JJNY : ธนาธรหนุนแก้รธน.ลดอำนาจ│น้ำปิงเชียงใหม่ ยังวิกฤต│TIPCO หยุดโรงงานผลิต│ฝรั่งเศสเผชิญ“การขาดดุลครั้งเลวร้ายที่สุด”

ธนาธร หนุนแก้รธน.ลดอำนาจองค์กรอิสระ เชื่อแก้ทั้งฉบับสำเร็จยากในสภาชุดนี้
https://www.matichon.co.th/politics/news_4810234 
 
 
‘ธนาธร’ เชื่อ แก้รธน.ทั้งฉบับติดขัดโอกาสเสร็จในสภาชุดนี้ หรือปี 70 ยาก ควรแก้ไขรายประเด็น ชี้ ‘ปชน.’ ไม่ได้แก้เพียงปมจริยธรรม แต่เสนอยกเลิกมรดกรัฐประหาร-ยุทธศาสตร์ชาติ 20ปี พร้อมปฏิเสธ พรรคประชาชน หลังปรับทัพใหม่ไม่ใช่สายตรง
 
เมื่อวันที่ 25 กันยายน เวลา 09.50 น.ที่รัฐสภา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นจริยธรรมนักการเมือง ว่า ส่วนตัวไม่ได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด แต่คิดว่าหากถามพรรคประชาชน (ปชน.) หรือ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษก ปชน.  หรือ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า จะเหมาะสมตรงประเด็น และมีความรู้ความเข้าใจมากกว่าหากเป็นเรื่องเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ
 
ทั้งนี้ ส่วนตัวยืนยันในหลักการเดิมว่าเราให้อำนาจองค์กรอิสระในการกำหนดอนาคตทิศทางของประเทศมากเกินไป จึงควรลดที่อำนาจขอบเขตขององค์กรอิสระ ไม่ว่าจะเป็นศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีอำนาจยุบพรรค คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ป.) การใช้อำนาจจริยธรรมมาตัดสินอนาคตทางการเมือง ดังนั้นตนคิดว่าโดยภาพรวมเรายืนยันในเรื่องเดิมว่า องค์กรอิสระต่างๆ ที่ดำรงอยู่ตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 จำเป็นต้องมีการตรวจสอบถ่วงดุล
 
เมื่อถามว่า ตอนนี้เหลือพรรคประชาชนพรรคเดียวที่เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปมจริยธรรม เพราะพรรคเพื่อไทยก็ถอยแล้ว นายธนาธรกล่าวว่า ตนยังไม่ได้ดูร่างของพรรคประชาชน และไม่ได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
 
ส่วนที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมในการแก้รัฐธรรมนูญเกี่ยวกับจริยธรรมว่าเป็นการแก้เพื่อประโยชน์ของนักการเมืองไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของประชาชนว่า นายธนาธรกล่าวว่า ปัญหาในตอนนี้คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับดูแล้วยังติดขัดและไม่รู้จะไปในทิศทางไหน ในเมื่อการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับติดขัดมองไม่เห็นอนาคต หากดูปฏิทินแล้วโอกาสที่จะผ่านภายในสภาชุดนี้ หรือภายในปี 2570 นั้นยาก ดังนั้นจึงอาจต้องโฟกัสที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 รายประเด็น ซึ่งในหลายประเด็นแน่นอนว่ามีเรื่องขององค์กรอิสระ เรื่องอำนาจ เรื่องจริยธรรม
 
จริงๆ หากไปดูพรรคประชาชนไม่ได้เสนอเรื่องนี้เพียงเรื่องเดียว ยังมีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกอย่างน้อย 3 ฉบับ คือการยกเลิกมรดกการทำรัฐประหารตามมาตรา 279 การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่พูดถึงหมวดใหม่ คือการป้องกันการทำรัฐประหาร มีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าพรรคประชาชนไม่ได้ยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญเพียงเรื่องเดียว หากมาตราไหนที่เห็นว่าเป็นปัญหา ก็มีการยื่นเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบรายมาตราหลายฉบับ ดังนั้นคงไม่ได้พุ่งเป้าเฉพาะเรื่องนี้เรื่องเดียว” นายธนาธรกล่าว
 
นายธนาธรยังกล่าวถึงกระแสความยิยมของพรรคประชาชนลดลง หลังมีการปรับทัพใหม่ นายธนาธรกล่าวว่า ตนดูการปรับทัพของพรรคประชาชนแล้วเห็นว่าทุกคนมีความเหมาะสม ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีคุณภาพ
 
เมื่อถามว่า อาจถูกมองว่าเป็นสายตรงผู้นำจิตวิญญาณอย่างเช่น นายปิยรัฐ จงเทพ ส.ส.กทม.ที่มาเป็นรองเลขาธิการพรรคฯ นายธนาธรกล่าวพร้อมหัวเราะว่า นายปิยรัฐคุยกันเพียงปีละครั้งหรือเปล่าไม่รู้ แทบไม่ได้คุยกัน ทั้งนี้ ไม่มีสายตรง แต่เป็นกระบวนการของพรรคประชาชน ตนก็ทำได้เพียงแต่ให้กำลังใจ ส่งกำลังใจช่วยและให้คำปรึกษาคำแนะนำหาก ส.ส. หรือแกนนำพรรคคนไหนปรึกษาหารือในเรื่องต่างๆ



น้ำปิงเชียงใหม่ ยังอยู่ในระยะวิกฤต วัดได้ 4.45 ม.
https://www.innnews.co.th/news/local/news_780309/

สถานการณ์น้ำท่วมเชียงใหม่ ล่าสุด น้ำปิงเชียงใหม่ ยังอยู่ในระยะวิกฤต สีแดง วัดได้ 4.45 ม. แจ้งประชาชนเตรียมรับมือมวลน้ำรอบใหม่จากเชียงดาว แม่แตง ที่ไหลมาสบทบอีก
 
ลำน้ำปิงได้เอ่อล้นเข้าท่วมตัวเมืองเชียงใหม่ตามที่มีการคาดหมายไว้หลังจากปริมาณน้ำขึ้นสูงสุดในช่วงคืนที่ผ่านมา โดยจุดตรวจวัดที่เชิงสะพานนวรัฐ p1 ระดับน้ำเริ่มเกินวิกฤต 4.2 เมตรตั้งแต่ช่วงใกล้เที่ยงคืน จากนั้นไต่ระดับขึ้นจนสูงสุดช่วงเวลา 5 นาฬิกาที่ 4.45 เมตร ก่อนจะทรงตัวจนถึงขณะนี้ ทำให้เกิดน้ำท่วมเข้าในตัวเมืองเชียงใหม่และพื้นที่เศรษฐกิจ
 
จุดแรกย่านถนนช้างคลาน ถนนเจริญประเทศ ไนท์บาซ่า รวมถึงชุมชนพื้นที่ลุ่มต่ำย่านป่าแดดและหนองหอย เทศบาลนครเชียงใหม่และหน่วยงานต่างๆระดมนำกระสอบทรายเสริมแนวตลิ่ง และแจกให้ประชาชนนำไปเสริมแนวกั้นน้ำ แต่มีน้ำอีกส่วนได้มุดออกจากท่อระบายขึ้นมาเอ่อท่วมกินพื้นที่บริเวณกว้างขึ้น มีระดับน้ำท่วมสูง 30-50 ซม.
 
โดยเช้านี้บางจุดเริ่มระบายแต่บางจุดยังมีน้ำท่วมขัง การสัญจรถนนที่น้ำท่วมเป็นไปด้วยความลำบากรถเล็กผ่านไม่ได้ ประชาชนหลายคนระบุตรงกันว่า เหตุการณ์คล้ายเมื่อปี 2565
 
ขณะที่สำนักงานชลประทานที่ 1 ออกประกาศแจ้งเตือน ฉบับที่ 5 ว่าสถานการณ์น้ำในแม่น้ำปิ้งที่สถานี P.1 สะพานนวรัฐ เมื่อวันที่ 25 ก.ย.2567 เวลา 05.00 น. น้ำได้ผ่านจุดสูงสุดที่ระดับ +4.45 เมตร ปริมาณน้ำ 530.50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
โดยจะมีระดับน้ำทรงตัวระยะหนึ่ง และจะมีระดับสูงขึ้นอีกจากมวลน้ำระลอกใหม่ (เกิดจากฝนที่ตกในพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเมื่อคืนที่ผ่านมา) ที่เคลื่อนตัวจากลุ่มน้ำแม่แตงและลุ่มน้ำปิง (ต้นน้ำจากอำเภอเชียงดาว) ลงมาสมาสมทบกับแม่น้ำปิง
 
ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ 1 จะติดตาม/เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และรายงานให้ ทราบอย่างต่อเนื่อง และจากสถานการณ์ปริมาณน้ำหลากสูงสุดที่เกิดขึ้น ได้ส่งผลกระทบให้บางพื้นที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่เกิดน้ำท่วมขัง สำนักงานชลประทานที่ 1 จะได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ประสบภัย
 
และจัดส่งครื่องจักรเครื่องมือพร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมบูรณาการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อประชาชนต่อไป ขอให้ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ พร้อมระดมเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ประสบภัย



TIPCO หยุดโรงงานผลิต สับปะรดกระป๋อง ตั้งแต่ 25 ก.ย. หลังขาดทุนหนัก
https://www.matichon.co.th/economy/news_4810182

TIPCO หยุดโรงงานผลิต สับปะรดกระป๋อง ตั้งแต่ 25 ก.ย. หลังขาดทุนหนัก
 
วันที่ 25 กันยายน 2567 พล.อ.อ.พงศธร บัวทรัพย์ ประธานกรรมการ บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) รายงานตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 และมีมติให้หยุดการดำเนินงานในธุรกิจการผลิตและจำหน่ายสับปะรดกระป๋องของ บริษัท ทิปโก้ ไพน์แอปเปิ้ล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยแห่งหนึ่งของบริษัท นับตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2567
 
โดยมีสาเหตุหลักเนื่องจากผลการดำเนินงานขาดทุนต่อเนื่อง และสภาวะความผันผวนของปริมาณและราคาของวัตถุดิบสำคัญคือผลสับปะรดสด มาตลอดในช่วงเวลาที่ผ่านมา
 
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทของบริษัทย่อย ยังไม่ได้มีมติเลิกบริษัท ชำระบัญชีแต่อย่างใด บริษัทย่อยกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาแผนการจัดการสื่อสาร และแจ้งให้คู่ค้า เจ้าหนี้ ลูกจ้าง พนักงาน และผู้มีส่วนได้เสียอื่น ๆ ให้ทราบถึงเรื่องดังกล่าว และดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวให้เป็นธรรมและสอดคล้องกับกฎหมาย
 
อนึ่ง การหยุดการดำเนินงานในธุรกิจดังกล่าวเป็นการปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจภายในของบริษัท ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจหลักของบริษัทที่ดำเนินการอยู่ โดยธุรกิจนี้คิดเป็นประมาณ 22% ของรายได้รวม หากมีความคืบหน้าจากการดำเนินการดังกล่าวบริษัทจะทำการแจ้งให้ทราบต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่