.
.
.
.
Into the Sandstorm:
The 75-Year-Old Grieving Mother
Creating a Green Miracle in the Desert
.
.
ทุกปี อี้เจี๋ยเฟิง Yi Jeifeng จะทำทุกวิถีทาง
เพื่อหยุดยั้งไม่ให้จีนกลายเป็นทะเลทราย
ในช่วง 22 ปีที่ผ่านมา
สตรีชาวเซี่ยงไฮ้เป็นแกนนำจิตอาสา
มีทั้งคนจีนคนต่างชาติกว่า 50,000 คน
ในการปลูกต้นไม้ในมองโกเลียใน
เพื่อพยายามปลูกป่าทดแทนในภูมิภาคนี้
แต่ยังรวมถึงการรักษาความทรงจำ
ของลูกชายที่เสียชีวิตให้คงอยู่ด้วย
ในปี 2543
หยางรุ่ยเจ๋อ Yang Ruizhe
ลูกชายคนเดียวของอี้ เจี๋ยเฟิง
เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในญี่ปุ่น
เธอกับสามีต่างเศร้าโศกมากในเรื่องนี้
แต่แล้วกลับตัดสินใจอุทิศชีวิต
เพื่อทำตามความฝันของลูกชาย
ในการปลูกต้นไม้ในทะเลทรายมองโกเลียใน
“ ลูกชายชื่นชอบธรรมชาติมาตั้งแต่เด็ก
เขาสนใจสิ่งต่าง ๆ ในธรรมชาติ
เช่น ลม ฝน พืช และสัตว์
ในตอนแรก ฉันทำการกุศลนี้ในฐานะแม่
ที่ต้องการทำให้ความฝันของลูกชายเป็นจริง "
ทั้งคู่ได้ตั้งองค์กรไม่แสวงหากำไร Green Life
โครงการนี้ได้เปลี่ยนนโยบายโครงการ
จากการแสดงความเคารพ/ระลึกถึงลูกของเธอ
เป็นแคมเปญเพื่อสร้างความตระหนักรู้
เกี่ยวกับความเสื่อมโทรมของที่ดิน
ซึ่งกำลังเปลี่ยนทุ่งหญ้าของจีน
ให้กลายเป็นที่ราบอันแห้งแล้งอย่างรวดเร็ว
หลังจากอุบัติเหตุที่น่าเศร้า
ทั้งคู่ได้ใช้เงินประกันจาก
การเสียชีวิตของลูกชาย
จำนวน 30 ล้านเยนของญี่ปุ่น
เพื่อก่อตั้ง Green Life ในปี 2546
รวมกับขายบ้าน 2 หลังในเซี่ยงไฮ้
ในตอนแรกไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ในการปลูกป่าในพื้นที่ทะเลทราย
แต่ในช่วง 11 ปีแรกที่ผ่านมา
กลุ่มนี้ได้ปลูกต้นไม้ไปแล้ว
จำนวนมากกว่าหนึ่งล้านต้น
“ ในตอนแรก ฉันทำการกุศลนี้
ในฐานะแม่คนที่ต้องการ
ทำให้ความฝันของลูกชายเป็นจริง
แต่ต่อมาฉันก็ตระหนักว่า จีนมีปัญหา
การกลายเป็นทะเลทรายที่ร้ายแรงจริง ๆ
หากสถานการณ์ยังคงเลวร้ายลง
ชาวจีน 1,300 ล้านคนจะอยู่รอดได้อย่างไร
ดังนั้นเราจึงรู้สึกถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ”
พื้นที่เกือบหนึ่งในสี่ของจีน
ซึ่งมีพื้นที่มหาศาลถึง 2.6 ล้านตารางกิโลเมตร
ใน 18 จังหวัด ถูกจัดประเภทเป็นทะเลทราย
เฉพาะในเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน
พื้นที่ราบลุ่มที่เป็นทรายก็กินพื้นที่
มากกว่าขนาดของประเทศเยอรมนี
นักวิจัยระบุว่าการเลี้ยงสัตว์มากเกินไป
การเติบโตของประชากร การทำป่าไม้
และภัยแล้งเป็นปัจจัยหลัก
ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดประการหนึ่ง
สำหรับงานนี้ก็คือ การหาทุน
เธอและสามีได้ใช้เงินออมส่วนใหญ่
ในชีวิตที่เก็บหอมรอบริบไปกับโครงการนี้
และขายบ้านไปสองหลังในเซี่ยงไฮ้
เพื่อให้โครงการนี้ดำเนินต่อไปได้
“ ในปี 2545
เนื่องจากเรามีเงินทุนจำกัด
เราจึงสามารถจ้างทีมงาน
ได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ในขณะที่ยังมีงานอีกมากมายที่ต้องทำ
ตอนนั้นฉันอายุ 66 ปีแล้ว
แต่ฉันมีเวลานอนเฉลี่ยเพียง 3-4 ชั่วโมงต่อวัน
บางครั้งฉันแทบไม่มีเวลาหลับเลยด้วยซ้ำ
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเก็บเงินไว้สำหรับโครงการ ”
เธอกับสามีเริ่มต้นความพยายาม
ด้วยความรู้ด้านการเกษตรเพียงเล็กน้อย
และฤดูปลูกพืชครั้งแรกของทั้งคู่
ไม่ประสบความสำเร็จเลย
เพราะฝนตกในปีนั้นไม่ถึง 200 มม.
ต้นกล้าล้มลงเพราะลมแรง
และทรายที่เคลื่อนตัวมาปกคลุมกล้าพืช
แต่หลังจากขอความช่วยเหลือ/แนะนำ
จากผู้เชี่ยวชาญด้านป่าไม้ในท้องถิ่น
ในปีที่สอง (2546) ต้นกล้าจำนวนมาก
ก็หยั่งรากลงในภูมิประเทศที่โหดร้าย
“ ดูเหมือนว่าวิญญาณของลูกชายของฉัน
จะมอบโชคลาภให้กับพวกเรา
ฝนตกหนักเมื่อเราเสร็จสิ้นโครงการ
ตั้งแต่นั้นมา
เราก็ไปปลูกต้นไม้ทุกปี
และฝนตกทุกครั้ง
ทำให้กล้ามีอัตราการรอดตาย
สูงกว่า 85% จนถึงตอนนี้ ”
ตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา
มีอาสาสมัครและผู้บริจาคเพิ่มมากขึ้น
ซึ่งทำให้เธอและสามีมีกำลังใจ
และทำให้โครงการดำเนินต่อไปได้
ในจำนวนนี้
มีผู้ปกครองหลายคนที่สูญเสียลูกไป
รวมถึงแม่คนหนึ่งที่สูญเสีย
ลูกสาววัยเรียนไปด้วยโรคมะเร็ง
และแม่อีกคนที่ลูกชายฆ่าตัวตาย
การปลูกต้นไม้ช่วยเยียวยาจิตใจหลายคน
เสมือนหนึ่งการเติบโตที่มีจิตวิญญาณ
ของคนรักที่จากไปได้มาอยู่ร่วมกันอีกครั้ง
ในต้นไม้ที่เจริญงอกงามในพื้นที่ทึ่ปลูก
“ การหักตะเกียบเป็นเรื่องง่าย
แต่เมื่อเราเอาตะเกียบมารวมกัน
ก็กลายเป็นว่าหักไม่ได้
ทุกคนบนโลกต่างก็มีจุดอ่อนของตัวเอง
แต่เมื่อรวมพลังจุดอ่อนจุดแข็งกันและกันแล้ว
ในที่สุดเราก็จะมีพลังที่ยิ่งใหญ่
ปัญหาสิ่งแวดล้อมต้องการพลัง
ประเภทนี้จากคนที่มีจิตอาสา/เมตตากรุณา ”
ช่วงเวลา 22 ปีในชีวิตของเธอ
เธอเป็นแกนนำอาสาสมัครนานาชาติ
จำนวนมากกว่า 50,000 คน
ในการปลูกต้นไม้มากกว่า 10 ล้านต้น มี
ต้นฝ้าย ต้นสน ต้นแซกซอล ต้นมะกอกรัสเซีย
ในทะเลทรายโกบี เขตมองโกเลียใน
ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน
บนพื้นที่กว่า 40,000 มู่ (26.67 ตร.กิโลเมตร)
16,668.8 ไร่ (625 ไร่ = 1 ตร.กิโลเมตร)
มีขนาด 1.4 เท่าของ เกาะเกร็ด นนทบุรี
มี ฝ้าย ต้นสน ต้นแซกซอล ต้นมะกอกรัสเซีย
เป็นกล้าไม้หลัก ๆ ที่ปลูกในพื้นที่ทะเลทราย
.
เรียบเรียง/ที่มา
https://tinyurl.com/3zzazwfj
https://tinyurl.com/44t5ww6t
.
การปลูกป่า มีสองแนวคิดหลัก
ทำลาย การให้แร่ธาตุในพื้นที่ห่างไกล
ที่มีทุก ๆ ปี จากพายุทะเลทราย
แบบตะกอนดินจากภูเขา น้ำท่วม
ที่เติมแร่ธาตุให้พื้นดิน
การปลูกป่าจะทำลาย
โครงสร้างพื้นที่ตามธรรมชาติ
ไม่ทำลาย สร้างพื้นที่สีเขียว
ลดฝุ่นละอองในอากาศ
มีตัวอย่างจากทะเลทรายซาฮาร่า
ที่เริ่มมีการปลูกต้นไม้มากขึ้น
ทำให้พื้นที่ทะเลทรายไม่ขยายตัว
มี เซาวดี้ (ซาอุดีอารเบีย) เป็นแกนนำ
ร่วมกับหลายชาติในอาหรับ
และเริ่มเก็บเกี่ยวพืชผลได้แล้ว
โดยรัฐให้เงินอุดหนุน
เพื่อลดการนำเข้าพืชผลจากนอก
แต่ข้อสำคัญ การปลูกป่าในทะเลทราย
เปลืองตังค์(สตางค์/เงิน) เปลืองน้ำ
เปลืองแรงงาน ฯลฯ
ผลผลิตที่ได้มักจะไม่คุ้มรายจ่าย
ถ้าคิดในแง่การลงทุนแบบนายทุน
.
.
ในอีกแนวคิดหนึ่งคือ
1. ผลกระทบต่อระบบนิเวศ:
- การปลูกป่าอาจส่งผลต่อ
การหมุนเวียนแร่ธาตุตามธรรมชาติ
แต่ในกรณีนี้ พื้นที่ทะเลทรายโกบี
เป็นระบบนิเวศที่เสื่อมโทรมอยู่แล้ว
การฟื้นฟูอาจให้ผลดีมากกว่า
2. ประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม:
- ช่วยลดฝุ่นละออง ป้องกัน
การขยายตัวของทะเลทราย
และเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ
3. ความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ:
- แม้จะใช้ทรัพยากรมาก
แต่ต้องพิจารณาผลประโยชน์ระยะยาว
ด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมด้วย
- อาจไม่คุ้มค่าในแง่การลงทุนระยะสั้น
แต่มีคุณค่าทางนิเวศวิทยา
และการพัฒนาที่ยั่งยืน
4. การเปรียบเทียบกับโครงการอื่น:
- โครงการปลูกป่าในทะเลทรายซาฮาร่า
แสดงให้เห็นว่าแนวคิดนี้กำลังได้รับ
ความสนใจในระดับโลก
- การสนับสนุนจากรัฐบาล
(เช่นในซาอุดีอาระเบีย)
อาจช่วยให้โครงการมีความยั่งยืนมากขึ้น
ความพยายามในการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม
แม้จะมีข้อถกเถียงเรื่องผลกระทบ
และความคุ้มค่าในการลงทุน
แต่คุณค่าทางจิตใจ
และการสร้างความตระหนัก
ด้านสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ
นับเป็นผลลัพธ์ที่สำคัญไม่แพ้กัน
.
สตรีชาวเซี่ยงไฮ้ปลูกป่าพื้นที่ 40,000 มู่
.
.
.
Into the Sandstorm:
The 75-Year-Old Grieving Mother
Creating a Green Miracle in the Desert
.
.
ทุกปี อี้เจี๋ยเฟิง Yi Jeifeng จะทำทุกวิถีทาง
เพื่อหยุดยั้งไม่ให้จีนกลายเป็นทะเลทราย
ในช่วง 22 ปีที่ผ่านมา
สตรีชาวเซี่ยงไฮ้เป็นแกนนำจิตอาสา
มีทั้งคนจีนคนต่างชาติกว่า 50,000 คน
ในการปลูกต้นไม้ในมองโกเลียใน
เพื่อพยายามปลูกป่าทดแทนในภูมิภาคนี้
แต่ยังรวมถึงการรักษาความทรงจำ
ของลูกชายที่เสียชีวิตให้คงอยู่ด้วย
ในปี 2543
หยางรุ่ยเจ๋อ Yang Ruizhe
ลูกชายคนเดียวของอี้ เจี๋ยเฟิง
เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในญี่ปุ่น
เธอกับสามีต่างเศร้าโศกมากในเรื่องนี้
แต่แล้วกลับตัดสินใจอุทิศชีวิต
เพื่อทำตามความฝันของลูกชาย
ในการปลูกต้นไม้ในทะเลทรายมองโกเลียใน
“ ลูกชายชื่นชอบธรรมชาติมาตั้งแต่เด็ก
เขาสนใจสิ่งต่าง ๆ ในธรรมชาติ
เช่น ลม ฝน พืช และสัตว์
ในตอนแรก ฉันทำการกุศลนี้ในฐานะแม่
ที่ต้องการทำให้ความฝันของลูกชายเป็นจริง "
ทั้งคู่ได้ตั้งองค์กรไม่แสวงหากำไร Green Life
โครงการนี้ได้เปลี่ยนนโยบายโครงการ
จากการแสดงความเคารพ/ระลึกถึงลูกของเธอ
เป็นแคมเปญเพื่อสร้างความตระหนักรู้
เกี่ยวกับความเสื่อมโทรมของที่ดิน
ซึ่งกำลังเปลี่ยนทุ่งหญ้าของจีน
ให้กลายเป็นที่ราบอันแห้งแล้งอย่างรวดเร็ว
หลังจากอุบัติเหตุที่น่าเศร้า
ทั้งคู่ได้ใช้เงินประกันจาก
การเสียชีวิตของลูกชาย
จำนวน 30 ล้านเยนของญี่ปุ่น
เพื่อก่อตั้ง Green Life ในปี 2546
รวมกับขายบ้าน 2 หลังในเซี่ยงไฮ้
ในตอนแรกไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ในการปลูกป่าในพื้นที่ทะเลทราย
แต่ในช่วง 11 ปีแรกที่ผ่านมา
กลุ่มนี้ได้ปลูกต้นไม้ไปแล้ว
จำนวนมากกว่าหนึ่งล้านต้น
“ ในตอนแรก ฉันทำการกุศลนี้
ในฐานะแม่คนที่ต้องการ
ทำให้ความฝันของลูกชายเป็นจริง
แต่ต่อมาฉันก็ตระหนักว่า จีนมีปัญหา
การกลายเป็นทะเลทรายที่ร้ายแรงจริง ๆ
หากสถานการณ์ยังคงเลวร้ายลง
ชาวจีน 1,300 ล้านคนจะอยู่รอดได้อย่างไร
ดังนั้นเราจึงรู้สึกถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ”
พื้นที่เกือบหนึ่งในสี่ของจีน
ซึ่งมีพื้นที่มหาศาลถึง 2.6 ล้านตารางกิโลเมตร
ใน 18 จังหวัด ถูกจัดประเภทเป็นทะเลทราย
เฉพาะในเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน
พื้นที่ราบลุ่มที่เป็นทรายก็กินพื้นที่
มากกว่าขนาดของประเทศเยอรมนี
นักวิจัยระบุว่าการเลี้ยงสัตว์มากเกินไป
การเติบโตของประชากร การทำป่าไม้
และภัยแล้งเป็นปัจจัยหลัก
ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดประการหนึ่ง
สำหรับงานนี้ก็คือ การหาทุน
เธอและสามีได้ใช้เงินออมส่วนใหญ่
ในชีวิตที่เก็บหอมรอบริบไปกับโครงการนี้
และขายบ้านไปสองหลังในเซี่ยงไฮ้
เพื่อให้โครงการนี้ดำเนินต่อไปได้
“ ในปี 2545
เนื่องจากเรามีเงินทุนจำกัด
เราจึงสามารถจ้างทีมงาน
ได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ในขณะที่ยังมีงานอีกมากมายที่ต้องทำ
ตอนนั้นฉันอายุ 66 ปีแล้ว
แต่ฉันมีเวลานอนเฉลี่ยเพียง 3-4 ชั่วโมงต่อวัน
บางครั้งฉันแทบไม่มีเวลาหลับเลยด้วยซ้ำ
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเก็บเงินไว้สำหรับโครงการ ”
เธอกับสามีเริ่มต้นความพยายาม
ด้วยความรู้ด้านการเกษตรเพียงเล็กน้อย
และฤดูปลูกพืชครั้งแรกของทั้งคู่
ไม่ประสบความสำเร็จเลย
เพราะฝนตกในปีนั้นไม่ถึง 200 มม.
ต้นกล้าล้มลงเพราะลมแรง
และทรายที่เคลื่อนตัวมาปกคลุมกล้าพืช
แต่หลังจากขอความช่วยเหลือ/แนะนำ
จากผู้เชี่ยวชาญด้านป่าไม้ในท้องถิ่น
ในปีที่สอง (2546) ต้นกล้าจำนวนมาก
ก็หยั่งรากลงในภูมิประเทศที่โหดร้าย
“ ดูเหมือนว่าวิญญาณของลูกชายของฉัน
จะมอบโชคลาภให้กับพวกเรา
ฝนตกหนักเมื่อเราเสร็จสิ้นโครงการ
ตั้งแต่นั้นมา
เราก็ไปปลูกต้นไม้ทุกปี
และฝนตกทุกครั้ง
ทำให้กล้ามีอัตราการรอดตาย
สูงกว่า 85% จนถึงตอนนี้ ”
ตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา
มีอาสาสมัครและผู้บริจาคเพิ่มมากขึ้น
ซึ่งทำให้เธอและสามีมีกำลังใจ
และทำให้โครงการดำเนินต่อไปได้
ในจำนวนนี้
มีผู้ปกครองหลายคนที่สูญเสียลูกไป
รวมถึงแม่คนหนึ่งที่สูญเสีย
ลูกสาววัยเรียนไปด้วยโรคมะเร็ง
และแม่อีกคนที่ลูกชายฆ่าตัวตาย
การปลูกต้นไม้ช่วยเยียวยาจิตใจหลายคน
เสมือนหนึ่งการเติบโตที่มีจิตวิญญาณ
ของคนรักที่จากไปได้มาอยู่ร่วมกันอีกครั้ง
ในต้นไม้ที่เจริญงอกงามในพื้นที่ทึ่ปลูก
“ การหักตะเกียบเป็นเรื่องง่าย
แต่เมื่อเราเอาตะเกียบมารวมกัน
ก็กลายเป็นว่าหักไม่ได้
ทุกคนบนโลกต่างก็มีจุดอ่อนของตัวเอง
แต่เมื่อรวมพลังจุดอ่อนจุดแข็งกันและกันแล้ว
ในที่สุดเราก็จะมีพลังที่ยิ่งใหญ่
ปัญหาสิ่งแวดล้อมต้องการพลัง
ประเภทนี้จากคนที่มีจิตอาสา/เมตตากรุณา ”
ช่วงเวลา 22 ปีในชีวิตของเธอ
เธอเป็นแกนนำอาสาสมัครนานาชาติ
จำนวนมากกว่า 50,000 คน
ในการปลูกต้นไม้มากกว่า 10 ล้านต้น มี
ต้นฝ้าย ต้นสน ต้นแซกซอล ต้นมะกอกรัสเซีย
ในทะเลทรายโกบี เขตมองโกเลียใน
ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน
บนพื้นที่กว่า 40,000 มู่ (26.67 ตร.กิโลเมตร)
16,668.8 ไร่ (625 ไร่ = 1 ตร.กิโลเมตร)
มีขนาด 1.4 เท่าของ เกาะเกร็ด นนทบุรี
มี ฝ้าย ต้นสน ต้นแซกซอล ต้นมะกอกรัสเซีย
เป็นกล้าไม้หลัก ๆ ที่ปลูกในพื้นที่ทะเลทราย
.
เรียบเรียง/ที่มา
https://tinyurl.com/3zzazwfj
https://tinyurl.com/44t5ww6t
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
การปลูกป่า มีสองแนวคิดหลัก
ทำลาย การให้แร่ธาตุในพื้นที่ห่างไกล
ที่มีทุก ๆ ปี จากพายุทะเลทราย
แบบตะกอนดินจากภูเขา น้ำท่วม
ที่เติมแร่ธาตุให้พื้นดิน
การปลูกป่าจะทำลาย
โครงสร้างพื้นที่ตามธรรมชาติ
ไม่ทำลาย สร้างพื้นที่สีเขียว
ลดฝุ่นละอองในอากาศ
มีตัวอย่างจากทะเลทรายซาฮาร่า
ที่เริ่มมีการปลูกต้นไม้มากขึ้น
ทำให้พื้นที่ทะเลทรายไม่ขยายตัว
มี เซาวดี้ (ซาอุดีอารเบีย) เป็นแกนนำ
ร่วมกับหลายชาติในอาหรับ
และเริ่มเก็บเกี่ยวพืชผลได้แล้ว
โดยรัฐให้เงินอุดหนุน
เพื่อลดการนำเข้าพืชผลจากนอก
แต่ข้อสำคัญ การปลูกป่าในทะเลทราย
เปลืองตังค์(สตางค์/เงิน) เปลืองน้ำ
เปลืองแรงงาน ฯลฯ
ผลผลิตที่ได้มักจะไม่คุ้มรายจ่าย
ถ้าคิดในแง่การลงทุนแบบนายทุน
.
.
ในอีกแนวคิดหนึ่งคือ
1. ผลกระทบต่อระบบนิเวศ:
- การปลูกป่าอาจส่งผลต่อ
การหมุนเวียนแร่ธาตุตามธรรมชาติ
แต่ในกรณีนี้ พื้นที่ทะเลทรายโกบี
เป็นระบบนิเวศที่เสื่อมโทรมอยู่แล้ว
การฟื้นฟูอาจให้ผลดีมากกว่า
2. ประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม:
- ช่วยลดฝุ่นละออง ป้องกัน
การขยายตัวของทะเลทราย
และเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ
3. ความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ:
- แม้จะใช้ทรัพยากรมาก
แต่ต้องพิจารณาผลประโยชน์ระยะยาว
ด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมด้วย
- อาจไม่คุ้มค่าในแง่การลงทุนระยะสั้น
แต่มีคุณค่าทางนิเวศวิทยา
และการพัฒนาที่ยั่งยืน
4. การเปรียบเทียบกับโครงการอื่น:
- โครงการปลูกป่าในทะเลทรายซาฮาร่า
แสดงให้เห็นว่าแนวคิดนี้กำลังได้รับ
ความสนใจในระดับโลก
- การสนับสนุนจากรัฐบาล
(เช่นในซาอุดีอาระเบีย)
อาจช่วยให้โครงการมีความยั่งยืนมากขึ้น
ความพยายามในการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม
แม้จะมีข้อถกเถียงเรื่องผลกระทบ
และความคุ้มค่าในการลงทุน
แต่คุณค่าทางจิตใจ
และการสร้างความตระหนัก
ด้านสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ
นับเป็นผลลัพธ์ที่สำคัญไม่แพ้กัน
.
.
เปลี่ยนทรายให้เป็นดิน
.
.
New technology in China
turns desert into land rich with crops
,
.