สวัสดีค่ะ เราเลือกลงโรงเรียนแห่งหนึ่งที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน เข้าไปยังไม่ทันทดลองงานทุกคนถามเป็นคำเดียวว่ากลัวผีหรือเปล่า เราตอบได้คำเดียวว่ากลัวคนมากกว่า แต่อย่าเพิ่งตกใจไปนะคะเรื่องนี้ไม่มีผีค่ะ เริ่มเอาวันแรกที่เข้าไปในโรงเรียนวันที่ไปรายงานตัวกับครูพี่เลี้ยงและทางโรงเรียนทุกอย่างปกติดีค่ะ ก่อนเปิดเทอม 3 วันครูพี่เลี้ยงให้เราไปช่วยงานจัดห้องสหกร ห้องสมุดค้นหนังสือลงมาจากชั้นหนังสือ ตอนขนลงช่วยกันขนนะคะเพราะจัดขึ้นให้เราขนขึ้นคนเดียว แล้วบอกว่าเราทำช้าเพราะทำไปอ่านไป แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะรู้สึกว่าเขาอาจจะเห็นเราเป็นเด็กเราทำได้ ก่อนเปิดภาคเรียน 1 วันมีการไปส่งคุณครูที่ย้ายโรงเรียนครูพี่เลี้ยงเรามีรถแต่ครูก็เลี้ยงรถติดรถผอ. ไป นักศึกษาคนอื่นๆเขารู้จักกันอยู่แล้วเราเป็นคน make friend ไม่เก่งพยายามแล้วแต่ก็ไม่สนิทกับใครเลย เขาบอกว่างั้นเราอยู่ที่โรงเรียนนั่นแหละคอยจัดห้องสมุด เราก็โอเค ไม่ไปก็ได้ เพราะไม่รู้จักครูที่ไปส่งอยู่แล้ว ตกค่ำเพื่อนที่เป็นนักศึกษาแชทมาบอกว่าเราต้องไปนะเพราะจะมีการเลี้ยงต้อนรับนักศึกษาด้วย เราก็โชคดีที่มีครูจากบ้านพักเขาช่วยคุยกับครูอีกคนหนึ่งที่เขามีรถให้ว่าให้เราติดรถไปด้วย เหตุการณ์ที่ดีที่สุดของเราคือการได้เจอคุณครูที่ใจดีในโรงเรียน ถึงเขาจะไม่ใช่ครูพี่เลี้ยงแต่เขาคอยให้ความช่วยเหลือและคำปรึกษาอยู่เสมอ หลังจากกลับมาเปิดเทอมวันแรกทางโรงเรียนให้ส่งโครงการสอน เราผู้เรียนมา 3 ปียังไม่เคยทำโครงการสอนแล้วเราก็ทำผิดบ้างถูกบ้าง ส่งไม่ตรงกำหนดบ้างเพราะยอมรับเลยว่าเป็นคนที่ห่วยแตกเรื่องเอกสารมากๆมากแบบมากๆๆๆๆ แต่เราก็พยายามแล้วเราก็เขียนส่ง สุดท้ายก็โดนตีกลับแต่นักศึกษาก็โดนตีกลับกันทุกคน ว่าไม่ได้ครูบางคนเขายังโดนตีกลับเลย เราแค่ฝึกงานจะไปเป๊ะอะไรตั้งแต่วันแรก ก็เริ่มสอนเริ่มทำอะไรตามปกติที่คิดว่าทำได้ยอมรับเลยนะคะว่าเข้าไปแบบไม่รู้อะไรเลยฝึกงานแบบไม่รู้ต้องทำอะไรก่อนอ่านแค่ว่าต้องส่งอะไรกับมหาลัย ไป 2-3 สัปดาห์แรกเช็คชื่อบนกระดาษเพราะไม่รู้ว่าทางโรงเรียนใช้ app ในการเช็คชื่อรู้สึกเหมือนพี่เลี้ยงจะสังเกตเห็นแต่เขาไม่เคยบอกเลยว่าให้ทำยังไง ฝ่ายวิชาการให้ขอรหัส sgs (สำหรับกรอกคะแนนของนักเรียน และลงบันทึกหลังแผน)ของครูพี่เลี้ยงแต่เขาไม่เคยให้เขาปฏิเสธมาตลอดว่าให้ไปขอกับครูวิชาการแทน ระหว่างที่ยุ่งวุ่นวายกับการสอน ก็ต้องเขียนแผนการสอนไปด้วยแล้วแผนแรกๆที่วิชาการให้ส่งตอนต้นเทอมก็ยังแก้ไม่เสร็จ ส่ง-ตีกลับ ส่ง-ตีกลับอยู่อย่างนั้น ตอนนั้นคือรู้สึกเหมือนตัวเองไรค่า ไร้ประสิทธิภาพมาก ผ่านไป1เดือนก็รู้สึกดีว่า ผ่านไปได้แล้ว1 เหลืออีกสามเดือน ทนๆหน่อย ไม่แย่ขนาดนั้น ก็ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ สอน นิเทศของรร. เยี่ยมบ้าน ผ่านไปกลางเทอม ส่งต้นฉบับข้อสอบ เราก็ส่ง-แก้-ส่ง-แก้มีวันหนึ่ง เราต้องไปลาไปติดต่อเอกสารที่ มหาลัยวันก่อนที่เราจะไปเราจะเอาต้นฉบับข้อสอบไปให้แกตรวจ ไปรอบนึงช่วงบ่าย แกไม่ว่าง เข้าใจ เลยกลับมานั่งแก้ดูว่าต้องแก้อะไร ไปอีกรอบหลังจากเด็กๆเข้าแถว เช็คชื่อเด็กแล้วก็เอาไปนั่งรอหน้าห้องที่แกดูแล นั่งเกือบสิบนาทีเห็นแกเดินลงมาจากตึกแล้ว แต่แวะห้องธุรการนานมาก นั่งเม้ามอย เราว่าจะถอดใจละเลยเดินเข้าไปเขียนใบลา แล้วแกจะเดินสวนออกมา เลยถามแกว่าครูรีบไหมคะ หนูอยากให้ตรวจข้อสอบให้หน่อย แกบอกว่ารีบ แต่ได้เอาไปให้ตรวจพร้อมอันเก่าจะได้รู้ว่าแก้จริงไหม เราก็บอกว่าได้ค่ะ แต่ขอเซ็นต์ใบลาแปปนึง ไม่ถึง5นาที เดินออกจากห้องธุรการ แกล็อกห้องสตาร์ถรถแล้ว เรายืนอยู่หน้ารถแก อึ้งเลย ไม่เคยช็อกอะไรเท่านี้มาก่อน วันต่อมาเราก็ลาไปส่งเอกสารที่มอหลังจากนั้นก็กลับมาทำงานปกติ แต่ผ่านมาสองเดือนเราเช็คชื่อเด็กเข้าแถวในระบบมาตลอด จนสังเกตุได้ว่าอยู่ดีๆพี่เลี้ยงก็รีบมาเช็คชื่อเด็กทั้งที่ตั้งแต่ต้นเทอมไม่เคยมาเช็คเลย ตอนเย็นเราก็เอาไปให้แกตรวจ แกก็ตรวจแล้วก็ตำหนิว่าเราทำเอกสารไม่เรียบร้อย เรายอมรับเรื่องเอกสารค่ะถ้าสอนงานเราพร้อมจะปรับปรุง ถึงจะทำไปร้องไห้ไปก็เถอะ555 แต่แกพูดถึงเรื่องอื่นๆ บอกว่าเด็กไปฟ้องแกทั้งขโยงว่า เราไม่สอน ไม่เข้าเนื้อหาสักที สั่งงานเยอะ ปล่อยคาบว่าง ปล่อยให้เคลียร์งานหลายคาบบ้าง เล่นเกมกับเด็กในคาบหลายคาบบ้าง สนิทกับเด็กบางกลุ่มจนเกิดลำเอียงบ้าง เราก็บอกไปตามเหตุผลของเราว่า บางเรื่องก็ไม่จริง เช่น เล่นเกม ก็เล่นเพียงช่วงพักเที่ยง สนิทกับเด็กบางคน เพราะบางคนก็มาขอให้สอนเพิ่มหลังเลิกเรียน เพราะวิชาของเราเน้นปฏิบัติชิ้นงาน ปล่อยให้เคลียร์งานเพราะเด็กบอกว่างานเยอะแล้ว เราก็นับดูแล้วก็รู้สึกว่าเยอะจริง ส่วนเรื่องงานเยอะเป็นการเข้าใจผิดตอนคุยกับครูพี่เลี้ยง เลยทำให้เราสั่งงานเด็กเยอะ เรื่องนี้เราผิดค่ะ เรารู้สึกเหมือนเค้าไม่ฟัง และไม่เชื่อสิ่งที่เราพูด เขาบอกว่าเขาจะไม่คืนต้นฉบับข้อสอบ จนกว่าจะส่งแผนการสอน แล้วก็ขู่เราว่าจะส่งเรากลับมหาลัย หลังจากนั้นไม่กี่วันก็โดนเรียนเข้าห้องผอ.เพื่อไปคุยเรื่องเราไม่ส่งงาน และประเด็นต่างๆที่ครูพี่เลี้ยงกล่าวมา เรารู้สึกแย่นะ แล้วก็เริ่มอึดอัดตั้งแต่ตอนนั้น เราก็ไม่ได้คุยกับแกอีก แกมาใช้ห้องตอนที่เราสอนอยู่1ครั้ง 2ครั้ง เราหงุดหงิดเพราะเราเคยถามแกแล้วว่าใช้ห้องวันไหนบ้าง เพราะแกย้ายไปสอนวิชาอื่นแล้วอยู่ห้องของวิชานั้นๆแล้ว เราเลยย้ายของออกจากห้องวิชาหลักเราไปอยู่อีกห้องหนึ่งที่ว่าง แล้วครูพี่ๆคนอื่นเค้าก็ช่วยกล่อมเราว่าแค่ไม่เข้าใจกัน ลองเข้าไปช่วยแหลือแก เหมือนที่ช่วยเหลือพี่ๆ ลองไปขอโทษแก หนูโมโหมากนะ แต่หนูก็จัดการอารมณ์ ซื้อกล้วยทอดไปขอโทษแก แต่ก็พูดแบบไม่รับคำขอโทษบอกว่า ไม่มีไรหนิ ครูไม่สนใจใครอยู่แล้ว สนแต่ชีวิตตัวเอง เงินเดือนยังเข้าก็พอใจแล้ว จากนั้นก็แย่ๆๆๆๆๆแบบนี้มาตลอด หลังจากนั้นเราก็ทำแผนส่งพร้อมข้อสอบฉบับใหม่ ไปส่ง-แก้ๆไปเรื่อยๆ นับได้ซัก เกือบสิบรอบแบบไม่โม้เลย เกือบสิบรอบจริงๆ จนถึง1วันก่อนสอบโน๊ตบุ๊คเป็นอะไรไม่รู้ อยู่ดีๆก็ดับแบบไม่ติดอีกเลย เลยต้องเอาไฟล์ที่มีอยู่ เป็นPDFหมดแล้ว มาแก้ๆๆๆๆๆๆๆๆใหม่ จาก8วิชา มี2วิชาที่เสร็จ ครูวิชาการเค้าให้โอกาสเราขอสแกนลายเซ็นต์พี่เลี้ยง บอกว่าโทรให้ติด ติดต่อให้ได้ เรา แชทไป ไม่อ่าน โทรไปไม่รับ โทรเบอร์ติดแล้วก็ปิดเครื่อง วันที่โน๊ตบุ๊คพัง ครูวิชาการเค้าเฝ้าเราทำงานอยู่ เค้าเห็นเหตุการณ์ว่าของเราพังจริง แล้วเช้าวันถัดมา พี่เลี้ยงบอกเราว่าครูวิชาพูดไม่ตรงกับเราก็คอมเราพัง เค้าบอกว่า เราเก็บคอมกลับไปเลย เราเลยบอกให้พี่เลี้ยงไปถามอีกรอบก็ได้ เราก็เห็นแกไปถามแล้วเราก็มาบอกว่าครูพี่เลี้ยงเราว่าอย่างนี้ เราส่ง แก้เอกสารอยู่แบบนี้จนเราเหนื่อย ก่อนวันสอบ ผอ.เรียกคุย อีกแล้ว เรื่องส่งข้อสอบช้า คนอื่นส่งกันหมดแล้ว แต่เรามันแย่อยู่คนเดียว ส่งเอกสารไม่ได้ซักอย่าง แล้วพี่เลี้ยงก็เอาเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ครั้งก่อนมาพูดอีก เราก็เหนื่อยก็เฟล แต่เหมือนด้วยความนอนน้อยจากเมื่อคืนเลยทำให้เราไม่ค่อยเศร้า เรารู้อยู่แล้วว่าเราจะโดนแบบนี้ เราโดนกาวิชาสอบออกจากตารางหมดทุกวิชา 11ห้อง เราต้องคุมสอบเองหมดเลย ผอ.ถามเราว่า รู้สึกยังไง เราก็ตอบไปว่ารู้สึกผิด แต่สายตากับอารมณ์จริงๆตอนนั้นมันดำดิ่งจนรู้สึกว่า ไม่เอาอะไรอีกต่อไปแล้ว เหนื่อย อยากพัก เราก็นัดเด็กสอบ นอกตาราง มีเพื่อนนศ.ช่วยคุมให้ ห้องละคน มีครูช่วยด้วย จนวันสอบวันสุดท้าย เราไปช่วยคุมสอบแทนพี่เลี้ยง เพราะแกต้องไปดูรถส่งของลงของ เราก็คุมไปมีครูอีกคนที่เค้ารู้ว่าพี่เลี้ยงเราไม่สอนงานเลย ทั้งเขียนกระดาษปะหน้าข้อสอบ เจาะ ผูก เค้ามาสอน ระหว่างนั้นเด็กม.ปลายวิ่งมาหาเราบอกว่า ครูครับ พวกผมเอากระเป๋าไว้ในห้องวิชาครูเปิดห้องให้หน่อยได้ไหม เราก็ให้กุญแจไปเพราะเราคุมสอบอยู่ ปรากฏว่าเด็กไม่ได้เอากระเป๋าออกแต่แค่เข้าไปเอาของและเอาแก้วน้ำเข้าไปนั่งกินช่วงพักด้วย พี่เลี้ยงเรากลับมา ตะโกนด่าเราหน้าห้องสอบ วันนี้เป็นวันที่เราตัดสินใจว่าเราจะออกค่ะ เรายอมรับว่าฟิวขาดเหมือนกัน แต่เราไม่ได้พูดอะไร เราเอากุญแจไปให้เด็กห้องนั้นแล้วบอกเด็กว่าสอบเสร็จแล้วเอากุญแจไปคืนครูเค้าด้วย เราไปร้องไห้ในห้องน้ำ แล้วก็ขับรถกลับบ้านพักครู ไม่กี่วันต่อมา เราก็ไปลาผอ.ค่ะ
ระหว่างที่เราอยู่ เราเครียดและกดดันมากๆ เราปวดไม่เกรน มันกำเริบจนเราเวียนหัวคลื่นไส้
เราถ่ายเป็นเลือด และข้อมือเคล็ด แต่เราก็ต้องทน
ยางมอไซค์ก็แบนเดือนละ4ครั้ง จะบ้าตาย
แต่สิ่งที่รู้สึกว่าโชคดีที่สุดคือได้พบเจอคนใจดีค่ะ ครูพี่ๆที่ใจดีหลายๆคน แล้วไม่รู้ว่าจะได้เจอคนที่ดีกับเราแบบนี้ได้อีกไหม อยากขอบคุณพี่ๆที่ช่วยให้คำปรึกษา คอยแนะนำ และคอยสอนงานค่ะ แต่ที่ห้องออกมาเพราะรู้สึกเหมือนอยู่ไปก็อาจจะไม่จบด้วยความอ่อนด้อยประสบการณ์ และการทำงานเอกสารของตัวเอง ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ
แชร์ประสบการณ์ฝึกสอนที่ ไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่
ระหว่างที่เราอยู่ เราเครียดและกดดันมากๆ เราปวดไม่เกรน มันกำเริบจนเราเวียนหัวคลื่นไส้
เราถ่ายเป็นเลือด และข้อมือเคล็ด แต่เราก็ต้องทน
ยางมอไซค์ก็แบนเดือนละ4ครั้ง จะบ้าตาย
แต่สิ่งที่รู้สึกว่าโชคดีที่สุดคือได้พบเจอคนใจดีค่ะ ครูพี่ๆที่ใจดีหลายๆคน แล้วไม่รู้ว่าจะได้เจอคนที่ดีกับเราแบบนี้ได้อีกไหม อยากขอบคุณพี่ๆที่ช่วยให้คำปรึกษา คอยแนะนำ และคอยสอนงานค่ะ แต่ที่ห้องออกมาเพราะรู้สึกเหมือนอยู่ไปก็อาจจะไม่จบด้วยความอ่อนด้อยประสบการณ์ และการทำงานเอกสารของตัวเอง ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ