#หนึ่งในร้อยep4
ใครบอกว่าเราบ่นแต่ละครค่ายทอง อะไรที่ดีเราก็พร้อมจะอวยยศส่งไปสู่จักรวาลให้โลกได้รู้ อยากให้ทุกคนได้ดู และมาฟินสุดใจไปกับคุณพระและอนงค์ ที่น่ารักน่าลุ้น ดูแล้วยิ้มตามไปได้ทุกตอน
ตอนที่ 4 นี้ สองครอบครัวขยับกระชับเข้ากันมากขึ้น คุณพระกับอนงค์ได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น และรู้ความลับของกันและกัน แต่อุปสรรคใหญ่ก็คือ คุณแม่ ที่ปากคว่ำตั้งท่ารังเกียจฝ่ายหญิงราวกับเกลียดกันมาแต่ชาติปางก่อน
เอาเข้าจริงตอนนี้เนื้อหาแทบไม่มีอะไร แต่ กลับทำให้ดูแล้วรู้สึกสนุกไปกับเรื่องราวได้ อาจจะเพราะจังหวะ การวางเรื่อง และตัวละครที่ช่วยกันประคองอารมณ์เราไป มีการปูเรื่องราวในอดีต ค่อยๆ เปิดเผยปัญหา สาเหตุ ปมในใจ โดยทั้งหมดมันส่งให้พระ-นาง ได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น
ที่ชอบคือเบรคสุดท้ายที่คุณพระรีบกลับไปจัดการเรื่องที่น้องเขยตาย คือต้องย้อนไปดูตั้งแต่ช่วงแรกของตอนนี้ก่อน จะเห็นว่าพูดถึงเรื่องความสุขกับความสูญเสีย จากนั้นระหว่างทางที่ดูเหมือนจะจีบกัน ก็แวะไปเข้าเรื่องความไม่แน่นอนของความสุข และสุดท้ายในตอนที่ 4 นี้ ก็จบลงด้วยความไม่จีรังของความเศร้า หรือจะสรุปก็คือ สุข ทุกข์ เดี๋ยวก็หายไป
เป็นละครที่ดูแล้วได้ทั้งความสุข ความรัก และข้อคิดเบาๆ ที่แฝงลึกให้ค้นหา ที่สำคัญ งานสร้างยังคงรักษาความดีงามเอาไว้ได้ ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม รวมไปถึงฉากชิงช้าสวรรค์ ที่เห็นแล้วคุ้มค่ากับเวลาที่นั่งดูไปทุกนาที
สนุกดีเลย ดูแล้วสบายใจ
อ่อ ชอบตัวละครแม่ที่แสดงโดยคุณกิ๊กนะ อาจจะรู้สึกว่าเธอแสดงเดิมๆ แรงๆ (ดูปากคว่ำที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอนั่นสิ) แต่เอาเข้าจริงก็ทำได้ดีนะ และมีมุมที่ทำให้เราเข้าใจตัวละครนี้ได้ แม้จะไม่ได้เห็นด้วยกับสิ่งที่เธอทำ ดูว่าเกินเลย ดูเป็นละคอนละครไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้เกลียดนะ ในบางจุดก็ทำเอาหลุดฮาออกมาได้ด้วย ถือว่าน่ารักและเป็นสีสันตัดเลี่ยนได้ดี
ตั้งกองอวยละครหนึ่งในร้อยตรงนี้เลยแล้วกัน แต่...ยังไม่วางใจหรอก อิฉันดูละครคุณมาหลายเรื่องแล้วก่อนหน้านี้ ถ้าหักเลี้ยวคว่ำลงคลองเหมือนเรื่องอื่นเมื่อไร ฉันพร้อมจะเปลี่ยนเป็นกองบ่นทันที
ขอให้ดีแบบนี้ไปจนจบเถิด สาธุ...(นี่เราต้องลุ้นกับละครไม่ให้บ้งกันแล้วใช่มั้ย)
Flimpublic ชมหนึ่งในร้อย ดีงามทุกตอน ดูแล้วยิ้มตาม
ใครบอกว่าเราบ่นแต่ละครค่ายทอง อะไรที่ดีเราก็พร้อมจะอวยยศส่งไปสู่จักรวาลให้โลกได้รู้ อยากให้ทุกคนได้ดู และมาฟินสุดใจไปกับคุณพระและอนงค์ ที่น่ารักน่าลุ้น ดูแล้วยิ้มตามไปได้ทุกตอน
ตอนที่ 4 นี้ สองครอบครัวขยับกระชับเข้ากันมากขึ้น คุณพระกับอนงค์ได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น และรู้ความลับของกันและกัน แต่อุปสรรคใหญ่ก็คือ คุณแม่ ที่ปากคว่ำตั้งท่ารังเกียจฝ่ายหญิงราวกับเกลียดกันมาแต่ชาติปางก่อน
เอาเข้าจริงตอนนี้เนื้อหาแทบไม่มีอะไร แต่ กลับทำให้ดูแล้วรู้สึกสนุกไปกับเรื่องราวได้ อาจจะเพราะจังหวะ การวางเรื่อง และตัวละครที่ช่วยกันประคองอารมณ์เราไป มีการปูเรื่องราวในอดีต ค่อยๆ เปิดเผยปัญหา สาเหตุ ปมในใจ โดยทั้งหมดมันส่งให้พระ-นาง ได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น
ที่ชอบคือเบรคสุดท้ายที่คุณพระรีบกลับไปจัดการเรื่องที่น้องเขยตาย คือต้องย้อนไปดูตั้งแต่ช่วงแรกของตอนนี้ก่อน จะเห็นว่าพูดถึงเรื่องความสุขกับความสูญเสีย จากนั้นระหว่างทางที่ดูเหมือนจะจีบกัน ก็แวะไปเข้าเรื่องความไม่แน่นอนของความสุข และสุดท้ายในตอนที่ 4 นี้ ก็จบลงด้วยความไม่จีรังของความเศร้า หรือจะสรุปก็คือ สุข ทุกข์ เดี๋ยวก็หายไป
เป็นละครที่ดูแล้วได้ทั้งความสุข ความรัก และข้อคิดเบาๆ ที่แฝงลึกให้ค้นหา ที่สำคัญ งานสร้างยังคงรักษาความดีงามเอาไว้ได้ ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม รวมไปถึงฉากชิงช้าสวรรค์ ที่เห็นแล้วคุ้มค่ากับเวลาที่นั่งดูไปทุกนาที
สนุกดีเลย ดูแล้วสบายใจ
อ่อ ชอบตัวละครแม่ที่แสดงโดยคุณกิ๊กนะ อาจจะรู้สึกว่าเธอแสดงเดิมๆ แรงๆ (ดูปากคว่ำที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอนั่นสิ) แต่เอาเข้าจริงก็ทำได้ดีนะ และมีมุมที่ทำให้เราเข้าใจตัวละครนี้ได้ แม้จะไม่ได้เห็นด้วยกับสิ่งที่เธอทำ ดูว่าเกินเลย ดูเป็นละคอนละครไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้เกลียดนะ ในบางจุดก็ทำเอาหลุดฮาออกมาได้ด้วย ถือว่าน่ารักและเป็นสีสันตัดเลี่ยนได้ดี
ตั้งกองอวยละครหนึ่งในร้อยตรงนี้เลยแล้วกัน แต่...ยังไม่วางใจหรอก อิฉันดูละครคุณมาหลายเรื่องแล้วก่อนหน้านี้ ถ้าหักเลี้ยวคว่ำลงคลองเหมือนเรื่องอื่นเมื่อไร ฉันพร้อมจะเปลี่ยนเป็นกองบ่นทันที
ขอให้ดีแบบนี้ไปจนจบเถิด สาธุ...(นี่เราต้องลุ้นกับละครไม่ให้บ้งกันแล้วใช่มั้ย)