คือเรื่องที่เราจะเล่าคือเรื่องสังคมการทำงานที่เราเจอมา
เรื่องมีอยู่ว่าเราไปทำงานเป็นแคชเชียร์ที่แห่งนึงที่ไม่ขอเอ่ยชื่อ
ด้วยความที่อยู่ใกล้บ้านพนักงานส่วนใหญ่เลยเป็นคนบ้านเดียวกันหรือเคยเป็นรุ่นพี่ที่รร.
วันแรกที่เราไปทำงานเราวางตัวไม่ถูกเพราะว่าไม่มีใครแนะนำอะไรเลยทั้งการเข้างาน การพัก(เวลาพักกับสถานที่กินข้าว) การออกไปซื้อของข้างนอก
แต่โชคดี(รึเปล่า?)
ขอแทนรุ่นพี่ว่าaเป็นรุ่นพี่ที่เคยรู้จักสมัยมัธยมทำงานอยู่ที่นี่ด้วย คือแรกๆพี่เขาคุยด้วยดีมากนะแนะนำเราหลายอย่างเลย
ด้วยความที่หน้าตาเรามันไม่เป็นมิตร(หน้าหยิ่งแต่จริงๆไม่มีอะไร)แถมชวนคุยไม่เก่งเลยค่อนข้างเข้าหาเพื่อนๆพี่ๆที่ทำงานยากเลยค่อนข้างติดa (แค่ขอไปนั่งกินข้าวด้วยแต่สงสัยเป็นที่ส่วนตัวเลยไม่อยากให้ไป ปล.เราผิดเองแหละที่เข้าไปยุ่งที่ส่วนตัวของเขา)หลังๆเราเลยเริ่มหาที่พักเอง เราลืมบอกมาสัปดาห์แรกๆเราทำหน้าที่ยกของใส่ถุงใส่ลังไปก่อนเะราะยังไม่ได้นั่งแคชเชียร์
ต่อมาพอเราได้นั่งนี่แหละที่มาความเศร้า
เราได้นั่งแคชหลังพี่aด้วยความที่นั่งแคชเชียร์วันแรก
อะไรหลายอย่างเลยไม่รู้เราเลยถามแต่ดันโดนอารมณ์เสียใส่แถมยังใช้น้ำเสียงไม่ดีด้วย
(พี่หัวหน้าเคยบอกเราว่าถ้าไม่รู้ให้ถามจะได้ไม่ผิดพลาด)
เราเลยจิตตกหากระทู้พันทิปมาอ่านหลายบทความเลยว่าเราทำอะไรผิดไม่รู้ตัวรึเปล่า ทำให้เขารำคาญ
อะไรไหม
ถัดมาของการนั่งประจำแคชเชียร์คือ ฉันเข้ากับเพื่อนร่วมงานไม่ได้!!!อารมณ์ประมาณว่าฉันพยายามชวนคุยแล้วแต่เขาเดินหนีอ่ะทำให้ไม่ค่อยได้คุยถึงใจจะบอกว่าไม่อยากคุยก็ไม่ต้องคุยแต่ แต่ แต่
ต้องบอกก่อนว่าถ้าจะไปพักต้องหาคนมาเปลี่ยนแทนนี่แหละนรกπ_π ทำให้ต้องพยายามพูดคุยสร้างความสนิทสนมเราทำงานคนเเียวไม่ได้ซึ่งส่วนใหญ่คนที่เปลี่ยนจะเป็นพีซี
แล้วสงสัยไหมว่าจะเป็นไง
ฉันโดนนินทาแบบระยะเผาขนจ้าโดยพีซีหลายคนที่สามารถเปลี่ยนแคชเชียร์ได้? ทำไมเป็นงั้นอ่ะ เคยคุยกันรึก็ไม่ แต่ถ้าถามคำตอบคำก็มีบ้าง เพราะว่าเดดแอร์เราชวนคุยไม่เป็นเลยจบแค่สั้นๆ เราก็ไปค้นกระทู้อีกว่าทำไมเราถึงโดนเกลียด เราทอกซิกหรือเคยพูดไม่ดีรึเปล่าแต่เราไม่ได้คุยกับเขาเยอะเลยนะ?แค่ถามว่ากินข้าวรึยัง ได้อะไรกิน ว่างไหม? งงมากเกิดอะไรขึ้น หรือเป็นเพราะฉันโดนเสนอให้ย้ายไปเป็นพีซีหรอ? ขอเล่าว่าเราเคยโดนแนะนำจากหัวหน้าให้ไปเป็นพีซีแทนพี่b(นามสมมติ)ที่จะลาคลอดแต่มันแค่สามเดือนเท่านั้น
ด้วยความที่เป็นคนคิดมากฉันจิตตกไปหลายวันเลย
นางทำเป็นคุยกันว่า(กลิ่นอะไรเนี่ยเหม็นเหมือนขี้เลยได้กลิ่นกันไหม ขยะหรอ? สงสัยแคชเชียร์เน่า) ฉันพยายามไม่คิดอะไรแต่ใจคือคิดไปแล้ว พยายามคิดไปว่าหูหาเรื่องคิดไปเองรึเปล่า ฉันเลยไปเข้าห้องน้ำเพื่อสงบใจ ฉันอ้วนเลยมีกลิ่นรึเปล่า ลองดมดูก็ไม่มีหนิมีแต่กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มหรือเป็นกลิ่นตัวเองเลยไม่รู้สึก หลังจากกลับบ้านก็ถามคนในบ้านทุกคนก็บอกว่าปกติไม่เหม็นนะ)แต่ด้วยความที่คิดมาก
วันต่อมาฉันเลยฉีดน้ำหอมจนฟุ้งเลยจ้า
ทุกคนก็เงียบไป ประจวบกับพี่ซุปเขาไม่เอาเราแทนพี่บีเพราะเราอ้วนแถมจบใหม่เขาเลยหาคนอื่นที่เป็นแคชเชียร์เหมือนกันนี่แหละแต่เขาทำงานมานานกว่า
ไม่เห็นมีใครว่าอะไรเลยอ่ะ? แถมมีแซวชุดอีก
สรุปคือเพื่อนคนนึงเล่าให้ฟังว่า
มีแต่คนอยากเป็นพีซีเพราะเงินเยอะแถมมีวันหยุดเขาจับจ้องตำแหน่งพีซีมาตั้งนานแต่หัวหน้าดันมาเลือกเราให้ทำ
คิดว่ามันจะจบเพราะเราไม่ได้เป็นพีซีแล้วใช่ไหม
"คิดผิดมันยังไม่จบ!"
(ทุกวันนี้เราโดนแซะตลอดเลยหาว่าเราหยิ่ง ไม่เข้าหาเวลาพูดด้วยไม่มีเสน่ห์ ยิ้มเหมือนเสแสร้ง)แถมจะหาคนเปลี่ยนเวลาพักก็ยากแสนยากถามใครก็บอกไม่ว่างเปลี่ยนแคชเชียร์แต่เห็นอีกทีคือไปนั่งแคชเชียร์อื่นจ้า
หรือบอกจะเปลี่ยนให้สุดท้ายก็เลทเวลา
แต่ แต่ หัวหน้า!!!!!หาเรื่องให้หนูอีกแล้ว!!!
มีสินค้าที่กำลังจะจัดโปรโมชั่นจะให้เราไปช่วยงาน
โดยควบสองคือทำทั้งแคชเชียร์และกึ่งๆพีซี
อีกแล้วหรอ!!!!!!
เลยโดนแซะหนักเลยจากที่ไม่รู้ว่าเราทำอะไรผิดตอนนี้รู้แล้วเพราะคำๆเดียวเลย(ขอใช้นามสมมติแทน)
1:"แม่yหนูอดเป็นน้องในแผนกแม่เลยอ่ะ เพราะ...คนเดียวเลย (ใส่อารมณ์ด้วย)
2:"ไม่ได้สิหนูจะว่าแบบนั้นไม่ได้แล้วนะเขากลายเป็นน้องแม่yแล้วจริงไหม?"

เสียงแบบแซะๆ)
ซึ่งคนที่พูดคือพี่a
จากที่ไม่รู้ว่าทำไมว่าทุกคนถึงเกลียด
ตอนนี้รู้ละได้แต่พูดว่า
"อ๋อแบบนี้นี่เอง"
.
.
.
เวลาที่คนคนนึงเกลียดใครสักคน คนที่ใกล้ชิดสนิทสนมมักจะเกลียดไปตามๆกันโดยไม่สนว่าตัวจริงเขาจะเป็นยังไงด้วยซ้ำ
อย่าจิตตกมาเกินไปเหมือนเราหล่ะทุกวันนี้เรายังฉีดน้ำหอมทุกวันทั้งที่เกลียดกลิ่นมากเพราะได้กลิ่นแล้วเวียนหัว(ปกติเราไม่ชอบทาแป้งด้วยซ้ำ(ทาแต่ครีม))
เราได้แต่หวังว่าจะทำงานเก็บประสบการณ์ให้มากที่สุด
และสุดท้ายคือขอบคุณหัวหน้าที่มอบโอกาสให้ค่ะ
อ๋ออย่างนี้นี่เอง
เรื่องมีอยู่ว่าเราไปทำงานเป็นแคชเชียร์ที่แห่งนึงที่ไม่ขอเอ่ยชื่อ
ด้วยความที่อยู่ใกล้บ้านพนักงานส่วนใหญ่เลยเป็นคนบ้านเดียวกันหรือเคยเป็นรุ่นพี่ที่รร.
วันแรกที่เราไปทำงานเราวางตัวไม่ถูกเพราะว่าไม่มีใครแนะนำอะไรเลยทั้งการเข้างาน การพัก(เวลาพักกับสถานที่กินข้าว) การออกไปซื้อของข้างนอก
แต่โชคดี(รึเปล่า?)
ขอแทนรุ่นพี่ว่าaเป็นรุ่นพี่ที่เคยรู้จักสมัยมัธยมทำงานอยู่ที่นี่ด้วย คือแรกๆพี่เขาคุยด้วยดีมากนะแนะนำเราหลายอย่างเลย
ด้วยความที่หน้าตาเรามันไม่เป็นมิตร(หน้าหยิ่งแต่จริงๆไม่มีอะไร)แถมชวนคุยไม่เก่งเลยค่อนข้างเข้าหาเพื่อนๆพี่ๆที่ทำงานยากเลยค่อนข้างติดa (แค่ขอไปนั่งกินข้าวด้วยแต่สงสัยเป็นที่ส่วนตัวเลยไม่อยากให้ไป ปล.เราผิดเองแหละที่เข้าไปยุ่งที่ส่วนตัวของเขา)หลังๆเราเลยเริ่มหาที่พักเอง เราลืมบอกมาสัปดาห์แรกๆเราทำหน้าที่ยกของใส่ถุงใส่ลังไปก่อนเะราะยังไม่ได้นั่งแคชเชียร์
ต่อมาพอเราได้นั่งนี่แหละที่มาความเศร้า
เราได้นั่งแคชหลังพี่aด้วยความที่นั่งแคชเชียร์วันแรก
อะไรหลายอย่างเลยไม่รู้เราเลยถามแต่ดันโดนอารมณ์เสียใส่แถมยังใช้น้ำเสียงไม่ดีด้วย
(พี่หัวหน้าเคยบอกเราว่าถ้าไม่รู้ให้ถามจะได้ไม่ผิดพลาด)
เราเลยจิตตกหากระทู้พันทิปมาอ่านหลายบทความเลยว่าเราทำอะไรผิดไม่รู้ตัวรึเปล่า ทำให้เขารำคาญ
อะไรไหม
ถัดมาของการนั่งประจำแคชเชียร์คือ ฉันเข้ากับเพื่อนร่วมงานไม่ได้!!!อารมณ์ประมาณว่าฉันพยายามชวนคุยแล้วแต่เขาเดินหนีอ่ะทำให้ไม่ค่อยได้คุยถึงใจจะบอกว่าไม่อยากคุยก็ไม่ต้องคุยแต่ แต่ แต่
ต้องบอกก่อนว่าถ้าจะไปพักต้องหาคนมาเปลี่ยนแทนนี่แหละนรกπ_π ทำให้ต้องพยายามพูดคุยสร้างความสนิทสนมเราทำงานคนเเียวไม่ได้ซึ่งส่วนใหญ่คนที่เปลี่ยนจะเป็นพีซี
แล้วสงสัยไหมว่าจะเป็นไง
ฉันโดนนินทาแบบระยะเผาขนจ้าโดยพีซีหลายคนที่สามารถเปลี่ยนแคชเชียร์ได้? ทำไมเป็นงั้นอ่ะ เคยคุยกันรึก็ไม่ แต่ถ้าถามคำตอบคำก็มีบ้าง เพราะว่าเดดแอร์เราชวนคุยไม่เป็นเลยจบแค่สั้นๆ เราก็ไปค้นกระทู้อีกว่าทำไมเราถึงโดนเกลียด เราทอกซิกหรือเคยพูดไม่ดีรึเปล่าแต่เราไม่ได้คุยกับเขาเยอะเลยนะ?แค่ถามว่ากินข้าวรึยัง ได้อะไรกิน ว่างไหม? งงมากเกิดอะไรขึ้น หรือเป็นเพราะฉันโดนเสนอให้ย้ายไปเป็นพีซีหรอ? ขอเล่าว่าเราเคยโดนแนะนำจากหัวหน้าให้ไปเป็นพีซีแทนพี่b(นามสมมติ)ที่จะลาคลอดแต่มันแค่สามเดือนเท่านั้น
ด้วยความที่เป็นคนคิดมากฉันจิตตกไปหลายวันเลย
นางทำเป็นคุยกันว่า(กลิ่นอะไรเนี่ยเหม็นเหมือนขี้เลยได้กลิ่นกันไหม ขยะหรอ? สงสัยแคชเชียร์เน่า) ฉันพยายามไม่คิดอะไรแต่ใจคือคิดไปแล้ว พยายามคิดไปว่าหูหาเรื่องคิดไปเองรึเปล่า ฉันเลยไปเข้าห้องน้ำเพื่อสงบใจ ฉันอ้วนเลยมีกลิ่นรึเปล่า ลองดมดูก็ไม่มีหนิมีแต่กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มหรือเป็นกลิ่นตัวเองเลยไม่รู้สึก หลังจากกลับบ้านก็ถามคนในบ้านทุกคนก็บอกว่าปกติไม่เหม็นนะ)แต่ด้วยความที่คิดมาก
วันต่อมาฉันเลยฉีดน้ำหอมจนฟุ้งเลยจ้า
ทุกคนก็เงียบไป ประจวบกับพี่ซุปเขาไม่เอาเราแทนพี่บีเพราะเราอ้วนแถมจบใหม่เขาเลยหาคนอื่นที่เป็นแคชเชียร์เหมือนกันนี่แหละแต่เขาทำงานมานานกว่า
ไม่เห็นมีใครว่าอะไรเลยอ่ะ? แถมมีแซวชุดอีก
สรุปคือเพื่อนคนนึงเล่าให้ฟังว่า
มีแต่คนอยากเป็นพีซีเพราะเงินเยอะแถมมีวันหยุดเขาจับจ้องตำแหน่งพีซีมาตั้งนานแต่หัวหน้าดันมาเลือกเราให้ทำ
คิดว่ามันจะจบเพราะเราไม่ได้เป็นพีซีแล้วใช่ไหม
"คิดผิดมันยังไม่จบ!"
(ทุกวันนี้เราโดนแซะตลอดเลยหาว่าเราหยิ่ง ไม่เข้าหาเวลาพูดด้วยไม่มีเสน่ห์ ยิ้มเหมือนเสแสร้ง)แถมจะหาคนเปลี่ยนเวลาพักก็ยากแสนยากถามใครก็บอกไม่ว่างเปลี่ยนแคชเชียร์แต่เห็นอีกทีคือไปนั่งแคชเชียร์อื่นจ้า
หรือบอกจะเปลี่ยนให้สุดท้ายก็เลทเวลา
แต่ แต่ หัวหน้า!!!!!หาเรื่องให้หนูอีกแล้ว!!!
มีสินค้าที่กำลังจะจัดโปรโมชั่นจะให้เราไปช่วยงาน
โดยควบสองคือทำทั้งแคชเชียร์และกึ่งๆพีซี
อีกแล้วหรอ!!!!!!
เลยโดนแซะหนักเลยจากที่ไม่รู้ว่าเราทำอะไรผิดตอนนี้รู้แล้วเพราะคำๆเดียวเลย(ขอใช้นามสมมติแทน)
1:"แม่yหนูอดเป็นน้องในแผนกแม่เลยอ่ะ เพราะ...คนเดียวเลย (ใส่อารมณ์ด้วย)
2:"ไม่ได้สิหนูจะว่าแบบนั้นไม่ได้แล้วนะเขากลายเป็นน้องแม่yแล้วจริงไหม?"
ซึ่งคนที่พูดคือพี่a
จากที่ไม่รู้ว่าทำไมว่าทุกคนถึงเกลียด
ตอนนี้รู้ละได้แต่พูดว่า
"อ๋อแบบนี้นี่เอง"
.
.
.
เวลาที่คนคนนึงเกลียดใครสักคน คนที่ใกล้ชิดสนิทสนมมักจะเกลียดไปตามๆกันโดยไม่สนว่าตัวจริงเขาจะเป็นยังไงด้วยซ้ำ
อย่าจิตตกมาเกินไปเหมือนเราหล่ะทุกวันนี้เรายังฉีดน้ำหอมทุกวันทั้งที่เกลียดกลิ่นมากเพราะได้กลิ่นแล้วเวียนหัว(ปกติเราไม่ชอบทาแป้งด้วยซ้ำ(ทาแต่ครีม))
เราได้แต่หวังว่าจะทำงานเก็บประสบการณ์ให้มากที่สุด
และสุดท้ายคือขอบคุณหัวหน้าที่มอบโอกาสให้ค่ะ