ทรูมันนี่ truemoney ไม่ได้ทำ MOU กับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จริงไหม คนโกงจึงมักใช้ทรูมันนี่หลอกเอาเงินผู้ซื้อ

การซื้อขายยุคเก่า  คือ ให้ผู้ซื้อ โอนเงินโดยตรงเข้าบัญชีธนาคาร ของผู้ขาย
แม้จะมีรูปแบบการซื้อขายแบบใหม่ แต่การโอนแบบเก่า ยังใช้อยู่ จนถึงปัจจุบัน

และมายุคหลัง คนขายหลายราย เริ่มใช้ ทรูมันนี่วอลเลท ในการรับเงิน 

และคนขายก็รู้ว่า ถ้า ใช้บัญชีธนาคารรับเงิน ถ้าโกง ลค ไปแล้ว ลค สามารถโทรอายัด บช หรือ ดึงเงินคืน ได้
เขาเลย ไปใช้ ทรูมันนี่วอลเลท เพราะเขาคิดว่า มีโอกาสดึงคืนได้ยากมากๆ หรือ ไม่ได้เลย

มีบางคนไปแจ้งความ ที่ สน  ตร. บอกมาว่า การจะได้เงินคืนจาก บช ทรูมันนี่นั้น ยากมาก
เพราะ ทรูมันนี่ ไม่ได้ทำ mou กับ ตร แต่ถ้า ธนาคาร เขาจะทำ
เมื่อดึงคืนยาก โจรหรือคนร้าย มักใช้ ทรูมันนี่ ในการรับเงิน จากลูกค้า

คำถามคือว่า ทำไม ทรูมันนี่ จึงไม่ทำ mou ร่วมกับ ตร ทั้งที่ เป็น บช รับเงิน ประเภทนึงที่คนใช้กันทั่วประเทศ
หรือมีอะไรในใจ ที่เป็นเหตุผลทางเทคนิค หรือ เหตุผลในใจลึกๆ ที่ไม่อยากบอกให้ ปชช รับรู้

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้MOU หรือ บันทึกข้อตกลงความเข้าใจ ระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติกับธนาคารในประเด็นการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางการเงิน ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างระบบนิเวศทางการเงินที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น

เหตุผลที่ต้องมี MOU

ความซับซ้อนของอาชญากรรมทางการเงิน: อาชญากรรมทางการเงินมีรูปแบบที่หลากหลายและซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ การทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจึงจำเป็นอย่างยิ่งในการสกัดกั้นและปราบปราม

การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร: การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างตำรวจและธนาคารอย่างทันท่วงที จะช่วยให้สามารถสืบสวนสอบสวนและจับกุมผู้กระทำผิดได้อย่างรวดเร็ว

การพัฒนาระบบป้องกัน: การร่วมกันพัฒนาระบบป้องกันและตรวจสอบธุรกรรมที่ผิดปกติ จะช่วยลดโอกาสที่อาชญากรจะเข้ามาใช้ประโยชน์จากระบบการเงิน

การสร้างความตระหนักรู้: การร่วมกันสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนเกี่ยวกับภัยคุกคามทางการเงิน จะช่วยให้ประชาชนสามารถป้องกันตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เนื้อหาสำคัญใน MOU

ขอบเขตความร่วมมือ: กำหนดขอบเขตความร่วมมือที่ชัดเจน เช่น การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร, การร่วมกันสืบสวนสอบสวน, การพัฒนาระบบป้องกัน, การให้ความรู้แก่ประชาชน

กลไกการทำงาน: กำหนดกลไกการทำงานร่วมกัน เช่น การตั้งคณะทำงานร่วม, การจัดประชุมหารือเป็นประจำ

การรักษาความลับ: กำหนดมาตรการในการรักษาความลับของข้อมูลที่แลกเปลี่ยนกัน

การประเมินผล: กำหนดวิธีการประเมินผลการดำเนินงาน เพื่อให้สามารถปรับปรุงและพัฒนาความร่วมมือได้อย่างต่อเนื่อง

ตัวอย่างโครงการภายใต้ MOU

การพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยทางการเงิน: ร่วมกันพัฒนาระบบที่สามารถแจ้งเตือนธนาคารและเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อพบธุรกรรมที่ผิดปกติ

การจัดทำฐานข้อมูลผู้กระทำผิด: สร้างฐานข้อมูลรวมของผู้กระทำผิดอาชญากรรมทางการเงิน เพื่อใช้ในการสืบสวนสอบสวนและป้องกันการกระทำผิดซ้ำ

การจัดอบรมให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่: จัดอบรมให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ธนาคารเกี่ยวกับเทคนิคการสืบสวนสอบสวนและการป้องกันอาชญากรรมทางการเงิน

การรณรงค์ให้ความรู้แก่ประชาชน: ร่วมกันรณรงค์ให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับวิธีการป้องกันตนเองจากอาชญากรรมทางการเงิน เช่น การไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวให้กับบุคคลที่ไม่รู้จัก, การตรวจสอบบัญชีธนาคารอย่างสม่ำเสมอ
ประโยชน์ที่ได้รับจาก MOU

ลดความเสียหายจากอาชญากรรมทางการเงิน: ช่วยลดความเสียหายทางเศรษฐกิจและสังคมที่เกิดจากอาชญากรรมทางการเงิน

สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน: ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการใช้บริการทางการเงิน

เสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบการเงิน: ช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบการเงินให้มีความมั่นคงและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

สรุป: MOU การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางการเงินเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างสังคมที่ปลอดภัยจากภัยคุกคามทางการเงิน