สมัยอดีต ณ ท้องทุ่งชายนาบ้านป่าแห่งหนึ่ง มีชายหนุ่มหญิงสาวคู่หนึ่งที่รักกัน ชนิดที่ว่าชาตินี้พวกเขาทั้งสองไม่อาจจะพรากจากกันได้ แต่ความรักของพวกเขาก็ไม่ได้ราบรื่นหรือเรียบง่ายสวยงามเหมือนเส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะอุปสรรคสำคัญของพวกเขาก็คือพ่อแม่ของฝ่ายหญิงที่ไม่อาจทำใจยอมรับฐานะอันยากจนของฝ่ายชายได้ แม้ฝ่ายชายจะเป็นคนขยันตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินแต่เพราะความยากจน และฐานะอันต่ำต้อยก็ไม่อาจทำให้เป็นที่ถูกใจของพ่อแม่ฝ่ายหญิงได้
ฝ่ายชายมีชื่อว่าชัย เป็นคนยากจนมาแต่กำเนิด มีอาชีพรับจ้างทำนาทำไร่ทำสวนของเศรษฐีใจดีผู้หนึ่ง ด้วยความที่เขาเป็นคนมุมานะเพียรพยายามขยันขันแข็งและตั้งใจทำมาหากินก็เป็นที่ถูกอกถูกใจของเจ้าของนาและเจ้าของไร่สวนอยากท่านเศรษฐีมีชื่อว่าอนันต์ ชัยรักกับลูกสาวเจ้าของที่ดินสวนผัก ลูกสาวเจ้าของที่ดินสวนผักนั้นชื่อว่านารี นารีเกิดและเติบโตขึ้นท่ามกลางความรักความอบอุ่นและความสุขสบายจากครอบครัวของเธอเอง
ด้วยความรักความห่วงใยจากผู้เป็นพ่อเป็นแม่ กลัวว่าลูกสาวของตัวเองจะตกที่นั่งลำบากไม่ได้อยู่สุขสบายเหมือนเช่นเคย พวกเขาจึงได้เพียงพยายามเสาะหาเจ้าบ่าวผู้มีฐานะดีและเป็นคนดีให้กับลูกสาวตนเอง จนได้พบกับชายหนุ่มสูงวัยรูปร่างหน้าตางดงามคนหนึ่ง เขาชื่ออนันต์ เขามีฐานะเป็นถึงเศรษฐีของหมู่บ้าน ทั้งยังเป็นคนมีจิตใจเมตตา โอบอ้อมอารี ชอบช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก และมักบริจาคข้าวของ เงินทอง ช่วยเหลือคนยากจนอยู่เสมอ ชัยเองก็ยังเคยได้รับความช่วยเหลือจากเศรษฐีอนันต์
พ่อแม่ของนารีเห็นว่าเศรษฐีอนันต์ผู้นี้ มีฐานะและคุณสมบัติที่เหมาะสมกับลูกสาวของตน จึงได้ด้ายพูดคุยทาบทามให้มาเป็นลูกเขย และพร้อมที่จะยกลูกสาวให้กับเศรษฐีอนันต์เศรษฐีใจดีผู้นี้ ตัวท่านเศรษฐีแม้จะเป็นหนุ่มสูงวัยไม่เคยมีครอบครัวมาก่อน แต่พอได้พบหน้ากับนารี หญิงสาวนี่ดูหน้าตางดงามหมดจด แถมยังมีจิตใจอ่อนโยน ก็เกิดความรักใคร่ชอบพอในตัวเธอ แต่เมื่อรู้ว่าในใจของนารีมีชายหนุ่มที่ชื่อว่าชัยอยู่ ท่านเศรษฐีอนันต์ก็ไม่อยากบังคับฝืนใจเธอให้ต้องมาแต่งงานกับเขา จึงได้แต่บอกความในใจกลับนารีว่า “พี่จะรอนารีจนกว่านารีจะไม่มีใครในใจ เมื่อถึงวันนั้นพี่จะมารับนารีไปอยู่ด้วยกัน”
พ่อแม่ของนารีโกรธโมโหในตัวลูกสาวคนนี้อย่างมากที่สุด ที่ลูกสาวของตนมองไม่เห็นเพชรเม็ดงามที่อยู่ตรงหน้า แต่กลับไปคว้าก้อนกรวดอย่างชัยมาเป็นคู่ชีวิต พ่อแม่ของนารีจึงกีดกันความรักของชัยและนารีอย่างถึงที่สุด จนทั้งคู่ต้องหนีไปอยู่ด้วยกันที่ต่างเมืองโดยไม่ร่ำลาใคร
นารีต้องช่วยชัยทำมาหากินด้วยความยากลำบาก เธอต้องตรากตรำทำนา ทำไร่ทำสวน และช่วยชัยทำงานก่อสร้าง เพื่อจะหาเงินมาเลี้ยงดูแลครอบครัวของตนเอง เพราะความรักของทั้งคู่ที่มีให้กันและกันมาเนิ่นนาน แม้จะพบเจอกับความยากลำบากและอุปสรรค ก็ไม่ทำให้คนทั้งคู่เลิกรักต่อกันได้
กระทั่งวันหนึ่งนารีเริ่มมีอาการเจ็บป่วยทางประสาทตา สายตาของเธอเริ่มพร่าเลือนมองไม่เห็นชัดเจนเหมือนดังเดิม จนกระทั่งดวงตาทั้งคู่ของเธอก็มืดบอดลงอย่างสนิท ชัยนำเงินเก็บทั้งหมดที่มีพานารีไปรักษาตามที่ต่างๆ แต่ก็ไม่มีหมอคนใดสามารถรักษาให้เธอหายได้ จนชัยเชื่อแล้วว่านารีคงจะต้องตาบอดจริงๆและไม่มีทางรักษาให้หายได้
นารีที่ตาบอดต้องเลิกทำงานข้างนอก เธอทำได้แต่งานในบ้านเท่านั้น แต่เพราะเธอตาบอดมองไม่เห็นอะไรทำให้แม้แต่งานในบ้านเล็กๆในน้อยๆเธอก็ยังทำได้ไม่ดี เธอไม่สามารถหุงหาอาหารที่แสนอร่อยเหมือนเช่นเคยให้ชัยได้อีก ภาระหน้าที่ต่างๆทั้งในบ้านและนอกบ้านจึงตกเป็นของใช้แต่เพียงคนเดียว
เวลาล่วงเลยผ่านไป ชัยเริ่มรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจเวลาที่ต้องอยู่ด้วยกันกับนารี ชายรู้สึกอ่อนล้าและเหน็ดเหนื่อยจากงานนอกบ้าน แถมยังต้องมารับภาระดูแลนารีที่อยู่ในบ้านอีก ทุกๆครั้งที่ใช้เห็นนารีเขาก็เริ่มมีอาการหัวเสีย อารมณ์ไม่ดี หงุดหงิด จนพาลทะเลาะกับหญิงสาวที่ตนเคยรักอย่างสุดซึ้ง
วันหนึ่งชัยเริ่มคิดแล้วว่าเขาไม่อยากอยู่กับนารีอีกต่อไป เขาจะเอานารีทิ้งไปให้เสียพ้นๆ ถ่ายจึงหลอกให้นารีออกจากบ้านโดยบอกว่าจะพานารีไปดูสวนดอกไม้ เพื่อให้เธอคลายเครียด นารีหลงเชื่อคำพูดของชัย ตามชัยออกไปดูสวนดอกไม้ตั้งแต่เช้า แต่จนค่ำมืดดึกดื่นแล้ว ชัยก็ยังไม่พาเธอกลับไปบ้าน นารีจึงรู้ตัวแล้วว่าเธอถูกใจคนรักที่เธอเคยรักมากที่สุดทอดทิ้ง เธอจึงพยายามกลับไปยังบ้านเกิดของเธอ
ระหว่างทางกลับบ้านนารีก็ได้พบท่านเศรษฐีอนันต์โดยบังเอิญ ท่านเศรษฐีอนันต์เมื่อได้ทราบความจริงทั้งหมด ก็ไม่นึกรังเกียจนารี แถมยังนึกสงสารและเห็นใจนารีมาก เขาจึงรับเธอไว้มาดูแล และพาเธอไปหาหมอรักษาดวงตา จนนารีสามารถกลับมามองเห็นได้ดังเดิมอีกครั้ง บุญคุณของท่านเศรษฐีอนันต์ทำให้นารีซาบซึ้งใจ และยอมตกแต่งเป็นภรรยา
เมื่อชัยไปรู้ว่านารีหายดีเป็นปกติแล้ว เขาก็อยากกลับไปอยู่กินกับนารีเหมือนเช่นเคย ใช่คิดว่านารีน่าจะยังคงรักเขาอยู่ แต่เมื่อชัยไปถึงหน้าบ้านท่านเศรษฐีอนันต์ นารีก็รีบออกมาต่อว่าตัดพ้อชัยว่า “พี่ทิ้งฉันในยามที่ฉันกำลังลำบากและทุกข์ยากมากที่สุด นี่นะหรือคนรักกัน คนอย่างพี่ไม่มีวันได้รับความรักดีๆกับเขาหรอก พี่กลับไปซะ ฉันไม่รักพี่อีกต่อไปแล้ว”
ชัยกลับไปอย่างเศร้าสลดเพราะแม้เขาจะรักนารีมากแค่ไหน แต่เมื่อเจอกับความทุกข์และอุปสรรคอันแสนสาหัสเขาก็ไม่สามารถทำใจยอมรับและฝ่าฟันอุปสรรคไปร่วมพร้อมกับคนที่เขารักได้ เพราะตัวเขาก็ยังคงมีแต่ความเห็นแก่ตัว
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่ารักแท้มักพ่ายแพ้ต่อความทุกข์อันแสนสาหัส จนทำให้เรามักเห็นแก่ตัวอยู่เสมอ
เรื่องเล่าสอนใจ บทพิสูจน์รักแท้
ฝ่ายชายมีชื่อว่าชัย เป็นคนยากจนมาแต่กำเนิด มีอาชีพรับจ้างทำนาทำไร่ทำสวนของเศรษฐีใจดีผู้หนึ่ง ด้วยความที่เขาเป็นคนมุมานะเพียรพยายามขยันขันแข็งและตั้งใจทำมาหากินก็เป็นที่ถูกอกถูกใจของเจ้าของนาและเจ้าของไร่สวนอยากท่านเศรษฐีมีชื่อว่าอนันต์ ชัยรักกับลูกสาวเจ้าของที่ดินสวนผัก ลูกสาวเจ้าของที่ดินสวนผักนั้นชื่อว่านารี นารีเกิดและเติบโตขึ้นท่ามกลางความรักความอบอุ่นและความสุขสบายจากครอบครัวของเธอเอง
ด้วยความรักความห่วงใยจากผู้เป็นพ่อเป็นแม่ กลัวว่าลูกสาวของตัวเองจะตกที่นั่งลำบากไม่ได้อยู่สุขสบายเหมือนเช่นเคย พวกเขาจึงได้เพียงพยายามเสาะหาเจ้าบ่าวผู้มีฐานะดีและเป็นคนดีให้กับลูกสาวตนเอง จนได้พบกับชายหนุ่มสูงวัยรูปร่างหน้าตางดงามคนหนึ่ง เขาชื่ออนันต์ เขามีฐานะเป็นถึงเศรษฐีของหมู่บ้าน ทั้งยังเป็นคนมีจิตใจเมตตา โอบอ้อมอารี ชอบช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก และมักบริจาคข้าวของ เงินทอง ช่วยเหลือคนยากจนอยู่เสมอ ชัยเองก็ยังเคยได้รับความช่วยเหลือจากเศรษฐีอนันต์
พ่อแม่ของนารีเห็นว่าเศรษฐีอนันต์ผู้นี้ มีฐานะและคุณสมบัติที่เหมาะสมกับลูกสาวของตน จึงได้ด้ายพูดคุยทาบทามให้มาเป็นลูกเขย และพร้อมที่จะยกลูกสาวให้กับเศรษฐีอนันต์เศรษฐีใจดีผู้นี้ ตัวท่านเศรษฐีแม้จะเป็นหนุ่มสูงวัยไม่เคยมีครอบครัวมาก่อน แต่พอได้พบหน้ากับนารี หญิงสาวนี่ดูหน้าตางดงามหมดจด แถมยังมีจิตใจอ่อนโยน ก็เกิดความรักใคร่ชอบพอในตัวเธอ แต่เมื่อรู้ว่าในใจของนารีมีชายหนุ่มที่ชื่อว่าชัยอยู่ ท่านเศรษฐีอนันต์ก็ไม่อยากบังคับฝืนใจเธอให้ต้องมาแต่งงานกับเขา จึงได้แต่บอกความในใจกลับนารีว่า “พี่จะรอนารีจนกว่านารีจะไม่มีใครในใจ เมื่อถึงวันนั้นพี่จะมารับนารีไปอยู่ด้วยกัน”
พ่อแม่ของนารีโกรธโมโหในตัวลูกสาวคนนี้อย่างมากที่สุด ที่ลูกสาวของตนมองไม่เห็นเพชรเม็ดงามที่อยู่ตรงหน้า แต่กลับไปคว้าก้อนกรวดอย่างชัยมาเป็นคู่ชีวิต พ่อแม่ของนารีจึงกีดกันความรักของชัยและนารีอย่างถึงที่สุด จนทั้งคู่ต้องหนีไปอยู่ด้วยกันที่ต่างเมืองโดยไม่ร่ำลาใคร
นารีต้องช่วยชัยทำมาหากินด้วยความยากลำบาก เธอต้องตรากตรำทำนา ทำไร่ทำสวน และช่วยชัยทำงานก่อสร้าง เพื่อจะหาเงินมาเลี้ยงดูแลครอบครัวของตนเอง เพราะความรักของทั้งคู่ที่มีให้กันและกันมาเนิ่นนาน แม้จะพบเจอกับความยากลำบากและอุปสรรค ก็ไม่ทำให้คนทั้งคู่เลิกรักต่อกันได้
กระทั่งวันหนึ่งนารีเริ่มมีอาการเจ็บป่วยทางประสาทตา สายตาของเธอเริ่มพร่าเลือนมองไม่เห็นชัดเจนเหมือนดังเดิม จนกระทั่งดวงตาทั้งคู่ของเธอก็มืดบอดลงอย่างสนิท ชัยนำเงินเก็บทั้งหมดที่มีพานารีไปรักษาตามที่ต่างๆ แต่ก็ไม่มีหมอคนใดสามารถรักษาให้เธอหายได้ จนชัยเชื่อแล้วว่านารีคงจะต้องตาบอดจริงๆและไม่มีทางรักษาให้หายได้
นารีที่ตาบอดต้องเลิกทำงานข้างนอก เธอทำได้แต่งานในบ้านเท่านั้น แต่เพราะเธอตาบอดมองไม่เห็นอะไรทำให้แม้แต่งานในบ้านเล็กๆในน้อยๆเธอก็ยังทำได้ไม่ดี เธอไม่สามารถหุงหาอาหารที่แสนอร่อยเหมือนเช่นเคยให้ชัยได้อีก ภาระหน้าที่ต่างๆทั้งในบ้านและนอกบ้านจึงตกเป็นของใช้แต่เพียงคนเดียว
เวลาล่วงเลยผ่านไป ชัยเริ่มรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจเวลาที่ต้องอยู่ด้วยกันกับนารี ชายรู้สึกอ่อนล้าและเหน็ดเหนื่อยจากงานนอกบ้าน แถมยังต้องมารับภาระดูแลนารีที่อยู่ในบ้านอีก ทุกๆครั้งที่ใช้เห็นนารีเขาก็เริ่มมีอาการหัวเสีย อารมณ์ไม่ดี หงุดหงิด จนพาลทะเลาะกับหญิงสาวที่ตนเคยรักอย่างสุดซึ้ง
วันหนึ่งชัยเริ่มคิดแล้วว่าเขาไม่อยากอยู่กับนารีอีกต่อไป เขาจะเอานารีทิ้งไปให้เสียพ้นๆ ถ่ายจึงหลอกให้นารีออกจากบ้านโดยบอกว่าจะพานารีไปดูสวนดอกไม้ เพื่อให้เธอคลายเครียด นารีหลงเชื่อคำพูดของชัย ตามชัยออกไปดูสวนดอกไม้ตั้งแต่เช้า แต่จนค่ำมืดดึกดื่นแล้ว ชัยก็ยังไม่พาเธอกลับไปบ้าน นารีจึงรู้ตัวแล้วว่าเธอถูกใจคนรักที่เธอเคยรักมากที่สุดทอดทิ้ง เธอจึงพยายามกลับไปยังบ้านเกิดของเธอ
ระหว่างทางกลับบ้านนารีก็ได้พบท่านเศรษฐีอนันต์โดยบังเอิญ ท่านเศรษฐีอนันต์เมื่อได้ทราบความจริงทั้งหมด ก็ไม่นึกรังเกียจนารี แถมยังนึกสงสารและเห็นใจนารีมาก เขาจึงรับเธอไว้มาดูแล และพาเธอไปหาหมอรักษาดวงตา จนนารีสามารถกลับมามองเห็นได้ดังเดิมอีกครั้ง บุญคุณของท่านเศรษฐีอนันต์ทำให้นารีซาบซึ้งใจ และยอมตกแต่งเป็นภรรยา
เมื่อชัยไปรู้ว่านารีหายดีเป็นปกติแล้ว เขาก็อยากกลับไปอยู่กินกับนารีเหมือนเช่นเคย ใช่คิดว่านารีน่าจะยังคงรักเขาอยู่ แต่เมื่อชัยไปถึงหน้าบ้านท่านเศรษฐีอนันต์ นารีก็รีบออกมาต่อว่าตัดพ้อชัยว่า “พี่ทิ้งฉันในยามที่ฉันกำลังลำบากและทุกข์ยากมากที่สุด นี่นะหรือคนรักกัน คนอย่างพี่ไม่มีวันได้รับความรักดีๆกับเขาหรอก พี่กลับไปซะ ฉันไม่รักพี่อีกต่อไปแล้ว”
ชัยกลับไปอย่างเศร้าสลดเพราะแม้เขาจะรักนารีมากแค่ไหน แต่เมื่อเจอกับความทุกข์และอุปสรรคอันแสนสาหัสเขาก็ไม่สามารถทำใจยอมรับและฝ่าฟันอุปสรรคไปร่วมพร้อมกับคนที่เขารักได้ เพราะตัวเขาก็ยังคงมีแต่ความเห็นแก่ตัว
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่ารักแท้มักพ่ายแพ้ต่อความทุกข์อันแสนสาหัส จนทำให้เรามักเห็นแก่ตัวอยู่เสมอ