== The Lady in the Van (2015) ... ด้วยรักและอาลัย.. Maggie Smith ==



ถ้าจะให้อธิบายให้นึกภาพตามได้ง่ายๆ.. มีกลิ่นปัสสาวะปนอยู่บ้างเล็กน้อย
กลิ่นที่โดดเด่นกว่า กลับเหมือนกลิ่นด้านในรูหูของคน
แถมด้วยกลิ่นเหม็นอับของเสื้อผ้า
กลิ่นผ้าขนสัตว์ที่เปียกชื้น ผสมผสานไปกับกลิ่นหัวหอมที่เธอมักทานแบบดิบๆ
นอกจากนั้นยังมีกลิ่น ซึ่งผมนับว่าเป็นกลิ่นของความจนยาก
กลิ่นกระดาษหนังสือพิมพ์เปียกๆ
กลิ่นอันหลากหลายจากคุณเชพเพิร์ด
ถูกปกคลุมไว้ด้วยแป้งฝุ่นหลากกลิ่นโปะทับอีกชั้นไว้แบบไม่มีอั้น
และนี่คือท่วงทำนองแห่งกลิ่นของหญิงชราผู้นี้....



เรื่องราวเกิดขั้นในช่วงปี 1970 นักเขียน อลัน เบนเน็ตต์ นักเขียนและนักแสดงละครเวทีชื่อดัง
ซึ่งเพิ่งจะย้ายบ้านในอยู่ในชานเมืองแคมเดน บ้านหัวมุมในย่านที่ดูเงียบสงบน่าอยู่อาศัย 
แต่แล้วความสงบที่เขาถวิลหาก็พลันหายไป เมื่อการมาถึงของหญิงชราปริศนานามว่าแมรี่พร้อมกับรถแวนคู่ใจของเธอ



The Lady in the Van เป็นภาพยนตร์ดราม่าตลกสัญชาติอังกฤษ กำกับโดย Nicholas Hytner 
นำแสดงโดย Maggie Smith และ Alex Jennings สร้างจากบันทึกความทรงจำที่มีชื่อเดียวกันประพันธ์โดย Alan Bennett 
นักเขียนชื่อดังซึ่งเจ้าตัวก็รับหน้าที่เขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยตัวเอง 
ด้วยทุนสร้าง 6 ล้านเหรียญฯ แต่กวาดรายได้ถึง 41 ล้านฯ ถือว่าประสบความสำเร็จเลยทีเดียว



เรื่องราวทั้งหมดมาจากความทรงจำของเบนเน็ตต์ เกี่ยวกับแมรี เชพเพิร์ด หญิงสูงอายุที่อาศัยอยู่ในรถตู้คันเก่าแก่จะพังแหล่มิพังแหล่ 
โดยมาจอดอยู่ที่บ้านเค้าเป็นเวลาถึง 15 ปี ซึ่งเบนเน็ตต์ก็เอาเรื่องราวของเธอมาเป็นวัตถุดิบชั้นดีในงานเขียน
เป็นเรียงความสั้นๆก่อนในปี 1989 เป็นหนังสือปี 1990 ละครเวทีปี 1999 และละครวิทยุปี 2009 ทาง BBC Radio 
ก่อนสร้างเป็นภาพยนตร์ออกฉายในปี 2015



ซึ่งตัวของแม็กกี้ สมิธนั้นเธอเคยรับบทแมรี่มาแล้วในละครเวทีเมื่อปี 1999 
ทำให้เธอเข้าชิงในรางวัล Olivier Awards (ความเป็นเลิศด้านละครเวที) และอีกครั้งในรูปแบบละครวิทยุทาง BBC ในปี 2009
เหมือนบทนี้เกิดมาเพื่อเป็นของเธอจริงๆ 



แม็กกี้ รับบทนี้ได้ดีมาก เล่นเป็นหญิงชราแสนดื้อ เอาแต่ใจ ไม่สนใจสังคมโลก ใครทำดีด้วยก็ไม่แย่แส 
แต่ก็พยายามที่จะพูดคุยกับคนอื่นเฉพาะเวลาที่แกต้องการเท่านั้น แน่นอนว่าบทแบบนี้ตัวละครย่อมต้องมีปมในใจ
ไม่ก็ชีวิตในอดีตของเธอต้องเคยพบเจออะไรมาอย่างแน่นอน ตรงนี้ล่ะที่น่าสนใจว่าแมรี่นั้น เธอเคยผ่านอะไรมาบ้าง 
และทำไมเธอต้องมาอาศัยรถตู้เป็นบ้านแบบนี้



อย่างที่บอกครับว่านี่สร้างจากเรื่องจริงของแมรี เชพเพิร์ด หรือในตัวจริงที่ชื่อว่า Margaret Fairchild 
ซึ่งเนื้อหาในหนังกับชีวิตจริงนั้นต่างกันนิดเดียว ที่เหลือถือว่าใกล้เคียงอย่างมากกับประวัติของเธอ 
ผ่านมุมมองของ อลัน เบนเน็ตต์ (รับบทโดย Alex Jennings) นักเขียนผู้ทำตัวเป็นคนสองบุคลิกชอบพูดคุยกับตัวเองเสมอ 
พยายามหาไอเดียแปลกใหม่ในงานเขียนและบทละครของตัวเอง ด้วยความที่คิดเสมอว่าชีวิตของตนนั้นจืดชืดซะเหลือเกิน 
ไม่รู้จะเอาอะไรมาเขียน จนต้องเอาชีวิตคนข้างกายมาเป็นวัตถุดิบของงาน



ประเด็นของหนังที่น่าสนใจสำหรับผมก็คือเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างคนสองรุ่น 
อลัน เบนเน็ตต์ นักเขียนที่ไม่ได้มีเวลามาดูแลแม่ที่แก่ชราของตน แต่กลับมาดูแลหญิงชราเร่ร่อนที่บังเอิญมาจอดรถอยู่ที่หน้าบ้าน 
ความรู้สึกผิดในใจกับความสับสนก็เกิดขึ้น แม้ความเป็นจริงเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับอยู่แล้วว่าแม่ของตัวเองนั้นไม่สามารถดูแลตัวเองได้อีก
จนต้องส่งเข้าบ้านพักคนชรา ขณะที่แมรี่คนแก่เร่ร่อนที่เขาเจอทุกวันที่หน้าบ้านกลับอยู่อย่างมีอิสระเสรี



ความผูกพันเกิดขึ้นตลอดระยะเวลา 15 ปี ขณะที่แม่ของตนเองเริ่มหลงลืมไปตามวัย 
เหมือนว่าอลันคอยให้ความช่วยเหลือแมรี่ ซึ่งนอกจากน้ำใจที่เพื่อนมนุษย์มีให้ต่อกัน 
อีกอย่างก็เพื่อลบล้างความรู้สึกผิดในใจที่อาจจะทำหน้าที่ของลูกชายคนเดียวที่มีต่อแม่ของตนได้ไม่ดีพอ 
(เพราะมัวแต่ทำงานในเมืองเลยไม่ค่อยมีเวลาได้ไปเยี่ยมเยียน) 



ย้อนกลับมาดูสังคมของเราในปัจจุบัน ลูกหลานทำงานไม่มีเวลากลับไปดูแลพ่อแม่ปู่ย่ายายที่แก่ชราลงไปทุกวัน 
แน่นอนว่าทุกคนย่อมต้องมีหน้าที่ทำมาหากิน แต่สมัยนี้มันสังคมโซเชี่ยลหากไม่มีเวลาได้กลับไป 
แค่โทรหาคุยกันวันละไม่กี่นาที เท่านี้ก็ช่วยให้คนที่รอคอยเราอยู่เขารู้สึกดีได้จริงๆนะครับ 
ท่านไม่ได้ต้องการอะไรมากหรอกแค่ได้ยินเสียงลูกหลานก็พอแล้ว 



ประเด็นของคนเร่ร่อนที่เราเห็นในเมืองก็เช่นกันครับ ทุกคนล่ะย่อมมีอดีตกันทั้งนั้นล่ะอยู่ที่ว่าเค้าจะเคยพบเจอเรื่องอะไรมา 
หากเลือกได้ผมเชื่อว่าคงไม่มีใครอยากออกจากบ้านมาอยู่แบบนี้.. 
แต่มนุษย์ทุกคนย่อมมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างเท่าเทียมกันทั้งสิ้น เราไม่ควรไปตั้งแง่รังเกียจ ใช้คำพูดดูถูกแต่อย่างใด 
หากว่าเขาไม่ได้ทำอะไรให้เดือดร้อนการทำความเข้าใจกับพวกเขาและยอมรับก็เป็นสิ่งที่เราควรกระทำ



สุดท้ายนี้ต้องขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของแม็กกี้ สมิธ สุดยอดนักแสดงระดับตำนานของเกาะอังกฤษ 
เจ้าของรางวัลออสการ์ 2 ครั้ง เอมมี่อวอร์ดอีก 4 ครั้ง ลูกโลกทองคำอีก 3 ครั้ง ผลงานการแสดงหนังกว่า 60 เรื่อง
ที่จากพวกเราไปเมื่อวันที่ 27 กันยาที่ผ่านมาด้วยวัย 89 ปี 
ซึ่งถืงแม้แทบทุกคนจะคุ้นเคยกับตัวของเธอในบทของศาสตราจารย์มักกอนนากัลใน Harry Potter 
แต่สำหรับตัวผม...ไม่รู้ทำไมผมรักแม็กกี้ในบทของแมรี่ใน The Lady in the Van ที่สุด.. 
ยิ่งฉากตอนท้ายในหนังเรื่องนี้ เหมือนเป็นการอำลาและส่งแม็กกี้อย่างงดงามที่สุดแล้ว
ขอขอบคุณทุกความสุขและรอยยิ้มที่เคยมอบให้กับพวกเราเสมอมา....



Dame Margaret Natalie Smith CH DBE (1934-2024)



ตอนนี้ผมมีเพจหนังล่ะน๊าาา เข้าไปตามกันได้นะครับ
ชื่อว่าาาาาาาาาา   เพราะหนังมันฝังใจ
https://www.facebook.com/profile.php?id=61565624000043

=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร 
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่