เริ่มเรื่องก่อนเลยคือตอนนี้เราอายุ 23 อยู่กับแม่กับน้อง 3 คน เราทำงานตั้งแต่อายุ 13 ออกจากโรงเรียนเพราะแม่ไม่มีเงินส่งเลย จริงๆเมื่อก่อนแม่เป็นคนมีเงินมากๆ แต่แม่มาแต่งงานใหม่ ไปค้ำประกันให้พ่อเลี้ยง จนต้องมาชดใช้หนี้แทน ทั้งในระบบและนอกระบบ เราก็ทำงานหาเลี้ยงตัวเอง ปกติแม่เป็นคนมีรถมีทรัพย์สินหลายอย่าง จนวันที่โดนยึดหมดเพราะพ่อเลี้ยงหนี กลายเป็นไม่มีรถ ไม่มีบ้าน ไม่มีเงิน แม่เครียดมาตลอดหลายปีมาก หาเงินได้แต่ละวันก็พอแค่ค่าข้าวสาร 1 กิโล กับแกงถุง 30 บาท จนวันที่เราทำงานครบอายุ 20 ก็เริ่มหาทางซื้อรถแม่จะได้สบายขึ้น อยากไปไหนก็ได้ไป ทุกอย่างในบ้านเราแทบจะเป็นคนออกทุกอย่าง ตามใช้หนี้แม่จนหมด หมดตอนปี 65 หลังจากนั้นทางแม่ก็เริ่มมีเงินขึ้น(แม่เป็นพนักงานเงินเดือน) ตาก็มาเสีย ทิ้งที่ดินไว้ให้ 2 ผืน ผืนนึงขายเอาเงินมาแบ่งกัน ให้เรา 200,000 ให้น้อง 150,000 อีกผืนแม่โอนให้เป็นชื่อน้อง เราก็ไม่ได้อะไร ตอนนี้เราก็ยังหาลู่ทางหาเงินเหมือนเดิม เพราะอยากได้บ้าน แม่ 60 ปีแล้วยังไม่มีบ้านอยู่ ทะเลาะกับแม่กับน้องบ่อยมาก เพราะเราชอบบอกให้น้องไปทำงาน น้องอายุ 22 ปี วันทั้งวันเอาแต่เล่นเกม งานบ้านทุกอย่างแม่ทำทั้งหมด น้องเป็นคนมักง่ายมากๆ ทุกสิ่งทุกอย่างทิ้งไว้ให้แม่ทำทั้งหมด ซักผ้า ชุดชั้นในก็แม่ หาข้าวให้กินก็แม่ กินเสร็จจานก็ตั้งไว้ให้แม่เก็บ พอเราพูดก็ทะเลาะกับน้องและทะเลาะกับแม่ แม่เริ่มยื่นเงินให้เราบ้าง แต่แม่ก็จะมีปัญหากับน้อง เพราะน้องจะชอบพูดว่า พี่เห็นแก่เงินรักแม่เพราะแม่มีเงิน ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เราทำงานวันละ 500 บาท ต้องผ่อนรถด้วย แต่แม่กับน้องอยากกินอะไร อยากไปที่ไหนเราก็จะหาซื้อให้ พาแม่กับน้องไปทุกที่ ขอให้บอก วันนี้แม่เริ่มมีเงินกลับบอกว่าเราไปหาแม่เพราะแม่มีเงิน ซึ่งปกติเราทำงานต่างอำเภอ แต่กลับไปหาแม่ 2-7 วันครั้งอยู่แล้ว ทุกครั้งที่กลับกับข้าว ข้าวสาร น้ำเอย เต็มไม้เต็มมือ วันนี้น้องเราเรียนต่อปริญญาตรี แต่เรียนที่บ้าน มีอ่านหนังสือก่อนสอบบ้าง เราเลยพูดกับแม่ว่าให้น้องไปทำงานเถอะ เงินเดือนแม่เราอยากให้แม่ใช้อย่างที่แม่อยากใช้ อยากซื้ออะไรซื้อ อยากกินอะไรก็ไปกิน น้องโตแล้วสมควรจะเรียนรู้การใช้ชีวิตบ้าง หางานทำจะได้รู้วิธีเอาตัวรอด เพราะแม่ไม่ได้อยู่กับเราไปตลอดชีวิต แต่ทุกครั้งที่พูดก็มีปัญหากันทุกครั้ง น้องเลยยกเรื่องที่ดินที่เป็นทรัพย์สินมรดกมาพูด ว่าให้เอาเงินจากเราคืนด้วย ทั้งๆที่เงินที่เราได้มาเราเอาไปต่อยอดหานู่นนี่ทำไปเรื่อยจะได้มีเงินเพิ่มขึ้น แต่แม่ก็จะบอกว่าเราอย่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แต่ส่วนของน้องที่ได้ไปคือหมดแล้ว สั่งของออนไลน์ถี่มาก จนเงินที่ได้ไปตอนต้นปีหมดแล้ว แล้วแม่กำลังจะให้เงินก้อนใหม่ไปกับน้อง ซึ่งเราไม่โอเคมากๆ ไม่รู้ว่าความรู้สึกแบบนี้คืออิจฉาน้องหรือเปล่า แต่อีกใจนึงคือถ้าน้องเอาไปต่อยอดก็ไม่ได้อะไร แต่ถ้ายังกิน นอน เล่นเกมส์ สั่งของแบบนี้ เงินมันก็หมดไปเรื่อยๆ ญาติๆบอกว่าเงินแม่ แม่เต็มใจให้น้องก็สิทธิ์ของแม่ อันนั้นเราเข้าใจ แต่ถ้าเงินหมดขึ้นมาคนที่จะเดือดร้อนคือเราทุกครั้ง ซึ่งเราเหนื่อยมากแล้ว ญาติๆบอกให้เราปลง เรามีหน้าที่ให้ก็ให้ไป แต่เรารู้สึกว่าเราต้องเหนื่อยไปถึงเมื่อไหร่ เราเพิ่งอายุ 23 ปีเองนะ ในขณะที่เพื่อนๆยังเรียนอยู่เลย ทำไมชีวิตเรามันถึงเป็นแบบนี้ สิ่งที่ต้องพยายามมาเป็น 10 ปี เมื่อไหร่มันจะจบสักที ตอนเราตามใช้หนี้แม่ เครียดจนเคยคิดสั้น แต่ก็ไม่ทำเพราะถ้าเราเป็นไรไปแม่ลำบากอีกแน่นอน เราสมควรจะจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไงดี หรือเราควรจะต้องทำยังไงดี ต้องสอนน้องยังไง เพราะเคยลำบากมาแล้วไม่อยากให้แม่ต้องกลับไปลำบากแบบนั้นอีก แม่ก็ค่อยข้างจะถือน้องมากๆ จะทิ้งก็ไม่ได้ จะพูดก็ทะเลาะ สงสารก็สงสารแม่เพราะเวลาน้องทะเลาะกับแม่ น้องจะตวาดจนแม่ร้องไห้เสียใจตลอด ซึ่งเราทนดูไม่ได้เลยจริงๆ
อยากจะสอบถามว่าเราต้องจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไง รู้สึกเหมือนแม่ไม่รัก
เริ่มเรื่องก่อนเลยคือตอนนี้เราอายุ 23 อยู่กับแม่กับน้อง 3 คน เราทำงานตั้งแต่อายุ 13 ออกจากโรงเรียนเพราะแม่ไม่มีเงินส่งเลย จริงๆเมื่อก่อนแม่เป็นคนมีเงินมากๆ แต่แม่มาแต่งงานใหม่ ไปค้ำประกันให้พ่อเลี้ยง จนต้องมาชดใช้หนี้แทน ทั้งในระบบและนอกระบบ เราก็ทำงานหาเลี้ยงตัวเอง ปกติแม่เป็นคนมีรถมีทรัพย์สินหลายอย่าง จนวันที่โดนยึดหมดเพราะพ่อเลี้ยงหนี กลายเป็นไม่มีรถ ไม่มีบ้าน ไม่มีเงิน แม่เครียดมาตลอดหลายปีมาก หาเงินได้แต่ละวันก็พอแค่ค่าข้าวสาร 1 กิโล กับแกงถุง 30 บาท จนวันที่เราทำงานครบอายุ 20 ก็เริ่มหาทางซื้อรถแม่จะได้สบายขึ้น อยากไปไหนก็ได้ไป ทุกอย่างในบ้านเราแทบจะเป็นคนออกทุกอย่าง ตามใช้หนี้แม่จนหมด หมดตอนปี 65 หลังจากนั้นทางแม่ก็เริ่มมีเงินขึ้น(แม่เป็นพนักงานเงินเดือน) ตาก็มาเสีย ทิ้งที่ดินไว้ให้ 2 ผืน ผืนนึงขายเอาเงินมาแบ่งกัน ให้เรา 200,000 ให้น้อง 150,000 อีกผืนแม่โอนให้เป็นชื่อน้อง เราก็ไม่ได้อะไร ตอนนี้เราก็ยังหาลู่ทางหาเงินเหมือนเดิม เพราะอยากได้บ้าน แม่ 60 ปีแล้วยังไม่มีบ้านอยู่ ทะเลาะกับแม่กับน้องบ่อยมาก เพราะเราชอบบอกให้น้องไปทำงาน น้องอายุ 22 ปี วันทั้งวันเอาแต่เล่นเกม งานบ้านทุกอย่างแม่ทำทั้งหมด น้องเป็นคนมักง่ายมากๆ ทุกสิ่งทุกอย่างทิ้งไว้ให้แม่ทำทั้งหมด ซักผ้า ชุดชั้นในก็แม่ หาข้าวให้กินก็แม่ กินเสร็จจานก็ตั้งไว้ให้แม่เก็บ พอเราพูดก็ทะเลาะกับน้องและทะเลาะกับแม่ แม่เริ่มยื่นเงินให้เราบ้าง แต่แม่ก็จะมีปัญหากับน้อง เพราะน้องจะชอบพูดว่า พี่เห็นแก่เงินรักแม่เพราะแม่มีเงิน ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เราทำงานวันละ 500 บาท ต้องผ่อนรถด้วย แต่แม่กับน้องอยากกินอะไร อยากไปที่ไหนเราก็จะหาซื้อให้ พาแม่กับน้องไปทุกที่ ขอให้บอก วันนี้แม่เริ่มมีเงินกลับบอกว่าเราไปหาแม่เพราะแม่มีเงิน ซึ่งปกติเราทำงานต่างอำเภอ แต่กลับไปหาแม่ 2-7 วันครั้งอยู่แล้ว ทุกครั้งที่กลับกับข้าว ข้าวสาร น้ำเอย เต็มไม้เต็มมือ วันนี้น้องเราเรียนต่อปริญญาตรี แต่เรียนที่บ้าน มีอ่านหนังสือก่อนสอบบ้าง เราเลยพูดกับแม่ว่าให้น้องไปทำงานเถอะ เงินเดือนแม่เราอยากให้แม่ใช้อย่างที่แม่อยากใช้ อยากซื้ออะไรซื้อ อยากกินอะไรก็ไปกิน น้องโตแล้วสมควรจะเรียนรู้การใช้ชีวิตบ้าง หางานทำจะได้รู้วิธีเอาตัวรอด เพราะแม่ไม่ได้อยู่กับเราไปตลอดชีวิต แต่ทุกครั้งที่พูดก็มีปัญหากันทุกครั้ง น้องเลยยกเรื่องที่ดินที่เป็นทรัพย์สินมรดกมาพูด ว่าให้เอาเงินจากเราคืนด้วย ทั้งๆที่เงินที่เราได้มาเราเอาไปต่อยอดหานู่นนี่ทำไปเรื่อยจะได้มีเงินเพิ่มขึ้น แต่แม่ก็จะบอกว่าเราอย่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แต่ส่วนของน้องที่ได้ไปคือหมดแล้ว สั่งของออนไลน์ถี่มาก จนเงินที่ได้ไปตอนต้นปีหมดแล้ว แล้วแม่กำลังจะให้เงินก้อนใหม่ไปกับน้อง ซึ่งเราไม่โอเคมากๆ ไม่รู้ว่าความรู้สึกแบบนี้คืออิจฉาน้องหรือเปล่า แต่อีกใจนึงคือถ้าน้องเอาไปต่อยอดก็ไม่ได้อะไร แต่ถ้ายังกิน นอน เล่นเกมส์ สั่งของแบบนี้ เงินมันก็หมดไปเรื่อยๆ ญาติๆบอกว่าเงินแม่ แม่เต็มใจให้น้องก็สิทธิ์ของแม่ อันนั้นเราเข้าใจ แต่ถ้าเงินหมดขึ้นมาคนที่จะเดือดร้อนคือเราทุกครั้ง ซึ่งเราเหนื่อยมากแล้ว ญาติๆบอกให้เราปลง เรามีหน้าที่ให้ก็ให้ไป แต่เรารู้สึกว่าเราต้องเหนื่อยไปถึงเมื่อไหร่ เราเพิ่งอายุ 23 ปีเองนะ ในขณะที่เพื่อนๆยังเรียนอยู่เลย ทำไมชีวิตเรามันถึงเป็นแบบนี้ สิ่งที่ต้องพยายามมาเป็น 10 ปี เมื่อไหร่มันจะจบสักที ตอนเราตามใช้หนี้แม่ เครียดจนเคยคิดสั้น แต่ก็ไม่ทำเพราะถ้าเราเป็นไรไปแม่ลำบากอีกแน่นอน เราสมควรจะจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไงดี หรือเราควรจะต้องทำยังไงดี ต้องสอนน้องยังไง เพราะเคยลำบากมาแล้วไม่อยากให้แม่ต้องกลับไปลำบากแบบนั้นอีก แม่ก็ค่อยข้างจะถือน้องมากๆ จะทิ้งก็ไม่ได้ จะพูดก็ทะเลาะ สงสารก็สงสารแม่เพราะเวลาน้องทะเลาะกับแม่ น้องจะตวาดจนแม่ร้องไห้เสียใจตลอด ซึ่งเราทนดูไม่ได้เลยจริงๆ