Wakichi เป็นร้าน Sushi Omkakse อีกร้านที่อยากแนะนำใน Hokkaidoครับ Wakichi เป็นร้านที่จองไม่ยากมากนัก ราคาไม่สูงมากนักในยุคสมัยนี้ราว 36,000เยนและมีคุณภาพที่ดีเหมาะสมกับราคาครับ
Wakichi เคยได้รับ Michelin Star 2ดาว ในการจัดอันดับครั้งล่าสุดของ Hokkaido และ ได้คะแนน4.3 ดาว ใน Tabelog สูงเป็นอันดับสามใน Sapporo นี้คงเป็นอีกสาเหตุที่ไม่ควรพลาดร้านนี้ครับ
ในบรรดาร้านSushi ระดับสูงใน Hokkaido Tamura san นับเป็นเชฟที่พูดอังงกฤษได้มากที่สุดคนนึง ทำให้บรรยากาศในการรับประทานอาหารที่นี้ค่อนข้างสบายๆ อบอุ่นภายในร้านเล็กๆ 8ที่นั่งบริเวณ Maruyama koen เเห่งนี้ สำหรับลูกค้าต่างชาตินั้น ทางร้านมีสมุดภาพแนะนำวัตถุดิบต่างๆด้วยที่จะทำให้ชาวต่างชาติที่ไม่ใช่สายลึกสามารถเพลิดเพลินกับร้านนี้ได้ด้วย
Sushi ของ Tamura San นั้นทำมาได้ดีตามมารตราฐานร้าน ข้าวที่ใช้ผสมน้ำส้มสายชูแดง ตัวข้าวค่อนข้างแข็งและแฉะในตอนต้น ซึ่งจะค่อยๆดีขึ้นเมื่อคอร์สผ่านไป ที่ประทับใจเป็นพิเศษเห็นจะเป็นบรรดา Tsumami ที่มีลายเซ็นต์เฉพาะตัว อย่างจานไข่ตุ๋นใส่หอยนางรมและปูKoubako ที่ยังประทับใจจนถึงตอนนี้ จานนี้ตอนแรกคิดว่าจะมีรสหนักกว่านี้ครับแต่รสมันเบาเลยสามารถรับประทานได้อย่างง่ายๆครับรถมันปูอ่อนๆผสมผสานกับดาชิเป็นน้ำราดด้านบน ไข่ตุ๋นเนื้อนุ่มเบากลิ่นไข่ไม่แรงมากเน้น Texture และรสชาติของหอยนางรม สิ่งที่ประทับใจในชามนี้คือเชฟทำไข่ไม่สุกเกินไปค่อนข้างวอเตอร์รี่จนไม่กลบ Texture ของหอย ความหวานฉุนของวาซาบิที่ปิดท้ายนั่นทิ้ง After Test ความหวานไว้ในปากเป็นจานที่ดีมากครับ อร่อย
หรือจะเป็นซาชิมิHirame kombujime รับประทานกับซอสจากปลิงหนามดองเกลือหรือkonowata konoko นั้นก็เป็นอีกจานที่ทำออกมาได้น่าสนใจ จานนี้ปลาคุณภาพชั้น 1ครับปลาHirameชั้นดีเนื้อหนึบกรอบ ผมแนะนำให้รับประทานกับโชยุก่อน ที่นี่นั้นมีโชยุอยู่ 2 ชนิดในการใช้ซึ่งในจานนี้เชฟใช้โชว์อยู่ค่อนข้างอ่อนผมว่ามันขับรสหวานของปลาเนื้อขาวได้ดีเลยครับ ส่วนซอสปลิงหนามดองเกลือ มีรสที่เข้มข้นกว่าเค็ม และติดปลายเผ็ดนิดๆคล้ายกับชิโอะคาระ
อย่าพลาดที่จะสั่ง Add on อย่าง Kujira ที่เชฟใช้ส่วน Unesu นำมารมควันทำแฮม รับประทานกับต้นหอม มัสตาร์ดญี่ปุ่น และ shijimi คำนี้นั้นเนื้อปลาวาฬหนังถูกบ้างมาและลวกก่อนนำไปรมควันทำให้มีความกรุบและไม่รู้สึกแข็งเหนียวมาก แต่ยังคงเหลือ Texture ให้เคี้ยวในปาก เนื้อปลาวาฬนั้นมีกลิ่นอ่อนๆซึ่งถูกทำให้อ่อนลงด้วยกลิ่นควันไม้เบาๆ เนื้อปลานี้ยิ่งเคี้ยวแล้วความอุมามิก็จะค่อยๆคลายตัวออกมา พอรับประทานกับของที่มีรสเผ็ดฉุนอย่างมัสตาร์ดและต้นหอมแล้วช่วยกลบกลิ่นของเนื้อปลาวาฬ เป็นจานที่ทำได้ดีอีกจานนึงครับ
Chawamushi ใส่หอยนางรมและ ราดด้วยซอส Ankake จากปู kobako kani
จานนี้ตอนแรกคิดว่าจะมีรสหนักกว่านี้ครับแต่รสมันเบาเลยสามารถรับประทานได้อย่างง่ายๆครับรถมันปูอ่อนๆผสมผสานกับดาชิเป็นน้ำราดด้านบน ไข่ตุ๋นเนื้อนุ่มเบากลิ่นไข่ไม่แรงมากเน้น Texture และรสชาติของหอยนางรม สิ่งที่ประทับใจในชามนี้คือเชฟทำไข่ไม่สุกเกินไปค่อนข้างวอเตอร์รี่จนไม่กลบ Texture ของหอย ความหวานฉุนของวาซาบิที่ปิดท้ายนั่นทิ้ง After Test ความหวานไว้ในปากเป็นจานที่ดีมากครับ อร่อย
Tako Yawarakani จานนี้ของที่นี่นั้นมี Texture เป็นเอกลักษณ์ชัดเจนถ้าสังเกตจากรูปจะเห็น Texture เป็น 2 ส่วนคือผิวด้านนอกที่เป็นเยลลี่แต่ไม่เล็กกับแก่นต้องการที่กรอบแต่ไม่เหนียวลดซอสอ่อนๆเน้นรสเค็มจะโชยุเน้นชูความหวานของปลาหมึกยักษ์ เป็นอีกจานที่ทำได้ดีมากครับ
ซาซิมิในวันนี้เริ่มต้นด้วยปลาHirame kombujime รับประทานกับซอสจากปลิงหนามดองเกลือหรือkonowata konoko จานนี้ปลาคุณภาพชั้น 1ครับปลาHirameชั้นดีเนื้อหนึบกรอบ ผมแนะนำให้รับประทานกับโชยุก่อน ที่นี่นั้นมีโชยุอยู่ 2 ชนิดในการใช้ซึ่งในจานนี้เชฟใช้โชว์อยู่ค่อนข้างอ่อนผมว่ามันขับรสหวานของปลาเนื้อขาวได้ดีเลยครับ ส่วนซอสปลิงหนามดองเกลือ มีรสที่เข้มข้นกว่าเค็ม และติดปลายเผ็ดนิดๆคล้ายกับชิโอะคาระ
Hotate เชนเสิร์ฟมา2 รูปแบบ ในส่วนของซาซิมินั้นเสิร์ฟมากับเกลือจากเกาะอาวาจิและมะนาวครับ คำนี้เชฟบั้งที่ผิวเล็กน้อยทำให้เนื้อหอยเชลล์กรอบที่ผิวแต่นุ่มข้างใน มี Texture ที่แตกต่าง เกลือคุณภาพเยี่ยมและมะนาวญี่ปุ่นนั้นช่วยขับความหวานของหอยได้อย่างยอดเยี่ยม ทำออกมาได้ดีมากๆอีกเช่นกันครับ ในส่วนของไข่เชฟนำไปปรุงรสด้วยนำ้มันต้นหอมและโชยุ
จานต่อมาเป็นปลาKinmedai โดยเชฟนำไปย่างเบาๆบนถ่านไม้ เสิร์ฟมากับไดกอนโอโรชิ ดอกฮาน่าโฮจิโซะ และซอสพอนซึครับ
ดอกให้รสเผ็ด ปลาในจานนี้ก็ยังมีคุณภาพที่ยอดเยี่ยมเป็นหนึ่งในกิงกิที่อร่อยที่สุดที่ผมกินในรอบหลายปีเลยครับ ตัวเนื้อปลานั้นฉ่ำมีความมันหวานแต่เนื้อยังกรอบกรุบ ตัวซอสรสเปรี้ยวอ่อนๆค่อนข้างเบาทำให้ไม่กลบรสชาติของปลาหัวไชเท้าปูดด้านบนที่หวานนั้นเข้ากับซอสและเนื้อปลาได้อย่างลงตัว ผมแนะนำให้ลองทานกับดอกโฮจิโซะ ในครั้งที่ 2 เพื่อให้รสเผ็ดของปลานั้นทำให้เราไม่รู้สึกมันไปในปากเป็นการเปลี่ยนรสชาติที่น่าสนใจครับ
ต่อมาเชฟเสิร์ฟทาชิอุโอะย่าง รับประทานกับ Fuki noto miso หรือมิโซะดอกfuki จานนี้ตอนแรกนึกว่าหนังจะไม่กรอบซะอีกแต่ทำออกมาได้ดีมากๆครับตัวเนื้อปลานุ่มและชุ่มฉ่ำหนังไม่เหนียวหรือไหม้เลย ผมแนะนำให้ลองทานปลาเปล่าๆสักนิดนึงและกินกับมิโซะที่มีรสหวานนำเผ็ดเขียวฉุนๆมีกลิ่นเฉพาะตัวก็อร่อยและเข้ากันได้ดีไม่หยอกเช่นกันครับ
จานต่อมาเชฟเสิร์ฟหน่อไม้สดหรือTakenokoจากคุมาโมโตะ มากับปลาฮอกเกะจากokhotsk โดยเสิร์ฟมาในรูปแบบของอาเกะดาชิ จานนี้ปรุงได้ตามมาตรฐานร้านแต่หากเทียบกับร้านไคเซกิดีๆแล้ว ผมค่อนข้างประทับใจจานอื่น ในวันนี้มากกว่าครับ
ชูโทโร่ คำนี้หั่นปลามาหนาพอสมควร ปลานั้นคุณภาพเหมาะสมกับราคาแต่เชฟบ่มไว้นานมากทำให้ปลามีความนุ่มและเข้มข้น คำนี้ปลาเนื้ออาจจะไม่มันมากแต่ก็ทำออกมาได้ดี ตัวข้าวของร้านนั้นใส่อากะชาริ ข้าวค่อนข้างปั้นยากเนื้อสัมผัสกรุบๆ แต่ค่อนข้างแฉะ ทำให้ในตอนต้นคอร์สอาจจะรู้สึกไม่ค่อย Enjoy ไปบ้างแต่ข้าวแบบนี้แหละในตอนปลายคอร์สจะอร่อยมากครับ
คำต่อมาเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของซูชิEzo mae หรือซากุระมัทซึ โดยเชฟเสิร์ฟมันมาในแบบซึเกะ รับประทานกับ negi shoga จานนี้นั้นมีรถที่เข้มข้นปลาเนื้อนุ่มมากเหมือนกับเนย ซึ่งพอรับประทานกับข้าวที่ค่อนข้างแข็งแล้วสร้างความสนุกสนานในปากได้อย่างยอดเยี่ยม จานนี้เป็นจานที่รสจัดพอสมควรครับอาจจะจัดไปหรือเปล่าสำหรับต้นคอร์ส
คำต่อมาเชฟเสิร์ฟปลานิชชิน โดยคำนี้เชฟไม่ได้ดองปลาเลยแต่รับประทานกับเยลลี่น้ำส้มสายชูที่ on top ด้านบนครับ คำนี้ปากคุณภาพยอดเยี่ยมมากครับเนื้อสดและนุ่มไม่มีกลิ่นคาวเยลลี่ด้านบนนั้นให้รสชาติที่เปรี้ยวมีความกรอบนิดๆเพิ่ม Texture ให้กับเนื้อปลาและคำนี้ได้อย่างน่าสนใจ เชฟใช้คำนี้ในการเบรครสชาติของคำก่อนๆและผสมผสานให้คอร์สนั้นมีความสมดุล โดยเชื่อมมันเข้ากับคำต่อไปอย่างหอยปีกนกที่รสอ่อนครับ
Hokkigai คำต่อมาเป็นหอยปีกนก จานนี้เนื้อหอยมีคุณภาพดีครับ โดยเชฟบั้งมันนิดๆทำให้เนื้อมีความนุ่มขึ้นแต่ยังคงความกรอบและไม่เหนียว เกลือและมะนาวที่ปรุงรสมาในคำนี้นั้นช่วยชูรสหวานของหอยได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นหนึ่งในคำที่อร่อยมากครับ
Kujira ส่วนunesuรมควัน รับประทานกับ ต้นหอม มัสตาร์ดญี่ปุ่น พริกสามสี จานนี้เป็น ซิกเนเจอร์ของเชฟทามุระ โดยต้องสั่งเพิ่ม เอาตามตรงนั้นมันเหมาะกับการแกล้มกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากๆครับ คำนี้นั้นเนื้อปลาวาฬหนังถูกบ้างมาและลวกก่อนนำไปรมควันทำให้มีความกรุบและไม่รู้สึกแข็งเหนียวมาก แต่ยังคงเหลือ Texture ให้เคี้ยวในปาก เนื้อปลาวาฬนั้นมีกลิ่นอ่อนๆซึ่งถูกทำให้อ่อนลงด้วยกลิ่นควันไม้เบาๆ เนื้อปลานี้ยิ่งเคี้ยวแล้วความอุมามิก็จะค่อยๆคลายตัวออกมา พอรับประทานกับของที่มีรสเผ็ดฉุนอย่างมัสตาร์ดและต้นหอมแล้วช่วยกลบกลิ่นของเนื้อปลาวาฬ เป็นจานที่ทำได้ดีอีกจานนึงครับ
คำต่อมาเป็นปลากิงกิโดยก่อนเสริฟ์เชฟนำไปอาบุรินิดนึงก่อนนำมาเสริฟ์ครับ ผมสังเกตหลายจานแล้วรวมถึงคำนี้คือพวกการย่างของที่นี้นั้นจะมีกลิ่นหอมจากการย่างแต่ไม่มีกลิ่นควัน คำนี้ปลาเนื้อกรอบแต่ไม่เเข็ง มันอ่อนๆนุ่ม พอรับประทานกับต้นหอมแล้วเข้ากันดีมากครับ
คำต่อมาเป็น กุ้งนะครับ โดยเชฟเสริฟ์มากับมันกุ้งย่างด้านใน กุ้งคุณภาพดีตามมาจราฐานร้าน มีมันกุ้งย่างส่งกลิ่นหอมอ่อนๆครับ
Uni และแน่นอนเมื่ออยู่ใน Hokkaido ย่อมต้องเป็นสายพันธุ์บาฟุน ในวันนี้ผมว่าUni คุณภาพโอเค แต่หากเทียบกับเกรดร้านและคำอื่นๆในวันนี้เเล้วคำนี้ดูจะดรอปลงไปสักหน่อย

อานาโกะ คำนี้เชฟเสริฟ์มาแบบอุ่น เนื้อปลาฟูนุ่ม รสข้าวที่เปรี้ยวตัดกับรสซอสหวานหอมกลิ่นผิวส้มเบาๆ เป็นคำที่ดีครับ
มากิของทางร้าน เป็น ทูน่าสับใส่ต้นหอม งา ทากวนหั่นเป็นเส้น ปริมาณที่ให้จุใจมากๆครับ
ซุปเป็น shiro miso รสเบาๆ
ไข่หวาน
#Score:
🍾Service: 8.25/10
🍽Food: 8/10
🤩WOW factor: 8.5/10
💰Value for money: 8/10
Total: 8.25/10
Visit : April-2024
🗺เเผนที่ :
https://maps.app.goo.gl/74y8JK2bVAMKJ6j49
⏰เวลาเปิดปิด: 6–10:30 PM วันอาทิตย์มีมื้อกลางวันด้วย, ปิดทุกวันจันทร์
💵ค่าเสียหาย: ~36,000 Yen
⌨️เว็บไซต์ร้าน:
https://www.tablecheck.com/en/shops/sushisai-wakichi/reserve
เราเป็นเพจรีวิวร้านอาหาร Fine dining แบบจริงใจและเจาะลึกทั้งในไทยทั่วโลก
ชอบช่วยกดไลค์ ใช่ช่วยกดเเชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้เรา #บอสพาชิม #eatliketheboss
Website: www.eatlikethebossth.com
InstaGram: @eatliketheboss (
https://goo.gl/DqzWfN )
FaceBook: บอสพาชิม (
https://goo.gl/gHPnnG)
Blogdit:
https://www.blockdit.com/eatliketheboss
Email : eatlikethebossth@gmail.com
[CR] บอสพาชิม in Hokkaido : Sushisai Wakichi (Sapporo,Japan)
Wakichi เคยได้รับ Michelin Star 2ดาว ในการจัดอันดับครั้งล่าสุดของ Hokkaido และ ได้คะแนน4.3 ดาว ใน Tabelog สูงเป็นอันดับสามใน Sapporo นี้คงเป็นอีกสาเหตุที่ไม่ควรพลาดร้านนี้ครับ
ในบรรดาร้านSushi ระดับสูงใน Hokkaido Tamura san นับเป็นเชฟที่พูดอังงกฤษได้มากที่สุดคนนึง ทำให้บรรยากาศในการรับประทานอาหารที่นี้ค่อนข้างสบายๆ อบอุ่นภายในร้านเล็กๆ 8ที่นั่งบริเวณ Maruyama koen เเห่งนี้ สำหรับลูกค้าต่างชาตินั้น ทางร้านมีสมุดภาพแนะนำวัตถุดิบต่างๆด้วยที่จะทำให้ชาวต่างชาติที่ไม่ใช่สายลึกสามารถเพลิดเพลินกับร้านนี้ได้ด้วย
Sushi ของ Tamura San นั้นทำมาได้ดีตามมารตราฐานร้าน ข้าวที่ใช้ผสมน้ำส้มสายชูแดง ตัวข้าวค่อนข้างแข็งและแฉะในตอนต้น ซึ่งจะค่อยๆดีขึ้นเมื่อคอร์สผ่านไป ที่ประทับใจเป็นพิเศษเห็นจะเป็นบรรดา Tsumami ที่มีลายเซ็นต์เฉพาะตัว อย่างจานไข่ตุ๋นใส่หอยนางรมและปูKoubako ที่ยังประทับใจจนถึงตอนนี้ จานนี้ตอนแรกคิดว่าจะมีรสหนักกว่านี้ครับแต่รสมันเบาเลยสามารถรับประทานได้อย่างง่ายๆครับรถมันปูอ่อนๆผสมผสานกับดาชิเป็นน้ำราดด้านบน ไข่ตุ๋นเนื้อนุ่มเบากลิ่นไข่ไม่แรงมากเน้น Texture และรสชาติของหอยนางรม สิ่งที่ประทับใจในชามนี้คือเชฟทำไข่ไม่สุกเกินไปค่อนข้างวอเตอร์รี่จนไม่กลบ Texture ของหอย ความหวานฉุนของวาซาบิที่ปิดท้ายนั่นทิ้ง After Test ความหวานไว้ในปากเป็นจานที่ดีมากครับ อร่อย
หรือจะเป็นซาชิมิHirame kombujime รับประทานกับซอสจากปลิงหนามดองเกลือหรือkonowata konoko นั้นก็เป็นอีกจานที่ทำออกมาได้น่าสนใจ จานนี้ปลาคุณภาพชั้น 1ครับปลาHirameชั้นดีเนื้อหนึบกรอบ ผมแนะนำให้รับประทานกับโชยุก่อน ที่นี่นั้นมีโชยุอยู่ 2 ชนิดในการใช้ซึ่งในจานนี้เชฟใช้โชว์อยู่ค่อนข้างอ่อนผมว่ามันขับรสหวานของปลาเนื้อขาวได้ดีเลยครับ ส่วนซอสปลิงหนามดองเกลือ มีรสที่เข้มข้นกว่าเค็ม และติดปลายเผ็ดนิดๆคล้ายกับชิโอะคาระ
อย่าพลาดที่จะสั่ง Add on อย่าง Kujira ที่เชฟใช้ส่วน Unesu นำมารมควันทำแฮม รับประทานกับต้นหอม มัสตาร์ดญี่ปุ่น และ shijimi คำนี้นั้นเนื้อปลาวาฬหนังถูกบ้างมาและลวกก่อนนำไปรมควันทำให้มีความกรุบและไม่รู้สึกแข็งเหนียวมาก แต่ยังคงเหลือ Texture ให้เคี้ยวในปาก เนื้อปลาวาฬนั้นมีกลิ่นอ่อนๆซึ่งถูกทำให้อ่อนลงด้วยกลิ่นควันไม้เบาๆ เนื้อปลานี้ยิ่งเคี้ยวแล้วความอุมามิก็จะค่อยๆคลายตัวออกมา พอรับประทานกับของที่มีรสเผ็ดฉุนอย่างมัสตาร์ดและต้นหอมแล้วช่วยกลบกลิ่นของเนื้อปลาวาฬ เป็นจานที่ทำได้ดีอีกจานนึงครับ
Chawamushi ใส่หอยนางรมและ ราดด้วยซอส Ankake จากปู kobako kani
จานนี้ตอนแรกคิดว่าจะมีรสหนักกว่านี้ครับแต่รสมันเบาเลยสามารถรับประทานได้อย่างง่ายๆครับรถมันปูอ่อนๆผสมผสานกับดาชิเป็นน้ำราดด้านบน ไข่ตุ๋นเนื้อนุ่มเบากลิ่นไข่ไม่แรงมากเน้น Texture และรสชาติของหอยนางรม สิ่งที่ประทับใจในชามนี้คือเชฟทำไข่ไม่สุกเกินไปค่อนข้างวอเตอร์รี่จนไม่กลบ Texture ของหอย ความหวานฉุนของวาซาบิที่ปิดท้ายนั่นทิ้ง After Test ความหวานไว้ในปากเป็นจานที่ดีมากครับ อร่อย
Tako Yawarakani จานนี้ของที่นี่นั้นมี Texture เป็นเอกลักษณ์ชัดเจนถ้าสังเกตจากรูปจะเห็น Texture เป็น 2 ส่วนคือผิวด้านนอกที่เป็นเยลลี่แต่ไม่เล็กกับแก่นต้องการที่กรอบแต่ไม่เหนียวลดซอสอ่อนๆเน้นรสเค็มจะโชยุเน้นชูความหวานของปลาหมึกยักษ์ เป็นอีกจานที่ทำได้ดีมากครับ
ซาซิมิในวันนี้เริ่มต้นด้วยปลาHirame kombujime รับประทานกับซอสจากปลิงหนามดองเกลือหรือkonowata konoko จานนี้ปลาคุณภาพชั้น 1ครับปลาHirameชั้นดีเนื้อหนึบกรอบ ผมแนะนำให้รับประทานกับโชยุก่อน ที่นี่นั้นมีโชยุอยู่ 2 ชนิดในการใช้ซึ่งในจานนี้เชฟใช้โชว์อยู่ค่อนข้างอ่อนผมว่ามันขับรสหวานของปลาเนื้อขาวได้ดีเลยครับ ส่วนซอสปลิงหนามดองเกลือ มีรสที่เข้มข้นกว่าเค็ม และติดปลายเผ็ดนิดๆคล้ายกับชิโอะคาระ
Hotate เชนเสิร์ฟมา2 รูปแบบ ในส่วนของซาซิมินั้นเสิร์ฟมากับเกลือจากเกาะอาวาจิและมะนาวครับ คำนี้เชฟบั้งที่ผิวเล็กน้อยทำให้เนื้อหอยเชลล์กรอบที่ผิวแต่นุ่มข้างใน มี Texture ที่แตกต่าง เกลือคุณภาพเยี่ยมและมะนาวญี่ปุ่นนั้นช่วยขับความหวานของหอยได้อย่างยอดเยี่ยม ทำออกมาได้ดีมากๆอีกเช่นกันครับ ในส่วนของไข่เชฟนำไปปรุงรสด้วยนำ้มันต้นหอมและโชยุ
จานต่อมาเป็นปลาKinmedai โดยเชฟนำไปย่างเบาๆบนถ่านไม้ เสิร์ฟมากับไดกอนโอโรชิ ดอกฮาน่าโฮจิโซะ และซอสพอนซึครับ
ดอกให้รสเผ็ด ปลาในจานนี้ก็ยังมีคุณภาพที่ยอดเยี่ยมเป็นหนึ่งในกิงกิที่อร่อยที่สุดที่ผมกินในรอบหลายปีเลยครับ ตัวเนื้อปลานั้นฉ่ำมีความมันหวานแต่เนื้อยังกรอบกรุบ ตัวซอสรสเปรี้ยวอ่อนๆค่อนข้างเบาทำให้ไม่กลบรสชาติของปลาหัวไชเท้าปูดด้านบนที่หวานนั้นเข้ากับซอสและเนื้อปลาได้อย่างลงตัว ผมแนะนำให้ลองทานกับดอกโฮจิโซะ ในครั้งที่ 2 เพื่อให้รสเผ็ดของปลานั้นทำให้เราไม่รู้สึกมันไปในปากเป็นการเปลี่ยนรสชาติที่น่าสนใจครับ
ต่อมาเชฟเสิร์ฟทาชิอุโอะย่าง รับประทานกับ Fuki noto miso หรือมิโซะดอกfuki จานนี้ตอนแรกนึกว่าหนังจะไม่กรอบซะอีกแต่ทำออกมาได้ดีมากๆครับตัวเนื้อปลานุ่มและชุ่มฉ่ำหนังไม่เหนียวหรือไหม้เลย ผมแนะนำให้ลองทานปลาเปล่าๆสักนิดนึงและกินกับมิโซะที่มีรสหวานนำเผ็ดเขียวฉุนๆมีกลิ่นเฉพาะตัวก็อร่อยและเข้ากันได้ดีไม่หยอกเช่นกันครับ
จานต่อมาเชฟเสิร์ฟหน่อไม้สดหรือTakenokoจากคุมาโมโตะ มากับปลาฮอกเกะจากokhotsk โดยเสิร์ฟมาในรูปแบบของอาเกะดาชิ จานนี้ปรุงได้ตามมาตรฐานร้านแต่หากเทียบกับร้านไคเซกิดีๆแล้ว ผมค่อนข้างประทับใจจานอื่น ในวันนี้มากกว่าครับ
ชูโทโร่ คำนี้หั่นปลามาหนาพอสมควร ปลานั้นคุณภาพเหมาะสมกับราคาแต่เชฟบ่มไว้นานมากทำให้ปลามีความนุ่มและเข้มข้น คำนี้ปลาเนื้ออาจจะไม่มันมากแต่ก็ทำออกมาได้ดี ตัวข้าวของร้านนั้นใส่อากะชาริ ข้าวค่อนข้างปั้นยากเนื้อสัมผัสกรุบๆ แต่ค่อนข้างแฉะ ทำให้ในตอนต้นคอร์สอาจจะรู้สึกไม่ค่อย Enjoy ไปบ้างแต่ข้าวแบบนี้แหละในตอนปลายคอร์สจะอร่อยมากครับ
คำต่อมาเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของซูชิEzo mae หรือซากุระมัทซึ โดยเชฟเสิร์ฟมันมาในแบบซึเกะ รับประทานกับ negi shoga จานนี้นั้นมีรถที่เข้มข้นปลาเนื้อนุ่มมากเหมือนกับเนย ซึ่งพอรับประทานกับข้าวที่ค่อนข้างแข็งแล้วสร้างความสนุกสนานในปากได้อย่างยอดเยี่ยม จานนี้เป็นจานที่รสจัดพอสมควรครับอาจจะจัดไปหรือเปล่าสำหรับต้นคอร์ส
คำต่อมาเชฟเสิร์ฟปลานิชชิน โดยคำนี้เชฟไม่ได้ดองปลาเลยแต่รับประทานกับเยลลี่น้ำส้มสายชูที่ on top ด้านบนครับ คำนี้ปากคุณภาพยอดเยี่ยมมากครับเนื้อสดและนุ่มไม่มีกลิ่นคาวเยลลี่ด้านบนนั้นให้รสชาติที่เปรี้ยวมีความกรอบนิดๆเพิ่ม Texture ให้กับเนื้อปลาและคำนี้ได้อย่างน่าสนใจ เชฟใช้คำนี้ในการเบรครสชาติของคำก่อนๆและผสมผสานให้คอร์สนั้นมีความสมดุล โดยเชื่อมมันเข้ากับคำต่อไปอย่างหอยปีกนกที่รสอ่อนครับ
Hokkigai คำต่อมาเป็นหอยปีกนก จานนี้เนื้อหอยมีคุณภาพดีครับ โดยเชฟบั้งมันนิดๆทำให้เนื้อมีความนุ่มขึ้นแต่ยังคงความกรอบและไม่เหนียว เกลือและมะนาวที่ปรุงรสมาในคำนี้นั้นช่วยชูรสหวานของหอยได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นหนึ่งในคำที่อร่อยมากครับ
Kujira ส่วนunesuรมควัน รับประทานกับ ต้นหอม มัสตาร์ดญี่ปุ่น พริกสามสี จานนี้เป็น ซิกเนเจอร์ของเชฟทามุระ โดยต้องสั่งเพิ่ม เอาตามตรงนั้นมันเหมาะกับการแกล้มกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากๆครับ คำนี้นั้นเนื้อปลาวาฬหนังถูกบ้างมาและลวกก่อนนำไปรมควันทำให้มีความกรุบและไม่รู้สึกแข็งเหนียวมาก แต่ยังคงเหลือ Texture ให้เคี้ยวในปาก เนื้อปลาวาฬนั้นมีกลิ่นอ่อนๆซึ่งถูกทำให้อ่อนลงด้วยกลิ่นควันไม้เบาๆ เนื้อปลานี้ยิ่งเคี้ยวแล้วความอุมามิก็จะค่อยๆคลายตัวออกมา พอรับประทานกับของที่มีรสเผ็ดฉุนอย่างมัสตาร์ดและต้นหอมแล้วช่วยกลบกลิ่นของเนื้อปลาวาฬ เป็นจานที่ทำได้ดีอีกจานนึงครับ
คำต่อมาเป็นปลากิงกิโดยก่อนเสริฟ์เชฟนำไปอาบุรินิดนึงก่อนนำมาเสริฟ์ครับ ผมสังเกตหลายจานแล้วรวมถึงคำนี้คือพวกการย่างของที่นี้นั้นจะมีกลิ่นหอมจากการย่างแต่ไม่มีกลิ่นควัน คำนี้ปลาเนื้อกรอบแต่ไม่เเข็ง มันอ่อนๆนุ่ม พอรับประทานกับต้นหอมแล้วเข้ากันดีมากครับ
คำต่อมาเป็น กุ้งนะครับ โดยเชฟเสริฟ์มากับมันกุ้งย่างด้านใน กุ้งคุณภาพดีตามมาจราฐานร้าน มีมันกุ้งย่างส่งกลิ่นหอมอ่อนๆครับ
Uni และแน่นอนเมื่ออยู่ใน Hokkaido ย่อมต้องเป็นสายพันธุ์บาฟุน ในวันนี้ผมว่าUni คุณภาพโอเค แต่หากเทียบกับเกรดร้านและคำอื่นๆในวันนี้เเล้วคำนี้ดูจะดรอปลงไปสักหน่อย
อานาโกะ คำนี้เชฟเสริฟ์มาแบบอุ่น เนื้อปลาฟูนุ่ม รสข้าวที่เปรี้ยวตัดกับรสซอสหวานหอมกลิ่นผิวส้มเบาๆ เป็นคำที่ดีครับ
มากิของทางร้าน เป็น ทูน่าสับใส่ต้นหอม งา ทากวนหั่นเป็นเส้น ปริมาณที่ให้จุใจมากๆครับ
ซุปเป็น shiro miso รสเบาๆ
ไข่หวาน
#Score:
🍾Service: 8.25/10
🍽Food: 8/10
🤩WOW factor: 8.5/10
💰Value for money: 8/10
Total: 8.25/10
Visit : April-2024
🗺เเผนที่ :https://maps.app.goo.gl/74y8JK2bVAMKJ6j49
⏰เวลาเปิดปิด: 6–10:30 PM วันอาทิตย์มีมื้อกลางวันด้วย, ปิดทุกวันจันทร์
💵ค่าเสียหาย: ~36,000 Yen
⌨️เว็บไซต์ร้าน: https://www.tablecheck.com/en/shops/sushisai-wakichi/reserve
เราเป็นเพจรีวิวร้านอาหาร Fine dining แบบจริงใจและเจาะลึกทั้งในไทยทั่วโลก
ชอบช่วยกดไลค์ ใช่ช่วยกดเเชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้เรา #บอสพาชิม #eatliketheboss
Website: www.eatlikethebossth.com
InstaGram: @eatliketheboss (https://goo.gl/DqzWfN )
FaceBook: บอสพาชิม (https://goo.gl/gHPnnG)
Blogdit: https://www.blockdit.com/eatliketheboss
Email : eatlikethebossth@gmail.com
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น