[CR] รีวิว รักษาอาการปวดหลังเรื้อรัง ด้วยการทำ EDI เริ่มจากเรื่องแล็กๆ จนกลายเป็นเรื่องใหญ่

ต้องขอเกริ่นก่อนเลยนะครับ ส่วนตัวเป็นคนมีน้ำหนักตัวเยอะอยู่แล้ว มีแต่คนเป็นห่วงเรื่องการปรแต่อาการปวดหลังก็ยังไม่เกิดจนกระทั่งวันหนึ่ง ผมได้ไออย่างรุนแรงจากการสำลักน้ำ ดื่มหลังจากนั้นสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ผมมีอาการบีบรัดคล้านตระคริว ตรงช่วงเอว บริเวณด้านหลัง ปวดจนกระทั่งลงไปนอนบิดตัว ความรุนแรงคล้ายเป็นตระคริว มันบีบรัดแบบบอกไม่ถูก
หลักจากนอนเจ็บอยู่อาการปวดแบบบีบรัดคล้ายตระคริวก็เริ่มดีขึ้นและ จางลง แต่ผมก็สังเกตว่าหลังผมเริ่มไม่เหมือนเดิม พ่วงด้วยอาการเส้นตึงตรงหน้าแข้งด้านนอก ลงน้ำหนักที่ขาซ้ายไม่ได้ อาการนี้เป็นอยู่นาน 2 อาทิตย์ ก็เริ่มดีขึ้นแต่ก็ยังคงรู้สึกได้อยู่ เวลานั่งนานๆ ก็จะปวดทั้งหลังทั้งขาบ่อยขึ้น
จนเริ่มคุยกับที่บ้านว่าจะไปรักษา ที่บ้านเลยแนะนำ ให้ลองเข้าไปทำ mri ที่จุฬารันตน์ 3 พอเข้าไปทำ mri ผลปรากฏว่าเป็นกระดูกทับเส้นจ้า หมอก็เลยแนะนำว่า ควรต้องผ่า แต่ด้วยความที่ราคาสูง และไม่ได้ทำประกันไว้ เลยปรึกษาหมอว่ามีวิธีอื่นในการรักษา โดยไม่ต้องผ่าไหม เช่นกายภาพ หรือนวด ฯลฯ 
คุณหมอจึงแนะนำให้ลองทำ EDI ดู ไอเราก็ไม่ค่อยเข้าใจเลยถามคุณหมอไปว่ามันช่วยอะไรบ้าง คุณหมอเลยบอกว่า มันเป็นการฉีด Steriod ความเข้มข้นสูง เข้าไปในช่องโพรงกระดูกสันหลัง เพื่อลดการอักเสบของเยื่อหุ้มไขสันหลัง และเส้นประสาท  เป็นการรักษาชนิดนึง ที่มีไว้เพื่อบรรเทาอาการอักเสบ ของไขสันหลังและเส้นประสาท "ชั่วคราว"
  วิธีนี้ สามารถเลือกใช้ได้ในผู้ป่วยที่มีอาการจากโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ และรูเส้นประสาทตีบแคบได้ด้วย
  ข้อดีคือ  สามารถลดอาการปวดร้าวลงขาที่เราเป็นอยู่   และช่วยให้อาการทางระบบประสาทดีขึ้นได้ชั่วคราว
  ได้ผลดีในระยะสั้นๆ  ประมาณ 6 เดือน  แถวๆนั้นน่ะครับ  แล้วอาการก็จะกลับมาใหม่ ถ้าตัวโรคยังคงมีอยู่
  การฉีด EDI  ก็ต้องทำภายในห้องผ่าตัด  ทำโดยแพทย์  โดยระหว่างฉีด ก็ต้องมีการฉายรังสีในห้องผ่าตัด เพื่อมองตำแหน่งเข็มที่ฉีด  และสีของยาที่เดินทางไปได้ในโพรงไขสันหลังและเส้นประสาทครับ  

(ภาพตอนฉีด ชุดคุณหมอน่ารักเกิ๊นเห็นแล้วอดยิ้มไม่ได้ หายกลัวเลย)

  เรื่องของความเสี่ยงจากการฉีด  ถ้าทำโดยผู้เชี่ยวชาญ ก็ถือว่า มีความเสี่ยงที่ต่ำ  สามารถทำได้อย่างปลอดภัย
พอได้ข้อมูลจากคุณหมอ ก็เลยตัดสินใจนัดฉีด EDI ไปก่อน หลังจากที่ได้ฉีดมาก็คือ อาการ ชาขา หายไป อาการปวดหลังก็ดีขึ้น แต่ต้องดูว่าหลังจาก 6 เดือน อาการกลับมาเป็นอีกหรือไม่ แต่ตอนนี้ใช้ชีวิตสะดวกขึ้น อาาการต่างๆดีขึ้น
สำหรับใครที่กำลังปวด หรือ ไม่แน่ใจก็ลองหาเวลา ทำ MRI ดูเบื้องต้นก่อนได้เลยนะครับ จะได้วางแผนการรักษาได้อย่างถูกต้อง