ทวีกำลังรุนแรงแล้ว! จับตาพายุ ‘ซูลิก’ หวั่น 10 จังหวัด ภาคอีสาน-ภาคเหนือ อ่วมหนัก
https://www.dailynews.co.th/news/3875983/
เพจ "ฝ่าฝุ่น" เกาะติดพายุ ซูลิก พบกลุ่มเมฆหลายก่อนกำลังพวยพุ่งอยู่ใจกลางดีเปรสชั่นอย่างรวดเร็ว คาดไม่ช้าจะเป็นไต้ฝุ่น ขึ้นถล่มฝั่งเวียดนาม หวั่นผลกระทบ ทำ 10 จังหวัด ภาคอีสาน-ภาคเหนือ โดยเฉพาะเชียงราย อ่วมหนักอีกครั้ง
เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก “
ฝ่าฝุ่น” โพสต์คลิปสภาพอากาศจากดาวเทียม พร้อมข้อความระบุว่า
“เธอกำลังทวีกำลังก่อนอาละวาด เห็นเมฆรอบๆใจกลางดีเปรสชั่น Soulik พวยพุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็วหลายก้อนแบบตอนท้ายของคลิป เริ่มใจคอไม่ค่อยดี บอกได้เลยว่าเธอกำลังทวีกำลัง และน่าจะเห็นเป็นพายุโซนร้อนหรือไต้ฝุ่นในไม่ช้าก่อนจะขึ้นฝั่งเวียดนามนี่แหละ ทาง JMA ของญี่ปุ่นพยากรณ์ว่าเช้าพรุ่งนี้จะเป็นพายุโซนร้อน ดูจะจริง ดีไม่ดีไปไกลกว่าที่พยากรณ์อีก คราว Yagi ทุกค่ายพยากรณ์ตรงกันแต่…ขอโทษ…ผิดหมด
ขณะนี้พื้นที่มหาสมุทรในทะเลจีนใต้เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการขุนพายุมากที่สุดในโลก มีปัจจัยร่วมขุนอย่างพร้อมมูล เรียกได้ว่าทั้งโลกในขณะนี้ไม่มีผืนน้ำตรงไหนเหมาะกับการขุนพายุมากกว่าตำแหน่งนี้แล้ว เพราะฉะนั้นถ้าเธอจะทวีกำลังขึ้นผิดหูผิดตาก็ไม่ควรจะแปลกใจ พรุ่งนี้จะดูแต่เช้าให้อีกครั้งว่าเธอทวีกำลังไปถึงไหนแล้ว แต่ดูแล้วท่าทางไม่ค่อยดีเลยจริงๆ”
ขณะที่ก่อนหน้านี้ เพจเฟซบุ๊ก “
ฝ่าฝุ่น” ยังได้ระบุว่า ขอบฝนชายหน้าของพายุดีเปรสชั่น Soulik หรือ 98W หรือ 19W หรือ C (มีหลายชื่อมาก) มาถึงเกาะไหลหลำแล้ว แม้พลังลมไม่แรง ความเร็วลมไม่สูง แต่ฝนนั้นมาถึงไทยแน่ เพราะพายุคือเครื่องจักรสร้างลมและฝน
ฝั่งไทยอ่วมน้ำอยู่แล้วหลายพื้นที่ เอาฝนมาตกเพิ่มก็จะหนักขึ้น น่าห่วงสุดคืออีสานเหนือ สกลนคร นครพนม บึงกาฬ หนองคาย เลย กับเหนือบน น่าน พะเยา แพร่ เชียงราย (อีกและ) แต่เขื่อนสิรินธร ภูมิพลมีน้ำแค่ 50-60%เอง ยกเว้นสิริกิติ์ วชิราลงกรณ์ 80+%
หลังมีการโพสต์ออกไปมีผู้เข้ามาสอบถามรายละเอียดกับทางแอดมินและแชร์ออกไปกันจำนวนมาก
ชมคลิป
ขอบคุณข้อมูล – ภาพ เพจเฟซบุ๊ก “ฝ่าฝุ่น”
https://www.facebook.com/farfoon.th/videos/533081125903176/
พรรคประชาชน ลุยใช้เวทีสภา แก้ปัญหาน้ำท่วม
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_776829/
พรรคประชาชน ลุยใช้เวทีสภา แก้ปัญหาน้ำท่วม เตรียมตั้งกระทู้ถาม ยันจะรวบรวมข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน เสนอแนะรัฐบาล
นาย
ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เปิดเผยกับสำนักข่าว INN ว่า ในการประชุมสภาวันนี้จะมีการพิจารณาร่างกฎหมายที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอเข้ามาใหม่ รวมถึงร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สุราก้าวหน้าของ นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส. กทม. พรรคประชาชน ด้วย ขณะที่ ในส่วนของการประชุมในวันที่ 19 กย.ฝ่ายค้านเตรียมตั้งกระทู้ถามสดเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วม การช่วยเหลือประชาชน รวมไปถึงการจัดการการเยียวยาในอนาคต พร้อมกันนี้ ยังยืนยันด้วยว่าพรรคประชาชน จะใช้กลไกสภาในการช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วม จะรวบรวมข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ ต่อประชาชน หรือเป็นข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาล
นอกจากนี้ นายปกรณ์วุฒิ ยังขอให้ประชาชนเข้าใจถึงนโยบายของพรรคประชาชน เกี่ยวกับการรณรงค์ เรื่องทหาร ที่ผ่านมา ว่า ไม่ใช่การด้อยค่า เป็นคนละเรื่องเดียวกัน สส.ของพรรครณรงค์ให้ทหารไม่เกี่ยวกับการเมือง และทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ส่วนการช่วยเหลือประชาชน ไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร และไม่เคยต้องการให้ยกเลิกกองทัพ แต่ต้องการปฏิรูปกองทัพให้ทำหน้าที่ให้ดีขึ้น รวมถึงยกเลิกบังคับการเกณฑ์ทหาร เป็นภาคสมัครใจเท่านั้น
พิษรีเจ็กต์เรต ‘อสังหาฉะเชิงเทรา’ เฉา กำลังซื้อร่วง50% อ้อนรัฐเลิกภาษีที่ดิน LTV ลดดอกเบี้ย
https://www.matichon.co.th/economy/news_4797187
พิษรีเจ็กต์เรต ‘อสังหาฉะเชิงเทรา’ เฉา กำลังซื้อร่วง50% อ้อนรัฐเลิกภาษีที่ดิน LTV ลดดอกเบี้ย
วันที่ 17 กันยายน นาย
สืบวงษ์ สุขะมงคล นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นหนึ่งใน 3 จังหวัดของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจากการขยายตัวของโครงการอีอีซี เช่น รถไฟความเร็วสูง ท่าเรือ ถนน เป็นต้น ส่งผลให้ราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้น เกิดการขยายตัวโครงการที่อยู่อาศัยบ้านจัดสรรเพิ่มขึ้นจากผู้ประกอบการรายใหญ่ในกรุงเทพฯที่เข้ามาพัฒนาโครงการ อาทิ บริษัท ศุภาลัย จำกัด(มหาชน) ขณะที่ปัจจุบันภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว การเลิกกิจการมีมากขึ้น การลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ๆในฉะเชิงเทรายังน้อย ธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อกลุ่มราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ทำให้ยอดถูกปฏิเสธสินเชื่อหรือรีเจ็กต์เรตสูง 30-50% บวกกับอัตราดอกเบี้ยที่สูง ทำให้ลูกค้าบางกลุ่มยกเลิกและชะลอการตัดสินใจโอนกรรมสิทธิ์ ส่งผลต่อกำลังซื้อในตลาดลดลง 30-50% ขณะที่ซัพพลายในตลาดยังสูง 4,000-5,000 ยูนิต มากกว่าดีมานด์ที่เฉลี่ยต่อปีจะมียอดขายที่ 2,000 ยูนิต คาดว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปีกว่าจะขายหมด
นาย
สืบวงษ์กล่าวว่า สะท้อนจากยอดโอนกรรมสิทธิ์ปี 2566 เฉพาะอ.เมือง อ.บ้านโพธิ์ และอ.บางปะกง มียอดโอน 1,834 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ากว่า 5,715 ล้านบาท โดยทาวน์โฮมมียอดโอนมากที่สุด 577 ยูนิต คิดเป็น 31.46% แต่เมื่อดูจากจำนวนมูลค่าแล้ว บ้านเดี่ยวมีมูลค่าสูงที่สุดที่ 2,226.06 ล้านบาท คิดเป็น 38.95% ล่าสุดยอดโอนไตรมาส 1/2567 เฉพาะอ.เมือง อ.บ้านโพธิ์ และอ.บางปะกง มียอดโอน 303 ยูนิตคิดเป็นมูลค่ากว่า 951 ล้านบาท โดยบ้านแฝดมียอดโอนมากสุด 365 ล้านบาท คิดเป็น 38.38% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2566 การโอนไตรมาสแรกปี2567 ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
นาย
สืบวงษ์กล่าวว่า ดังนั้นในฐานะนายกสมาคมฯ จึงอยากให้รัฐบาลมีการผลักดันมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ เพิ่มเติม ได้แก่
1. เลิกภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเนื่องจากเป็นภาระต่อประชาชนและภาคธุรกิจ โดยเฉพาะประเภทที่ดินรกร้างว่างเปล่า ที่หากไม่ทำประโยชน์ ใน 3 ปี จะเสียภาษีเพิ่ม 0.3% และยกเว้นภาษีที่ดินประเภทเกษตรกรรม
2. ลดค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์และจดจำนองต่อไปอีก รวมถึงภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3%
3. ปลดล็อกมาตรการ LTV สำหรับซื้อบ้านหลังที่2และหลังที่3
4. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทั้งระบบทั้งสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อบ้าน
5. เร่งผลักดันโครงการพัฒนาในอีอีซี ทั้งระบบโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ให้เป็นตามแผน
6. ปรับปรุงผังเมืองรวมอีอีซีใหม่ โดยเฉพาะโครงข่ายถนนที่มีการกำหนดไว้ในผังเมืองกว่า 200 สาย โดยระบุว่าจะมีการเวนคืนและก่อสร้าง แต่ในขณะที่ปัจจุบันยังไม่มีการเดินหน้าโครงการแต่อย่างใด ทำให้ผู้มีที่ดินในบริเวณนั้นๆ ไม่สามารถพัฒนาหรือซื้อขายได้ ดังนั้นจึงอยากให้คณะกรรมการ(บอร์ด)อีอีซี ได้มีการพิจารณาจัดลำดับความสำคัญในการก่อสร้างใหม่ว่าสายไหนยังมีความจำเป็นหรือควรยกเลิก รวมถึงให้พิจารณาการใช้ประโยชน์ที่ดินของผังเมืองชุมชนให้สอดคลัองกับสภาพปัจจุบันด้วย เพื่อให้เกิดการพัฒนาเมืองได้มากขึ้น
“
ลูกค้าซื้อบ้านในฉะเชิงเทราส่วนใหญ่เป็นเรียลดีมานด์ ซื้อบ้านหลังแรก ไม่มีเก็งกำไร เพราะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ ราคาบ้านไม่แพง อากาศดี เพราะเป็นเมืองแม่น้ำ และน้ำไม่ท่วมเพราะอยู่ในพื้นที่สูง ต่อไปเมื่อรถไฟความเร็วสูงเปิดบริการ จะยกระดับฉะเชิงเทราจากเมืองผ่านเป็นเมืองน่าอยู่ น่าเที่ยวและน่าลงทุนมากขึ้น และเป็นประตูสู่อีอีซี และเห็นด้วยที่รัฐบาลจะมีการผลักดันโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและมองว่าฉะเชิงเทราก็เป็นพื้นที่มีความเหมาะสม โดยเฉพาะพื้นที่โดยรอบสถานีรถไฟความเร็วสูง” นาย
สืบวงษ์กล่าว
JJNY : จับตาพายุ ‘ซูลิก’│ปชน.ลุยใช้สภา แก้ปัญหาน้ำท่วม│พิษรีเจ็กต์เรต ‘อสังหาฉะเชิงเทรา’เฉา│รัสเซียชี้ต้องเพิ่มจำนวนทหาร
https://www.dailynews.co.th/news/3875983/
เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก “ฝ่าฝุ่น” โพสต์คลิปสภาพอากาศจากดาวเทียม พร้อมข้อความระบุว่า
“เธอกำลังทวีกำลังก่อนอาละวาด เห็นเมฆรอบๆใจกลางดีเปรสชั่น Soulik พวยพุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็วหลายก้อนแบบตอนท้ายของคลิป เริ่มใจคอไม่ค่อยดี บอกได้เลยว่าเธอกำลังทวีกำลัง และน่าจะเห็นเป็นพายุโซนร้อนหรือไต้ฝุ่นในไม่ช้าก่อนจะขึ้นฝั่งเวียดนามนี่แหละ ทาง JMA ของญี่ปุ่นพยากรณ์ว่าเช้าพรุ่งนี้จะเป็นพายุโซนร้อน ดูจะจริง ดีไม่ดีไปไกลกว่าที่พยากรณ์อีก คราว Yagi ทุกค่ายพยากรณ์ตรงกันแต่…ขอโทษ…ผิดหมด
ขณะนี้พื้นที่มหาสมุทรในทะเลจีนใต้เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการขุนพายุมากที่สุดในโลก มีปัจจัยร่วมขุนอย่างพร้อมมูล เรียกได้ว่าทั้งโลกในขณะนี้ไม่มีผืนน้ำตรงไหนเหมาะกับการขุนพายุมากกว่าตำแหน่งนี้แล้ว เพราะฉะนั้นถ้าเธอจะทวีกำลังขึ้นผิดหูผิดตาก็ไม่ควรจะแปลกใจ พรุ่งนี้จะดูแต่เช้าให้อีกครั้งว่าเธอทวีกำลังไปถึงไหนแล้ว แต่ดูแล้วท่าทางไม่ค่อยดีเลยจริงๆ”
ขณะที่ก่อนหน้านี้ เพจเฟซบุ๊ก “ฝ่าฝุ่น” ยังได้ระบุว่า ขอบฝนชายหน้าของพายุดีเปรสชั่น Soulik หรือ 98W หรือ 19W หรือ C (มีหลายชื่อมาก) มาถึงเกาะไหลหลำแล้ว แม้พลังลมไม่แรง ความเร็วลมไม่สูง แต่ฝนนั้นมาถึงไทยแน่ เพราะพายุคือเครื่องจักรสร้างลมและฝน
ฝั่งไทยอ่วมน้ำอยู่แล้วหลายพื้นที่ เอาฝนมาตกเพิ่มก็จะหนักขึ้น น่าห่วงสุดคืออีสานเหนือ สกลนคร นครพนม บึงกาฬ หนองคาย เลย กับเหนือบน น่าน พะเยา แพร่ เชียงราย (อีกและ) แต่เขื่อนสิรินธร ภูมิพลมีน้ำแค่ 50-60%เอง ยกเว้นสิริกิติ์ วชิราลงกรณ์ 80+%
หลังมีการโพสต์ออกไปมีผู้เข้ามาสอบถามรายละเอียดกับทางแอดมินและแชร์ออกไปกันจำนวนมาก
ชมคลิป
ขอบคุณข้อมูล – ภาพ เพจเฟซบุ๊ก “ฝ่าฝุ่น”
https://www.facebook.com/farfoon.th/videos/533081125903176/
พรรคประชาชน ลุยใช้เวทีสภา แก้ปัญหาน้ำท่วม
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_776829/
พรรคประชาชน ลุยใช้เวทีสภา แก้ปัญหาน้ำท่วม เตรียมตั้งกระทู้ถาม ยันจะรวบรวมข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน เสนอแนะรัฐบาล
นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เปิดเผยกับสำนักข่าว INN ว่า ในการประชุมสภาวันนี้จะมีการพิจารณาร่างกฎหมายที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอเข้ามาใหม่ รวมถึงร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สุราก้าวหน้าของ นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส. กทม. พรรคประชาชน ด้วย ขณะที่ ในส่วนของการประชุมในวันที่ 19 กย.ฝ่ายค้านเตรียมตั้งกระทู้ถามสดเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วม การช่วยเหลือประชาชน รวมไปถึงการจัดการการเยียวยาในอนาคต พร้อมกันนี้ ยังยืนยันด้วยว่าพรรคประชาชน จะใช้กลไกสภาในการช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วม จะรวบรวมข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ ต่อประชาชน หรือเป็นข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาล
นอกจากนี้ นายปกรณ์วุฒิ ยังขอให้ประชาชนเข้าใจถึงนโยบายของพรรคประชาชน เกี่ยวกับการรณรงค์ เรื่องทหาร ที่ผ่านมา ว่า ไม่ใช่การด้อยค่า เป็นคนละเรื่องเดียวกัน สส.ของพรรครณรงค์ให้ทหารไม่เกี่ยวกับการเมือง และทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ส่วนการช่วยเหลือประชาชน ไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร และไม่เคยต้องการให้ยกเลิกกองทัพ แต่ต้องการปฏิรูปกองทัพให้ทำหน้าที่ให้ดีขึ้น รวมถึงยกเลิกบังคับการเกณฑ์ทหาร เป็นภาคสมัครใจเท่านั้น
พิษรีเจ็กต์เรต ‘อสังหาฉะเชิงเทรา’ เฉา กำลังซื้อร่วง50% อ้อนรัฐเลิกภาษีที่ดิน LTV ลดดอกเบี้ย
https://www.matichon.co.th/economy/news_4797187
พิษรีเจ็กต์เรต ‘อสังหาฉะเชิงเทรา’ เฉา กำลังซื้อร่วง50% อ้อนรัฐเลิกภาษีที่ดิน LTV ลดดอกเบี้ย
วันที่ 17 กันยายน นายสืบวงษ์ สุขะมงคล นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นหนึ่งใน 3 จังหวัดของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจากการขยายตัวของโครงการอีอีซี เช่น รถไฟความเร็วสูง ท่าเรือ ถนน เป็นต้น ส่งผลให้ราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้น เกิดการขยายตัวโครงการที่อยู่อาศัยบ้านจัดสรรเพิ่มขึ้นจากผู้ประกอบการรายใหญ่ในกรุงเทพฯที่เข้ามาพัฒนาโครงการ อาทิ บริษัท ศุภาลัย จำกัด(มหาชน) ขณะที่ปัจจุบันภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว การเลิกกิจการมีมากขึ้น การลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ๆในฉะเชิงเทรายังน้อย ธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อกลุ่มราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ทำให้ยอดถูกปฏิเสธสินเชื่อหรือรีเจ็กต์เรตสูง 30-50% บวกกับอัตราดอกเบี้ยที่สูง ทำให้ลูกค้าบางกลุ่มยกเลิกและชะลอการตัดสินใจโอนกรรมสิทธิ์ ส่งผลต่อกำลังซื้อในตลาดลดลง 30-50% ขณะที่ซัพพลายในตลาดยังสูง 4,000-5,000 ยูนิต มากกว่าดีมานด์ที่เฉลี่ยต่อปีจะมียอดขายที่ 2,000 ยูนิต คาดว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปีกว่าจะขายหมด
นายสืบวงษ์กล่าวว่า สะท้อนจากยอดโอนกรรมสิทธิ์ปี 2566 เฉพาะอ.เมือง อ.บ้านโพธิ์ และอ.บางปะกง มียอดโอน 1,834 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ากว่า 5,715 ล้านบาท โดยทาวน์โฮมมียอดโอนมากที่สุด 577 ยูนิต คิดเป็น 31.46% แต่เมื่อดูจากจำนวนมูลค่าแล้ว บ้านเดี่ยวมีมูลค่าสูงที่สุดที่ 2,226.06 ล้านบาท คิดเป็น 38.95% ล่าสุดยอดโอนไตรมาส 1/2567 เฉพาะอ.เมือง อ.บ้านโพธิ์ และอ.บางปะกง มียอดโอน 303 ยูนิตคิดเป็นมูลค่ากว่า 951 ล้านบาท โดยบ้านแฝดมียอดโอนมากสุด 365 ล้านบาท คิดเป็น 38.38% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2566 การโอนไตรมาสแรกปี2567 ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
นายสืบวงษ์กล่าวว่า ดังนั้นในฐานะนายกสมาคมฯ จึงอยากให้รัฐบาลมีการผลักดันมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ เพิ่มเติม ได้แก่
1. เลิกภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเนื่องจากเป็นภาระต่อประชาชนและภาคธุรกิจ โดยเฉพาะประเภทที่ดินรกร้างว่างเปล่า ที่หากไม่ทำประโยชน์ ใน 3 ปี จะเสียภาษีเพิ่ม 0.3% และยกเว้นภาษีที่ดินประเภทเกษตรกรรม
2. ลดค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์และจดจำนองต่อไปอีก รวมถึงภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3%
3. ปลดล็อกมาตรการ LTV สำหรับซื้อบ้านหลังที่2และหลังที่3
4. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทั้งระบบทั้งสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อบ้าน
5. เร่งผลักดันโครงการพัฒนาในอีอีซี ทั้งระบบโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ให้เป็นตามแผน
6. ปรับปรุงผังเมืองรวมอีอีซีใหม่ โดยเฉพาะโครงข่ายถนนที่มีการกำหนดไว้ในผังเมืองกว่า 200 สาย โดยระบุว่าจะมีการเวนคืนและก่อสร้าง แต่ในขณะที่ปัจจุบันยังไม่มีการเดินหน้าโครงการแต่อย่างใด ทำให้ผู้มีที่ดินในบริเวณนั้นๆ ไม่สามารถพัฒนาหรือซื้อขายได้ ดังนั้นจึงอยากให้คณะกรรมการ(บอร์ด)อีอีซี ได้มีการพิจารณาจัดลำดับความสำคัญในการก่อสร้างใหม่ว่าสายไหนยังมีความจำเป็นหรือควรยกเลิก รวมถึงให้พิจารณาการใช้ประโยชน์ที่ดินของผังเมืองชุมชนให้สอดคลัองกับสภาพปัจจุบันด้วย เพื่อให้เกิดการพัฒนาเมืองได้มากขึ้น
“ลูกค้าซื้อบ้านในฉะเชิงเทราส่วนใหญ่เป็นเรียลดีมานด์ ซื้อบ้านหลังแรก ไม่มีเก็งกำไร เพราะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ ราคาบ้านไม่แพง อากาศดี เพราะเป็นเมืองแม่น้ำ และน้ำไม่ท่วมเพราะอยู่ในพื้นที่สูง ต่อไปเมื่อรถไฟความเร็วสูงเปิดบริการ จะยกระดับฉะเชิงเทราจากเมืองผ่านเป็นเมืองน่าอยู่ น่าเที่ยวและน่าลงทุนมากขึ้น และเป็นประตูสู่อีอีซี และเห็นด้วยที่รัฐบาลจะมีการผลักดันโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและมองว่าฉะเชิงเทราก็เป็นพื้นที่มีความเหมาะสม โดยเฉพาะพื้นที่โดยรอบสถานีรถไฟความเร็วสูง” นายสืบวงษ์กล่าว