หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
มีโอกาสทำงานในโรงเรียนกลางป่าที่เขาว่ากันดาร !! เป็นอย่างไรมาร่วมแลกเปลี่ยนกันครับ
กระทู้สนทนา
จิตอาสา
ครู - อาจารย์
โรงเรียน
สวัสดีเพื่อน ๆ ชาวพันทิป เพื่อนชาวเสมา และเพื่อน ๆ ที่แวะเวียนเข้ามาทุกท่านครับ
เชื่อว่าครูทุกท่านหรือแม้กระทั่งคนที่พยายามมาเป็นครูในระบบราชการ คงวาดฝันกับชีวิตข้าราชการครูกันไว้ไม่น้อย แต่น้อยคนนักที่จะได้พบกับสิ่งที่คาดหวัง ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดาของโลก ผมจึงตัดสินใจว่าถ้าอยากเปลี่ยนอะไรเราต้องเข้าไปทำมัน ไม่ใช่เอาแต่พูด เลยเปลี่ยนจากสายงานการสอน ไปเป็นสายบริหารเผื่อจะมีโอกาสเปลี่ยนอะไรบ้าง ไม่น่าเชื่อกับ ผมกลับพบชีวิตที่เคยหายไปขึ้นมา
ผมอยู่กาญจนบุรีครับ เป็นรอง ผอ. โรงเรียนขนาดกลาง มีนักเรียนราว ๆ 530 คน สลับกันเข้าออกเปลี่ยนหน้าเปลี่ยนตาตลอด เพราะเด็กส่วนใหญ่ ใหญ่เกิน 2 ใน 3 เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีการโยกย้ายบ่อยมาก ๆ และแจ็คพอตก็คือ โรงเรียนผมมี 2 โรงเรียนครับ คือมีห้องเรียนสาขา (ถ้านึกภาพไม่ออกก็หนังเรื่องคิดถึงวิทยาเลยครับ) แต่ห้องเรียนสาขาของผมไม่ได้อยู่กลางเขื่อนแต่อยู่กลางป่าเขาครับ
การเดินทางมาโรงเรียนแม่ไม่ลำบากครับ แต่ระยะทางค่อนข้างไกล ขับรถมาโรงเรียน 1 ขา มีระยะทางเท่ากับจากเมืองกาญจน์ไป - กลับกรุงเทพพอดิบพอดี ที่ประทับใจคือโรงเรียนสาขาครับ ความลำบากของการเดินทางไปโรงเรียนอยู่ในระดับไม่มาก แต่ทำไมเราต้องมาเจอ นึกออกไหมครับ
ผมเคยร่วมก๊วนขบวนบริจาคของของกลุ่มต่าง ๆ บ่อยครั้ง ไปตาก แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ แต่หลังจากบรรจุแล้วก็ห่างหายไป พอมาเจอโรงเรียนสาขาก็ทรงเดียวกันกับที่เราไปช่วยเลยครับ
โรงเรียนที่ผมต้องดูแล เป็นพื้นที่บริการสำหรับนักเรียนชาวกะเหรี่ยงที่อพยพหนีสงครามมาจากพม่า อยู่ในศูนย์พักพิงของ UN เช้าเดินเท้ามาเรียนราว ๆ 1 ชม. เรียนเสร็จเดินกลับอีกเวลาเท่าเดิม ไม่มีไฟฟ้า มีพลังงานโซล่าเซลล์ที่ใช้ได้เล็กน้อย แต่ไม่พอสำหรับให้แสงสว่างทุกห้องเรียน (มี 4 อาคารเรียน ปัจจุบันใช้ได้แค่ 3 และ 1 อาคารโรงอาคารที่เป็นหอประชุมในเวลาเดียวกัน มีไฟแค่ 1 อาคาร) น้ำประปาจากตาน้ำบนภูเขาต่อท่อลงมา วันไหนน้ำขุ่นจากฝนตกเราก็ใช้น้ำขุ่น ๆ นั่นแหละครับ ผมอยู่มา 3 เดือนยังไม่พบว่ามีวันไหนแห้ง มีฝนตกทุกวันเส้นทางที่ครูต้องขี่รถจักรยานยนต์ไปทำงานค่อนข้างเละ และลำบาก (แต่ไม่เท่าแถบตากหรือแม่ฮ่องสอน) มีคุณครูดูแลนักเรียน 7 คน ทุกวันจะพักที่โรงเรียนแม่และขี่รถขึ้นไปสอน มีนักเรียนร่วม 170 คนที่นั่น ผมได้ขึ้นไปช่วยคุณครูสัปดาห์ละ 1-2 วัน แล้วแต่โอกาส เพราะต้องนำอาหารกลางวันใส่รถกระบะขึ้นไปให้ ทั้งข้าวสาร แก๊ส ของสด ของแห้ง เนื่องจากที่นั่นไม่มีตู้แช่และไม่มีไฟ จึงต้องเอาอาหารขึ้นไปทุกวัน
และเมื่อขึ้นไปที่นั่นแล้วปราศจากสัญญาณโทรศัพท์ครับ ติดต่อราชการใด ๆ ไม่ได้ จึงเป็นที่มาว่าทีมบริหารจะไปทุกวันไม่ได้เพราะต้องดูแลโรงเรียนแม่และประสานงานจากหน่วยงานภายนอกด้วย
แต่ก็นั่นแหละครับ ถึงจะดูยากลำบาก การเดินทาง การสื่อสาร อาคารเรียนที่ไม่พร้อม ไม่มีไฟฟ้า แต่ผมรู้สึกว่ามีความสุข เด็กที่นั่นไม่รู้สึกว่าตัวเองด้อยโอกาส มีความสุขกับทุกกิจกรรม คุณครูก็เป็นครูมืออาชีพ ทำงานเต็มที่ ถึงจะขาดบ้างแต่ก็อยู่กันด้วยรอยยิ้ม ถ้าเล่าตรงนี้ก็คงจะยาวไปหน่อย เอาเป็นว่าไปดูภาพบรรยากาศก็แล้วกันครับ
นี่เป็นสภาพโณงเรียนโดยทั่วไปครับ
ยังดีที่โรงเรียนของเรามีผู้เล็งเห็น จึงมีทีมอาสามาพอสมควร ช่วยทาสีอาคารให้ดูสดใสปกปิดรอยผุพังของโครงสร้างได้เป็นครั้งคราว
และโรงเรียนของเราช่วงหน้าฝนสวยงามมากเลยครับ
มาดูเด็ก ๆ ของเรากันครับ ตั้งใจเรียนขนาดไหน
เด็กที่นี่พูดไทยแทบไม่ได้เลยครับ กว่าจะพูดได้ต้อง ป.4 ขึ้นไปแล้ว คุณครูพยายามอย่างหนักในแต่ละวันเพื่อทำให้อ่านออกเขีนได้ เพราะคนที่พอจะอ่านเขียนได้ ก็ย้ายออก คนเข้ามาใหม่ก็ต้องสอนใหม่ตั้งแต่ต้น เป็นแบบนี้ทุกภาคเรียนครับ
นี่เป็นสัมภาระและการเดินทางแต่ละครั้งที่ขึ้นไปครับ สู้เพื่อเด็ก ๆ โดยเฉพาะ
มีคลิปด้วยครับ
อาคาร อุปกรณ์ก็เสื่อมลงไปตามการใช้งานครับ เป็นหน้าที่ของผมต้องหาทางปรับปรุง
สุดท้ายไปดูภาพรวม ๆ กันครับ
สำหรับใครที่ยังมีไฟ มีฝัน ขอให้ทุกท่านทำให้เต็มที่นะครับ
ส่วนท่านใดมีประสบการณ์ร่วมแลกเปลี่ยน สามารถร่วมพูดคุยกันได้เลย
หากภาคีเครือข่ายใดต้องการเข้ามาร่วมแลกเปลี่ยนในพื้นที่ ทางเรายินดีมากครับ
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า กระทูกเล็ก ๆ ชายแดนนี้จะเป็นประโยชน์กับส่วนรวม ไม่มากก็น้อยนะครับ ขอบคุณครับ
ปล.ภาพที่ลงโดยมีใบหน้าบุคคล ผมได้ขออนุญาตเด็กและผู้ปกครองแล้วครับ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
โอ๊ยเลือกไม่ถูกค่ะ ระหว่างบริหาร vs มนุษย์/ศิลป์/อักษรศาสตร?
เรา เลือกไม่ถูกเลยค่ะ ตอนแรกใจก็ตั้งมั่นว่าจะเข้าบริหารสาขาการตลาด มสีเขียว แต่ มีเหตุการณ์ที่ทำให้เราฉุดคิดมาได้ค่ะ ก็คือ มีคุณครู lgbt หรือคุณครูสาว 2 ย้ายมาสอนที่โรงเรียนเราใหม่ค่ะเขามาสอนวิชาภาษาไ
สมาชิกหมายเลข 5986343
กฎระเบียบในโรงเรียน ?
อยากรู้ค่ะว่ากฎระเบียบนี้มันจะทำให้เด็กนักเรียนได้เรียนเก่งขึ้นหรือว่านิสัยดีขึ้นยังไงหรอคะ กฎระเบียบที่ว่าคือเรื่องทรงผม ? โรงเรียนหนู ครูส่วนใหญ่จะเคร่งเรื่องทรงผมมาก ๆ ปกติหนูจะปล่อยหน้าม้า ปล่อยป
สมาชิกหมายเลข 8841893
เรื่องราวในโรงเรียน
ครูขู่ว่าจะตัดผมหนูอีกแล้วค่ะ เขาบอกว่าจะตัดให้น่าเกลียดเลย ตัดเสร็จแล้วเขาก็จะไล่หนูออก หนูอยากลาออกมากแต่อะไรหลายๆอย่างมันยังไม่พร้อม หนูควรทำยังไงดีคะ หนูอยากหาเงินเข้าไปในโรงเรียนดีๆ ระบบการศึกษาด
สมาชิกหมายเลข 8986913
โรงเรียนทุรกันดาร
เราและกลุ่มเพื่อนมีแผนจัดกิจกรรมช่วยเหลือโรงเรียนที่ขาดแคลน ขอสอบถามผู้รู้จักโรงเรียนที่ทุรกันดาร เเนะนำชื่อโรงเรียนทางภาคเหนือ สถานที่ หรือว่าสามารถหาข้อมูลจากไหนได้บ้างค่ะ ขอเป็นโรงเรียนที่กันดารลำบ
สมาชิกหมายเลข 5312502
กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ร่วมผลักดันสร้างครูต้นแบบ สอนการเขียนเชิงสร้างสรรค์
กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ร่วมผลักดันสร้างครูต้นแบบ สอนการเขียนเชิงสร้างสรรค์ เมื่อวันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม 2568 เวลา 09.30 น. นางยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม มอบหมายให้นายอนุกู
อาคุงกล่อง
การที่ครูให้นักเรียนทานของเหลือโดยไม่ใช้ช้อนกลาง คิดว่ามันสมควรไหมครับ
เริ่องราวในวัยเรียน ที่จำถึงทุกวันนี้ ย้อนไป 11 ปีก่อนตอนนั้นผมอยู่ม.3 เป็นช่วงแข่งศิลปะหัตถกรรม ตอนนั้นจำได้ว่าซ้อมเสร็จถึงเวลาพัก เราซ้อมกันที่ม้าหินอ่อนใต้ร่มไม้ คุณครูสั่งอาหารมาเลี้ยงเด็กๆ แต่คุณ
สมาชิกหมายเลข 8017919
พ่อเเม่เเยกทางเเต่อีกฝ่ายมาหาลูกที่โรงเรียน ครูผิดอะไรไหมที่ให้เค้าเจอกัน
เรื่องมีอยู่ว่าเราเป็นครูอัตราจ้างโรงเรียนเเห่งหนึ่งค่ะ เเละได้ทำหน้าที่เป็นครูประจำชั้น เด็กนักเรียนในห้องมีคนนึงที่พ่อเเม่เเยกทางกัน โดยที่ปัจจุบันเด็กอยู่กับเเม่เเละพ่อเลี้ยง วันหนึ่งมีคนมาที่โรงเร
สมาชิกหมายเลข 7739387
“ข้าวจาน น้ำขวด พาน้องหนีไฟและการปฐมพยาบาล CPR เบื้องต้น” เสริมทักษะความปลอดภัยให้นักเรียน
อุทัยธานี — นายภัสส์สกนธ์ เหล่าแช่ม อาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัย หน่วยเหนือ 43–44 วัฒนะ 01 ดอนเมือง ผู้จัดตั้งโครงการในครั้งนี้ภายใต้แนวทางทำดีเพื่อสังคม ได้นำทีมอาสาสมัครมุ่งให้ความรู้ด้านการ
สมาชิกหมายเลข 5314464
สอบถามคุณพ่อคุณแม่ที่ลูกเรียนอนุบาลที่โรงเรียนอนุบาลบ้านทอฝัน ตรงพุทธมณฑลสาย 4 ค่ะ
สอบถามคุณพ่อคุณแม่ที่ลูกเรียนอนุบาลที่โรงเรียนอนุบาลบ้านทอฝัน ตรงพุทธมณฑลสาย 4 ค่ะ พอดีกำลังหา รร.อนุบาล1ดีๆให้ลูกค่ะ อยากได้แบบเน้นการใช้ภาษาอังกฤษกับเน้นความกล้าแสดงออก สไตล์ Active learning ค่ะ จึง
สมาชิกหมายเลข 7217414
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
จิตอาสา
ครู - อาจารย์
โรงเรียน
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
มีโอกาสทำงานในโรงเรียนกลางป่าที่เขาว่ากันดาร !! เป็นอย่างไรมาร่วมแลกเปลี่ยนกันครับ
เชื่อว่าครูทุกท่านหรือแม้กระทั่งคนที่พยายามมาเป็นครูในระบบราชการ คงวาดฝันกับชีวิตข้าราชการครูกันไว้ไม่น้อย แต่น้อยคนนักที่จะได้พบกับสิ่งที่คาดหวัง ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดาของโลก ผมจึงตัดสินใจว่าถ้าอยากเปลี่ยนอะไรเราต้องเข้าไปทำมัน ไม่ใช่เอาแต่พูด เลยเปลี่ยนจากสายงานการสอน ไปเป็นสายบริหารเผื่อจะมีโอกาสเปลี่ยนอะไรบ้าง ไม่น่าเชื่อกับ ผมกลับพบชีวิตที่เคยหายไปขึ้นมา
ผมอยู่กาญจนบุรีครับ เป็นรอง ผอ. โรงเรียนขนาดกลาง มีนักเรียนราว ๆ 530 คน สลับกันเข้าออกเปลี่ยนหน้าเปลี่ยนตาตลอด เพราะเด็กส่วนใหญ่ ใหญ่เกิน 2 ใน 3 เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีการโยกย้ายบ่อยมาก ๆ และแจ็คพอตก็คือ โรงเรียนผมมี 2 โรงเรียนครับ คือมีห้องเรียนสาขา (ถ้านึกภาพไม่ออกก็หนังเรื่องคิดถึงวิทยาเลยครับ) แต่ห้องเรียนสาขาของผมไม่ได้อยู่กลางเขื่อนแต่อยู่กลางป่าเขาครับ
การเดินทางมาโรงเรียนแม่ไม่ลำบากครับ แต่ระยะทางค่อนข้างไกล ขับรถมาโรงเรียน 1 ขา มีระยะทางเท่ากับจากเมืองกาญจน์ไป - กลับกรุงเทพพอดิบพอดี ที่ประทับใจคือโรงเรียนสาขาครับ ความลำบากของการเดินทางไปโรงเรียนอยู่ในระดับไม่มาก แต่ทำไมเราต้องมาเจอ นึกออกไหมครับ
ผมเคยร่วมก๊วนขบวนบริจาคของของกลุ่มต่าง ๆ บ่อยครั้ง ไปตาก แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ แต่หลังจากบรรจุแล้วก็ห่างหายไป พอมาเจอโรงเรียนสาขาก็ทรงเดียวกันกับที่เราไปช่วยเลยครับ
โรงเรียนที่ผมต้องดูแล เป็นพื้นที่บริการสำหรับนักเรียนชาวกะเหรี่ยงที่อพยพหนีสงครามมาจากพม่า อยู่ในศูนย์พักพิงของ UN เช้าเดินเท้ามาเรียนราว ๆ 1 ชม. เรียนเสร็จเดินกลับอีกเวลาเท่าเดิม ไม่มีไฟฟ้า มีพลังงานโซล่าเซลล์ที่ใช้ได้เล็กน้อย แต่ไม่พอสำหรับให้แสงสว่างทุกห้องเรียน (มี 4 อาคารเรียน ปัจจุบันใช้ได้แค่ 3 และ 1 อาคารโรงอาคารที่เป็นหอประชุมในเวลาเดียวกัน มีไฟแค่ 1 อาคาร) น้ำประปาจากตาน้ำบนภูเขาต่อท่อลงมา วันไหนน้ำขุ่นจากฝนตกเราก็ใช้น้ำขุ่น ๆ นั่นแหละครับ ผมอยู่มา 3 เดือนยังไม่พบว่ามีวันไหนแห้ง มีฝนตกทุกวันเส้นทางที่ครูต้องขี่รถจักรยานยนต์ไปทำงานค่อนข้างเละ และลำบาก (แต่ไม่เท่าแถบตากหรือแม่ฮ่องสอน) มีคุณครูดูแลนักเรียน 7 คน ทุกวันจะพักที่โรงเรียนแม่และขี่รถขึ้นไปสอน มีนักเรียนร่วม 170 คนที่นั่น ผมได้ขึ้นไปช่วยคุณครูสัปดาห์ละ 1-2 วัน แล้วแต่โอกาส เพราะต้องนำอาหารกลางวันใส่รถกระบะขึ้นไปให้ ทั้งข้าวสาร แก๊ส ของสด ของแห้ง เนื่องจากที่นั่นไม่มีตู้แช่และไม่มีไฟ จึงต้องเอาอาหารขึ้นไปทุกวัน
และเมื่อขึ้นไปที่นั่นแล้วปราศจากสัญญาณโทรศัพท์ครับ ติดต่อราชการใด ๆ ไม่ได้ จึงเป็นที่มาว่าทีมบริหารจะไปทุกวันไม่ได้เพราะต้องดูแลโรงเรียนแม่และประสานงานจากหน่วยงานภายนอกด้วย
แต่ก็นั่นแหละครับ ถึงจะดูยากลำบาก การเดินทาง การสื่อสาร อาคารเรียนที่ไม่พร้อม ไม่มีไฟฟ้า แต่ผมรู้สึกว่ามีความสุข เด็กที่นั่นไม่รู้สึกว่าตัวเองด้อยโอกาส มีความสุขกับทุกกิจกรรม คุณครูก็เป็นครูมืออาชีพ ทำงานเต็มที่ ถึงจะขาดบ้างแต่ก็อยู่กันด้วยรอยยิ้ม ถ้าเล่าตรงนี้ก็คงจะยาวไปหน่อย เอาเป็นว่าไปดูภาพบรรยากาศก็แล้วกันครับ
นี่เป็นสภาพโณงเรียนโดยทั่วไปครับ
ยังดีที่โรงเรียนของเรามีผู้เล็งเห็น จึงมีทีมอาสามาพอสมควร ช่วยทาสีอาคารให้ดูสดใสปกปิดรอยผุพังของโครงสร้างได้เป็นครั้งคราว
และโรงเรียนของเราช่วงหน้าฝนสวยงามมากเลยครับ
มาดูเด็ก ๆ ของเรากันครับ ตั้งใจเรียนขนาดไหน
เด็กที่นี่พูดไทยแทบไม่ได้เลยครับ กว่าจะพูดได้ต้อง ป.4 ขึ้นไปแล้ว คุณครูพยายามอย่างหนักในแต่ละวันเพื่อทำให้อ่านออกเขีนได้ เพราะคนที่พอจะอ่านเขียนได้ ก็ย้ายออก คนเข้ามาใหม่ก็ต้องสอนใหม่ตั้งแต่ต้น เป็นแบบนี้ทุกภาคเรียนครับ
นี่เป็นสัมภาระและการเดินทางแต่ละครั้งที่ขึ้นไปครับ สู้เพื่อเด็ก ๆ โดยเฉพาะ
มีคลิปด้วยครับ
อาคาร อุปกรณ์ก็เสื่อมลงไปตามการใช้งานครับ เป็นหน้าที่ของผมต้องหาทางปรับปรุง
สุดท้ายไปดูภาพรวม ๆ กันครับ
สำหรับใครที่ยังมีไฟ มีฝัน ขอให้ทุกท่านทำให้เต็มที่นะครับ
ส่วนท่านใดมีประสบการณ์ร่วมแลกเปลี่ยน สามารถร่วมพูดคุยกันได้เลย
หากภาคีเครือข่ายใดต้องการเข้ามาร่วมแลกเปลี่ยนในพื้นที่ ทางเรายินดีมากครับ
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า กระทูกเล็ก ๆ ชายแดนนี้จะเป็นประโยชน์กับส่วนรวม ไม่มากก็น้อยนะครับ ขอบคุณครับ
ปล.ภาพที่ลงโดยมีใบหน้าบุคคล ผมได้ขออนุญาตเด็กและผู้ปกครองแล้วครับ