ซึ่งมีพื้นที่มหาศาลถึง 2.6 ล้านตารางกิโลเมตร
ใน 18 จังหวัด ถูกจัดประเภทเป็นทะเลทราย 
เฉพาะในเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน
พื้นที่ราบลุ่มที่เป็นทรายก็กินพื้นที่
มากกว่าขนาดของประเทศเยอรมนี

นักวิจัยระบุว่าการเลี้ยงสัตว์มากเกินไป 
การเติบโตของประชากร การทำป่าไม้ 
และภัยแล้งเป็นปัจจัยหลัก

ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดประการหนึ่ง
สำหรับงานนี้ก็คือ การหาทุน
เธอและสามีได้ใช้เงินออมส่วนใหญ่
ในชีวิตที่เก็บหอมรอบริบไปกับโครงการนี้
และขายบ้านไปสองหลังในเซี่ยงไฮ้
เพื่อให้โครงการนี้ดำเนินต่อไปได้

“ ในปี 2545
เนื่องจากเรามีเงินทุนจำกัด
เราจึงสามารถจ้างทีมงาน
ได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ในขณะที่ยังมีงานอีกมากมายที่ต้องทำ
ตอนนั้นฉันอายุ 66 ปีแล้ว
แต่ฉันมีเวลานอนเฉลี่ยเพียง 3-4 ชั่วโมงต่อวัน
บางครั้งฉันแทบไม่มีเวลาหลับเลยด้วยซ้ำ
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเก็บเงินไว้สำหรับโครงการ ”

เธอกับสามีเริ่มต้นความพยายาม
ด้วยความรู้ด้านการเกษตรเพียงเล็กน้อย
และฤดูปลูกพืชครั้งแรกของทั้งคู่
ไม่ประสบความสำเร็จเลย
เพราะฝนตกในปีนั้นไม่ถึง 200 มม.
ต้นกล้าล้มลงเพราะลมแรง
และทรายที่เคลื่อนตัวมาปกคลุมกล้าพืช
แต่หลังจากขอความช่วยเหลือ/แนะนำ
จากผู้เชี่ยวชาญด้านป่าไม้ในท้องถิ่น

ในปีที่สอง (2546) ต้นกล้าจำนวนมาก
ก็หยั่งรากลงในภูมิประเทศที่โหดร้าย

“ ดูเหมือนว่าวิญญาณของลูกชายของฉัน
จะมอบโชคลาภให้กับพวกเรา
ฝนตกหนักเมื่อเราเสร็จสิ้นโครงการ

ตั้งแต่นั้นมา
เราก็ไปปลูกต้นไม้ทุกปี
และฝนตกทุกครั้ง
ทำให้กล้ามีอัตราการรอดตาย
สูงกว่า 85% จนถึงตอนนี้ ”

ตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา 
มีอาสาสมัครและผู้บริจาคเพิ่มมากขึ้น 
ซึ่งทำให้เธอและสามีมีกำลังใจ
และทำให้โครงการดำเนินต่อไปได้

ในจำนวนนี้
มีผู้ปกครองหลายคนที่สูญเสียลูกไป
รวมถึงแม่คนหนึ่งที่สูญเสีย
ลูกสาววัยเรียนไปด้วยโรคมะเร็ง
และแม่อีกคนที่ลูกชายฆ่าตัวตาย

การปลูกต้นไม้ช่วยเยียวยาจิตใจหลายคน
เสมือนหนึ่งการเติบโตที่มีจิตวิญญาณ
ของคนรักที่จากไปได้มาอยู่ร่วมกันอีกครั้ง
ในต้นไม้ที่เจริญงอกงามในพื้นที่ทึ่ปลูก

“ การหักตะเกียบเป็นเรื่องง่าย
แต่เมื่อเราเอาตะเกียบมารวมกัน
ก็กลายเป็นว่าหักไม่ได้

ทุกคนบนโลกต่างก็มีจุดอ่อนของตัวเอง
แต่เมื่อรวมพลังจุดอ่อนจุดแข็งกันและกันแล้ว
ในที่สุดเราก็จะมีพลังที่ยิ่งใหญ่
ปัญหาสิ่งแวดล้อมต้องการพลัง
ประเภทนี้จากคนที่มีจิตอาสา/เมตตากรุณา ”

ช่วงเวลา 22 ปีในชีวิตของเธอ
เธอเป็นแกนนำอาสาสมัครนานาชาติ
จำนวนมากกว่า 50,000 คน
ในการปลูกต้นไม้มากกว่า 10 ล้านต้น มี
ต้นฝ้าย ต้นสน ต้นแซกซอล ต้นมะกอกรัสเซีย
ในทะเลทรายโกบี เขตมองโกเลียใน
ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน
บนพื้นที่กว่า 40,000 มู่ (26.67 ตร.กิโลเมตร)
16,668.8 ไร่ (625 ไร่ = 1 ตร.กิโลเมตร)
มีขนาด 1.4 เท่าของ เกาะเกร็ด นนทบุรี
มี ฝ้าย ต้นสน ต้นแซกซอล ต้นมะกอกรัสเซีย
เป็นกล้าไม้หลัก ๆ ที่ปลูกในพื้นที่ทะเลทราย

.

เรียบเรียง/ที่มา

https://tinyurl.com/3zzazwfj
https://tinyurl.com/44t5ww6t

.
.
.

.
.

.
.

.
.

.
.

.
.


การปลูกป่า มีสองแนวคิดหลัก 
ทำลาย  การให้แร่ธาตุในพื้นที่ห่างไกล
ที่มีทุก ๆ ปี  จากพายุทะเลทราย 
แบบตะกอนดินจากภูเขา น้ำท่วม 
ที่เติมแร่ธาตุให้พื้นดิน 
การปลูกป่าจะทำลาย
โครงสร้างพื้นที่ตามธรรมชาติ

ไม่ทำลาย สร้างพื้นที่สีเขียว 
ลดฝุ่นละอองในอากาศ 
มีตัวอย่างจากทะเลทรายซาฮาร่า 
ที่เริ่มมีการปลูกต้นไม้มากขึ้น 
ทำให้พื้นที่ทะเลทรายไม่ขยายตัว 
มี เซาวดี้ (ซาอุดีอารเบีย) เป็นแกนนำ
ร่วมกับหลายชาติในอาหรับ
และเริ่มเก็บเกี่ยวพืชผลได้แล้ว 
โดยรัฐให้เงินอุดหนุน 
เพื่อลดการนำเข้าพืชผลจากนอก

แต่ข้อสำคัญ การปลูกป่าในทะเลทราย 
เปลืองตังค์(สตางค์/เงิน) เปลืองน้ำ 
เปลืองแรงงาน ฯลฯ
ผลผลิตที่ได้มักจะไม่คุ้มรายจ่าย 
ถ้าคิดในแง่การลงทุนแบบนายทุน
.
.

ในอีกแนวคิดหนึ่งคือ

1. ผลกระทบต่อระบบนิเวศ:
   - การปลูกป่าอาจส่งผลต่อ
การหมุนเวียนแร่ธาตุตามธรรมชาติ 
แต่ในกรณีนี้ พื้นที่ทะเลทรายโกบี
เป็นระบบนิเวศที่เสื่อมโทรมอยู่แล้ว
 การฟื้นฟูอาจให้ผลดีมากกว่า

2. ประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม:
   - ช่วยลดฝุ่นละออง ป้องกัน
การขยายตัวของทะเลทราย 
และเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ

3. ความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ:
   - แม้จะใช้ทรัพยากรมาก 
แต่ต้องพิจารณาผลประโยชน์ระยะยาว
ด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมด้วย
   - อาจไม่คุ้มค่าในแง่การลงทุนระยะสั้น 
แต่มีคุณค่าทางนิเวศวิทยา
และการพัฒนาที่ยั่งยืน

4. การเปรียบเทียบกับโครงการอื่น:
   - โครงการปลูกป่าในทะเลทรายซาฮาร่า
แสดงให้เห็นว่าแนวคิดนี้กำลังได้รับ
ความสนใจในระดับโลก
   - การสนับสนุนจากรัฐบาล 
(เช่นในซาอุดีอาระเบีย) 
อาจช่วยให้โครงการมีความยั่งยืนมากขึ้น

ความพยายามในการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม
แม้จะมีข้อถกเถียงเรื่องผลกระทบ
และความคุ้มค่าในการลงทุน
แต่คุณค่าทางจิตใจ
และการสร้างความตระหนัก
ด้านสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ
นับเป็นผลลัพธ์ที่สำคัญไม่แพ้กัน​​​​​​​​​​​​​​​​
.
.
.
เปลี่ยนทรายให้เป็นดิน
.
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
.
New technology in China
turns desert into land rich with crops
,

.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่