Xiaomi 14T Pro เป็นการต่อยอดความสำเร็จของ Xiaomi 13T Pro สมาร์ทโฟนระดับกลาง-บน ที่ให้ประสบการณ์ในเรื่องของภาพถ่าย Leica อันเป็นเอกลักษณ์ โดยรุ่นล่าสุดนี้มาพร้อมกับเลนส์ Leica ตัวใหม่และ Advanced AI รวมถึงเทคโนโลยีสุดล้ำอย่างชิป MediaTek Dimensity 9300+ ชาร์จเร็ว 120W HyperCharge + 50W Wireless HyperCharge และหน้าจอสุดล้ำ 144Hz CrystalRes AI Display


Leica Summilux และ Light Fusion 900 คืออะไร ?

จุดเด่นของ Leica Summilux อยู่ทั้งใน Xiaomi 14T Pro และ Xiaomi 14T โดยเป็นชื่อเลนส์ในตระกูล Leica โดยมีจุดเด่นอยู่ที่คุณสมบัติรูรับแสงที่สูงมาก (Summilux => Highest Light) โดยสำหรับ Xiaomi 14T Pro มาพร้อมกับรูรับแสง f/1.62 ที่กว้างมากขึ้น ช่วยเพิ่มการรับแสงได้ถึง 36%

ข้อดี : ช่วยให้สามารถถ่ายรูปในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น และการที่รูรับแสงกว้างขึ้นช่วยให้ชัดตื้นได้ดีกว่า สามารถแยกวัตถุออกจากพื้นหลังได้ดีขึ้น เบลอได้สวยกว่ามากกว่าเดิม และเมื่อแสงเข้าได้มากขึ้นจึงทำให้ชัตเตอร์เร็วขึ้น ลดการเบลอจากการสั่นของกล้อง

นอกจากเลนส์ที่ดีแล้วยังมาพร้อมกับ Light Fusion 900 (สำหรับ Xiaomi 14T Pro) เซ็นเซอร์รับภาพที่ออกแบบมาเฉพาะ ด้วยขนาด 1/1.31” และเทคโนโลยี Dual ISO Fusion Max ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ให้ช่วงไดนามิกอยู่ที่ 13.5EV เก็บรายละเอียดเรื่องแสงและเงาได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ข้อดี : ช่วยให้ถ่าย HDR ในสภาพแสงที่ซับซ้อน การถ่ายรูปที่อยากให้มีทั้งแสงและเงาในภาพเดียว ช่วยเก็บรายละเอียดของเงาได้ดีขึ้น ผู้ใช้งานสามารถเห็นภาพ Real-time HDR Preview ได้ก่อนที่จะกดถ่ายภาพ



ตัวเดียวจบถ่ายครอบคลุมทุกระยะ

Xiaomi 14T Pro มาพร้อมกับเลนส์ Leica สามเลนส์ ครอบคลุมทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 15 มม., 23 มม. และ 60 มม. โดยจะมีการใช้ประโยชน์จาก In-Sensor-Zoom ช่วยให้สามารถครอบตัดระยะภาพ และสามารถปรับระยะได้หลากหลาย ให้สามารถถ่ายใช้งานได้ครอบคลุมทุกช่วงในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น

- 15 มม. เหมาะสำหรับการเก็บภาพมุมกว้างพิเศษ ภาพวิว หรือพื้นที่แคบ
- 23 มม. เป็นระยะมาตรฐานคล้ายกับระยะกล้องสมาร์ทโฟนทั่วไป
- 46 มม. เน้นการถ่ายรูปแนวสตรีท หรือถ่ายคนควบคู่กับวิวพื้นหลัง
- 60 มม. เน้นการถ่ายบุคคลโดยเฉพาะ ให้เด่นออกมาจากพื้นหลัง
- 120 มม. อันนี้เป็นเทเลโฟโต้สำหรับการถ่ายแบบระยะไกลหรือซูมนั่นเอง

จะเห็นได้ว่าถึงจะมีเลนส์ Leica สามเลนส์ แต่การใช้งานก็ครอบคลุม เรียกได้ว่าพกสมาร์ทโฟนตัวเดียวจบเที่ยวทั่วไทย นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายรูปได้ดีในสภาวะแสงน้อย ถ่ายเครื่องเดียวจบใช้อัปโหลดได้เลย เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เหมาะกับคนเน้นถ่ายภาพจริงจัง แต่ทั้งนี้การใช้งานก็ยังคงง่ายเหมือนเดิม ไม่ต้องกังวล

หมายเหตุ : ภาพทั้งหมดในรีวิวนี้ เป็นภาพที่จบหลังกล้อง Xiaomi 14T Pro แบบที่ไม่ได้ปรับแต่งใด ๆ โดยจะมีเพียงแค่การย่อขนาดไฟล์ให้เล็กลง เพื่อที่จะทำการอัปโหลดลง Pantip เท่านั้น









15 มม. เหมาะสำหรับการเก็บภาพมุมกว้างพิเศษ ภาพวิว หรือพื้นที่แคบ


















35 มม. เป็นระยะมาตรฐานคล้ายกับระยะกล้องสมาร์ทโฟนทั่วไป แต่จะแคบมาอีกนิด










60 มม. เน้นการถ่ายบุคคลโดยเฉพาะ ให้เด่นออกมาจากพื้นหลัง










75 มม. เน้นการถ่ายบุคคลโดยเฉพาะ เน้นไปที่รูปครึ่งตัวขึ้นไป


















กล้องหน้า 32MP ปรับผิวเนียนได้ รองรับ HDR และฟิลเตอร์




สองโทนสี Leica ชอบแบบไหนเลือกแบบนั้น!

ช่วงนี้หลายคนฮิตเอากล้องดิจิทัลในอดีตมาถ่ายรูป สาเหตุหลักก็คือชอบโทนสีที่เป็นเอกลักษณ์ของรุ่นนั้น ๆ และสำหรับ Xiaomi 14T Series ก็เช่นเดียวกัน เพราะมีการทำงานร่วมกับ Leica เลยได้ DNA ของสไตล์ Leica มาแบบจัดเต็ม โดยมีให้เลือกทั้ง Leica Vibrant (สดชื่นแจ่มใส) และ Leica Authentic (เป็นธรรมชาติและสมจริง) ใครชอบแนวสไตล์แบบดั้งเดิมหรือแบบประยุกต์กับศาสตร์ดิจิทัลสมัยใหม่ก็เลือกได้



นอกจากสไตล์การถ่ายรูปอย่าง Leica Vibrant และ Leica Authentic เรายังสามารถเลือก Leica Filters อันเป็นเอกลักษณ์ได้อีก 6 แบบ ไม่ว่าจะเป็น Leica Vivid, Leica Natural, Leica Black & White Natural, Leica Black & White High Contrast, Leica Sepia และ Leica Blue เรียกได้ว่าทั้งสไตล์และฟิลเตอร์ ถ้าหากถ่ายออกมายังดูไม่เป็น Leica อีกก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงแล้ว (ฮา)











Xiaomi AISP อัลกอริทึมที่อยู่เบื้องหลัง

เลนส์ดี-เซ็นเซอร์ดี-ระบบภาพดี แต่ถ้าอยู่ในยุคปัจจุบัน AI ก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้ภาพสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น Xiaomi AISP เป็นระบบอัลกอริทึมของ Xiaomi 14T Series ที่ประกอบด้วยโมดูลหลักอย่าง FusionLM, ToneLM, ColorLM และ PortraitLM ผสานเข้ากับ Xiaomi Hyper OS ที่ดึงประสิทธิภาพของ CPU, GPU, NPU และ ISP ออกมาในการช่วยประมวลผลภาพ คือไม่เพียงแค่ภาพถ่ายแต่ยังรวมถึง VDO อีกด้วย



Advanced AI ยุคนี้ของมันต้องมี!

2024 หากใช้สมาร์โฟนไม่มี AI คงเป็นเรื่องแปลกแย่ และทาง Xiaomi ก็จับมือหมดตั้งแต่ Google และ Microsoft Azure เพื่อยกระดับการใช้งาน AI ในเรื่องของการใช้งานบริการผ่าน Cloud ในการค้นหาทั้งเสียง รูปภาพ ข้อความ วิดีโอ (Gemini Assistant และ Circle to Search มีแน่นอนรออัปเดตผ่าน OTA) 

และนอกจากนี้ AI ของทาง Xiaomi เองก็มีให้ด้วยผ่าน AI Notes, AI Recorder, AI Interpreter, AI Image Edit, AI Portrait และ AI Film แต่ตรงนี้ก็น่าเสียดายที่ยังไม่ได้ลอง เพราะสมาร์ทโฟนพึ่งเปิดตัวต้องรอการอัปเดตผ่าน OTA ซึ่งคุณสมบัติบางส่วนเท่าที่พอได้สืบจาก Xiaomi มาก็จะมีประมาณนี้

- AI Message Assistant: ผู้ช่วยเขียนข้อความ และเรียบเรียงใหม่ได้หลายสไตล์
- AI Recorder: ถอดเสียงเป็นข้อความ สรุปข้อมูลบันทึกเสียง และรองรับการแปล
- AI Notes: สรุปข้อมูลจากข้อความ องค์ประกอบ โครงสร้างเนื้องหา การแก้ไข และรองรับการแปล
- AI Video Subtitles: สร้างคำบรรยายแลลเรียลไทม์ และรองรับการแปล
- AI Portrait: สร้างรูปอวตาลดิจิทัลจากรูปถ่าย
- AI Flim: สร้างคลิปสั้นที่ตัดต่อจากไฟล์ในเครื่อง แต่ใหม่ตรงมี AI จดจำวัตถุและการเคลื่อนไหว

เรื่องน่าตื่นเต้นคือ AI Interpreter หรือก็คืนวุ้นแปลภาษาส่วนตัว ภายหลังการเปิดตัวจะรองรับ 12 ภาษา ได ้แก่ จีน, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, สเปน, โปรตุเกส, อิตาลี, เยอรมัน, รัสเซีย, ญี่ปุ่น, เกาหลี, ฮินดีและอินโดนีเซีย ส่วนภาษาไทย, มาเลย์ เวียดนามและฟิลิปินส์จะอยู่ในการอัปเดต OTA ลำดับถัดไป



ไม่ใช่แค่กล้อง แต่ยังแรงทั้งเครื่อง

Xiaomi 14T Pro มาพร้อมกับชิป MediaTek Dimensity 9300+ ชิปเรือธงที่พึ่งเปิดตัวในปีนี้ มีการเพิ่มความเร็วเป็น 3.4GHz และอัปเกรดความสามารถ AI ให้รองรับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) เพื่อเอามาใช้งานร่วมกับ Advanced AI ที่จะมาถึงในเร็ว ๆ นี้ เรียกได้ว่าซื้อครั้งเดียวได้ตัวแรงใช้กันไปยาว ๆ 

ถ่ายรูปกันเพลินแบบไม่ต้องกลัวแบตหมด เพราะมาพร้อมกับ 120W HyperCharge + 50W Wireless HyperCharge (อันนี้ไม่เพียงแค่สายเล่นเกม แต่หลายคนชอบมากเพราะชาร์จเร็วทันใจ) ส่วนหน้าจอก็มาแบบสุดล้ำ 144Hz CrystalRes AI Display เอาไว้ชื่นชมและแต่งรูปที่ถ่ายมากันได้แบบฟิน ๆ กันไปเลย



สรุป

Xiaomi 14T Series ยังคงเน้นไปที่กล้อง Leica อันเป็นเอกลักษณ์เช่นเคย เพราะกล้องสมาร์ทโฟนเลยคำว่าสวยไปเยอะแล้ว แต่การถ่ายแต่ละรูปจำเป็นต้องมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น หากคุณชอบโทนสีของ Leica และเลนส์ในแบบ Summilux ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีมากในการถ่ายรูป และสำหรับรุ่น Xiaomi 14T Pro ก็ให้มาสุดทั้งเลนส์ Leica Summilux และเซ็นเซอร์ Light Fusion 900 ผนวกเข้ากับอัลกอริทึ่ม Xiaomi AISP ออกมาเป็น Leica Photography ที่สมบูรณ์