นักวิทยาศาสตร์พบวิธีทําให้ ‘ธารน้ําแข็ง’ ในแอนตาร์กติกาหนาขึ้น

.
แผ่นน้ำแข็งแอนตาร์กติกากำลังละลายด้วยอัตราที่เร็วกว่าในที่ผ่านมา ทำให้เกิดความกังวลว่าแผ่นน้ำแข็งอาจจะละลายหายไปหมด ทุกอย่างดูเหมือนจะเลวร้ายลงไปกว่าเดิม เมื่อนักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า ธารน้ำแข็งทเวตส์ขนาดมหึมาในแอนตาร์กติกา หรือที่รู้จักในชื่อ “ธารน้ำแข็งวันสิ้นโลก” กำลังจะละลายอย่างรวดเร็ว ซึ่งหากแผ่นน้ำแข็งทเวตส์ละลายทั้งหมด ทำให้ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น และหลายพื้นที่ทั่วโลกจะจมลงสู่ใต้น้ำ ตามสมญานามของมัน
.
แต่ขณะเดียวกันก็ยังพอมีดีอยู่บ้าง โดยนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการทดลองสร้าง “แผ่นน้ำแข็ง” ในทะเล ด้วยการการสูบน้ำทะเลลงบนหิมะในอาร์กติกของแคนาดา ซึ่งช่วยให้ด้านล่างแผ่นน้ำแข็งหนาขึ้นมาบ้าง
.
ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น หุ่นยนต์ใต้น้ำ เทคนิคการสำรวจแบบใหม่ และแนวทางใหม่ในการจำลองการไหลของน้ำแข็งและรอยแตก ทำให้ได้ข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆ เกี่ยวกับธารน้ำแข็งมากขึ้น จนพบว่ายังพอจะมีวิธีที่ทำให้แผ่นน้ำแข็งกลับมาหนาขึ้นได้ ด้วยการใช้ “น้ำทะเล”
.
บริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติอังกฤษอย่าง Real Ice ได้ทำการทดลองภาคสนามเมื่อต้นปี 2024 บริเวณทะเลอาร์กติกของแคนาดา โดยเจาะน้ำแข็งลงไปให้ถึงน้ำที่อยู่ใต้แผ่นน้ำแข็ง จากนั้นสูบน้ำขึ้นไปไว้บนธารน้ำแข็ง
.
น้ำจะเข้าไปเติมเต็มช่องว่างอากาศในหิมะและแข็งตัว ก่อนจะค่อย ๆ กลายเป็นน้ำแข็ง ส่งผลให้มีน้ำแข็งตามธรรมชาติเติบโตสูงถึง 25 เซนติเมตร ที่บริเวณด้านล่างของน้ำแข็ง
.
ปัจจุบันน้ำแข็งทะเลอาร์กติกเหลือเพียง 1.65 ล้านตารางไมล์ ซึ่งลดลงประมาณ 750,000 ตารางไมล์ เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยปริมาณน้ำแข็งในช่วงสิ้นฤดูร้อนระหว่างปี 1981-2010 ที่อยู่ที่ 2.4 ล้านตารางไมล์ มีการคาการณ์ว่าภูมิภาคนี้จะไม่มีน้ำแข็งเลยในช่วงฤดูร้อนภายในทศวรรษ 2030
.
อีกทั้งน้ำแข็งที่มีอยู่นี้ มักเป็นน้ำแข็งที่เกิดใหม่มีอายุเพียง 1 ปี ซึ่งยังบางและไม่สามารถสามารถอยู่รอดในช่วงเดือนที่อากาศอบอุ่นได้ ส่วนน้ำแข็งที่มีอายุ 3 ปีขึ้นไปมีจำนวนน้อยลงมาก
.
อย่างไรก็ตาม การทดลองนี้จำเป็นต้องพัฒนาต่อไป เพื่อเร่งให้เกิดกระบวนการแช่แข็งตามธรรมชาติ และ สร้างน้ำแข็งให้หนาประมาณ 1 เมตรขึ้นไป ถึงจะสามารถทนต่ออุณหภูมิที่สูงขึ้นได้ ซึ่งอาจจะต้องใช้ปั๊มประมาณ 10 ล้านตัว ถึงจะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้
นักวิทยาศาสตร์เผย "หลายพื้นที่ทั่วโลกจะจมลงสู่ใต้น้ำ" แย้ม พบวิธีทําให้ ‘ธารน้ําแข็ง’ ในแอนตาร์กติกาหนาขึ้น อลังการแน่
.
แผ่นน้ำแข็งแอนตาร์กติกากำลังละลายด้วยอัตราที่เร็วกว่าในที่ผ่านมา ทำให้เกิดความกังวลว่าแผ่นน้ำแข็งอาจจะละลายหายไปหมด ทุกอย่างดูเหมือนจะเลวร้ายลงไปกว่าเดิม เมื่อนักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า ธารน้ำแข็งทเวตส์ขนาดมหึมาในแอนตาร์กติกา หรือที่รู้จักในชื่อ “ธารน้ำแข็งวันสิ้นโลก” กำลังจะละลายอย่างรวดเร็ว ซึ่งหากแผ่นน้ำแข็งทเวตส์ละลายทั้งหมด ทำให้ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น และหลายพื้นที่ทั่วโลกจะจมลงสู่ใต้น้ำ ตามสมญานามของมัน
.
แต่ขณะเดียวกันก็ยังพอมีดีอยู่บ้าง โดยนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการทดลองสร้าง “แผ่นน้ำแข็ง” ในทะเล ด้วยการการสูบน้ำทะเลลงบนหิมะในอาร์กติกของแคนาดา ซึ่งช่วยให้ด้านล่างแผ่นน้ำแข็งหนาขึ้นมาบ้าง
.
ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น หุ่นยนต์ใต้น้ำ เทคนิคการสำรวจแบบใหม่ และแนวทางใหม่ในการจำลองการไหลของน้ำแข็งและรอยแตก ทำให้ได้ข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆ เกี่ยวกับธารน้ำแข็งมากขึ้น จนพบว่ายังพอจะมีวิธีที่ทำให้แผ่นน้ำแข็งกลับมาหนาขึ้นได้ ด้วยการใช้ “น้ำทะเล”
.
บริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติอังกฤษอย่าง Real Ice ได้ทำการทดลองภาคสนามเมื่อต้นปี 2024 บริเวณทะเลอาร์กติกของแคนาดา โดยเจาะน้ำแข็งลงไปให้ถึงน้ำที่อยู่ใต้แผ่นน้ำแข็ง จากนั้นสูบน้ำขึ้นไปไว้บนธารน้ำแข็ง
.
น้ำจะเข้าไปเติมเต็มช่องว่างอากาศในหิมะและแข็งตัว ก่อนจะค่อย ๆ กลายเป็นน้ำแข็ง ส่งผลให้มีน้ำแข็งตามธรรมชาติเติบโตสูงถึง 25 เซนติเมตร ที่บริเวณด้านล่างของน้ำแข็ง
.
ปัจจุบันน้ำแข็งทะเลอาร์กติกเหลือเพียง 1.65 ล้านตารางไมล์ ซึ่งลดลงประมาณ 750,000 ตารางไมล์ เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยปริมาณน้ำแข็งในช่วงสิ้นฤดูร้อนระหว่างปี 1981-2010 ที่อยู่ที่ 2.4 ล้านตารางไมล์ มีการคาการณ์ว่าภูมิภาคนี้จะไม่มีน้ำแข็งเลยในช่วงฤดูร้อนภายในทศวรรษ 2030
.
อีกทั้งน้ำแข็งที่มีอยู่นี้ มักเป็นน้ำแข็งที่เกิดใหม่มีอายุเพียง 1 ปี ซึ่งยังบางและไม่สามารถสามารถอยู่รอดในช่วงเดือนที่อากาศอบอุ่นได้ ส่วนน้ำแข็งที่มีอายุ 3 ปีขึ้นไปมีจำนวนน้อยลงมาก
.
อย่างไรก็ตาม การทดลองนี้จำเป็นต้องพัฒนาต่อไป เพื่อเร่งให้เกิดกระบวนการแช่แข็งตามธรรมชาติ และ สร้างน้ำแข็งให้หนาประมาณ 1 เมตรขึ้นไป ถึงจะสามารถทนต่ออุณหภูมิที่สูงขึ้นได้ ซึ่งอาจจะต้องใช้ปั๊มประมาณ 10 ล้านตัว ถึงจะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้