มรสุมซัดถล่ม เกาะลิบง บ้านพังยับ ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก วอนรัฐ หาที่อยู่ใหม่-เร่งสร้างกำแพงกันคลื่น.
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9423341
ตรัง มรสุมซัดถล่ม เกาะลิบง หมู่บ้านติดชายทะเลบ้านพังยับ 15 หลัง อีก 10 หลังเสี่ยงพัง ซ้ำชุด นร. อุปกรณ์การเรียน เสียหายหมด ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก วอนรัฐ หาที่อยู่ใหม่-เร่งสร้างกำแพงกันคลื่น
21 ก.ย. 67 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หมู่ที่ 3 บ้านมดตะนอย ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหมู่บ้านติดชายฝั่งทะเลที่กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากปัญหาคลื่นลมแรงพัดเข้าใส่บ้านเรือนจนพังเสียหายไปทั้งหมด 15 หลังคาเรือน ส่วนอีกกว่า 10 หลังคาเรือน ขณะนี้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะถูกคลื่นซัดพังต่อไป
ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะต้องย้ายไปอาศัยกับญาติพี่น้อง ขณะที่เด็กๆ อย่างน้อย 8 ราย บ้านเรือนพังเสียหาย ทำให้ชุดนักเรียน และอุปกรณ์การเรียน เสียหายไปด้วย ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างมากนั้น
นาย
ดุสิต ลัคนาศิโรรัตน์ รองผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาตรัง เขต 2 พร้อมคณะผู้บริหารโรงเรียนใกล้เคียง และผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านมดตะนอย ได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านที่นักเรียนถูกพายุถล่มจนพังเสียหายทั้งหลัง รวมทั้งยังมีชุดนักเรียน และอุปกรณ์การเรียน สูญหายไปกับน้ำทะเลทั้งหมด
จึงได้นำเงินจากกองทุน 60 ปี ครองราชย์ มามอบให้เด็กๆ เหล่านี้ครอบครัวละ 3,000 บาท เพื่อนำไปซื้อชุดนักเรียน และอุปกรณ์การเรียนใหม่ ขณะเดียวกันยังพบว่า มีนักเรียนบนเกาะลิบง และเกาะมุกด์ อีกไม่น้อยกว่า 11 ราย ที่บ้านถูกพายุถล่มจนพังเสียหายด้วย ซึ่งทางสำนักงานเขตจะเข้าไปให้ความช่วยเหลือตามระเบียบต่อไป
นายณั
ฐวัฒน์ ทะเลลึก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 บ้านมดตะนอย บอกว่า ขณะนี้มีบ้านเรือนของชาวบ้านที่ถูกคลื่นซัดพังเสียหายไปแล้ว 15 หลังคาเรือน และเสี่ยงจะพังอีกประมาณ 10 หลังคาเรือน ซึ่งหลังทางอำเภอและทางจังหวัดลงพื้นที่มาดูสภาพปัญหามีความเห็นตรงกันว่าจะต้องหาที่อยู่ใหม่ให้ชาวบ้าน เพราะหากซ่อมแซมหรือสร้างใหม่ในที่ดินเดิมไม่ได้แล้ว โดยทาง อบต.เกาะลิบง ก็กำลังศึกษาสำรวจต่อไป
ทั้งนี้ สิ่งที่ชาวบ้านต้องการมากที่สุดและเร่งด่วนที่สุดตอนนี้คือ 1. ขอให้รัฐเร่งหาที่อยู่ใหม่เพื่อช่วยเหลือทั้งกว่า 20 ครัวเรือน โดยเฉพาะ 15 ครัวเรือนที่บ้านเพิ่งพังล่าสุดนั้น บางครอบครัวเป็นครอบครัวแฝด พักอาศัยกันอยู่นับ 10 คน และ 2. ขอให้เร่งสร้างกำแพงกันคลื่นโดยเร็วที่สุด
โดยมีการศึกษาออกแบบและสำรวจความคิดเห็นของประชาชนไปเมื่อปีที่แล้ว แต่ตอนนั้นได้รับคำตอบว่าจะสร้างได้ต้องใช้เวลาอีกประมาณ 3-4 ปี จึงอยากเรียกร้องให้เร่งทำในทันที เพื่อรักษาผืนดินเอาไว้ก่อนจะถูกน้ำทะเลกลืนหายไปหมด
ปารมี พร้อมเอาเรื่อง เข้ากมธ.ศึกษา หากครูเบญ ยังติดใจ ผลสอบสพฐ.
https://www.matichon.co.th/education/news_4803375
ปารมี ส.ส.ประชาชน พร้อม หากครูเบญ ยังติดใจ ผลสอบสพฐ. จ่อเอาเข้ากมธ.ศึกษา ซักถาม-แก้ระบบสอบให้โปร่งใส เป็นธรรม
กรณี น.ส.
เบญ โพสต์ร้องขอความเป็นธรรม เรื่องราวการสอบครู หลังสอบติดพนักงานราชการทั่วไปอันดับที่ 1 เอกวิทยาศาสตร์ สพม.สระแก้ว แต่ผ่านไป 3 วัน ปรากฏว่าชื่อของเธอหายไป เมื่อสอบถามไปยังหน่วยงานจัดสอบคือ สพม.สระแก้ว กลับได้รับแค่คำขอโทษ โดยไม่ได้รับคำอธิบายใดๆ ทั้งสิ้น ล่าสุด สพฐ.เผยผลสืบเบื้องต้น พบว่าผลสอบของครูเบญ คะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ คือ ไม่ถึง 60 % ตามที่ระเบียบกำหนดไว้ ทั้งภาค ก. และ ภาค ข.
จริง และไม่ติด 1 ใน 10 นั้น
ล่าสุด (21 ก.ย.) ปารมี ไวจงเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้ทวีตผ่านแอพพลิเคชั่น x ว่า
กรณีการสอบของครูเบญญาภา ที่เข้าสอบเป็นพนักงานราชการทั่วไปในตำแหน่งครูผู้สอนกับ สพม.สระแก้ว ที่ปรากฏเป็นข่าว และ สพฐ. เพิ่งแถลงผลการสืบสวนสอบสวนไปนั้น หากครูเบญญาภา ยังติดใจในบางประเด็นและคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ดิฉันและพรรคประชาชนขอยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างแน่นอน ท่านใดรู้จักกับครูเบญญาภา เป็นการส่วนตัว รบกวนแจ้งครูเบญญาภา ให้ทราบด้วยค่ะ พอดีว่าดิฉันได้พยายามติดต่อครูเบญญาภา ไปในหลายช่องทางแล้ว แต่ติดต่อไม่ได้เลยค่ะ
จากกรณีนี้ดิเห็นว่าผู้บริหาร สพม. สระแก้ว และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบในความบกพร่องที่เกิดขึ้น จึงขอเรียกร้องให้เลขาฯ สพฐ. ดำเนินการลงโทษตามขั้นตอนต่อไปด้วยค่ะ
และเพื่อให้เหตุการณ์นี้เป็นครั้งสุดท้ายที่ต้องไม่เกิดขึ้นอีก เพราะนี่เป็นการสอบสำคัญ เป็นการสอบเข้าสู่ระบบราชการ ซึ่งต้องทำอย่างมืออาชีพ รัดกุม รอบคอบ ยุติธรรม และโปร่งใสตรวจสอบได้ ดิฉันจึงเสนอเรื่องนี้เข้าสู่คณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้เชิญเลขา สพฐ. และผู้บริหาร สพม. สระแก้ว เข้ามาชี้แจง เพื่อร่วมกันออกแบบระบบการสอบครูทุกประเภท ให้มีประสิทธิภาพ เป็นธรรม และโปร่งใสตรวจสอบได้ต่อไปค่ะ
ปารมี ยังทวีตข้อความอีกว่า “
กรณีสอบครู สพม.สระแก้วของครูเบญญาภานั้น ดิฉันได้พูดคุยกับคุณเจมส์ ผู้บริหารมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรม ซึ่งได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์หลายอย่าง ดิฉันจะได้นำไปซักถามผู้บริหาร สพฐ. ในวันที่เข้ามาชี้แจงในคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร ต่อไปค่ะ”
https://x.com/AjJuang/status/1837136580177449472
https://x.com/AjJuang/status/1837208601477402795
ปลัดฯแรงงานแจงปม ‘ถกขึ้นค่าจ้าง 400’ ล่ม 2 รอบ นัดใหม่ส่อแววเลื่อนอีก
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_4803801
ปลัดฯแรงงาน แจงเหตุบอร์ดค่าจ้าง ‘ถกขึ้นค่าจ้าง 400’ ล่ม 2 รอบ นัดใหม่ 24 ก.ย.อาจเลื่อนอีก
เมื่อวันที่ 21 กันยายน นาย
ไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการค่าจ้าง (บอร์ดค่าจ้าง) ชุดที่ 22 เปิดเผยถึงความคืบหน้าการประชุมบอร์ดค่าจ้าง ครั้งที่ 9/2567 เพื่อพิจารณาค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท เป็นรอบที่ 3 ของปี 2567
นาย
ไพโรจน์กล่าวว่า ตามที่การประชุมเมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา ที่ประชุมได้แจ้งเลื่อนการพิจารณาออกไปเป็นวันที่ 24 กันยายนนี้ เนื่องจากองค์ประชุมไตรภาคี จากฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายนายจ้าง และฝ่ายลูกจ้าง ไม่ครบ 15 คน โดยฝ่ายลูกจ้างขาด 2 คน และฝ่ายรัฐบาลขาดไป 4 คน นั้น จากการตรวจสอบทราบว่าเนื่องจากกรรมการที่ขาดประชุมส่วนใหญ่ติดภารกิจและลาล่วงหน้า แต่มี 1 ในกรรมการฝ่ายรัฐบาลคือ นายเมธี สุภาพงษ์ ตัวแทนธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ได้เกษียณอายุงานแล้ว
“
ทางเราจึงได้โทรศัพท์ประสานไปทาง ธปท. โดยทาง ธปท.ระบุว่า นายเมธี สุภาพงษ์ ได้เกษียณอายุไปแล้ว ไม่ได้เป็นตัวแทน ธปท.และไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบแล้ว นี่คือประเด็นที่เราอาจจะต้องเลื่อนประชุมบอร์ดค่าจ้างในครั้งถัดไป จากเดิมวันที่ 24 กันยายนนี้ อาจจะต้องเลื่อนออกไปก่อน เพื่อรอความชัดเจน” นายไพโรจน์ กล่าว
นาย
ไพโรจน์ กล่าวต่อว่า นาย
เมธีได้เกษียณอายุจาก ธปท. เมื่อปี 2566
“
ตอนที่เกษียณใหม่ๆ ทาง ธปท. ยังรับรองให้เป็นตัวแทนของ ธปท. อยู่ แต่เมื่อวาน (20 กันยายน 2567) ธปท.ระบุเป็นลายลักษณ์อักษรมาว่า นายเมธีไม่ได้เป็นผู้แทน ธปท.แล้ว เพราะฉะนั้น จะติดตรงคุณสมบัติของนายเมธีว่า จะมีสถานการณ์เป็นบอร์ดค่าจ้างได้หรือไม่ เมื่อ ธปท. ไม่รับรองแล้ว จึงไม่ควรเข้าประชุม ควรเลือกคนใหม่มาแทนมากกว่า ซึ่งต้องใช้เวลาและรวมเวลาที่ต้องเสนอชื่อเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่เกิน 15 วัน” นาย
ไพโรจน์เผย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวหากมีการโหวตเมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา ฝ่ายที่จะชนะคือ นายจ้าง ที่ไม่เห็นด้วยกับการขึ้นค่าจ้าง 400 บาท ในภาวะเศรษฐกิจซบเซา จึงทำให้กรรมการฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายลูกจ้างบางคนไม่เข้าประชุม เพื่อให้โหวตไม่ได้จริงหรือไม่
นาย
ไพโรจน์กล่าวว่า ไม่จริง บางครั้งมันมีประเด็นหลายๆ เรื่อง ต้องมองเป็นในแง่บวกก่อนว่า เมื่อวาน (20 กันยายน 2567) ผู้ที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมนั้นติดภารกิจจริงๆ การประชุมก็ต้องเลื่อนออกไปก่อน และคาดว่าในภาพรวมอาจจะไม่ทันประกาศใช้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ โดยทางอาจจะต้องรอวันประกาศขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ด้าน นาย
อรรถยุทธ ลียะวณิช กรรมการค่าจ้าง ฝ่ายนายจ้าง ในคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 กล่าวว่า ฝ่ายอื่นเป็นอย่างไรไม่อาจทราบได้ แต่ฝ่ายนายจ้างไม่เคยเบี้ยวการประชุม เพียงแต่การประชุมบอร์ดค่าจ้าง ชุดที่ 22 เมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา เป็นการเลือกวันที่ฝ่ายนายจ้างว่างไม่ตรงกัน นำไปสู่เงื่อนไขในพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองแรงงาน มาตราที่ 82 ถ้าไม่ได้องค์ประชุม ต้องให้จัดให้มีการประชุมอีกครั้งหนึ่งภายใน 15 วันนับแต่วันที่นัดประชุมครั้งแรก
“
พอมาประชุมบอร์ดค่าจ้างวันที่ 20 กันยายน ฝ่ายนายจ้างก็มาครบ และก็พร้อมที่จะเข้าร่วมการประชุมในวันที่ 24 กันยายนนี้แน่นอน หากองค์ประชุมครบก็สามารถโหวตได้ ซึ่งฝ่ายนายจ้างเองก็รับผิดชอบและทำหน้าที่ตามที่ได้มอบหมายอย่างดีที่สุดแล้ว” นาย
อรรถยุทธกล่าว
JJNY : มรสุมซัดถล่ม เกาะลิบง│ปารมีพร้อมเอาเรื่อง│แจงปม ‘ถกขึ้นค่าจ้าง 400’ ล่ม 2 รอบ│ญี่ปุ่นสั่งอพยพด่วน หลังฝนตกหนัก
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9423341
ตรัง มรสุมซัดถล่ม เกาะลิบง หมู่บ้านติดชายทะเลบ้านพังยับ 15 หลัง อีก 10 หลังเสี่ยงพัง ซ้ำชุด นร. อุปกรณ์การเรียน เสียหายหมด ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก วอนรัฐ หาที่อยู่ใหม่-เร่งสร้างกำแพงกันคลื่น
21 ก.ย. 67 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หมู่ที่ 3 บ้านมดตะนอย ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหมู่บ้านติดชายฝั่งทะเลที่กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากปัญหาคลื่นลมแรงพัดเข้าใส่บ้านเรือนจนพังเสียหายไปทั้งหมด 15 หลังคาเรือน ส่วนอีกกว่า 10 หลังคาเรือน ขณะนี้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะถูกคลื่นซัดพังต่อไป
ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะต้องย้ายไปอาศัยกับญาติพี่น้อง ขณะที่เด็กๆ อย่างน้อย 8 ราย บ้านเรือนพังเสียหาย ทำให้ชุดนักเรียน และอุปกรณ์การเรียน เสียหายไปด้วย ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างมากนั้น
นายดุสิต ลัคนาศิโรรัตน์ รองผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาตรัง เขต 2 พร้อมคณะผู้บริหารโรงเรียนใกล้เคียง และผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านมดตะนอย ได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านที่นักเรียนถูกพายุถล่มจนพังเสียหายทั้งหลัง รวมทั้งยังมีชุดนักเรียน และอุปกรณ์การเรียน สูญหายไปกับน้ำทะเลทั้งหมด
จึงได้นำเงินจากกองทุน 60 ปี ครองราชย์ มามอบให้เด็กๆ เหล่านี้ครอบครัวละ 3,000 บาท เพื่อนำไปซื้อชุดนักเรียน และอุปกรณ์การเรียนใหม่ ขณะเดียวกันยังพบว่า มีนักเรียนบนเกาะลิบง และเกาะมุกด์ อีกไม่น้อยกว่า 11 ราย ที่บ้านถูกพายุถล่มจนพังเสียหายด้วย ซึ่งทางสำนักงานเขตจะเข้าไปให้ความช่วยเหลือตามระเบียบต่อไป
นายณัฐวัฒน์ ทะเลลึก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 บ้านมดตะนอย บอกว่า ขณะนี้มีบ้านเรือนของชาวบ้านที่ถูกคลื่นซัดพังเสียหายไปแล้ว 15 หลังคาเรือน และเสี่ยงจะพังอีกประมาณ 10 หลังคาเรือน ซึ่งหลังทางอำเภอและทางจังหวัดลงพื้นที่มาดูสภาพปัญหามีความเห็นตรงกันว่าจะต้องหาที่อยู่ใหม่ให้ชาวบ้าน เพราะหากซ่อมแซมหรือสร้างใหม่ในที่ดินเดิมไม่ได้แล้ว โดยทาง อบต.เกาะลิบง ก็กำลังศึกษาสำรวจต่อไป
ทั้งนี้ สิ่งที่ชาวบ้านต้องการมากที่สุดและเร่งด่วนที่สุดตอนนี้คือ 1. ขอให้รัฐเร่งหาที่อยู่ใหม่เพื่อช่วยเหลือทั้งกว่า 20 ครัวเรือน โดยเฉพาะ 15 ครัวเรือนที่บ้านเพิ่งพังล่าสุดนั้น บางครอบครัวเป็นครอบครัวแฝด พักอาศัยกันอยู่นับ 10 คน และ 2. ขอให้เร่งสร้างกำแพงกันคลื่นโดยเร็วที่สุด
โดยมีการศึกษาออกแบบและสำรวจความคิดเห็นของประชาชนไปเมื่อปีที่แล้ว แต่ตอนนั้นได้รับคำตอบว่าจะสร้างได้ต้องใช้เวลาอีกประมาณ 3-4 ปี จึงอยากเรียกร้องให้เร่งทำในทันที เพื่อรักษาผืนดินเอาไว้ก่อนจะถูกน้ำทะเลกลืนหายไปหมด
ปารมี พร้อมเอาเรื่อง เข้ากมธ.ศึกษา หากครูเบญ ยังติดใจ ผลสอบสพฐ.
https://www.matichon.co.th/education/news_4803375
ปารมี ส.ส.ประชาชน พร้อม หากครูเบญ ยังติดใจ ผลสอบสพฐ. จ่อเอาเข้ากมธ.ศึกษา ซักถาม-แก้ระบบสอบให้โปร่งใส เป็นธรรม
กรณี น.ส.เบญ โพสต์ร้องขอความเป็นธรรม เรื่องราวการสอบครู หลังสอบติดพนักงานราชการทั่วไปอันดับที่ 1 เอกวิทยาศาสตร์ สพม.สระแก้ว แต่ผ่านไป 3 วัน ปรากฏว่าชื่อของเธอหายไป เมื่อสอบถามไปยังหน่วยงานจัดสอบคือ สพม.สระแก้ว กลับได้รับแค่คำขอโทษ โดยไม่ได้รับคำอธิบายใดๆ ทั้งสิ้น ล่าสุด สพฐ.เผยผลสืบเบื้องต้น พบว่าผลสอบของครูเบญ คะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ คือ ไม่ถึง 60 % ตามที่ระเบียบกำหนดไว้ ทั้งภาค ก. และ ภาค ข.
จริง และไม่ติด 1 ใน 10 นั้น
ล่าสุด (21 ก.ย.) ปารมี ไวจงเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้ทวีตผ่านแอพพลิเคชั่น x ว่า กรณีการสอบของครูเบญญาภา ที่เข้าสอบเป็นพนักงานราชการทั่วไปในตำแหน่งครูผู้สอนกับ สพม.สระแก้ว ที่ปรากฏเป็นข่าว และ สพฐ. เพิ่งแถลงผลการสืบสวนสอบสวนไปนั้น หากครูเบญญาภา ยังติดใจในบางประเด็นและคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ดิฉันและพรรคประชาชนขอยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างแน่นอน ท่านใดรู้จักกับครูเบญญาภา เป็นการส่วนตัว รบกวนแจ้งครูเบญญาภา ให้ทราบด้วยค่ะ พอดีว่าดิฉันได้พยายามติดต่อครูเบญญาภา ไปในหลายช่องทางแล้ว แต่ติดต่อไม่ได้เลยค่ะ
จากกรณีนี้ดิเห็นว่าผู้บริหาร สพม. สระแก้ว และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบในความบกพร่องที่เกิดขึ้น จึงขอเรียกร้องให้เลขาฯ สพฐ. ดำเนินการลงโทษตามขั้นตอนต่อไปด้วยค่ะ
และเพื่อให้เหตุการณ์นี้เป็นครั้งสุดท้ายที่ต้องไม่เกิดขึ้นอีก เพราะนี่เป็นการสอบสำคัญ เป็นการสอบเข้าสู่ระบบราชการ ซึ่งต้องทำอย่างมืออาชีพ รัดกุม รอบคอบ ยุติธรรม และโปร่งใสตรวจสอบได้ ดิฉันจึงเสนอเรื่องนี้เข้าสู่คณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้เชิญเลขา สพฐ. และผู้บริหาร สพม. สระแก้ว เข้ามาชี้แจง เพื่อร่วมกันออกแบบระบบการสอบครูทุกประเภท ให้มีประสิทธิภาพ เป็นธรรม และโปร่งใสตรวจสอบได้ต่อไปค่ะ
ปารมี ยังทวีตข้อความอีกว่า “กรณีสอบครู สพม.สระแก้วของครูเบญญาภานั้น ดิฉันได้พูดคุยกับคุณเจมส์ ผู้บริหารมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรม ซึ่งได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์หลายอย่าง ดิฉันจะได้นำไปซักถามผู้บริหาร สพฐ. ในวันที่เข้ามาชี้แจงในคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร ต่อไปค่ะ”
https://x.com/AjJuang/status/1837136580177449472
https://x.com/AjJuang/status/1837208601477402795
ปลัดฯแรงงานแจงปม ‘ถกขึ้นค่าจ้าง 400’ ล่ม 2 รอบ นัดใหม่ส่อแววเลื่อนอีก
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_4803801
ปลัดฯแรงงาน แจงเหตุบอร์ดค่าจ้าง ‘ถกขึ้นค่าจ้าง 400’ ล่ม 2 รอบ นัดใหม่ 24 ก.ย.อาจเลื่อนอีก
เมื่อวันที่ 21 กันยายน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการค่าจ้าง (บอร์ดค่าจ้าง) ชุดที่ 22 เปิดเผยถึงความคืบหน้าการประชุมบอร์ดค่าจ้าง ครั้งที่ 9/2567 เพื่อพิจารณาค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท เป็นรอบที่ 3 ของปี 2567
นายไพโรจน์กล่าวว่า ตามที่การประชุมเมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา ที่ประชุมได้แจ้งเลื่อนการพิจารณาออกไปเป็นวันที่ 24 กันยายนนี้ เนื่องจากองค์ประชุมไตรภาคี จากฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายนายจ้าง และฝ่ายลูกจ้าง ไม่ครบ 15 คน โดยฝ่ายลูกจ้างขาด 2 คน และฝ่ายรัฐบาลขาดไป 4 คน นั้น จากการตรวจสอบทราบว่าเนื่องจากกรรมการที่ขาดประชุมส่วนใหญ่ติดภารกิจและลาล่วงหน้า แต่มี 1 ในกรรมการฝ่ายรัฐบาลคือ นายเมธี สุภาพงษ์ ตัวแทนธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ได้เกษียณอายุงานแล้ว
“ทางเราจึงได้โทรศัพท์ประสานไปทาง ธปท. โดยทาง ธปท.ระบุว่า นายเมธี สุภาพงษ์ ได้เกษียณอายุไปแล้ว ไม่ได้เป็นตัวแทน ธปท.และไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบแล้ว นี่คือประเด็นที่เราอาจจะต้องเลื่อนประชุมบอร์ดค่าจ้างในครั้งถัดไป จากเดิมวันที่ 24 กันยายนนี้ อาจจะต้องเลื่อนออกไปก่อน เพื่อรอความชัดเจน” นายไพโรจน์ กล่าว
นายไพโรจน์ กล่าวต่อว่า นายเมธีได้เกษียณอายุจาก ธปท. เมื่อปี 2566
“ตอนที่เกษียณใหม่ๆ ทาง ธปท. ยังรับรองให้เป็นตัวแทนของ ธปท. อยู่ แต่เมื่อวาน (20 กันยายน 2567) ธปท.ระบุเป็นลายลักษณ์อักษรมาว่า นายเมธีไม่ได้เป็นผู้แทน ธปท.แล้ว เพราะฉะนั้น จะติดตรงคุณสมบัติของนายเมธีว่า จะมีสถานการณ์เป็นบอร์ดค่าจ้างได้หรือไม่ เมื่อ ธปท. ไม่รับรองแล้ว จึงไม่ควรเข้าประชุม ควรเลือกคนใหม่มาแทนมากกว่า ซึ่งต้องใช้เวลาและรวมเวลาที่ต้องเสนอชื่อเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่เกิน 15 วัน” นายไพโรจน์เผย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวหากมีการโหวตเมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา ฝ่ายที่จะชนะคือ นายจ้าง ที่ไม่เห็นด้วยกับการขึ้นค่าจ้าง 400 บาท ในภาวะเศรษฐกิจซบเซา จึงทำให้กรรมการฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายลูกจ้างบางคนไม่เข้าประชุม เพื่อให้โหวตไม่ได้จริงหรือไม่
นายไพโรจน์กล่าวว่า ไม่จริง บางครั้งมันมีประเด็นหลายๆ เรื่อง ต้องมองเป็นในแง่บวกก่อนว่า เมื่อวาน (20 กันยายน 2567) ผู้ที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมนั้นติดภารกิจจริงๆ การประชุมก็ต้องเลื่อนออกไปก่อน และคาดว่าในภาพรวมอาจจะไม่ทันประกาศใช้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ โดยทางอาจจะต้องรอวันประกาศขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ด้าน นายอรรถยุทธ ลียะวณิช กรรมการค่าจ้าง ฝ่ายนายจ้าง ในคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 กล่าวว่า ฝ่ายอื่นเป็นอย่างไรไม่อาจทราบได้ แต่ฝ่ายนายจ้างไม่เคยเบี้ยวการประชุม เพียงแต่การประชุมบอร์ดค่าจ้าง ชุดที่ 22 เมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา เป็นการเลือกวันที่ฝ่ายนายจ้างว่างไม่ตรงกัน นำไปสู่เงื่อนไขในพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองแรงงาน มาตราที่ 82 ถ้าไม่ได้องค์ประชุม ต้องให้จัดให้มีการประชุมอีกครั้งหนึ่งภายใน 15 วันนับแต่วันที่นัดประชุมครั้งแรก
“พอมาประชุมบอร์ดค่าจ้างวันที่ 20 กันยายน ฝ่ายนายจ้างก็มาครบ และก็พร้อมที่จะเข้าร่วมการประชุมในวันที่ 24 กันยายนนี้แน่นอน หากองค์ประชุมครบก็สามารถโหวตได้ ซึ่งฝ่ายนายจ้างเองก็รับผิดชอบและทำหน้าที่ตามที่ได้มอบหมายอย่างดีที่สุดแล้ว” นายอรรถยุทธกล่าว