※※ คำว่า "เจิม" ที่คนไทยเข้าใจผิดและใช้กันผิดๆ แถมยังแปลผิดๆ หรือเปล่า ???

คำว่า "เจิม" ผมลองค้นหาความหมายในเน็ต แปลว่า "การแต้มเป็นจุดๆ เพื่อเป็นสิริมงคล"
ซึ่งเป็นคำแปลที่ผิดๆ ทำให้สังคมไทยปฏิบัติผิดๆ จนถึงปัจจุบัน หรือเปล่า ???

คำว่า "เจิม" มีมาตั้งแต่ก่อนพุทธกาล ในประเพณีของ พราหมณ์ ฮินดู
เป็นพิธีกรรมของ พราห์มณ์ ฮินดู ใช้กับผู้หญิงที่กำลังจะออกเรือนไปแต่งงาน
ในสมัยโบราณเขาจะให้ผู้หญิง ไปนอนกับนักบวชพรามณ์ ตามประเพณีความเขื่อ 

ดังนั้นคำว่า "เจิม" จึงแปลว่า "ใช้แล้ว ใช้ได้"

ต่อมานักบวช พราห์มมีน้อย แต่ต้องรับเจิมเจ้าสาววันละหลายๆ คนจึงใช้แป้งแปะเป็นจุดที่หน้าผาก
แทนการทดสอบ จึงกลายเป็นฟระเพณีของอินเดีย ความหมายเปลี่ยนเป็น "ผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว"

ดังนั้นการเจิมถ้ายึดหลักประเพณีโบราณดั้งเดิม
ถ้าเราจะไปให้ "พระเจิม" เช่น การเจิมรถออกใหม่ ควรไปให้พระใช้นั่งก่อน

ส่วนเจ้าสาวถ้าจะให้พระเจิม ควรไปให้พระทดลองใช้ดูก่อนหนึ่งครั้ง จึงจะเป็นการเจิมที่ถูกต้อง

ส่วนพระที่เจิมเอาแป้งไปแตะหน้าผากเจ้าสาว จึงไม่ใช่ "กิจของสงฆ์"
ต้องปรับอาบัติ ถ้าเป็นสมัยพุทธกาล คงโดนพระพุทธเจ้าตำหนิติเตียน

"โมฆะบุรุษ การเจิมหน้าผากจ้าวสาว เป็นการกระทำที่ผิดวินัยของภิกษุ 
ไม่ได้ทำให้ผู้ยังไม่ศรัทธา ไม่ได้ศรัทธา ไม่ได้ทำให้ผู้ที่ศรัทธาแล้ว ศรัทธายิ่งขึ้น"

"อาบัติทุกกฏ"

พระภิกษุควรให้พร ให้คติเตือนใจในการครองคู่ ไม่ใช่ไป "เจิม"

ชาวบ้านควรเข้าใจ เวลาแต่งงาน ให้ผู้ใหญ่เจิมตามความเชื่อความสบายใจ ก็พอ
แต่ อย่าไปให้ภิกษุเจิมเลย... มันบาป 



เครดิตภาพ : ขอบคุณภาพประกอบจากเน็ต "นิตยสารแพรว"
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่