https://m.pantip.com/topic/38467117?
อ่านกระทู้นี้แล้วเห็นว่ามีประโยชน์มาก จึงคัดลอกมาแชร์อีกครั้ง
". ช่วงนี้พอมีเวลาว่างเมื่อไร ผมจะพยายามค้นหาบทความที่เคยมีผู้แสดงความคิดเห็น วิเคราะห์ วิจารณ์ ฯลฯ ในประเด็น
เรื่องการรักษาพยาบาลในรพ.ภาครัฐและรพ.เอกชน เพื่อทำความเข้าใจระบบสาธารณสุขของบ้านเราให้มากขึ้น และ
เป็นการขยายมุมมองของตนเองไปในตัวด้วย
หลังจากได้เจอบทความของ นพ. สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ และได้ทำความเข้าใจในโมเดลระบบสาธารณสุขของประเทศอื่น
แล้ว ก็คิดว่า ระบบโรงพยาบาลเอกชนที่ไม่แสวงหาผลกำไรเป็นโมเดลที่น่าสนใจ กอปรกับในบ้านเราก็มีรพ.ในลักษณะนี้
เกิดขึ้นมาแล้วหลายแห่ง เช่น รพ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร และ รพ.อบจ.ภูเก็ต จ.ภูเก็ต เป็นต้น ซึ่งสามารถเลี้ยงตัวเอง
ให้อยู่รอดปลอดภัยมาได้นานหลายปีแล้ว จึงอดไม่ได้ที่จะเกิดความสงสัยว่าเหตุใดรพ.ในลักษณะนี้จึงไม่ได้รับการส่งเสริม
ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะน่าจะช่วยให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม และลดภาระภาครัฐในการ
หางบประมาณมาสนับสนุนได้มาก
จากบทความดังกล่าว ชี้ให้เห็นถึงระบบสาธารณสุขของเขาได้ดังต่อไปนี้...
1. เป็นระบบรพ.เอกชนที่มีจุดมุ่งหมายสาธารณะ ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับรพ.เอกชนในประเทศอเมริการวมทั้งใน
ประเทศไทยที่ตามก้นอเมริกา ที่ยังมุ่งแสวงหากำไรบนความเจ็บป่วยของผู้คน
2. เขาไม่ใช้การจำกัดสิทธิด้วยกฎระเบียบซึ่งขัดต่อหลักเสรีภาพและการค้าเสรีซึ่งเป็นหลักการใหญ่ของประเทศตะวันตก
แต่เขามีวิธีที่ยึดหลักการแต่ใช้การบริหารจัดการวางระบบได้ กล่าวคือ องค์กรประกันสังคมของรัฐจะซื้อบริการจากใคร
หรือไม่ก็ได้ ขึ้นกับนโยบายและการตัดสินใจจากคณะกรรมการประกันสังคมและรัฐบาล
3. องค์กรประกันสังคมประกาศนโยบายที่จะซื้อบริการจากโรงพยาบาลเอกชนที่ไม่แสวงหาผลกำไรเท่านั้น ใครไปรับ
การรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแบบหวังผลกำไรจะต้องจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลเองเต็มจำนวน
______
..... " บทเรียนเบลเยี่ยม : “ยุติการทำกำไรธุรกิจ รพ.เอกชน” บนความเจ็บป่วยประชาชน ".....
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ที่มา : เขียนวันที่ 25 มกราคม 2555 เวลา 13:35 น. / เขียนโดย น.พ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ชมรมแพทย์ชนบท
ควรยุติแพทย์เพื่อพาณิชย์ แล้วประกาศกำหนดให้ธุรกิจสถานพยาบาลต้องเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรบนความเจ็บป่วยของมนุษย์ไหม
เรื่องการรักษาพยาบาลในรพ.ภาครัฐและรพ.เอกชน เพื่อทำความเข้าใจระบบสาธารณสุขของบ้านเราให้มากขึ้น และ
เป็นการขยายมุมมองของตนเองไปในตัวด้วย
หลังจากได้เจอบทความของ นพ. สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ และได้ทำความเข้าใจในโมเดลระบบสาธารณสุขของประเทศอื่น
แล้ว ก็คิดว่า ระบบโรงพยาบาลเอกชนที่ไม่แสวงหาผลกำไรเป็นโมเดลที่น่าสนใจ กอปรกับในบ้านเราก็มีรพ.ในลักษณะนี้
เกิดขึ้นมาแล้วหลายแห่ง เช่น รพ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร และ รพ.อบจ.ภูเก็ต จ.ภูเก็ต เป็นต้น ซึ่งสามารถเลี้ยงตัวเอง
ให้อยู่รอดปลอดภัยมาได้นานหลายปีแล้ว จึงอดไม่ได้ที่จะเกิดความสงสัยว่าเหตุใดรพ.ในลักษณะนี้จึงไม่ได้รับการส่งเสริม
ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะน่าจะช่วยให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม และลดภาระภาครัฐในการ
หางบประมาณมาสนับสนุนได้มาก
จากบทความดังกล่าว ชี้ให้เห็นถึงระบบสาธารณสุขของเขาได้ดังต่อไปนี้...
1. เป็นระบบรพ.เอกชนที่มีจุดมุ่งหมายสาธารณะ ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับรพ.เอกชนในประเทศอเมริการวมทั้งใน
ประเทศไทยที่ตามก้นอเมริกา ที่ยังมุ่งแสวงหากำไรบนความเจ็บป่วยของผู้คน
2. เขาไม่ใช้การจำกัดสิทธิด้วยกฎระเบียบซึ่งขัดต่อหลักเสรีภาพและการค้าเสรีซึ่งเป็นหลักการใหญ่ของประเทศตะวันตก
แต่เขามีวิธีที่ยึดหลักการแต่ใช้การบริหารจัดการวางระบบได้ กล่าวคือ องค์กรประกันสังคมของรัฐจะซื้อบริการจากใคร
หรือไม่ก็ได้ ขึ้นกับนโยบายและการตัดสินใจจากคณะกรรมการประกันสังคมและรัฐบาล
3. องค์กรประกันสังคมประกาศนโยบายที่จะซื้อบริการจากโรงพยาบาลเอกชนที่ไม่แสวงหาผลกำไรเท่านั้น ใครไปรับ
การรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแบบหวังผลกำไรจะต้องจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลเองเต็มจำนวน
______
..... " บทเรียนเบลเยี่ยม : “ยุติการทำกำไรธุรกิจ รพ.เอกชน” บนความเจ็บป่วยประชาชน ".....
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้