ในวรรณกรรม "Apt Pupil" ของสตีเฟน คิง เขียนถึงความสัมพันธ์อันพิลึกพิลั่นระหว่างตาเฒ่าเคิร์ต ดุสแซนเดอร์ ตาเฒ่าผู้ที่พยายามหลบหนีเงามืดจากอดีตที่น่าสะพรึง กับทอดด์ บาวเดน เด็กหนุ่มหัวดี ผู้ที่เติบโตในโลกใหม่ มีครอบครัวอบอุ่น และมีการศึกษาดี ทอดด์ได้รับมอบหมายจากคุณครูให้เขียนรายงานในวิชาประวัติศาสตร์ บวกกับตัวเจ้ามีความฝันอยากเป็นนักสืบเอกชน ทำให้เจ้าตัวอยากได้ข้อมูลเด็ดๆที่อยู่นอกเหนือตำราเรียน เลยสืบและติดตามชีวิตของตาเฒ่าคนหนึ่งในหมู่บ้านที่ผิวเผินใช้ชีวิตอย่างสงบและสันโดษ
แล้วเด็กหนุ่มได้ติดตามชีวิตของตาเฒ่าทำให้เขาได้ค้นพบตัวตนที่แท้จริงของดุสแซนเดอร์ ทอดด์ได้ใช้วิธีการบังคับเพื่อให้ผู้เฒ่าเล่าเหตุการณ์ในค่ายกักกันอย่างละเอียดเพื่อแลกกับการเก็บความลับของเขา และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่บิดเบี้ยว
การเล่าถึงอดีตของดุสแซนเดอร์ไม่เพียงแต่ปลุกปีศาจในตัวเขาขึ้นมาอีกครั้ง แต่ยังแพร่เชื้อความรุนแรงและความโหดร้ายไปสู่ทอดด์ เด็กหนุ่มผู้ซึ่งค่อยๆเสพติดความรุนแรงโดยไม่รู้ตัว ทั้งสองคนกลายเป็นเงาสะท้อนของกันและกัน ติดอยู่ในคุกที่สร้างจากความเชื่อและความมืดมนที่ค่อย ๆ กลืนกินพวกเขาอย่างช้า ๆ และเรื่องนี้จบด้วยโศกนาฏกรรมอันแสนเศร้า และน่าเวทนายิ่งนัก…
#บทเรียนที่ได้จากการอ่านวรรณกรรมเล่มนี้สอนเราอะไรบ้าง???
หลังจากอ่าน "Apt Pupil" ผมตระหนักว่าตัวตนของเราได้รับการหล่อหลอมจากสิ่งแวดล้อมที่เราเสพเข้าไปโดยไม่รู้ตัว หากเราถูกล้อมรอบด้วยสิ่งที่ดี เราก็จะได้รับผลกระทบเชิงบวก แต่ในทางกลับกัน ถ้าสิ่งที่เราเสพ มันเป็น Toxic ทั้งทัศคติ ความเชื่อ ค่านิยมที่บิดเบี้ยว ตัวตนของเราจะค่อย ๆ ถูกชักนำให้จมดิ่งลงสู่ความมืดมนเช่นเดียวกับตัวละครในวรรณกรรมเหล่านี้ครับ
และยิ่งไปกว่านั้น ผมได้ตระหนักว่าการเป็นผู้ปกครองในโลกยุคปัจจุบันเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก เราจำเป็นต้องสังเกตพฤติกรรม และใส่ใจลูก ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้พวกเขาถูกโลกเสมือนจริง หรือสื่อต่างๆที่ไม่ได้รับการกรองเข้าครอบงำ เพราะเด็ก ๆ มีแนวโน้มที่จะเลียนแบบสิ่งที่พวกเขาเห็น ในสิ่งที่พวกเขากำลังติดตาม และหากพวกเขาไม่มีภูมิคุ้มกันที่ดีพอ หรือมี self control ที่ต่ำ (อย่าว่าแต่เด็กเลย ผู้ใหญ่อย่างเรายังต้องฝึกอย่างหนัก) ก็อาจพลาดพลั้งเข้าสู่เส้นทางที่ผิดได้…
#แล้วตาเฒ่าเคิร์ตดุสแซนเดอร์ในโลกวรรณกรรมเป็นใครในโลกความเป็นจริง!!! คำถามนี้น่าคิด???
ตาเฒ่าเคิร์ต ดุสแซนเดอร์ในโลกความเป็นจริงอาจมาในรูปแบบของสื่อต่างๆ เกมบางเกม หรืออยู่ในตัวบุคคลจริงๆ ที่ดูไม่เป็นพิษภัยในช่วงแรก แต่เมื่อได้เปิดโอกาสให้สิ่งเหล่านี้เข้ามาใกล้ชิดมากเกินไป มันจะค่อยๆแทรกซึมจนเกิดเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมที่ก้าวร้าวและมีความรุนแรงขึ้น
#แล้วจะรับมืออย่างไร
เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ผมไม่ได้ห้ามให้ลูกๆของเราตัดขาดจากสิ่งเหล่านั้นครับเพียงอยากให้เห็นว่า
ในความเป็นจริงๆ เมื่อลูกๆของเราเติบโต พวกเขาต้องเผชิญกับสิ่งเหล่านี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง สิ่งที่เราทำได้คือ “การเตรียมพร้อม” สร้างภูมิคุ้มกัน และให้ความอบอุ่นในครอบครัว ให้บ้านเป็นพื้นที่ปลอดภัยของลูกๆ ให้บ้านเป็นพื้นที่เยียวยาตนเองเมื่อพวกเขาต้องเผชิญกับความท้าทายจากโลกภายนอก
แน่นอนว่าเราในฐานะที่เป็นผู้ปกครองของเด็กๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องฝึกการฟังเสียง voice ที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสียง noice ฝึกการสังเกตพฤติกรรมของลูกๆที่เปลี่ยนไปอย่างใกล้ชิดแบบเนียนๆ ยิ่งมีกิจกรรมร่วมกันเพื่อให้มีช่วงเวลาของการ Dialogue มีการ Deep listening ของกันและกัน จะยิ่งดีเพื่อให้เกิดความใกล้ชิด ความไว้ใจ ความเชื่อใจ และมอบความรู้สึกที่ปลอดภัย
เพราะที่สุดแล้ว เราทุกคนต่างต้องการใครสักคนที่พร้อมจะรับฟัง เข้าใจ และยืนอยู่เคียงข้างในทุกช่วงของชีวิต จริงไหมครับ ❤️❤️
หมายเหตุ : คุกของเคิร์ต ดุสแซนเดอร์ อดีตผู้คุมค่ายกักกันนาซี และเป็นอาชญากรสงครามนั้น ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นจากเหล็กกล้าหรือกำแพงที่สูงชัน หากแต่สร้างขึ้นจากกาลเวลาที่หล่อหลอม และล่ามอิสราภาพของเขาไว้ตลอดชีวิต คุกของตาเฒ่าเคิร์ต ดุสแซนเดอร์นี้มันลึกลับในอยู่จิตสำนึก และซับซ้อนกว่าคุกใด ๆ มันน่ากลัวกว่าคุกที่เคย “กักขังแอนดี้ในชอว์แชงค์” เสียอีก
รีวิวหนังสือโดยริฎวาน ศอลิห์วงศ์สกุล
รีวิวหนังสือ Apt Pupil ของสตีเฟน คิง
แล้วเด็กหนุ่มได้ติดตามชีวิตของตาเฒ่าทำให้เขาได้ค้นพบตัวตนที่แท้จริงของดุสแซนเดอร์ ทอดด์ได้ใช้วิธีการบังคับเพื่อให้ผู้เฒ่าเล่าเหตุการณ์ในค่ายกักกันอย่างละเอียดเพื่อแลกกับการเก็บความลับของเขา และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่บิดเบี้ยว
การเล่าถึงอดีตของดุสแซนเดอร์ไม่เพียงแต่ปลุกปีศาจในตัวเขาขึ้นมาอีกครั้ง แต่ยังแพร่เชื้อความรุนแรงและความโหดร้ายไปสู่ทอดด์ เด็กหนุ่มผู้ซึ่งค่อยๆเสพติดความรุนแรงโดยไม่รู้ตัว ทั้งสองคนกลายเป็นเงาสะท้อนของกันและกัน ติดอยู่ในคุกที่สร้างจากความเชื่อและความมืดมนที่ค่อย ๆ กลืนกินพวกเขาอย่างช้า ๆ และเรื่องนี้จบด้วยโศกนาฏกรรมอันแสนเศร้า และน่าเวทนายิ่งนัก…
#บทเรียนที่ได้จากการอ่านวรรณกรรมเล่มนี้สอนเราอะไรบ้าง???
หลังจากอ่าน "Apt Pupil" ผมตระหนักว่าตัวตนของเราได้รับการหล่อหลอมจากสิ่งแวดล้อมที่เราเสพเข้าไปโดยไม่รู้ตัว หากเราถูกล้อมรอบด้วยสิ่งที่ดี เราก็จะได้รับผลกระทบเชิงบวก แต่ในทางกลับกัน ถ้าสิ่งที่เราเสพ มันเป็น Toxic ทั้งทัศคติ ความเชื่อ ค่านิยมที่บิดเบี้ยว ตัวตนของเราจะค่อย ๆ ถูกชักนำให้จมดิ่งลงสู่ความมืดมนเช่นเดียวกับตัวละครในวรรณกรรมเหล่านี้ครับ
และยิ่งไปกว่านั้น ผมได้ตระหนักว่าการเป็นผู้ปกครองในโลกยุคปัจจุบันเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก เราจำเป็นต้องสังเกตพฤติกรรม และใส่ใจลูก ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้พวกเขาถูกโลกเสมือนจริง หรือสื่อต่างๆที่ไม่ได้รับการกรองเข้าครอบงำ เพราะเด็ก ๆ มีแนวโน้มที่จะเลียนแบบสิ่งที่พวกเขาเห็น ในสิ่งที่พวกเขากำลังติดตาม และหากพวกเขาไม่มีภูมิคุ้มกันที่ดีพอ หรือมี self control ที่ต่ำ (อย่าว่าแต่เด็กเลย ผู้ใหญ่อย่างเรายังต้องฝึกอย่างหนัก) ก็อาจพลาดพลั้งเข้าสู่เส้นทางที่ผิดได้…
#แล้วตาเฒ่าเคิร์ตดุสแซนเดอร์ในโลกวรรณกรรมเป็นใครในโลกความเป็นจริง!!! คำถามนี้น่าคิด???
ตาเฒ่าเคิร์ต ดุสแซนเดอร์ในโลกความเป็นจริงอาจมาในรูปแบบของสื่อต่างๆ เกมบางเกม หรืออยู่ในตัวบุคคลจริงๆ ที่ดูไม่เป็นพิษภัยในช่วงแรก แต่เมื่อได้เปิดโอกาสให้สิ่งเหล่านี้เข้ามาใกล้ชิดมากเกินไป มันจะค่อยๆแทรกซึมจนเกิดเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมที่ก้าวร้าวและมีความรุนแรงขึ้น
#แล้วจะรับมืออย่างไร
เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ผมไม่ได้ห้ามให้ลูกๆของเราตัดขาดจากสิ่งเหล่านั้นครับเพียงอยากให้เห็นว่า
ในความเป็นจริงๆ เมื่อลูกๆของเราเติบโต พวกเขาต้องเผชิญกับสิ่งเหล่านี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง สิ่งที่เราทำได้คือ “การเตรียมพร้อม” สร้างภูมิคุ้มกัน และให้ความอบอุ่นในครอบครัว ให้บ้านเป็นพื้นที่ปลอดภัยของลูกๆ ให้บ้านเป็นพื้นที่เยียวยาตนเองเมื่อพวกเขาต้องเผชิญกับความท้าทายจากโลกภายนอก
แน่นอนว่าเราในฐานะที่เป็นผู้ปกครองของเด็กๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องฝึกการฟังเสียง voice ที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสียง noice ฝึกการสังเกตพฤติกรรมของลูกๆที่เปลี่ยนไปอย่างใกล้ชิดแบบเนียนๆ ยิ่งมีกิจกรรมร่วมกันเพื่อให้มีช่วงเวลาของการ Dialogue มีการ Deep listening ของกันและกัน จะยิ่งดีเพื่อให้เกิดความใกล้ชิด ความไว้ใจ ความเชื่อใจ และมอบความรู้สึกที่ปลอดภัย
เพราะที่สุดแล้ว เราทุกคนต่างต้องการใครสักคนที่พร้อมจะรับฟัง เข้าใจ และยืนอยู่เคียงข้างในทุกช่วงของชีวิต จริงไหมครับ ❤️❤️
หมายเหตุ : คุกของเคิร์ต ดุสแซนเดอร์ อดีตผู้คุมค่ายกักกันนาซี และเป็นอาชญากรสงครามนั้น ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นจากเหล็กกล้าหรือกำแพงที่สูงชัน หากแต่สร้างขึ้นจากกาลเวลาที่หล่อหลอม และล่ามอิสราภาพของเขาไว้ตลอดชีวิต คุกของตาเฒ่าเคิร์ต ดุสแซนเดอร์นี้มันลึกลับในอยู่จิตสำนึก และซับซ้อนกว่าคุกใด ๆ มันน่ากลัวกว่าคุกที่เคย “กักขังแอนดี้ในชอว์แชงค์” เสียอีก
รีวิวหนังสือโดยริฎวาน ศอลิห์วงศ์สกุล