"ห้ามไปส่งลุกเรียนเมืองนอก" เรือ่งจริงที่ควรฟังไว้

เป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว ลูกสาว ม.4 ไปเรียนแลกเปลี่ยนต่างประเทศหนึ่งปี โดยปกติอยู่ด้วยกันสองคนมานานมากแล้ว
จึงวางแผน ไปส่งลูกที่นั่น และ ถือโอกาสไปเที่ยว หาเพื่อน และ เยี่ยมญาติ ด้วยเลย
ระหว่างเดินทางไปส่งก็ไม่มีอะไรนัก ไปส่งถึงเมือง ถึงบ้านที่โฮสต์รับอยู่แต่ไม่ได้ไปยุ่งวุ่นวายกับเค้า จากนั้นก็แยกไปเข้าที่พักที่จองไว้

แผนคือ เที่ยวเมืองนั้น 3-4 วัน ให้โอสต์เนี่ยแหละพาเที่ยว (คุยกันแล้ว) ก็เที่ยวกันไปง่ายๆสบายๆ แล้วแยกย้าย ผมเดินทางไปเมืองอื่น ไปเยี่ยมเพื่อนสมัยเรียน ไปเยี่ยมญาติ ไปหากิ๊กเก่าๆ

เที่ยวอยู่ 10 วัน วนกลับมาบ้านโฮสต์ พักที่เมืองนี้อีดคืน ก่อนร่ำลา เดินทางกลับไทย ซึ่งโฮสต์ก็ไม่สะดวกไปส่งสนามบิน ดังนั้น ต้องนั่งแท็กซี่ ไปบ้านโฮสต์ เพื่อลาลูกตัวเอง ร่ำลาโฮศต์ แล้วไปสนามบินต่อ
ซึ่งวินาทีนั้นแหละ ที่ทุกอย่างเริ่มดราม่า

จากการไปส่งลูก มันเหมือน เราต้องร่ำลาแยกจากกัน แล้วนับตั้งแต่บ๊ายบายหน้าบ้านโฮสต์ ปิดแท็กซี่ขึ้นรถไปสนามบิน ในหัวคิดแต่ว่า ทำยังไง ถึงจะทำงานที่นี่ได้ หาวิธีทำงานระยะไกล เพื่ออาศัยอยู่ที่ต่างประเทศแทนการกลับบ้าน หรือกลับไทยแล้สจะจัดการย้ายประเทศชั่วคราวได้ยังไง

บินกลับมาก็คิดมาตลอดทาง จนมาถึงไทย ถึงสนามบินคนเดียว ลากของกลับบ้าน ที่เงียบสนิท ไม่มีแม่ตัวแสบคอยบ่น คอยกวนประสาท
เตือนพ่อแม่ที่มีลูกจะไปต่างประเทศเลยครับ ถ้าเค้าบินเองได้ ไปส่งสนามบินซะแล้วหันหลังให้จบกระบวนการให้เร็วที่สุด จากนั้นติดต่อกันผ่านมือถือ รอลุ้นไป 
อย่าไปส่งแล้วต้องกลับมาอย่างเงียบเหงาเด็ดขาด เพราะ มันทรมานใจมาก ยิ่งถ้าใครไปส่งคนเดียว ขาบินกลับมา คุณจะว้าวุ่น สับสนมาก ติดต่อก็ไม่ได้ ถึงกับต้องยอมจ่ายเงินใช้เน็ทเพื่อส่งข้อความหาลูกระหว่างทาง
ยกเว้นว่า คุณไปกับสามี หรือภรรยา ยังพอมีคนให้กำลังใจกันได้

ตอนนี้ ก็ผ่านมาเเดือนนิดๆแล้ว ทุกอย่างดำเนินไปได้ดีวีดีโอคอลกันทุกวันจนโฮสต์ถามว่า คนไทยติดกันขนาดนี้ทุกบ้านมั้ย

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่