ตอนแรกอยากรีวิวตั้งแต่ Day 1 แต่ศูนย์มี Tracking Fullbody ไม่พอ เลยโกรธไม่อยากรีวิว
แต่พอมีคนถามเข้ามาเยอะ จนรู้สึกเสียดายข้อมูลที่มีเลยเอามาแชร์ให้ฟังกันว่าโลก VR ปลายปี 2024 นี้เป็นอย่างไร
แจ้งสเปคก่อนอ่านรีวิว
การทดสอบนี้เป็น Software
Meta Quest 3 Version 69
และ Pico OS 5.11.1.U
ดังนั้น ความเร็วการชาร์จ ฟีเจอร์ต่างๆ อาจแตกต่างกัน
เพราะตอนผมได้แว่น Quest 3 ยังไม่มีฟีเจอร์เท่ากับตอนนี้ครับ
ซึ่งแว่น Quest 3 เปิดตัว มิถุนายนปี 2023 วางขาย กันยายน 2023
ส่วน Pico 4 Ultra เปิดตัว สิงหาคม 2024 และวางขาย กันยายน 2024
ปลายเดือนกันยายน 2024 อาจมีเปิดตัว Meta Quest 3s รุ่นมีแต่แว่นไม่มีจอย
เพราะจากที่ทดสอบ Quest 3 ผมแทบไม่ใช้จอยเลย ใช้มือตลอด Tracking มือดีมาก
และ Pico 4 Ultra ก็เช่นกัน เอาละไปดูรายละเอียดทั้งสองตัวนี้กันดีกว่า
มาเรื่องกล่อง Quest3 กล่องเล็กมาก ของน้อย
มีหัว มีจอย 2 อัน จอยหนึ่งอันใช้ถ่าน 2A หนึ่งก้อน
ตอนซื้อมามีถ่านง่อยๆ แถมมา ใช้ไม่ถึงวัน หมดอย่างไว ฮาา
อาจจะเพราะของผมล็อต เดือน 10/2023 แต่ซื้อมาใช้ตอนเดือน 5/2024
แต่มีหัวชาร์จ 18W ให้ ผมชาร์จแล้วไฟเข้าแรงสุดแค่ 10W เอง
ส่วน Pico4Ultra ใช้ถ่าน 2A สองก้อนต่อข้าง
รวมสองข้างเป็น 4 ก้อน
จอย Pico4U เลยหนักกว่า Quest3
เรื่องหัวชาร์จ
Quest 3 แถมหัวชาร์จ 18W มาให้ พร้อมสายเมตรครึ่ง
ส่วน Pico4U กล่องใหญ่แต่ไม่มีหัวชาร์จ มีแต่สาย Type C ยาว 1.5เมตร
ความจริงทั้งสองตัว น่าจะแถมสายยาว 5 เมตรเลย
ให้มาเมตรกว่า ยาวแค่นี้ขนาดเอา notebook ต่อ
ต้องนั่งหัวติดโต๊ะเลย
แว่น Quest 3 ไฟวิ่งสูงสุด 10W ช่วงแบตเกิน 80% ชาร์จได้ 5W ตอนแบตเต็มเล่นไปชาร์จไป ไฟอยู่ที่ 4-5W
Quest 4 Ultra ชาร์จไวสุด 55W ช่วงก่อน 20% (ข้างกล่องเขียนแค่ 50W)
แล้วพอช่วง 20-80% ไฟวิ่ง 49W นิ่งๆ ช่วงประมาณ 80% ขึ้นไปแบตเข้า 19W แบตเต็มไว
แต่สายชาร์จผมก็แอบร้อนตอนชาร์จ โดยร้อนที่ สายชาร์จกับหัวชาร์จของผม
แต่แว่นหาจุดความร้อนยังไม่เจอ น่าจะระบายความร้อนได้ดี
ส่วนตอนชาร์จไป เล่นไป ดูเหมือน p4u มีระบบไฟตรง ไฟจะวิ่งประมาณ 6-7W
ส่วน Quest 3 ไฟจะวิ่ง 5W อาจจะเพราะหน้าจอ pico4u สว่างกว่าละมัง
แอบเคือง pico 4 ultra ไม่มีหัวชาร์จให้แต่ Quest3 มีหัวชาร์จ 18W ให้มา
ทาง Pico 4 Ultra ควรแถมหัวชาร์จเหมือนกับ Pico 4 ธรรมดา
เพราะถ้าเอาหัวชาร์จที่ไม่รองรับแว่น แล้วแว่นชาร์จแบตไม่เข้า แว่นพัง
ต้องเสียเวลามาซ่อมอีก
เรื่องการต่อ Tracker Fullbody แบบ Stand Alone หรือไม่ได้ต่อคอม
เท่าที่ผมเข้าใจ ถ้าต่อคอมทั้งสองตัวต่อได้ทุกตัวที่รองรับคอมอยู่แล้วเลยขอไม่พูดถึง
Quest3 ต่อ Tracker ได้หลากหลาย ยกเว้น PICO Motion
Tracker ส่วน Pico ต่อได้แค่ pico track ด้วยกัน
ถ้าอยาก stand alone นะ ปกติผมใช้ fullbody บน quest 3
ใช้แอพ viso (แอพนี้รองรับแค่ Meta Quest 2, Pro, 3) แล้วเปิดกล้องบน ipad pro m2
ผมสังเกตแอพนี้รองรับ 24 จุด สามารถทำท่าไก่ย่าง ขยับศอกได้
เรื่อง เลนส์ (Lenses)
แว่น VR ที่ดี ต้องมีเลนส์ที่ดี ขอพูดถึง Lens อันนี้จะหาว่าผมอวย Quest 3 ก็ใช่ เพราะของเขาดีจริง
เลนส์ของ Quest 3 ดีมาก ไม่มีแสงสะท้อนในแว่น
ของ Pico4 Ultra เวลาอยู่ฉากมืดๆ จะมีภาพลอยๆ ซ้อนกัน 3 ภาพ เพราะเลนส์แยกกัน เลยเกิดการสะท้อนกันเองในภาพ
วิธีแก้คืออยู่ฉากที่สว่างทั้งภาพ ผมหงุดหงิดเวลาดูหนังในแผนที่ห้องมืดๆ
ภาพบน quest 3 รอบๆ แว่นภาพชัด ไม่มีเบลอ เลยทำให้สายตาไม่ล้า
แต่ของ pico 4 ultra รอบๆ แว่นเหมือน pico 4 กับ quest 2 คือ ภาพเบลอ
ทำให้เวลาเล่นสักพักจะรู้สึกมึนๆ ต้องพยายามอย่าเหลือบตามอง ไม่งั้นมึนหัว ไมเกรนกินแบบผม
ตอนนี้แก้ปัญหาชั่วคราวด้วยการใส่แว่นสายตาแล้วเพ่งแค่ตรงกลางไปก่อน
ตอนนี้เสียดายไม่น่าขาย quest3 ไป 12000 เลย
ผมพยายามเช็คในเน็ตว่าใช้เลนส์อะไร ทำไมภาพถึงต่างกันขนาดนี้
เขาบอกใช้เทคโนโลยี Pancake เหมือนกัน ไม่เหมือนแว่น Quest 2 ที่ใช้เลนส์ fresnel lenses
ที่ทั้งขอบเบลอ ทำให้เวียนหัวได้ง่าย
แต่ราคาเทคโนโลยี fresnel lenses ถูกมาก เหมาะกับทำแว่น VR ราคาต่ำ
ส่วน Pancake เป็น เทคโนโลยีใหม่ ราคาสูง
ซึ่งมุมมองของ Pico4 Ultra กว้างกว่า Quest 3
ด้วยขอบที่เบลอของ Pico4 Ultra ทำให้เวลาหันมองต้องหันไปทั้งหัว
ถ้าเหลือบมองจะทำให้เวียนหัวทันที
มีเพื่อนใน VRChat บอกว่าให้เล่นเกมโหนไยแมงมุม พอผ่านไปหนึ่งวันอาการเวียนหัวจะหายไป
แต่ผมมองว่า งั้นเราทำหัวนิ่งๆ ดูหนังชิวๆ ก็พอแล้ว
สีสันบนจอ
ภาพ quest3 สีสดกว่า pico4u พอสมควร ถึงจะเป็นจอ LCD ก็เถอะ
แต่จอ Quest 3 มืดกว่า ทำให้คนที่อยากดูจอสว่างๆ อยากกลับไปใช้ Quest 2
และภาพ quest 3 ลื่นกว่า pico4 ultra เพราะจอ 120Hz ส่วน pico4u จอ 90Hz
ถึงแม้เกมจะรันไม่ถึง แต่หน้าเมนูก็มองเห็นอารมณ์เหมือน iPhone 12 Pro Max จอ 60Hz ไถเมนูเทียบกับ iPhone 13 Pro Max ที่จอ 120Hz
Tracking Hand การตรวจจับมือ
กรณีนี้ขอพูดถึงเกม VRChat เท่านั้น เพราะทั้งคู่ทำได้ดีบนหน้าเมนูอยู่แล้ว
track มือใน VRChat ของ quest3 ดีกว่ามาก ติดมือ ไม่มีหลุด
สามารถเคาะจอยสองทีแล้ว track มือได้ทันที
ส่วน pico4 Ultra ช้ามาก ต้องวางจอยนิ่งๆ 5 วินาทีถึงจะ track มือได้
แถมใน vrchat ของ pico4u track มือติดแป้บเดียวหลุด
คงต้องรอพัฒนาอีกมาก แต่ของ quest3 อยู่ตลอด
ข้อดีของ pico4u คือ ปิดคำสั่งมือด้วยนิ้วก้อยแตะนิ้วโป้งค้างได้ และใส่คำสั่งเพิ่มได้ (ถ้าระบบ Track มือไม่รวนนะ)
แต่ของ quest3 ปิดคำสั่งมือไม่ได้เลย และใน Quest 3 ใส่คำสั่งเพิ่มไม่ได้
แต่แว่น Pico4 Ultra สามารถใส่คำสั่งมือในเมนูเกม VRChat เพิ่มได้ว่าจะใส่คำสั่งอะไรในเกม
เช่นเปิดแผนที่ เปลี่ยน Avatar
และผมลองเล่นเกม Beat Saber ในเกม VRChat ผลคือว่า ทั้งคู่ จับดาบเซเบอร์พอแกว่งได้สักพักก็หลุดออกจากมือ
ซึ่งเดาว่าตัวเกมนี้ไม่ได้ทำมารองรับมือ เพราะความจริงควรจะกดแล้วติดมือ ไม่ใช่ให้เรากำมือตลอด
อย่างตอนเล่นจอยก็ต้องกดปุ่มด้านหลัง กำตลอดจนเหงื่อออกมือจนจอยลื่น พอคลายมือก็หลุดมือ
อันนี้ผมว่าเป็นปัญหาที่เกมนะ รอพัฒนากันต่อไป
เรื่องแอพและเกมบน Store
เรื่องนี้ Meta Quest ครองตลาดแอพเยอะกว่ามาก สมกับแว่น VR อันดับหนึ่งในตลาด
ตอนที่ผมได้แว่น quest3 และเข้าไปครั้งแรกเขาให้เกม Asgard's Wrath 2 ขนาด 31GB
ผมซื้อแว่นรุ่น 128GB พอรวมกับไฟล์ระบบ เหลือพื้นที่ว่างไม่ถึงครึ่ง
แต่เป็นเกมเดียวที่มีคุณภาพ ทำเอาผมหลงเข้าไปเล่นเป็นชั่วโมง
เสียดายที่เล่นไม่จำ แค่ดูหน้า title ยาวๆ แบบ 3D สวยๆเกรด A ก็ฟินสุดๆแล้ว
ฝั่ง pico4ultra ตอนโปรโมท บอกแจก 3 เกมมี walking dead2 / walking dead 1 / puzzling places ซึ่งเกม walking dead2 ยังไม่รองรับ pico4ultra ทางศูนย์ pico ขอแจกเกม song in the smoke แทน ซึ่งผมเป็นคนกลัวผี ไม่เล่นเกมผี เลย ok แล้วพอได้โค้ดให้ไปกรอกในแอพ pico บนมือถือ จะมีช่อง redeem ในหน้า profile
ถ้าแอพที่ไม่มีบน pico4u ที่ผมนึกออก ก็มี roblox, netflix, viso
ถ้าอยากเทียบแอพลองเข้าไปเว็บ store ของทั้งสอง
shop meta quest :
https://www.meta.com/experiences/
pico store :
https://store-global.picoxr.com/global/
การติดตั้ง APK หรือไฟล์โปรแกรมจากมือถือ Android
เพราะแว่นทั้งคู่คือ Android ดังนั้นจึงสามารถติดตั้งแอพจาก Android ได้
แต่ด้วยความที่ pico 4 สามารถลงไฟล์ apk ได้เลย
เลยทำให้แว่นที่มีความแรงเทียบเท่า cpu มือถือ snapdragon 8 gen 2 ลงเกมใหญ่ๆ อย่าง rov, genshin, ฮงไค, zenless zone zero, wuthering waves
หรือแม้กระทั่งเกม pubg, freefire, call of duty mobile ทำได้สบาย
แต่การเล่นจะกดพร้อมกันไม่ได้ กดได้แค่ทีละปุ่ม การเล่นเลยแค่พอหายอยาก ไม่สามารถเล่นจริงจังแบบสองนิ้วสามนิ้วกดบนมือถือได้
ฝั่ง Quest 3 ผมยังไม่เคยลองลงไฟล์ APK แต่เท่าที่ศึกษาต้องลง Sideload วุ่นว่ายเลยไม่เอา
สู้ไปโหลดไฟล์ APK ลงโต้งๆ แบบ Pico 4 Ultra ง่ายกว่าเยอะ
เรื่องต่อสายเข้าคอมเพื่อเอาวิดิโอที่อัดจากแว่น ออกมา
ใน Quest 3 สามารถปรับระดับการอัดวิดิโอ กันสั่นเหมือนกล้อง GoPro มีสามระดับ Low/Medium/High
ซึ่งผมลองอัดแบบ High แล้วกระตุก เลยปรับแค่ Medium แต่วิดิโอที่ได้ก็ลื่นดี ไม่เวียนหัว แต่ Low นี่ไม่ไหว เวียนหัวมาก
ใน Quest 3 ปรับปริมาณการอัดหรือความละเอียดของวิดิโอได้ 4 ระดับ มี 5Mbps/10Mbps/15Mbps/20Mbps
ซึ่งแบบ 15และ20 ผมเล่น VRChat ไปอัดไป กระตุก เหลือ 22fps ส่วน 10Mbps
พอเล่นได้ระดับ 30fps ส่วน 5Mbps ได้ 40fps ซึ่งแบบ 5Mbps ไม่แนะนำให้อัดเพราะเสียงพูดเราจะเบา
ต้องใช้ 10Mbps เสียงพูดของผมถึงชัดขึ้นมา
นอกจากนี้ยังเลือกอัด 30fps และ 60fps ได้ แต่เนื่องจาก 60fps ภาพกระตุก
และตอนอัดภาพก็เกิน 30fps ไม่มาก เลยอัดแค่ 30fps
สุดท้าย ถ้าอัดจอ 1920x1080 30fps 10Mbps หนึ่งชั่วโมงได้ขนาดไฟล์ประมาณ 4GB
ส่วน Pico4Ultra มีแค่เปิดกันสั่น กับปิดกันสั่น
แล้ววิดิโอที่ได้ตอนเปิด ทำได้แค่ ระดับ Low ของ Quest3
และปรับได้แค่ขนาด 1920x1080 แต่ปรับความละเอียดแบบ Quest3 ไม่ได้เลย
ขนาดไฟล์ก็พอกัน หนึ่งชั่วโมงได้ประมาณ 4GB เท่ากัน
เวลาต่อคอม Quest3 จะยุ่งยากกว่า ต้องต่อสาย type C to type A เข้าคอมแล้ว
ต้องเข้าไปในแว่นกดที่ popup ที่ขึ้นว่า USB เพื่ออนุญาตก่อน
ผมลองต่อสาย Type C to Type C แล้ว Quest3 มองไม่เห็น
แต่ส่วน Pico 4 Ultra สามารถต่อสาย Type c to type c ได้
และไม่ต้องกด อนุญาต สามารถมองเห็นได้ทันที สะดวกกว่ามาก
เรื่องศูนย์
ของ quest3 ผมเครื่องหิ้วจากญี่ปุ่น ซื้อจาก shopee มีตราสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นที่อ่านไม่ออก
จอยพังหาซื้อลำบากเลย ได้ยินว่าจอย quest3 ข้างละ 4000 กว่า กว่าจะส่งร่วมๆ 5000
แต่ของ pico 4 ultra มีตรา กสทช และ มอก. รองรับในไทย เข้าศูนย์ไทยได้ 1 ปี
ถ้าประกันหมด จอยพัง ราคาเปลี่ยนจอยใหม่ รุ่นเก่า pico 4 ทางศูนย์บอกข้างละไม่เกิน 1800
ส่วนตัวใหม่ถ้าพังยังไม่มีอะไหล่
ต้องสั่งศูนย์ผ่านไลน์แล้วพอของส่งมา ศูนย์ถึงแจ้งราคาแล้วติดต่อจัดส่งต่อไป
เบอร์หน้าเว็บโทรไม่ได้เพราะให้เลขมาเกิน เห็นเขียน call center 066-256-60782 Mon-Fri 9:00~18:00(UTC+7)
ส่วนไลน์ใช้ OA
https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=picoxr_th
ถ้าใครซื้อ pico4ultra แล้วได้โค้ด โปรโมชัน สแกนไลน์ในภาพได้ user เดียวกัน
แล้วถ่ายใบเสร็จส่งไลน์ให้พนักงาน เดี๋ยวเขาส่งโค้ดเกมให้
เรื่องสเปคคอมสำหรับเชื่อมต่อแว่น VR
ทั้งคู่สามารถเชื่อมต่อคอมโดยไม่ผ่านโปรแกรม Virtual Desktop ได้
แต่ต้องมีสเปคคอมที่รองรับ
ถ้าเป็นหน้าเว็บ Meta Quest
Processor Intel i7 / AMD Ryzen 7
Graphics Card Nvidia RTX 20 Series* / AMD Radeon RX 6000 Series
Memory 16 GB DDR4 RAM
Operating System Windows 10, Windows 11
USB Ports 1x USB-C port (แต่ผมต่อกับ vivobook thunderbold 4 ไม่ติด ต้องต่อ type A ถึงติด)
สเปคจากหน้าเว็บ
https://www.meta.com/help/quest/articles/headsets-and-accessories/oculus-link/requirements-quest-link/
โปรแกรมเชื่อมต่อกับคอม เข้าไปโหลตที่
https://www.meta.com/quest/setup/
กดปุ่ม Download Meta Quest Link app สีน้ำเงินปุ่มใหญ่ๆ ข้างๆ แว่น Quest 3
ซึ่งเวลาถอนโปรแกรมก็ใช้โปรแกรมนี้เช่นกัน
โปรแกรม uninstall จาก windows ไม่ได้ (พี่มาร์คเจ้าของ Meta โหดมากใช้ระบบเดียวกับ adobe)
ส่วนสเปคของ Pico 4 Ultra ตามนี้
ระบบปฏิบัติการ: Windows 10 ขึ้นไป
โปรเซสเซอร์: เทียบเท่า Intel Core i5-4590/AMD FX8350 หรือดีกว่า
RAM: 8GB ขึ้นไป
การ์ดแสดงผล: เทียบเท่า NVIDIA GeForce GTX 1060 6GB/AMD Radeon RX 480 หรือดีกว่า
ข้อมูลจาก
https://www.picoxr.com/th/software/pico-link
ถ้าหากมีข้อมูลอัพเดทเพิ่มผมขอ Comment ด้านล่างต่อ
******************************
และขอบอกไว้ก่อน ปลายเดือนนี้วันที่ META CONNECT 2024 วันที่ 25-26 กันยายน 2024 อาจเปิดตัว Meta Quest 3s ตามข่าวลือ หรืออาจจะเปลี่ยนชื่ออื่น รายละเอียดรอติดตามที่
https://www.meta.com/connect/
[CR] ทนไม่ไหว จนต้อง รีวิว PICO4 Ultra เปรียบเทียบกับ Meta Quest 3
แต่พอมีคนถามเข้ามาเยอะ จนรู้สึกเสียดายข้อมูลที่มีเลยเอามาแชร์ให้ฟังกันว่าโลก VR ปลายปี 2024 นี้เป็นอย่างไร
แจ้งสเปคก่อนอ่านรีวิว
การทดสอบนี้เป็น Software
Meta Quest 3 Version 69
และ Pico OS 5.11.1.U
ดังนั้น ความเร็วการชาร์จ ฟีเจอร์ต่างๆ อาจแตกต่างกัน
เพราะตอนผมได้แว่น Quest 3 ยังไม่มีฟีเจอร์เท่ากับตอนนี้ครับ
ซึ่งแว่น Quest 3 เปิดตัว มิถุนายนปี 2023 วางขาย กันยายน 2023
ส่วน Pico 4 Ultra เปิดตัว สิงหาคม 2024 และวางขาย กันยายน 2024
ปลายเดือนกันยายน 2024 อาจมีเปิดตัว Meta Quest 3s รุ่นมีแต่แว่นไม่มีจอย
เพราะจากที่ทดสอบ Quest 3 ผมแทบไม่ใช้จอยเลย ใช้มือตลอด Tracking มือดีมาก
และ Pico 4 Ultra ก็เช่นกัน เอาละไปดูรายละเอียดทั้งสองตัวนี้กันดีกว่า
มาเรื่องกล่อง Quest3 กล่องเล็กมาก ของน้อย
มีหัว มีจอย 2 อัน จอยหนึ่งอันใช้ถ่าน 2A หนึ่งก้อน
ตอนซื้อมามีถ่านง่อยๆ แถมมา ใช้ไม่ถึงวัน หมดอย่างไว ฮาา
อาจจะเพราะของผมล็อต เดือน 10/2023 แต่ซื้อมาใช้ตอนเดือน 5/2024
แต่มีหัวชาร์จ 18W ให้ ผมชาร์จแล้วไฟเข้าแรงสุดแค่ 10W เอง
ส่วน Pico4Ultra ใช้ถ่าน 2A สองก้อนต่อข้าง
รวมสองข้างเป็น 4 ก้อน
จอย Pico4U เลยหนักกว่า Quest3
เรื่องหัวชาร์จ
Quest 3 แถมหัวชาร์จ 18W มาให้ พร้อมสายเมตรครึ่ง
ส่วน Pico4U กล่องใหญ่แต่ไม่มีหัวชาร์จ มีแต่สาย Type C ยาว 1.5เมตร
ความจริงทั้งสองตัว น่าจะแถมสายยาว 5 เมตรเลย
ให้มาเมตรกว่า ยาวแค่นี้ขนาดเอา notebook ต่อ
ต้องนั่งหัวติดโต๊ะเลย
แว่น Quest 3 ไฟวิ่งสูงสุด 10W ช่วงแบตเกิน 80% ชาร์จได้ 5W ตอนแบตเต็มเล่นไปชาร์จไป ไฟอยู่ที่ 4-5W
Quest 4 Ultra ชาร์จไวสุด 55W ช่วงก่อน 20% (ข้างกล่องเขียนแค่ 50W)
แล้วพอช่วง 20-80% ไฟวิ่ง 49W นิ่งๆ ช่วงประมาณ 80% ขึ้นไปแบตเข้า 19W แบตเต็มไว
แต่สายชาร์จผมก็แอบร้อนตอนชาร์จ โดยร้อนที่ สายชาร์จกับหัวชาร์จของผม
แต่แว่นหาจุดความร้อนยังไม่เจอ น่าจะระบายความร้อนได้ดี
ส่วนตอนชาร์จไป เล่นไป ดูเหมือน p4u มีระบบไฟตรง ไฟจะวิ่งประมาณ 6-7W
ส่วน Quest 3 ไฟจะวิ่ง 5W อาจจะเพราะหน้าจอ pico4u สว่างกว่าละมัง
แอบเคือง pico 4 ultra ไม่มีหัวชาร์จให้แต่ Quest3 มีหัวชาร์จ 18W ให้มา
ทาง Pico 4 Ultra ควรแถมหัวชาร์จเหมือนกับ Pico 4 ธรรมดา
เพราะถ้าเอาหัวชาร์จที่ไม่รองรับแว่น แล้วแว่นชาร์จแบตไม่เข้า แว่นพัง
ต้องเสียเวลามาซ่อมอีก
เรื่องการต่อ Tracker Fullbody แบบ Stand Alone หรือไม่ได้ต่อคอม
เท่าที่ผมเข้าใจ ถ้าต่อคอมทั้งสองตัวต่อได้ทุกตัวที่รองรับคอมอยู่แล้วเลยขอไม่พูดถึง
Quest3 ต่อ Tracker ได้หลากหลาย ยกเว้น PICO Motion
Tracker ส่วน Pico ต่อได้แค่ pico track ด้วยกัน
ถ้าอยาก stand alone นะ ปกติผมใช้ fullbody บน quest 3
ใช้แอพ viso (แอพนี้รองรับแค่ Meta Quest 2, Pro, 3) แล้วเปิดกล้องบน ipad pro m2
ผมสังเกตแอพนี้รองรับ 24 จุด สามารถทำท่าไก่ย่าง ขยับศอกได้
เรื่อง เลนส์ (Lenses)
แว่น VR ที่ดี ต้องมีเลนส์ที่ดี ขอพูดถึง Lens อันนี้จะหาว่าผมอวย Quest 3 ก็ใช่ เพราะของเขาดีจริง
เลนส์ของ Quest 3 ดีมาก ไม่มีแสงสะท้อนในแว่น
ของ Pico4 Ultra เวลาอยู่ฉากมืดๆ จะมีภาพลอยๆ ซ้อนกัน 3 ภาพ เพราะเลนส์แยกกัน เลยเกิดการสะท้อนกันเองในภาพ
วิธีแก้คืออยู่ฉากที่สว่างทั้งภาพ ผมหงุดหงิดเวลาดูหนังในแผนที่ห้องมืดๆ
ภาพบน quest 3 รอบๆ แว่นภาพชัด ไม่มีเบลอ เลยทำให้สายตาไม่ล้า
แต่ของ pico 4 ultra รอบๆ แว่นเหมือน pico 4 กับ quest 2 คือ ภาพเบลอ
ทำให้เวลาเล่นสักพักจะรู้สึกมึนๆ ต้องพยายามอย่าเหลือบตามอง ไม่งั้นมึนหัว ไมเกรนกินแบบผม
ตอนนี้แก้ปัญหาชั่วคราวด้วยการใส่แว่นสายตาแล้วเพ่งแค่ตรงกลางไปก่อน
ตอนนี้เสียดายไม่น่าขาย quest3 ไป 12000 เลย
ผมพยายามเช็คในเน็ตว่าใช้เลนส์อะไร ทำไมภาพถึงต่างกันขนาดนี้
เขาบอกใช้เทคโนโลยี Pancake เหมือนกัน ไม่เหมือนแว่น Quest 2 ที่ใช้เลนส์ fresnel lenses
ที่ทั้งขอบเบลอ ทำให้เวียนหัวได้ง่าย
แต่ราคาเทคโนโลยี fresnel lenses ถูกมาก เหมาะกับทำแว่น VR ราคาต่ำ
ส่วน Pancake เป็น เทคโนโลยีใหม่ ราคาสูง
ซึ่งมุมมองของ Pico4 Ultra กว้างกว่า Quest 3
ด้วยขอบที่เบลอของ Pico4 Ultra ทำให้เวลาหันมองต้องหันไปทั้งหัว
ถ้าเหลือบมองจะทำให้เวียนหัวทันที
มีเพื่อนใน VRChat บอกว่าให้เล่นเกมโหนไยแมงมุม พอผ่านไปหนึ่งวันอาการเวียนหัวจะหายไป
แต่ผมมองว่า งั้นเราทำหัวนิ่งๆ ดูหนังชิวๆ ก็พอแล้ว
สีสันบนจอ
ภาพ quest3 สีสดกว่า pico4u พอสมควร ถึงจะเป็นจอ LCD ก็เถอะ
แต่จอ Quest 3 มืดกว่า ทำให้คนที่อยากดูจอสว่างๆ อยากกลับไปใช้ Quest 2
และภาพ quest 3 ลื่นกว่า pico4 ultra เพราะจอ 120Hz ส่วน pico4u จอ 90Hz
ถึงแม้เกมจะรันไม่ถึง แต่หน้าเมนูก็มองเห็นอารมณ์เหมือน iPhone 12 Pro Max จอ 60Hz ไถเมนูเทียบกับ iPhone 13 Pro Max ที่จอ 120Hz
Tracking Hand การตรวจจับมือ
กรณีนี้ขอพูดถึงเกม VRChat เท่านั้น เพราะทั้งคู่ทำได้ดีบนหน้าเมนูอยู่แล้ว
track มือใน VRChat ของ quest3 ดีกว่ามาก ติดมือ ไม่มีหลุด
สามารถเคาะจอยสองทีแล้ว track มือได้ทันที
ส่วน pico4 Ultra ช้ามาก ต้องวางจอยนิ่งๆ 5 วินาทีถึงจะ track มือได้
แถมใน vrchat ของ pico4u track มือติดแป้บเดียวหลุด
คงต้องรอพัฒนาอีกมาก แต่ของ quest3 อยู่ตลอด
ข้อดีของ pico4u คือ ปิดคำสั่งมือด้วยนิ้วก้อยแตะนิ้วโป้งค้างได้ และใส่คำสั่งเพิ่มได้ (ถ้าระบบ Track มือไม่รวนนะ)
แต่ของ quest3 ปิดคำสั่งมือไม่ได้เลย และใน Quest 3 ใส่คำสั่งเพิ่มไม่ได้
แต่แว่น Pico4 Ultra สามารถใส่คำสั่งมือในเมนูเกม VRChat เพิ่มได้ว่าจะใส่คำสั่งอะไรในเกม
เช่นเปิดแผนที่ เปลี่ยน Avatar
และผมลองเล่นเกม Beat Saber ในเกม VRChat ผลคือว่า ทั้งคู่ จับดาบเซเบอร์พอแกว่งได้สักพักก็หลุดออกจากมือ
ซึ่งเดาว่าตัวเกมนี้ไม่ได้ทำมารองรับมือ เพราะความจริงควรจะกดแล้วติดมือ ไม่ใช่ให้เรากำมือตลอด
อย่างตอนเล่นจอยก็ต้องกดปุ่มด้านหลัง กำตลอดจนเหงื่อออกมือจนจอยลื่น พอคลายมือก็หลุดมือ
อันนี้ผมว่าเป็นปัญหาที่เกมนะ รอพัฒนากันต่อไป
เรื่องแอพและเกมบน Store
เรื่องนี้ Meta Quest ครองตลาดแอพเยอะกว่ามาก สมกับแว่น VR อันดับหนึ่งในตลาด
ตอนที่ผมได้แว่น quest3 และเข้าไปครั้งแรกเขาให้เกม Asgard's Wrath 2 ขนาด 31GB
ผมซื้อแว่นรุ่น 128GB พอรวมกับไฟล์ระบบ เหลือพื้นที่ว่างไม่ถึงครึ่ง
แต่เป็นเกมเดียวที่มีคุณภาพ ทำเอาผมหลงเข้าไปเล่นเป็นชั่วโมง
เสียดายที่เล่นไม่จำ แค่ดูหน้า title ยาวๆ แบบ 3D สวยๆเกรด A ก็ฟินสุดๆแล้ว
ฝั่ง pico4ultra ตอนโปรโมท บอกแจก 3 เกมมี walking dead2 / walking dead 1 / puzzling places ซึ่งเกม walking dead2 ยังไม่รองรับ pico4ultra ทางศูนย์ pico ขอแจกเกม song in the smoke แทน ซึ่งผมเป็นคนกลัวผี ไม่เล่นเกมผี เลย ok แล้วพอได้โค้ดให้ไปกรอกในแอพ pico บนมือถือ จะมีช่อง redeem ในหน้า profile
ถ้าแอพที่ไม่มีบน pico4u ที่ผมนึกออก ก็มี roblox, netflix, viso
ถ้าอยากเทียบแอพลองเข้าไปเว็บ store ของทั้งสอง
shop meta quest : https://www.meta.com/experiences/
pico store : https://store-global.picoxr.com/global/
การติดตั้ง APK หรือไฟล์โปรแกรมจากมือถือ Android
เพราะแว่นทั้งคู่คือ Android ดังนั้นจึงสามารถติดตั้งแอพจาก Android ได้
แต่ด้วยความที่ pico 4 สามารถลงไฟล์ apk ได้เลย
เลยทำให้แว่นที่มีความแรงเทียบเท่า cpu มือถือ snapdragon 8 gen 2 ลงเกมใหญ่ๆ อย่าง rov, genshin, ฮงไค, zenless zone zero, wuthering waves
หรือแม้กระทั่งเกม pubg, freefire, call of duty mobile ทำได้สบาย
แต่การเล่นจะกดพร้อมกันไม่ได้ กดได้แค่ทีละปุ่ม การเล่นเลยแค่พอหายอยาก ไม่สามารถเล่นจริงจังแบบสองนิ้วสามนิ้วกดบนมือถือได้
ฝั่ง Quest 3 ผมยังไม่เคยลองลงไฟล์ APK แต่เท่าที่ศึกษาต้องลง Sideload วุ่นว่ายเลยไม่เอา
สู้ไปโหลดไฟล์ APK ลงโต้งๆ แบบ Pico 4 Ultra ง่ายกว่าเยอะ
เรื่องต่อสายเข้าคอมเพื่อเอาวิดิโอที่อัดจากแว่น ออกมา
ใน Quest 3 สามารถปรับระดับการอัดวิดิโอ กันสั่นเหมือนกล้อง GoPro มีสามระดับ Low/Medium/High
ซึ่งผมลองอัดแบบ High แล้วกระตุก เลยปรับแค่ Medium แต่วิดิโอที่ได้ก็ลื่นดี ไม่เวียนหัว แต่ Low นี่ไม่ไหว เวียนหัวมาก
ใน Quest 3 ปรับปริมาณการอัดหรือความละเอียดของวิดิโอได้ 4 ระดับ มี 5Mbps/10Mbps/15Mbps/20Mbps
ซึ่งแบบ 15และ20 ผมเล่น VRChat ไปอัดไป กระตุก เหลือ 22fps ส่วน 10Mbps
พอเล่นได้ระดับ 30fps ส่วน 5Mbps ได้ 40fps ซึ่งแบบ 5Mbps ไม่แนะนำให้อัดเพราะเสียงพูดเราจะเบา
ต้องใช้ 10Mbps เสียงพูดของผมถึงชัดขึ้นมา
นอกจากนี้ยังเลือกอัด 30fps และ 60fps ได้ แต่เนื่องจาก 60fps ภาพกระตุก
และตอนอัดภาพก็เกิน 30fps ไม่มาก เลยอัดแค่ 30fps
สุดท้าย ถ้าอัดจอ 1920x1080 30fps 10Mbps หนึ่งชั่วโมงได้ขนาดไฟล์ประมาณ 4GB
ส่วน Pico4Ultra มีแค่เปิดกันสั่น กับปิดกันสั่น
แล้ววิดิโอที่ได้ตอนเปิด ทำได้แค่ ระดับ Low ของ Quest3
และปรับได้แค่ขนาด 1920x1080 แต่ปรับความละเอียดแบบ Quest3 ไม่ได้เลย
ขนาดไฟล์ก็พอกัน หนึ่งชั่วโมงได้ประมาณ 4GB เท่ากัน
เวลาต่อคอม Quest3 จะยุ่งยากกว่า ต้องต่อสาย type C to type A เข้าคอมแล้ว
ต้องเข้าไปในแว่นกดที่ popup ที่ขึ้นว่า USB เพื่ออนุญาตก่อน
ผมลองต่อสาย Type C to Type C แล้ว Quest3 มองไม่เห็น
แต่ส่วน Pico 4 Ultra สามารถต่อสาย Type c to type c ได้
และไม่ต้องกด อนุญาต สามารถมองเห็นได้ทันที สะดวกกว่ามาก
เรื่องศูนย์
ของ quest3 ผมเครื่องหิ้วจากญี่ปุ่น ซื้อจาก shopee มีตราสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นที่อ่านไม่ออก
จอยพังหาซื้อลำบากเลย ได้ยินว่าจอย quest3 ข้างละ 4000 กว่า กว่าจะส่งร่วมๆ 5000
แต่ของ pico 4 ultra มีตรา กสทช และ มอก. รองรับในไทย เข้าศูนย์ไทยได้ 1 ปี
ถ้าประกันหมด จอยพัง ราคาเปลี่ยนจอยใหม่ รุ่นเก่า pico 4 ทางศูนย์บอกข้างละไม่เกิน 1800
ส่วนตัวใหม่ถ้าพังยังไม่มีอะไหล่
ต้องสั่งศูนย์ผ่านไลน์แล้วพอของส่งมา ศูนย์ถึงแจ้งราคาแล้วติดต่อจัดส่งต่อไป
เบอร์หน้าเว็บโทรไม่ได้เพราะให้เลขมาเกิน เห็นเขียน call center 066-256-60782 Mon-Fri 9:00~18:00(UTC+7)
ส่วนไลน์ใช้ OA https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=picoxr_th
ถ้าใครซื้อ pico4ultra แล้วได้โค้ด โปรโมชัน สแกนไลน์ในภาพได้ user เดียวกัน
แล้วถ่ายใบเสร็จส่งไลน์ให้พนักงาน เดี๋ยวเขาส่งโค้ดเกมให้
เรื่องสเปคคอมสำหรับเชื่อมต่อแว่น VR
ทั้งคู่สามารถเชื่อมต่อคอมโดยไม่ผ่านโปรแกรม Virtual Desktop ได้
แต่ต้องมีสเปคคอมที่รองรับ
ถ้าเป็นหน้าเว็บ Meta Quest
Processor Intel i7 / AMD Ryzen 7
Graphics Card Nvidia RTX 20 Series* / AMD Radeon RX 6000 Series
Memory 16 GB DDR4 RAM
Operating System Windows 10, Windows 11
USB Ports 1x USB-C port (แต่ผมต่อกับ vivobook thunderbold 4 ไม่ติด ต้องต่อ type A ถึงติด)
สเปคจากหน้าเว็บ https://www.meta.com/help/quest/articles/headsets-and-accessories/oculus-link/requirements-quest-link/
โปรแกรมเชื่อมต่อกับคอม เข้าไปโหลตที่ https://www.meta.com/quest/setup/
กดปุ่ม Download Meta Quest Link app สีน้ำเงินปุ่มใหญ่ๆ ข้างๆ แว่น Quest 3
ซึ่งเวลาถอนโปรแกรมก็ใช้โปรแกรมนี้เช่นกัน
โปรแกรม uninstall จาก windows ไม่ได้ (พี่มาร์คเจ้าของ Meta โหดมากใช้ระบบเดียวกับ adobe)
ส่วนสเปคของ Pico 4 Ultra ตามนี้
ระบบปฏิบัติการ: Windows 10 ขึ้นไป
โปรเซสเซอร์: เทียบเท่า Intel Core i5-4590/AMD FX8350 หรือดีกว่า
RAM: 8GB ขึ้นไป
การ์ดแสดงผล: เทียบเท่า NVIDIA GeForce GTX 1060 6GB/AMD Radeon RX 480 หรือดีกว่า
ข้อมูลจาก https://www.picoxr.com/th/software/pico-link
ถ้าหากมีข้อมูลอัพเดทเพิ่มผมขอ Comment ด้านล่างต่อ
******************************
และขอบอกไว้ก่อน ปลายเดือนนี้วันที่ META CONNECT 2024 วันที่ 25-26 กันยายน 2024 อาจเปิดตัว Meta Quest 3s ตามข่าวลือ หรืออาจจะเปลี่ยนชื่ออื่น รายละเอียดรอติดตามที่ https://www.meta.com/connect/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้