กรุงเทพโพลล์ ปชช.73.3%ไม่อยากลงทุนทำธุรกิจ-กลัวล้มเหลว
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_784123/
กรุงเทพโพลล์ ประชาชนมองเห็นโอกาสสำหรับการริเริ่มธุรกิจในอนาคตเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 แต่ร้อยละ 73.3 ไม่อยากลงทุนทำธุรกิจเพราะกลัวความล้มเหลว
“กรุงเทพโพลล์” ร่วมกับคณะการสร้างเจ้าของธุรกิจ และการบริหารกิจการ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ สำรวจความเห็นประชาชนเรื่อง “คนไทยคิดอย่างไรกับโอกาสในการเป็นเจ้าของธุรกิจ ประจำไตรมาส 3/2567 ” โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนทั่วประเทศ ด้วยการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ จำนวน 1,087 คน ระหว่างวันที่ 19-29 ก.ย.ที่ผ่านมา พบว่า ความเห็นเกี่ยวกับจิตวิญญาณของการเป็นผู้ประกอบการ (เจ้าของธุรกิจ) ประจำไตรมาส 3 ของปี 2567 โดยได้ทำการเปรียบเทียบกับการสำรวจครั้งที่ผ่านมา (ช่วงเดือน มิ.ย. 2567) ในประเด็นต่างๆ ประชาชนเห็นโอกาสหรือความพร้อมสำหรับการริเริ่มธุรกิจในอนาคตมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 50.2 เพิ่มขึ้น ร้อยละ 6.3 รองลงมาคือ มีความตั้งใจที่จะประกอบธุรกิจ ในอนาคตข้างหน้า คิดเป็นร้อยละ 47.7 เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 และมีความรู้ความสามารถรวมถึงทักษะและประสบการณ์ที่จำเป็นในการที่จะเริ่มทำธุรกิจใหม่ คิดเป็นร้อยละ 46.4 เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.7 ขณะที่เห็นว่า ไม่อยากลงทุนทำธุรกิจเพราะกลัวความล้มเหลว คิดเป็นร้อยละ 73.3 เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.4
ทั้งนี้สาเหตุที่ไม่กล้าเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองมากที่สุดคือ กลัวล้มเหลว กลัวขาดทุน คิดเป็นร้อยละ 62.3 รองลงมาคือไม่มีเงินทุนมากพอ คิดเป็นร้อยละ 53.1 ปัญหาข้าวของราคาแพง ค่าครองชีพสูง คิดเป็นร้อยละ 44.5 หากไม่สำเร็จกลัวคนในครอบครัวจะเดือดร้อน แบกภาระหนี้ร่วมกัน คิดเป็นร้อยละ 34.1และน้ำมันเชื้อเพลิงต่างๆ ราคาสูงขึ้น คิดเป็นร้อยละ 32.3
ร้านทองซึม ทองแพง เศรษฐกิจฟื้นช้า ทุบกำลังซื้อวูบ 30% ปรับตัวลดไซส์ขาย ‘ทองคำจิ๋ว’
https://www.matichon.co.th/economy/news_4824404
ร้านทองซึม ทองแพง เศรษฐกิจฟื้นช้า ทุบกำลังซื้อวูบ 30% ปรับตัวลดไซส์ขาย ‘ทองคำจิ๋ว’
วันที่ 2 ตุลาคม นาย
จิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า สถานการณ์ธุรกิจค้าทองคำในประเทศไทย ในส่วนของทองรูปพรรณกำลังซื้อลดลงประมาณ 20-30% เมื่อเทียบกับปี 2566 สาเหตุจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดี คนมีรายได้ลดลง ค่าครองชีพสูงขึ้น ทำให้คนนำเงินไปซื้อสิ่งที่จำเป็นกว่าการซื้อทองคำไว้ออม ขณะที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นมากทะลุ 40,000 บาทต่อบาททองคำ ทำให้คนไม่สามารถซื้อได้ อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น คาดว่ากำลังซื้อจะลดลงไปอีกเรื่อยๆ จากเมื่อก่อนคนมีเงินเดือน 20,000-30,000 บาท สามารถซื้อทองคำได้ 1-2 สลึง แต่ในปัจจุบันซื้อไม่ได้แล้ว แม้ปัจจุบันราคาทองคำในประเทศจะถูกลง หลังจากเงินบาทแข็งค่าเร็ว โดย 2 เดือนที่ผ่านมาผลจากการที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นประมาณ 10% ทำให้ราคาทองคำราคาปรับตัวลดลงประมาณ 4,000 บาทต่อบาททองคำ แต่ยังไม่จูงใจให้คนมาซื้อทองคำเพื่อการออมมากนัก นอกจากทองคำแท่งที่นักลงทุนจะซื้อเก็บไว้เก็งกำไร เนื่องจากราคาทองคำโลกมีการปรับตัวสูงขึ้นมากในขณะนี้ โดยเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2567 อยู่ที่ระดับ 2,649.50 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์
“
ราคาทองคำในประเทศ หากบาทไม่แข็งค่าเร็ว โดยปกติราคาทองคำน่าจะแตะ 45,000 บาทต่อบาททองคำ แต่ก็เชื่อว่าราคาทองคำยังคงเป็นขาขึ้น และในปีนี้น่าจะเห็นแตะที่ 43,000 บาทต่อบาททองคำ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆด้วย ทั้งทิศทางธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 1-2 ครั้งในปีนี้ อยู่ที่ว่าจะลดลงอีก 0.25%หรือ 0.5% รวมถึงค่าเงินบาทและค่าเงินดอลลาร์ด้วย ทั้งนี้คาดหวังว่าไตรมาส4 ซึ่งเป็นไฮซีซั่น จะทำให้การซื้อขายทองคำในประเทศคึกคักมากขึ้น เพราะเป็นช่วงที่คนหาซื้อของมอบเป็นของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพราะส่วนใหญ่ทองคำจะขายดีช่วงเทศกาลปีใหม่ ตรุษจีน สงกรานต์” นายจิตติกล่าว
นาย
จิตติกล่าวว่า จากภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัว ด้านผู้ประกอบการเองก็ต้องปรับตัวเช่นกัน โดยในส่วนของห้างทองจินฮั้วเฮง ได้มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ให้มีขนาดเล็กลง ในรูปแบบทองคำแท่งจิ๋ว ขนาดน้ำหนัก 0.3 กรัม จำหน่ายในราคาเริ่มต้น 1,000 บาทต้นๆ เพื่อเป็นการรองรับกลุ่มลูกค้าที่กำลังซื้อไม่สูงมาก แต่ต้องการซื้อไว้เพื่อการออมหรือมอบเป็นของขวัญสำหรับในช่วงเทศกาลต่างๆ โดยได้เปิดตัวเมื่อเดือนกันยายน 2567 ที่ผ่านมา ปรากฎว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้ามากพอสมควร
“ทองคำถือว่าเป็นธุรกิจที่มั่นคง และเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่า ซื้อไว้ไม่ว่าจะเพื่อการออมหรือเพื่อการลงทุน ถือว่าเหมาะสมทั้งนั้น เพราะเป็นสินทรัพย์ที่ชนะเงินเฟ้อและราคามีแนวโน้มขาขึ้น แม้ว่าช่วงนี้เงินบาทจะแข็งค่าก็ตาม”นาย
จิตติกล่าว
เชียงใหม่ชักธงแดง เตือนน้ำเหนือหนุน ท่วมซ้ำเขตเมือง ล่าสุดดับแล้ว 1 ถูกไฟชอร์ต
https://www.matichon.co.th/region/news_4824705
ด่วน! เชียงใหม่ชักธงแดง เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมเมือง หลังน้ำเหนือหนุนต่อเนื่อง สลดใจเช้านี้ ราษฎรแม่ริมถูกไฟดูดเสียชีวิต 1 ราย
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ยังคงมีสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่วานนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ตอนเหนือ คือ อ.เชียงดาว
อ.แม่แตง อ.แม่ริม อ.ดอยสะเก็ด อ.สันทราย ทำให้เช้าวันนี้เมื่อเวลา 09.00 น. ระดับน้ำปิงที่สถานีตรวจวัดระดับน้ำสะพานนวรัฐ หรือ P1 เพิ่มสูงขึ้น อยู่ในเกณฑ์ระดับวิกฤต 3.73 หรือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 15 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่ศูนย์อุทกวิทยาชลประทาน ภาคเหนือตอนบน จึงดำเนินการเปลี่ยนสัญญาณเป็น ธงแดง และ ไฟแดง ซึ่งประชาชนในพื้นที่ โซน 1 บริเวณจุดตลิ่งต่ำ จุดตลิ่งอ่อน เตรียมระวังน้ำล้นตลิ่ง และยังคงติดตามสถานการณ์น้ำปิงอย่างต่อเนื่องต่อไป
ล่าสุด ออกประกาศเตือนประชาชนทุกพื้นที่ในพื้นที่ลุ่มต่ำเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมฉับพลันจากน้ำสาขาต่างๆ ที่ไหลลงมาสมทบลำน้ำปิง
ในขณะที่ก่อนหน้านี้ เวลา 08.15 น. นายอำเภอแม่ริม รายงานเหตุไฟฟ้าดูดประชาชนเสียชีวิต 1 ราย บริเวณถนนสายแม่ริม-สลวง เบื้องต้นทราบว่าบริเวณจุดเกิดเหตุ มีดินสไลด์ และเสาไฟฟ้าล้มทับปิดกั้นถนน ทำให้รถไม่สามารถสัญจรได้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดถนนและห้ามไม่ให้ประชาชนเดินทางสัญจรไปมา แต่ผู้เสียชีวิตได้ใช้วิธีการยกรถจักรยานยนต์ข้ามที่เกิดเหตุจนเป็นเหตุเสียชีวิต จึงขอความร่วมมือประชาชน ในช่วงวิกฤตภัย โปรดระมัดระวังการสัญจร อย่าฝ่าฝืนแนวห้ามที่เจ้าหน้าที่ได้วางไว้ เพื่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของท่าน
นายอำเภอแม่แตงรายงานว่า กลางดึกที่ผ่านมา หมวดทางหลวงแม่แตง และ อบต.ป่าแป๋ รายงานพบว่า เกิดดินสไลด์ ต้นไม้หักโค่น ปิดทับเส้นทาง จำนวน 4 จุด ทางหลวงแผ่นดิน 1095 เชียงใหม่-ปาย กม.28 บริเวณบ้านท่าผา-ผาเด้ง ต.ป่าแป๋ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่และใช้เครื่องจักร รถแบ๊กโฮ-รถไถ เข้าดำเนินการเปิดเส้นทางดังกล่าวได้เมื่อเวลา 05.30 น. ที่ผ่านมา
ล่าสุด จากฝนตกที่ตกหนักในพื้นที่ อ.หางดง ทำให้เช้านี้ลำน้ำแม่ท่าช้างเออท่วมถนนเชียงใหม่-ฮอด 108 ช่วงหน้ากาดฝรั่ง ทำให้รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์หลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว และหากมีกรณีเร่งด่วนจะเข้าเมืองให้ใช้เส้นทางสายคันคลองชลประทานแทนแล้ว
JJNY : ปชช.73.3%ไม่อยากลงทุนทำธุรกิจ│ร้านทองซึม ศก.ฟื้นช้า ทุบกำลังซื้อวูบ│เชียงใหม่ชักธงแดง│ไต้หวันปิดเกาะรับมือพายุ
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_784123/
“กรุงเทพโพลล์” ร่วมกับคณะการสร้างเจ้าของธุรกิจ และการบริหารกิจการ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ สำรวจความเห็นประชาชนเรื่อง “คนไทยคิดอย่างไรกับโอกาสในการเป็นเจ้าของธุรกิจ ประจำไตรมาส 3/2567 ” โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนทั่วประเทศ ด้วยการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ จำนวน 1,087 คน ระหว่างวันที่ 19-29 ก.ย.ที่ผ่านมา พบว่า ความเห็นเกี่ยวกับจิตวิญญาณของการเป็นผู้ประกอบการ (เจ้าของธุรกิจ) ประจำไตรมาส 3 ของปี 2567 โดยได้ทำการเปรียบเทียบกับการสำรวจครั้งที่ผ่านมา (ช่วงเดือน มิ.ย. 2567) ในประเด็นต่างๆ ประชาชนเห็นโอกาสหรือความพร้อมสำหรับการริเริ่มธุรกิจในอนาคตมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 50.2 เพิ่มขึ้น ร้อยละ 6.3 รองลงมาคือ มีความตั้งใจที่จะประกอบธุรกิจ ในอนาคตข้างหน้า คิดเป็นร้อยละ 47.7 เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 และมีความรู้ความสามารถรวมถึงทักษะและประสบการณ์ที่จำเป็นในการที่จะเริ่มทำธุรกิจใหม่ คิดเป็นร้อยละ 46.4 เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.7 ขณะที่เห็นว่า ไม่อยากลงทุนทำธุรกิจเพราะกลัวความล้มเหลว คิดเป็นร้อยละ 73.3 เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.4
ทั้งนี้สาเหตุที่ไม่กล้าเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองมากที่สุดคือ กลัวล้มเหลว กลัวขาดทุน คิดเป็นร้อยละ 62.3 รองลงมาคือไม่มีเงินทุนมากพอ คิดเป็นร้อยละ 53.1 ปัญหาข้าวของราคาแพง ค่าครองชีพสูง คิดเป็นร้อยละ 44.5 หากไม่สำเร็จกลัวคนในครอบครัวจะเดือดร้อน แบกภาระหนี้ร่วมกัน คิดเป็นร้อยละ 34.1และน้ำมันเชื้อเพลิงต่างๆ ราคาสูงขึ้น คิดเป็นร้อยละ 32.3
ร้านทองซึม ทองแพง เศรษฐกิจฟื้นช้า ทุบกำลังซื้อวูบ 30% ปรับตัวลดไซส์ขาย ‘ทองคำจิ๋ว’
https://www.matichon.co.th/economy/news_4824404
ร้านทองซึม ทองแพง เศรษฐกิจฟื้นช้า ทุบกำลังซื้อวูบ 30% ปรับตัวลดไซส์ขาย ‘ทองคำจิ๋ว’
วันที่ 2 ตุลาคม นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า สถานการณ์ธุรกิจค้าทองคำในประเทศไทย ในส่วนของทองรูปพรรณกำลังซื้อลดลงประมาณ 20-30% เมื่อเทียบกับปี 2566 สาเหตุจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดี คนมีรายได้ลดลง ค่าครองชีพสูงขึ้น ทำให้คนนำเงินไปซื้อสิ่งที่จำเป็นกว่าการซื้อทองคำไว้ออม ขณะที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นมากทะลุ 40,000 บาทต่อบาททองคำ ทำให้คนไม่สามารถซื้อได้ อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น คาดว่ากำลังซื้อจะลดลงไปอีกเรื่อยๆ จากเมื่อก่อนคนมีเงินเดือน 20,000-30,000 บาท สามารถซื้อทองคำได้ 1-2 สลึง แต่ในปัจจุบันซื้อไม่ได้แล้ว แม้ปัจจุบันราคาทองคำในประเทศจะถูกลง หลังจากเงินบาทแข็งค่าเร็ว โดย 2 เดือนที่ผ่านมาผลจากการที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นประมาณ 10% ทำให้ราคาทองคำราคาปรับตัวลดลงประมาณ 4,000 บาทต่อบาททองคำ แต่ยังไม่จูงใจให้คนมาซื้อทองคำเพื่อการออมมากนัก นอกจากทองคำแท่งที่นักลงทุนจะซื้อเก็บไว้เก็งกำไร เนื่องจากราคาทองคำโลกมีการปรับตัวสูงขึ้นมากในขณะนี้ โดยเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2567 อยู่ที่ระดับ 2,649.50 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์
“ราคาทองคำในประเทศ หากบาทไม่แข็งค่าเร็ว โดยปกติราคาทองคำน่าจะแตะ 45,000 บาทต่อบาททองคำ แต่ก็เชื่อว่าราคาทองคำยังคงเป็นขาขึ้น และในปีนี้น่าจะเห็นแตะที่ 43,000 บาทต่อบาททองคำ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆด้วย ทั้งทิศทางธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 1-2 ครั้งในปีนี้ อยู่ที่ว่าจะลดลงอีก 0.25%หรือ 0.5% รวมถึงค่าเงินบาทและค่าเงินดอลลาร์ด้วย ทั้งนี้คาดหวังว่าไตรมาส4 ซึ่งเป็นไฮซีซั่น จะทำให้การซื้อขายทองคำในประเทศคึกคักมากขึ้น เพราะเป็นช่วงที่คนหาซื้อของมอบเป็นของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพราะส่วนใหญ่ทองคำจะขายดีช่วงเทศกาลปีใหม่ ตรุษจีน สงกรานต์” นายจิตติกล่าว
นายจิตติกล่าวว่า จากภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัว ด้านผู้ประกอบการเองก็ต้องปรับตัวเช่นกัน โดยในส่วนของห้างทองจินฮั้วเฮง ได้มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ให้มีขนาดเล็กลง ในรูปแบบทองคำแท่งจิ๋ว ขนาดน้ำหนัก 0.3 กรัม จำหน่ายในราคาเริ่มต้น 1,000 บาทต้นๆ เพื่อเป็นการรองรับกลุ่มลูกค้าที่กำลังซื้อไม่สูงมาก แต่ต้องการซื้อไว้เพื่อการออมหรือมอบเป็นของขวัญสำหรับในช่วงเทศกาลต่างๆ โดยได้เปิดตัวเมื่อเดือนกันยายน 2567 ที่ผ่านมา ปรากฎว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้ามากพอสมควร
“ทองคำถือว่าเป็นธุรกิจที่มั่นคง และเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่า ซื้อไว้ไม่ว่าจะเพื่อการออมหรือเพื่อการลงทุน ถือว่าเหมาะสมทั้งนั้น เพราะเป็นสินทรัพย์ที่ชนะเงินเฟ้อและราคามีแนวโน้มขาขึ้น แม้ว่าช่วงนี้เงินบาทจะแข็งค่าก็ตาม”นายจิตติกล่าว
เชียงใหม่ชักธงแดง เตือนน้ำเหนือหนุน ท่วมซ้ำเขตเมือง ล่าสุดดับแล้ว 1 ถูกไฟชอร์ต
https://www.matichon.co.th/region/news_4824705
ด่วน! เชียงใหม่ชักธงแดง เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมเมือง หลังน้ำเหนือหนุนต่อเนื่อง สลดใจเช้านี้ ราษฎรแม่ริมถูกไฟดูดเสียชีวิต 1 ราย
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ยังคงมีสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่วานนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ตอนเหนือ คือ อ.เชียงดาว
อ.แม่แตง อ.แม่ริม อ.ดอยสะเก็ด อ.สันทราย ทำให้เช้าวันนี้เมื่อเวลา 09.00 น. ระดับน้ำปิงที่สถานีตรวจวัดระดับน้ำสะพานนวรัฐ หรือ P1 เพิ่มสูงขึ้น อยู่ในเกณฑ์ระดับวิกฤต 3.73 หรือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 15 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่ศูนย์อุทกวิทยาชลประทาน ภาคเหนือตอนบน จึงดำเนินการเปลี่ยนสัญญาณเป็น ธงแดง และ ไฟแดง ซึ่งประชาชนในพื้นที่ โซน 1 บริเวณจุดตลิ่งต่ำ จุดตลิ่งอ่อน เตรียมระวังน้ำล้นตลิ่ง และยังคงติดตามสถานการณ์น้ำปิงอย่างต่อเนื่องต่อไป
ล่าสุด ออกประกาศเตือนประชาชนทุกพื้นที่ในพื้นที่ลุ่มต่ำเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมฉับพลันจากน้ำสาขาต่างๆ ที่ไหลลงมาสมทบลำน้ำปิง
ในขณะที่ก่อนหน้านี้ เวลา 08.15 น. นายอำเภอแม่ริม รายงานเหตุไฟฟ้าดูดประชาชนเสียชีวิต 1 ราย บริเวณถนนสายแม่ริม-สลวง เบื้องต้นทราบว่าบริเวณจุดเกิดเหตุ มีดินสไลด์ และเสาไฟฟ้าล้มทับปิดกั้นถนน ทำให้รถไม่สามารถสัญจรได้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดถนนและห้ามไม่ให้ประชาชนเดินทางสัญจรไปมา แต่ผู้เสียชีวิตได้ใช้วิธีการยกรถจักรยานยนต์ข้ามที่เกิดเหตุจนเป็นเหตุเสียชีวิต จึงขอความร่วมมือประชาชน ในช่วงวิกฤตภัย โปรดระมัดระวังการสัญจร อย่าฝ่าฝืนแนวห้ามที่เจ้าหน้าที่ได้วางไว้ เพื่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของท่าน
นายอำเภอแม่แตงรายงานว่า กลางดึกที่ผ่านมา หมวดทางหลวงแม่แตง และ อบต.ป่าแป๋ รายงานพบว่า เกิดดินสไลด์ ต้นไม้หักโค่น ปิดทับเส้นทาง จำนวน 4 จุด ทางหลวงแผ่นดิน 1095 เชียงใหม่-ปาย กม.28 บริเวณบ้านท่าผา-ผาเด้ง ต.ป่าแป๋ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่และใช้เครื่องจักร รถแบ๊กโฮ-รถไถ เข้าดำเนินการเปิดเส้นทางดังกล่าวได้เมื่อเวลา 05.30 น. ที่ผ่านมา
ล่าสุด จากฝนตกที่ตกหนักในพื้นที่ อ.หางดง ทำให้เช้านี้ลำน้ำแม่ท่าช้างเออท่วมถนนเชียงใหม่-ฮอด 108 ช่วงหน้ากาดฝรั่ง ทำให้รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์หลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว และหากมีกรณีเร่งด่วนจะเข้าเมืองให้ใช้เส้นทางสายคันคลองชลประทานแทนแล้ว