รีวิวนี้เป็นรีวิวที่ใช้เวลาเก็บข้อมูลนานมาก เพราะใช้เวลาทดลองใช้แต่ละตัวอย่างน้อย 1 เดือน (แต่บางตัวก็มีเหตุให้ใช้ไม่ถึงเดือน)
ข้อมูลเบื้องต้นของ จขกท เพื่อการอ่านรีวิวแบบไม่เอ๊ะ
- ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้น ไม่ได้รับการสปอนเซอร์
- ผิว จขกท คือ ผิวผู้หญิงอายุ 43 ปี สภาพผิวธรรมดา-แห้ง
- ชีวิตประจำวัน ส่วนใหญ่ไม่โดนแดด เพราะทำงานที่บ้าน
- ทากันแดดตัวบ้าง แต่ไม่ได้ทาทุกวัน
เริ่มกันเลยจ้า
เอาเนื้อผลิตภัณฑ์แต่ละตัวมาให้ดูกันก่อนน้า
1. Boots Body Serum สูตร Niacinamide Pro-Retinol
สูตรนี้ซื้อเพราะเห็นโปร 1 แถม 1 และเห็นเป็น Retinol ก็เลยอยากเอามาทาเท้า เพราะช่วงนั้นเท้าแห้งและกร้านมาก ซึ่งผลลัพธ์ ส่วนตัวพอใจมาก ความแห้งกร้านลดลงตั้งแต่ประมาณ 10 วันแรกที่ใช้เลย แล้วชอบตรงที่ทาเท้าเสร็จ นวดๆ ซัก 10-15 นาที เดินต่อได้แบบไม่เหนอะพื้น แต่ในเรื่องของความกระจ่างใสขึ้น ก็ยังไม่ชัดเท่าไหร่ (เพราะที่เท้ามีรอยคล้ำจากรอยหูคีบรองเท้าแตะ) ซึ่งจากตอนนั้นที่ใช้ไปเดือนกว่าๆ ก็ยังเหลือรอยอยู่ แต่โดยรวมให้อภัยได้ เพราะ ผิวเท้าเนียนขึ้น นุ่มขึ้นจริง และ ฟิลลิ่งหลังทาดีมาก ไม่เหนอะหนะ ซึมผิวดี และ กลิ่นหอมนุ่มนวลถูกจริตมากๆ
Texture : เจลกึ่งเซรั่ม
ถูกใจ : ซึมผิวง่าย สบายผิว กลิ่นหอมติดผิวดี
ยังไม่ถูกใจ : ถ้าทาตัว ความชุ่มชื่นอาจยังไม่พอสำหรับคนผิวแห้ง ผลลัพธ์เรื่องกระจ่างใสถือว่ายังไม่ชัด
ให้คะแนน 8/10 ( หมด จะซื้อซ้ำ เพราะชอบใช้ทาเท้ามาก)
ขนาด 200 มล. ราคา 135 บาท
2. Vaseline Pro Derma สูตร 5 for Rough Skin
ขวดนี้เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยใช้แล้ว เพราะทางนี้ก็ซื้อตามรีวิวมาเหมือนกัน สูตรนี้เนื้อโลชั่นทาง่าย ซึมไว ไม่เหนอะหนะ ชอบใช้หลังอาบน้ำ เพราะซึมผิวและชุ่มชื่นดี จุดที่คล้ำแห้งกร้าน อย่างข้อศอก หัวเข่า เนียนนุ่มขึ้น คล้ำลดลง อาจจะไม่ถึงกับเปลี่ยนผิว เปลี่ยนร่างนะ แต่มันมีความกระจ่างใสขึ้นจริง ส่วนตัวไม่ค่อยชอบกลิ่นประมาณนี้เท่าไหร่ แต่ก็ใช้ได้นะ ไม่ถึงกับฉุนจมูก
Texture : โลขั่น
ถูกใจ : ทาง่าย ซึมผิวง่าย ได้ผลเรื่องกระจ่างใสขึ้นจริง
ยังไม่ถูกใจ : กลิ่นสไตล์นี้ไม่ค่อยมัก ^^
ให้คะแนน 9/10 ( หมด อาจจะยังไม่ซื้อซ้ำ เพราะมีอีกตัวที่ชอบกว่า)
ขนาด 250 มล. ราคา 299 บาท
3. MizuMi B3 AHA Intense White Body Booster
ขวดนี้น่าจะเป็นตัวตึงของแบรนด์เลย กล่าวขานกันมากเรื่องขาวใสขึ้นจริง แต่สูตรนี้เหมือนคนผิวบอบบางใช้แล้วอาจจะระคายเคืองบ้าง (มีเพื่อนที่ยุ้ยแนะนำไป เค้าใช้แล้วคันระคายผิว) อาจจะต้องเทสก่อนใช้ หรือ ไม่ต้องใช้ทุกวัน แต่ส่วนตัวใช้ทุกวันก็ไม่เป็นอะไรนะคะ (ใช้วันละครั้งเฉพาะตอนเช้า ตอนกลางคืนจะใช้แบรนด์อื่นที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื่น)
Texture : เซรั่มกึ่งเจล
ถูกใจ : ได้ผลจริง ผิวกระจ่างใสแบบเห็นผลจริง
ยังไม่ถูกใจ : ทาแล้วลื่นๆ เหมือนมีอะไรอยู่บนผิว จะเรียกว่าเหนอะหนะก็ไม่เชิง ส่วนตัวไม่ค่อยชอบฟิลลิ่งหลังทา แต่ผลลัพธ์มันว้าวแบบให้อภัยได้
ให้คะแนน 9/10 (หักคะแนนเรื่องความชุ่มชื่น สำหรับผิวแห้งอาจจะยังไม่พอ)
ขนาด 250 มล. ราคา 299 บาท
4. MizuMi PHA 10 Smooth Body Serum
สูตรนี้ ซื้อมาลองใช้เทียบกับสูตรข้างบน เห็นเป็น PHA จะอ่อนโยนกว่าสูตรข้างบน อาจจะเอามาแทนกันได้แบบเบาลงมาหน่อย แต่ส่วนตัวรู้สึกว่า เรื่องความกระจ่างใสสู้สูตร B3 AHA ไม่ได้ แต่สูตรนี้หลายคนบอกว่า ช่วยเรื่องขนคุดได้ดี ใครเป็นสายแวกซ์ สายโกน อาจจะชอบ แต่ทางนี้ไม่มีปัญหาเรื่องขนคุด ก็เลยเฉยๆ ที่สำคัญคือ เนื้อเซรั่มตอนทา ก็ลื่นๆ เคลือบผิว ไม่ค่อยสบายผิว เหมือนสูตร B3 AHA ก็เลยไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่
Texture : เซรั่มกึ่งเจล
ถูกใจ : ไม่มีอะไรประทับใจเป็นพิเศษเลยค่ะ แอบสงสารน้อง ^^"
ยังไม่ถูกใจ : ผลลัพธ์ไม่รู้สึกแตกต่าง ฟินนิชหลังทาไม่สบายผิว
ให้คะแนน : 5/10 ( Not Good Not Bad แอบให้คะแนนยาก)
ขนาด 250 มล. ราคา 299 บาท
5. Vaseline Healthy Bright Gluta-Hya
อันนี้ซื้อมาเพราะเห็นเป็น AHA+BHA+PHA ดูครบแบบโกยมาหมด แอบหวังใจว่าจะมาแทนตัว MizuMI B3 AHA (เพราะไม่ชอบเนื้อเซรั่มสูตรนั้น) ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า รุ่นนี้ทำเนื้อเซรั่มออกมาดีจริง ใช้หลังอาบน้ำ ทาแล้วซึมผิวปุ๊บปั๊บ ไม่เหนอะหนะ ไม่รำคาญผิว ให้ความชุ่มชื่นประมาณนึง กลิ่นตอนเปิดใช้ครั้งแรก รู้สึก เอ๊ะๆ แปลกๆ หน่อย แต่ใช้ไปใช้มาก็ว่าหอมดีค่ะ แต่ในเรื่องความกระจ่างใส ส่วนตัวยังรู้สึกว่าทำไม่ถึง ไม่เท่า MizuMI B3 AHA (แต่ถ้าใช้ในระยะยาวไปเรื่อยๆ คิดว่า อาจได้ผลไม่ต่างกัน พูดง่ายๆ ก็คือ วาสลีนหลอดนี้อาจจะต้องใช้เวลานานกว่าหน่อยแค่นั้นเอง)
Texture : เซรั่มกึ่งเจล (เนื้อค่อนข้างเหลว)
ถูกใจ : ทาง่าย ซึมง่าย ไม่เหนอะหนะ ผลลัพธ์เรื่องกระจ่างใสได้จริง แต่ใช้เวลาหน่อย
ยังไม่ถูกใจ : รู้สึกว่ายังชุ่มชื่นไม่พอสำหรับคนผิวแห้ง แต่ก็ไม่ถึงกับว่าไม่ได้อะไรเลย
ให้คะแนน : 9/10
ขนาด 300 มล. ราคา 199 บาท
6. Vaseline Healthy Bright GlutaGlow Lotion
ขวดนี้ซื้อเพราะเห็นว่าเป็นเนื้อโลชั่น และมีส่วนผสมของวาสลีนเจลลี่ ก็น่าจะช่วยเรื่องความชุ่มชื่นไปด้วยเลยแบบขวดเดียวจบ ซึ่งความเนื้อโลชั่น ความชุ่มชื่น ถือว่าได้เลย สำหรับผิวแห้งถือว่าเอาอยู่ แต่เรื่องความกระจ่างใส ส่วนตัวไม่รู้สึกเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ (แทบไม่รู้สึกถึงความแตกต่างเลย) ถ้าเทียบกับหลอดเขียวข้างบน คือ แพ้ราบคาบ
Texture : โลชั่น
ถูกใจ : ทาง่าย ซึมไว ไม่เหนอะหนะ ให้ความชุ่มชื่นได้ดี
ยังไม่ถูกใจ : ผลลัพธ์เรื่องกระจ่างใสยังไม่ผ่าน
ให้คะแนน : 7/10
ขนาด 500 มล. ราคา 109 บาท
7. Eucerin Spotless Brightening Body Lotion
ขวดนี้ได้มา เพราะยังคงตามหาสูตรที่ช่วยเรื่องผิวกระจ่างใสแบบได้ความชุ่มชื่นด้วย เห็นเนื้อเค้าเป็นโลชั่น ก็คิดว่าน่าจะพอได้ ซึ่งก็ได้จริงๆ ระดับความแห้งของผิวตัวเอง สูตรนี้ถือว่าเอาอยู่ ได้ความชุ่มชื่นแบบไม่เหนอะหนะ แต่ถ้าเทียบจากทั้งหมดที่อยู่ในกระทู้นี้ ขวดนี้ถือว่าใช้เวลาเกลี่ยมากสุด แต่พอซึมผิวแล้ว ก็ไม่เหนอะหนะ ไม่รำคาญผิวเลย ที่สำคัญ คือ ถูกจริตกับกลิ่นขวดนี้มาก (แต่เรื่องกลิ่นถือเป็นความชอบส่วนบุคคลจริงๆ นะคะ ต้องไปลองกันเอง) ส่วนเรื่องความกระจ่างใส ถือว่าทำได้ดี อาจจะไม่ได้ผลทันใจเหมือน MizuMI B3 AHA แต่ผิวค่อยๆ กระจ่างใสขึ้นได้จริง ซึ่งส่วนตัวค่อนข้างพอใจมาก เพราะเป็นรุ่นเดียวเลยที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องชุ่มชื่น และ ขาวใส แต่ราคาก็จะสูงกว่าเพื่อนๆ หน่อย
Texture : โลชั่น
ถูกใจ : ให้ความชุ่มชื่นได้ดีเพียงพอกับคนผิวแห้ง กระจ่างใสขึ้นจริง
ยังไม่ถูกใจ : ใช้เวลาทาๆ เกลี่ยๆ นานกว่ารุ่นอื่นๆ (แต่ก็ไม่ได้ถึงกับยากยาวนานนะ)
ให้คะแนน : 9.5/10
ขนาด 250 มล. ราคา 531 บาท (อันนี้ราคาแอบเกิน 500 นิดนึงน้า)
8. Gravich B3+ AHA White Concentrate Body Serum
ขวดนี้ขออนุญาตใช้รูปจากเวปนะคะ เพราะหาขวดไม่เจอ พยายามหามา 3 วันแล้ว เหนื่อยเกินละค่ะ เหตุผลที่น้องหายตัวไป น่าจะเพราะว่า ตอนนั้นใช้ไปได้ซักอาทิตย์แล้วมือลอกค่ะ ^^" ก็เลยไม่ไปต่อ น้องเลยหายสาบสูญไปอยู่ส่วนใดส่วนหนึ่งของบ้าน ซึ่งเหตุผลที่ทำให้มือลอก น่าจะเพราะสูตรนี้ % สารผลัดเซลล์ผิวค่อนข้างเยอะ (จะแรงกว่า MizuMI B3 AHA) ถ้าใครชอบเรื่องเห็นผลเร็ว สูตรนี้เหมือนขึ้นทางด่วนเลย แต่ผิวต้องสตรองมาก หรือ อาจจะใช้แค่อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อลดการแห้งระคายเคืองของผิว
Texture : เซรั่มกึ่งเจล
ถูกใจ : ใส่ % มาแรงสะใจ
ยังไม่ถูกใจ : แต่ดันใช้ไม่ได้ T.T
ให้คะแนน : 5/10
ขนาด 200 มล. ราคา 290 บาท
สรุปจากผลลัพธ์และความพอใจส่วนตัว
1. ถ้าผิวแข็งแรงมาก อยากเห็นผลไวเรื่องกระจ่างใส พร้อมเสี่ยงผิวแห้งลอก > Gravich
2. ถ้าผิวแข็งแรง อยากเห็นผลไว(แต่ไม่ไวเท่าข้อ 1) ไม่แคร์เรื่องความชุ่มชื่น > MizuMi B3 AHA
3. ถ้าผิวธรรมดา ไม่รีบมาก > Vaseline Healthy Bright Gluta-Hya
4. ถ้าผิวธรรมดา-แห้ง อยากได้ความชุ่มชื่น พร้อมกระจ่างใสแบบไม่รีบ > Eucerin Spotless Brightening
ปล. ข้อ 1,2 ถ้าผิวแห้ง แนะนำใช้โลชั่นเพิ่มความชุ่มชื่นช่วยนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบนะคะ ไว้มีพลังเหลือ จะหาของที่ใช้อยู่มารีวิวให้อีกนะคะ ย้ำว่า! กระทู้นี้ไม่มีสปอน เขียนจากความรู้สึกล้วนๆ อาจถูกใจ / ไม่ถูกใจไปบ้าง ขออภัยด้วยนะค้า
[CR] มัดรวมบอดี้โลชั่นผิวกระจ่างใส ราคาไม่เกิน 500 บาท
ข้อมูลเบื้องต้นของ จขกท เพื่อการอ่านรีวิวแบบไม่เอ๊ะ
- ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้น ไม่ได้รับการสปอนเซอร์
- ผิว จขกท คือ ผิวผู้หญิงอายุ 43 ปี สภาพผิวธรรมดา-แห้ง
- ชีวิตประจำวัน ส่วนใหญ่ไม่โดนแดด เพราะทำงานที่บ้าน
- ทากันแดดตัวบ้าง แต่ไม่ได้ทาทุกวัน
เริ่มกันเลยจ้า
เอาเนื้อผลิตภัณฑ์แต่ละตัวมาให้ดูกันก่อนน้า
1. Boots Body Serum สูตร Niacinamide Pro-Retinol
สูตรนี้ซื้อเพราะเห็นโปร 1 แถม 1 และเห็นเป็น Retinol ก็เลยอยากเอามาทาเท้า เพราะช่วงนั้นเท้าแห้งและกร้านมาก ซึ่งผลลัพธ์ ส่วนตัวพอใจมาก ความแห้งกร้านลดลงตั้งแต่ประมาณ 10 วันแรกที่ใช้เลย แล้วชอบตรงที่ทาเท้าเสร็จ นวดๆ ซัก 10-15 นาที เดินต่อได้แบบไม่เหนอะพื้น แต่ในเรื่องของความกระจ่างใสขึ้น ก็ยังไม่ชัดเท่าไหร่ (เพราะที่เท้ามีรอยคล้ำจากรอยหูคีบรองเท้าแตะ) ซึ่งจากตอนนั้นที่ใช้ไปเดือนกว่าๆ ก็ยังเหลือรอยอยู่ แต่โดยรวมให้อภัยได้ เพราะ ผิวเท้าเนียนขึ้น นุ่มขึ้นจริง และ ฟิลลิ่งหลังทาดีมาก ไม่เหนอะหนะ ซึมผิวดี และ กลิ่นหอมนุ่มนวลถูกจริตมากๆ
Texture : เจลกึ่งเซรั่ม
ถูกใจ : ซึมผิวง่าย สบายผิว กลิ่นหอมติดผิวดี
ยังไม่ถูกใจ : ถ้าทาตัว ความชุ่มชื่นอาจยังไม่พอสำหรับคนผิวแห้ง ผลลัพธ์เรื่องกระจ่างใสถือว่ายังไม่ชัด
ให้คะแนน 8/10 ( หมด จะซื้อซ้ำ เพราะชอบใช้ทาเท้ามาก)
ขนาด 200 มล. ราคา 135 บาท
2. Vaseline Pro Derma สูตร 5 for Rough Skin
ขวดนี้เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยใช้แล้ว เพราะทางนี้ก็ซื้อตามรีวิวมาเหมือนกัน สูตรนี้เนื้อโลชั่นทาง่าย ซึมไว ไม่เหนอะหนะ ชอบใช้หลังอาบน้ำ เพราะซึมผิวและชุ่มชื่นดี จุดที่คล้ำแห้งกร้าน อย่างข้อศอก หัวเข่า เนียนนุ่มขึ้น คล้ำลดลง อาจจะไม่ถึงกับเปลี่ยนผิว เปลี่ยนร่างนะ แต่มันมีความกระจ่างใสขึ้นจริง ส่วนตัวไม่ค่อยชอบกลิ่นประมาณนี้เท่าไหร่ แต่ก็ใช้ได้นะ ไม่ถึงกับฉุนจมูก
Texture : โลขั่น
ถูกใจ : ทาง่าย ซึมผิวง่าย ได้ผลเรื่องกระจ่างใสขึ้นจริง
ยังไม่ถูกใจ : กลิ่นสไตล์นี้ไม่ค่อยมัก ^^
ให้คะแนน 9/10 ( หมด อาจจะยังไม่ซื้อซ้ำ เพราะมีอีกตัวที่ชอบกว่า)
ขนาด 250 มล. ราคา 299 บาท
3. MizuMi B3 AHA Intense White Body Booster
ขวดนี้น่าจะเป็นตัวตึงของแบรนด์เลย กล่าวขานกันมากเรื่องขาวใสขึ้นจริง แต่สูตรนี้เหมือนคนผิวบอบบางใช้แล้วอาจจะระคายเคืองบ้าง (มีเพื่อนที่ยุ้ยแนะนำไป เค้าใช้แล้วคันระคายผิว) อาจจะต้องเทสก่อนใช้ หรือ ไม่ต้องใช้ทุกวัน แต่ส่วนตัวใช้ทุกวันก็ไม่เป็นอะไรนะคะ (ใช้วันละครั้งเฉพาะตอนเช้า ตอนกลางคืนจะใช้แบรนด์อื่นที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื่น)
Texture : เซรั่มกึ่งเจล
ถูกใจ : ได้ผลจริง ผิวกระจ่างใสแบบเห็นผลจริง
ยังไม่ถูกใจ : ทาแล้วลื่นๆ เหมือนมีอะไรอยู่บนผิว จะเรียกว่าเหนอะหนะก็ไม่เชิง ส่วนตัวไม่ค่อยชอบฟิลลิ่งหลังทา แต่ผลลัพธ์มันว้าวแบบให้อภัยได้
ให้คะแนน 9/10 (หักคะแนนเรื่องความชุ่มชื่น สำหรับผิวแห้งอาจจะยังไม่พอ)
ขนาด 250 มล. ราคา 299 บาท
4. MizuMi PHA 10 Smooth Body Serum
สูตรนี้ ซื้อมาลองใช้เทียบกับสูตรข้างบน เห็นเป็น PHA จะอ่อนโยนกว่าสูตรข้างบน อาจจะเอามาแทนกันได้แบบเบาลงมาหน่อย แต่ส่วนตัวรู้สึกว่า เรื่องความกระจ่างใสสู้สูตร B3 AHA ไม่ได้ แต่สูตรนี้หลายคนบอกว่า ช่วยเรื่องขนคุดได้ดี ใครเป็นสายแวกซ์ สายโกน อาจจะชอบ แต่ทางนี้ไม่มีปัญหาเรื่องขนคุด ก็เลยเฉยๆ ที่สำคัญคือ เนื้อเซรั่มตอนทา ก็ลื่นๆ เคลือบผิว ไม่ค่อยสบายผิว เหมือนสูตร B3 AHA ก็เลยไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่
Texture : เซรั่มกึ่งเจล
ถูกใจ : ไม่มีอะไรประทับใจเป็นพิเศษเลยค่ะ แอบสงสารน้อง ^^"
ยังไม่ถูกใจ : ผลลัพธ์ไม่รู้สึกแตกต่าง ฟินนิชหลังทาไม่สบายผิว
ให้คะแนน : 5/10 ( Not Good Not Bad แอบให้คะแนนยาก)
ขนาด 250 มล. ราคา 299 บาท
5. Vaseline Healthy Bright Gluta-Hya
อันนี้ซื้อมาเพราะเห็นเป็น AHA+BHA+PHA ดูครบแบบโกยมาหมด แอบหวังใจว่าจะมาแทนตัว MizuMI B3 AHA (เพราะไม่ชอบเนื้อเซรั่มสูตรนั้น) ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า รุ่นนี้ทำเนื้อเซรั่มออกมาดีจริง ใช้หลังอาบน้ำ ทาแล้วซึมผิวปุ๊บปั๊บ ไม่เหนอะหนะ ไม่รำคาญผิว ให้ความชุ่มชื่นประมาณนึง กลิ่นตอนเปิดใช้ครั้งแรก รู้สึก เอ๊ะๆ แปลกๆ หน่อย แต่ใช้ไปใช้มาก็ว่าหอมดีค่ะ แต่ในเรื่องความกระจ่างใส ส่วนตัวยังรู้สึกว่าทำไม่ถึง ไม่เท่า MizuMI B3 AHA (แต่ถ้าใช้ในระยะยาวไปเรื่อยๆ คิดว่า อาจได้ผลไม่ต่างกัน พูดง่ายๆ ก็คือ วาสลีนหลอดนี้อาจจะต้องใช้เวลานานกว่าหน่อยแค่นั้นเอง)
Texture : เซรั่มกึ่งเจล (เนื้อค่อนข้างเหลว)
ถูกใจ : ทาง่าย ซึมง่าย ไม่เหนอะหนะ ผลลัพธ์เรื่องกระจ่างใสได้จริง แต่ใช้เวลาหน่อย
ยังไม่ถูกใจ : รู้สึกว่ายังชุ่มชื่นไม่พอสำหรับคนผิวแห้ง แต่ก็ไม่ถึงกับว่าไม่ได้อะไรเลย
ให้คะแนน : 9/10
ขนาด 300 มล. ราคา 199 บาท
6. Vaseline Healthy Bright GlutaGlow Lotion
ขวดนี้ซื้อเพราะเห็นว่าเป็นเนื้อโลชั่น และมีส่วนผสมของวาสลีนเจลลี่ ก็น่าจะช่วยเรื่องความชุ่มชื่นไปด้วยเลยแบบขวดเดียวจบ ซึ่งความเนื้อโลชั่น ความชุ่มชื่น ถือว่าได้เลย สำหรับผิวแห้งถือว่าเอาอยู่ แต่เรื่องความกระจ่างใส ส่วนตัวไม่รู้สึกเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ (แทบไม่รู้สึกถึงความแตกต่างเลย) ถ้าเทียบกับหลอดเขียวข้างบน คือ แพ้ราบคาบ
Texture : โลชั่น
ถูกใจ : ทาง่าย ซึมไว ไม่เหนอะหนะ ให้ความชุ่มชื่นได้ดี
ยังไม่ถูกใจ : ผลลัพธ์เรื่องกระจ่างใสยังไม่ผ่าน
ให้คะแนน : 7/10
ขนาด 500 มล. ราคา 109 บาท
7. Eucerin Spotless Brightening Body Lotion
ขวดนี้ได้มา เพราะยังคงตามหาสูตรที่ช่วยเรื่องผิวกระจ่างใสแบบได้ความชุ่มชื่นด้วย เห็นเนื้อเค้าเป็นโลชั่น ก็คิดว่าน่าจะพอได้ ซึ่งก็ได้จริงๆ ระดับความแห้งของผิวตัวเอง สูตรนี้ถือว่าเอาอยู่ ได้ความชุ่มชื่นแบบไม่เหนอะหนะ แต่ถ้าเทียบจากทั้งหมดที่อยู่ในกระทู้นี้ ขวดนี้ถือว่าใช้เวลาเกลี่ยมากสุด แต่พอซึมผิวแล้ว ก็ไม่เหนอะหนะ ไม่รำคาญผิวเลย ที่สำคัญ คือ ถูกจริตกับกลิ่นขวดนี้มาก (แต่เรื่องกลิ่นถือเป็นความชอบส่วนบุคคลจริงๆ นะคะ ต้องไปลองกันเอง) ส่วนเรื่องความกระจ่างใส ถือว่าทำได้ดี อาจจะไม่ได้ผลทันใจเหมือน MizuMI B3 AHA แต่ผิวค่อยๆ กระจ่างใสขึ้นได้จริง ซึ่งส่วนตัวค่อนข้างพอใจมาก เพราะเป็นรุ่นเดียวเลยที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องชุ่มชื่น และ ขาวใส แต่ราคาก็จะสูงกว่าเพื่อนๆ หน่อย
Texture : โลชั่น
ถูกใจ : ให้ความชุ่มชื่นได้ดีเพียงพอกับคนผิวแห้ง กระจ่างใสขึ้นจริง
ยังไม่ถูกใจ : ใช้เวลาทาๆ เกลี่ยๆ นานกว่ารุ่นอื่นๆ (แต่ก็ไม่ได้ถึงกับยากยาวนานนะ)
ให้คะแนน : 9.5/10
ขนาด 250 มล. ราคา 531 บาท (อันนี้ราคาแอบเกิน 500 นิดนึงน้า)
8. Gravich B3+ AHA White Concentrate Body Serum
ขวดนี้ขออนุญาตใช้รูปจากเวปนะคะ เพราะหาขวดไม่เจอ พยายามหามา 3 วันแล้ว เหนื่อยเกินละค่ะ เหตุผลที่น้องหายตัวไป น่าจะเพราะว่า ตอนนั้นใช้ไปได้ซักอาทิตย์แล้วมือลอกค่ะ ^^" ก็เลยไม่ไปต่อ น้องเลยหายสาบสูญไปอยู่ส่วนใดส่วนหนึ่งของบ้าน ซึ่งเหตุผลที่ทำให้มือลอก น่าจะเพราะสูตรนี้ % สารผลัดเซลล์ผิวค่อนข้างเยอะ (จะแรงกว่า MizuMI B3 AHA) ถ้าใครชอบเรื่องเห็นผลเร็ว สูตรนี้เหมือนขึ้นทางด่วนเลย แต่ผิวต้องสตรองมาก หรือ อาจจะใช้แค่อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อลดการแห้งระคายเคืองของผิว
Texture : เซรั่มกึ่งเจล
ถูกใจ : ใส่ % มาแรงสะใจ
ยังไม่ถูกใจ : แต่ดันใช้ไม่ได้ T.T
ให้คะแนน : 5/10
ขนาด 200 มล. ราคา 290 บาท
1. ถ้าผิวแข็งแรงมาก อยากเห็นผลไวเรื่องกระจ่างใส พร้อมเสี่ยงผิวแห้งลอก > Gravich
2. ถ้าผิวแข็งแรง อยากเห็นผลไว(แต่ไม่ไวเท่าข้อ 1) ไม่แคร์เรื่องความชุ่มชื่น > MizuMi B3 AHA
3. ถ้าผิวธรรมดา ไม่รีบมาก > Vaseline Healthy Bright Gluta-Hya
4. ถ้าผิวธรรมดา-แห้ง อยากได้ความชุ่มชื่น พร้อมกระจ่างใสแบบไม่รีบ > Eucerin Spotless Brightening
ปล. ข้อ 1,2 ถ้าผิวแห้ง แนะนำใช้โลชั่นเพิ่มความชุ่มชื่นช่วยนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบนะคะ ไว้มีพลังเหลือ จะหาของที่ใช้อยู่มารีวิวให้อีกนะคะ ย้ำว่า! กระทู้นี้ไม่มีสปอน เขียนจากความรู้สึกล้วนๆ อาจถูกใจ / ไม่ถูกใจไปบ้าง ขออภัยด้วยนะค้า
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้