Analyst Meeting กับปัญหาการเอาเปรียบรายย่อยมายาวนาน

กระทู้คำถาม
เครดิต    https://www.facebook.com/WriterTable/                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                          วันนี้ ก.ล.ต. ได้ออกข่าวแจ้งหลักการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนฉบับใหม่ ตาม Link นี้ (ผมก็เพิ่งทราบเพราะเห็น โพสต์ของคุณ Chal Chalermdej นายกสมาคม ThaiVI)
https://www.sec.or.th/.../handling_confidential_practice.pdf
เนื้อหาคือการให้นิยามและกำหนดวิธีที่บริษัทจดทะเบียนควรทำให้ชัดเจนมากขึ้น เวลาที่มีการให้ "ข้อมูลใหม่ที่มีนัยยะ" กับนักลงทุนหรือนักวิเคราะห์ อันไหนควรถือว่ามีนัยยะ ช่องทางกระจายข่าวต่อสาธารณะที่เป็นมาตรฐานคืออะไร
ที่มาของการพยายามสร้างมาตรฐานให้ชัดเจนนี้ก็มีที่มา ผมยกเอาตัวอย่างที่เพิ่งเกิดไวๆนี้ 4 เคสให้ได้เลย เพิ่งไตรมาสล่าสุดนี้เอง
1) ราคาหุ้น SAPPE ร่วงหล่นจาก 90 บาทมา 70 กว่าบาทในวันที่มีการประชุม Analyst meeting เนื่องจากผู้บริหารให้ข้อมูลว่าเป้ายอดขายถูกปรับลงจากเดิม
2) ราคาหุ้น CBG ปรับขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 63 บาท ขึ้นไป 69 บาท ในช่วงหลังการประชุม โดยผู้บริหารเปิดเผยข้อมูลการก่อสร้าง ร่วมทุนโรงงานในกัมพูชา และแนวโน้มยอดขาย
3) ราคาหุ้น KCE เปิดกระโดดขึ้นในช่วงเช้า เนื่องจากงบการเงินออกมาดีกว่าที่คาด ก่อนจะร่วงลงมาอย่างรุนแรง จากการประชุมนักวิเคราะห์ที่มีในระหว่างวัน เนื่องจากผู้บริหารให้ข้อมูลว่าช่วงครึ่งปีหลังมีการปรับเป้ารายได้ลง และอัตรากำไรจะต่ำกว่าที่เคยให้ข้อมูลไว้เดิม
4) ราคาหุ้น CKP ที่กำลังได้รับการเก็งกำไรจากประเด็นปริมาณน้ำที่ดีในปีนี้ แต่อยู่ๆกลับร่วงลงมาในช่วงเปิดตลาดไม่นาน ปรากฎว่าในการประชุมนักวิเคราะห์มีการเปิดเผยข้อมูลว่า บริษัทจำเป็นต้องหยุดการผลิตไฟจากเขื่อนไซยะบุรีเป็นเวลา 10 วัน เนื่องจากปริมาณน้ำที่มากเกินไป (ปริมาณน้ำที่เยอะไปกลายเป็นไม่ดี)
ในเคสของ CKP ผมอยากให้เห็นว่าบริษัทจัดให้มีการเปิดเผยข้อมูลแก่นักวิเคราะห์ก่อน 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็มาให้ข้อมูลใน Oppday ตอนบ่าย ซึ่งถ้าดูตามกราฟ (รายชั่วโมง) ที่ผมแปะไว้ จะเห็นว่าราคานั้นร่วงลงตั้งแต่ช่วง 10-12 แล้ว เป็นตอนประชุมนักวิเคราะห์พอดี ถ้าดูผมว่าหลายๆคนก็คงคิดเหมือนกันว่าทำไมไม่ประชุมให้มันพร้อมกันไปเลย หรือให้นักวิเคราะห์ฟังจาก Oppday ไปทีเดียว จริงๆก็มีอีกหลายบริษัทที่จัดประชุมนักวิเคราะห์ก่อนมา Oppday 1 วัน
กว่ารายย่อยจะรู้ข่าวว่ามีสงคราม สงครามก็จบลงแล้ว
กรณีตามนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนจนไม่รู้ว่าอะไรจะชัดกว่านี้แล้ว ของการที่มีผู้เล่นบางคนได้เปรียบด้านข้อมูลกว่ารายย่อย โดยเฉพาะหุ้นแบบ CBG KCE ใครที่ติดตามหรืออยู่ในตลาดหุ้นมานานพอ สามารถไปเปิดกราฟแล้วดูย้อนหลังราคาหุ้นวันที่มีการประชุม Analyst meeting ได้เลย จะเรียกใช้คำว่าขวัญใจขาซิ่งวัน meeting ก็ไม่ผิด ประชุมทีไรก็เหวี่ยงที
ผมไม่แน่ใจว่าหลักการที่ละเอียดมากขึ้นที่ ก.ล.ต. ประกาศในวันนี้จะช่วยป้องกันปัญหานี้ได้มากแค่ไหน ก็หวังว่าจะดีขึ้น
มีอีกข้อที่ผมอยากพูด ซึ่งเป็นความเห็นเฉพาะตัวผมเองคือ ถ้าเทียบกับกรณี Short sale ที่นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่ง พร้อมใจกันออกมาโวยวายว่าเป็นการเอาเปรียบรายย่อย เทียบกับเรื่องปัญหาจาก Analyst meeting ผมคิดว่ามันตลกดีที่ตัวแทนจากบริษัทหลักทรัพย์ทั้งหลายพากันเงียบกริบ ทั้งที่เป็นปัญหามายาวนาน พิสูจน์ได้ชัดเจนกว่าเรื่อง Short sale เยอะ ว่าส่งผลต่อการขึ้นลงของราคาจริงๆ คือกลายเป็นเรื่องที่ "ใครๆเขาก็ทำกัน" ซะงั้นแทน
ผมคิดว่ารายย่อยที่ชอบไปเรียกนักวิเคราะห์คนนู้น คนนี้ว่าอาจารย์ในรายการต่างๆ ชื่นชมว่าเขาต่อสู้เพื่อรายย่อย ควรจะไตร่ตรองเรื่องพวกนี้ให้มากๆครับ ก่อนจะเชื่อตามเขาไป ในตลาดหุ้นคนทุกคนก็มีผลประโยชน์ของตัวเองเป็นที่ตั้งทั้งนั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่