แม่ให้ช่วยค้ำประกัน ทำถูกไหมที่ปฏิเสธ?

คือเรามีเรื่องรบกวนจิตใจค่ะ ไม่รู้ว่าที่ทำไปสมควรแล้วหรือไม่ เลยอยากได้ความคิดเห็นจากเพื่อนๆค่ะ

จะเล่าประวัติก่อนนะคะ
เรา ตอนนี้อายุ28ปี ป้าแท้ๆและลุงเขยเลี้ยงมาตั้งแต่แรกเกิด เพราะแม่แท้ๆตอนคลอดเรา แกติดเที่ยวและไม่มีกำลังทรัพย์พอจะเลี้ยงเรา เลยฝากไว้ที่ลุงและป้าค่ะ ซึ่งลุงกับป้าเลี้ยงเรามาอย่างดีและรักเรามากๆเหมือนลูกตัวเองเลยค่ะ และเราก็รักท่านมากๆและเรียกว่าพ่อกับแม่มาตั้งแต่เกิด ส่วนแม่แท้ๆก็มาเยี่ยมเยียนบ้างเดือนละครั้ง ไม่เคยส่งเสียเราแต่เคยซื้อโทรศัพท์ให้ตอนเราเรียนอยู่เพราะแม่ถูกหวยรางวัลใหญ่ ซึ่งทั้งเราและฝั่งครอบครัวไม่เคยตำหนิหรือบอกให้แม่มาส่งเสียเรานะคะเพราะเข้าใจว่าสถาการณ์การเงินแม่ไม่ดีจริงๆ(ประมาณว่าขอให้เอาตัวเองให้รอดก่อนค่อยมานึกถึงลูก ประมาณนี้อะค่ะ) ส่วนตัวก็สนิทกับแม่ในระดับนึงแต่ไม่ได้สนิทกันเหมือนแม่ลูกทั่วไปค่ะ

แม่เคยเป็นพนักงานบริษัทเมื่อประมาณ10ปีก่อน เขาประวัติการเงินไม่ค่อยดีเลยค่ะ ญาติทุกคนต้องคอยส่งเงินให้เพราะจะมีบางช่วงแม่ไปกู้เงินนอกระบบมา+ติดเล่นหวยหนัก กระท่อนกระแท่นเรื่องเงินมาตลอด แต่เหตุการณ์ที่พีคๆที่เรายังจำได้คือ แม่เคยยืมบัตรเครดิตน้ามาผ่อนอะไรซักอย่าง2หมื่น แล้วโกหกน้าว่าบัตรเครดิตหายไม่ยอมคืน น้ารู้ตัวอีกทีคือบัตรเครดิตเขาถูกใช้เต็มวงเงิน2แสน ทีนี้แม่เลยมาสารภาพว่าแอบเอาไปรูดจนหมดค่ะ ตอนนั้นครอบครัวเราแทบจะตัดขาดจากแม่เราเลยค่ะ แต่เราเป็นคนเดียวที่คุยกับแม่และไม่ได้ดุว่าอะไรเพราะรู้ว่าเขาโดนมาเยอะแล้ว แต่แล้วสุดท้ายครอบครัวก็กลับมาคืนดีกันค่ะ

เหตุการณ์ต่อมา แม่เรายักยอกเงินบริษัท โดนโทษจำคุก5ปีค่ะ ปัจจุบันออกจากเรือนจำมาแล้วประมาณ2ปี ตอนนี้แกก็อายุประมาณ 54 ปี โดนไล่ออกจากบริษัท แล้ว ไปสมัครที่ไหนก็ไม่มีคนรับ ตอนนี้ทำงานล้างจานที่ร้านอาหารอยูพัทยาเพราะน้าฝากงานให้ พอมีเงินเดือนประมาณ1หมื่นค่ะ

ตอนนี้เราเรียนจบ ทำงานแล้ว4ปี ส่งให้แกเดือนละ
500-1,000ทุกเดือนไม่เคยขาด เรารู้ว่ามันน้อยแต่ภาระเราหนัก ทั้งค่าห้องค่ากู้เรียน ส่งให้ป้ากับลุง เลยมีกำลังได้เท่านี้ค่ะไม่รู้จะช่วยยังไง

แล้วตอนนี้พอแม่ได้งานทำมาแล้ว1ปี ประเด็นที่จะถามคือ แม่ก็เริ่มอยากมีรถเก๋ง แม่บอกจะซื้อรถมือสองแต่ต้องมีคนค้ำ แล้วมาขอให้เราเซนค้ำให้ บอกว่าคนขายจัดงวดผ่อนมาให้เดือนละ4พันต้องผ่อน7ปี เราเลยตอบปฏิเสธไปเพราะอย่างที่เล่าก็คือแม่เขาไม่เคยวางแผนเรื่องการเงินเลยค่ะ แล้วงานก็ไม่มั่นคง เรามองแล้วว่าถ้าเกิดผ่อนต่อไม่ไหวจริงๆ เราคงผ่อนต่อแม่คงไม่ไหวแน่ๆเพราะเรามีแพลนจะผ่อนรถเหมือนกันในปีหน้า และเรามองว่าแม่ไม่จำเป็นต้องใช้รถ เพราะที่พักกับที่ทำงานก็ห่างกันแค่กิโลเดียว แต่แม่บอกว่ามีเพื่อที่จะขับรถมาหาเราที่กรุงเทพได้ เราก็เข้าใจนะคะ เราไม่หล้าเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาลุงกับป้าเลยค่ะเพราะเขาต้องดุแม่เราแน่ๆ และเขาเคยย้ำกับเราว่าห้ามเซนต์ค้ำให้ใครเด็ดขาดไม่ว่าจะคนในครอบครัวหรือแฟน พอเราปฏิเสธไป แม่เสียใจมากและดูเหมือนโกรธเรา เราเลยรู้สึกผิดมากเลยค่ะ เราทำถูกแล้วใช่ไหมคะ🥺

ขอบคุณทุกความเห็นล่วงหน้าค่ะ🙏🏻
ถ้าแท็กผิดขออภัยนะคะ

**ขอบคุณทุกความเห็นเลยนะคะไม่ได้ไล่ตอบหมด คือเราทั้งรู้สึกไม่สบายใจ กังวล เบื่อหน่ายกับอะไรแบบนี้ เพราะมันเคยเกิดเหตุการณ์ประมาณนี้มาก่อนค่ะ ที่ยังไม่ได้เล่า คือเรามีพี่ชายแท้ๆอยู่1คนอายุ30 ซึ่งเรากับเขาไม่ได้โตมาด้วยกัน พี่แยกไปอยู่กับแม่ เราก็มาอยู่กับลุงกับป้าอย่างที่บอก เลยไม่ได้สนิทกับพี่ชายไปโดยปริยาย ตอนเด็กๆที่เราบอกว่าแม่ก็มาหาเราอยู่บ้าง บางทีจะพาเราไปอยู่ด้วยประมาณ1-2วันบ้าง แต่ลุงกับป้าจะไม่ค่อยยอม เพราะแม่เคยเอาเราไป แล้วทิ้งเราไว้ที่ห้องคนเดียวตอน5ขวบ เขาว่าแม่เหมือนแม่รับผิดชอบอะไรไม่ได้หรอกอะไรแบบนี้ค่ะ ส่วนพี่ที่ไปอยู่กับแม่ ชีวิตพี่ลำบากมาตลอดค่ะ เกเร ชกต่อย ติดยา เรียนไม่จบ(ทุกวันนี้ดรอปเรียนอยู่ เห็นว่าจะตั้งใจให้จบภายในปีหน้า แต่บอกมาหลายปีละไม่จบซักที) เรื่องพวกนี้ฝั่งญาติเราไม่เคยรู้ละเอียดเพราะแม่ปิดบังมาตลอด กลัวญาติจะดุพี่เราแล้วพี่จะตีตัวออกห่างจากญาติค่ะ ทุกวันนี้ครอบครัวเราฝั่งนี้เขาแค่รู้ว่าพี่ลำบากแต่คิดว่าแค่เรื่องเงิน เรื่องอื่นไม่รู้เลยค่ะ

และเมื่อปีที่แล้วนี้เอง แม่มาพูดกับเราว่าขอให้เซนต์ค้ำให้พี่ชายหน่อย เพราะจะซื้อมอไซค์คันเล็กๆพอขับแกร้บได้ ผ่อนปีนึงก็หมด ตอนนั้นเรารับปากไปเพราะใจอ่อน+ผ่อนไม่นาน (พี่ทำงานหานู่นขายนี่ขายไปเรื่อยๆ พอมีรายได้อยู่แต่ไม่มั่นคงค่ะ) ระหว่างเราเตรียมเอกสาร เค้นไปเค้นมาถึงรู้ว่า สิ่งที่พี่จะผ่อนคือมอไซค์บิ๊กไบค์คันละ2แสนกว่าค่ะ เราเลยบอกแม่ว่า นึกว่าซื้อคันเล็กๆ 5-6หมื่นเพื่อมาทำมาหากิน ตอนนั้นเราเสียความรู้สึกมากๆเหมือนโดนแม่กับพี่โกหก เราเลยปฏิเสธไปว่าราคานี้เราไม่เซนต์ให้นะแม่ แล้วทำไมไม่บอกแต่แรก แม่ก็เอาแต่พูดปกป้องพี่ เหมือนสอนอะไรแบบผิดๆอะค่ะ พอพี่รู้เรื่องว่าเราไม่ยอมเซนต์ค้ำให้ พี่โกรธเรามากๆค่ะ เราส่งข้อความไปอธิบายเหตุผลและขอโทษที่ทำให้ไม่ได้ หลังจากนั้นเขาก็บล็อคเฟส บล็อคไลน์ บล็อคทุกอย่าง ผ่านมาปีนึงแล้วที่ไม่ได้คุย เราก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะทุกวันนี้ก็ไม่ได้พึ่งพาอะไรกันอยู่แล้ว แต่จะบอกเราโคตเสียใจอะ อยากให้เขาโตซะทีแต่ก็เหมือนเดิม นั่นแหละค่ะ พอมาเจอแม่มาขออะไรแบบนี้มันทำให้เรารู้สึกแย่เหมือนครั้งที่แล้ว TT
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ทำถูกต้องแล้วค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่