[ตอนผมเรียนอยู่ กทม.] ตอนผมอายุ 13 ปีแม่ผมเสียด้วยโรคมะเร็งโคนลิ้น (ผมจึงมาอยู่กับป้า) ผมได้ย้ายมาเรียนและมาอาศัยที่ |
----------------------------------
[นครราชสีมา ในช่วงอายุ 14-16ปี] ในช่วงนี้ บ้านส่วนกลางเป็นทรัพย์สินของญาติพี่น้องทั้งหมด 7 คน / หนึ่งใน 7 คนนี้ มีคนนึงที่ผมเรียกว่าลุง ลุง ก เป็นผู้จัดการมรดกอันใหญ่รวมถึงบ้านส่วนกลาง และ มีช่วงนึงที่มีคนขายของเก่ามาขอเช่าบ้านส่วนกลาง ขอเช่าหลายปี เงินที่ลุง ก ได้ๆ เป็นเดือนๆ ละหมื่นกว่าบาท ป้าผมจึงขอเงินที่ได้จากส่วนนี้ เอามาส่งเสียดูแลผม จนผมเรียนจบตอนอายุ 16 เมื่อผมเรียนจบ ป้าผมก็ขายที่ดินได้เงินเช่นเดียวกัน (ศาลแต่งตั้งให้ป้าเป็น ผจก. มรดก ป้าก็มีอำนาจในการขายที่ดิน) ผมจึง |
----------------------------------
[ย้ายจากนครราชสีมา มาเรียนต่อและอาศัยอยู่กับพี่สาว ในช่วงอายุ 16-21 ปี] ในตอนที่ผมย้ายจากนครราชสีมา คือตอนนี้ป้าผมขายที่ดินของแม่ผมได้แล้ว (ศาลแต่งตั้งให้ป้าเป็นผู้ปกครองผม) ผมจึงย้ายมาเรียนต่อที่ กทม. จนจบ ม.6 และเข้าเรียนมหาวิทยาลัยตั้งแต่ปี 1 จนถึง ปี 3 |
----------------------------------
[หลังจากเรียนจบปี 3 พี่สาวผมก็ไปขออำนาจศาลให้แต่งตั้งพี่สาวเป็นผู้จัดการมรดกแทนป้า] หลังจากที่ พี่สาวได้เป็น ผจก.มรดก พี่สาวก็ดูแลโฉนดที่ดินมาเรื่อยๆ จนมาวันนึง ผมไปขอโฉนดที่ดินที่เป็นของแม่ผม มาไว้เพื่อดูแลเอง แต่พี่สาวก็ไม่คืนโฉนดของแม่ผม โดยพี่สาว ให้คำตอบกับผมว่าพี่จะดูแลให้ ผมจึงสังเกตุญาติพี่น้องคนอื่นๆ ในครอบครัว เห็นแต่ละคนมีรถขับมีบ้านอยู่ ผมจึงอยากได้โฉนดที่ดินมาไว้ดูแลเอง แต่พี่สาวก็ให้คำตอบเหมือนเดิมคับว่า พี่จะดูแลให้ หลังจากนั้นมา ผมเริ่มไม่ไว้ใจพี่สาวคับ |
----------------------------------
ปัจจุบัน ป้าและลุงได้เสียชีวิต ส่วนพี่สาว จงใจปิดกั้นข้อมูลความจริง และกดดันบังคับผม ทำให้ผมไม่มีทางสู้ โดยการเตะผมออกจากกลุ่มที่ไว้คุยกับญาติพี่น้องเรื่องที่ดินของครอบครัวคับ และใช้ข้อความว่า ”นี่ยังใจดีนะหักแค่ 5,000 บาทหรือจะให้หักหมดเลย“ เขาจะให้ผมเซ็นยอมรับหนี้ ซึ่งหนี้อันนี้คือ เป็นเงินส่วนที่ตอนนั้นผมอยู่กับป้าคับ |
ขอความช่วยเหลือหน่อยคับ ผมโดนบังคับ และผมไม่มีทางสู้คับ
----------------------------------
[นครราชสีมา ในช่วงอายุ 14-16ปี] ในช่วงนี้ บ้านส่วนกลางเป็นทรัพย์สินของญาติพี่น้องทั้งหมด 7 คน / หนึ่งใน 7 คนนี้ มีคนนึงที่ผมเรียกว่าลุง ลุง ก เป็นผู้จัดการมรดกอันใหญ่รวมถึงบ้านส่วนกลาง และ มีช่วงนึงที่มีคนขายของเก่ามาขอเช่าบ้านส่วนกลาง ขอเช่าหลายปี เงินที่ลุง ก ได้ๆ เป็นเดือนๆ ละหมื่นกว่าบาท ป้าผมจึงขอเงินที่ได้จากส่วนนี้ เอามาส่งเสียดูแลผม จนผมเรียนจบตอนอายุ 16 เมื่อผมเรียนจบ ป้าผมก็ขายที่ดินได้เงินเช่นเดียวกัน (ศาลแต่งตั้งให้ป้าเป็น ผจก. มรดก ป้าก็มีอำนาจในการขายที่ดิน) ผมจึง |
----------------------------------
[ย้ายจากนครราชสีมา มาเรียนต่อและอาศัยอยู่กับพี่สาว ในช่วงอายุ 16-21 ปี] ในตอนที่ผมย้ายจากนครราชสีมา คือตอนนี้ป้าผมขายที่ดินของแม่ผมได้แล้ว (ศาลแต่งตั้งให้ป้าเป็นผู้ปกครองผม) ผมจึงย้ายมาเรียนต่อที่ กทม. จนจบ ม.6 และเข้าเรียนมหาวิทยาลัยตั้งแต่ปี 1 จนถึง ปี 3 |
----------------------------------
[หลังจากเรียนจบปี 3 พี่สาวผมก็ไปขออำนาจศาลให้แต่งตั้งพี่สาวเป็นผู้จัดการมรดกแทนป้า] หลังจากที่ พี่สาวได้เป็น ผจก.มรดก พี่สาวก็ดูแลโฉนดที่ดินมาเรื่อยๆ จนมาวันนึง ผมไปขอโฉนดที่ดินที่เป็นของแม่ผม มาไว้เพื่อดูแลเอง แต่พี่สาวก็ไม่คืนโฉนดของแม่ผม โดยพี่สาว ให้คำตอบกับผมว่าพี่จะดูแลให้ ผมจึงสังเกตุญาติพี่น้องคนอื่นๆ ในครอบครัว เห็นแต่ละคนมีรถขับมีบ้านอยู่ ผมจึงอยากได้โฉนดที่ดินมาไว้ดูแลเอง แต่พี่สาวก็ให้คำตอบเหมือนเดิมคับว่า พี่จะดูแลให้ หลังจากนั้นมา ผมเริ่มไม่ไว้ใจพี่สาวคับ |
----------------------------------
ปัจจุบัน ป้าและลุงได้เสียชีวิต ส่วนพี่สาว จงใจปิดกั้นข้อมูลความจริง และกดดันบังคับผม ทำให้ผมไม่มีทางสู้ โดยการเตะผมออกจากกลุ่มที่ไว้คุยกับญาติพี่น้องเรื่องที่ดินของครอบครัวคับ และใช้ข้อความว่า ”นี่ยังใจดีนะหักแค่ 5,000 บาทหรือจะให้หักหมดเลย“ เขาจะให้ผมเซ็นยอมรับหนี้ ซึ่งหนี้อันนี้คือ เป็นเงินส่วนที่ตอนนั้นผมอยู่กับป้าคับ |