"สวนดุสิตโพล" เผยคนเชื่อหากเลือกตั้งพรรค "ประชาชน" ยังอันดับ 1
https://siamrath.co.th/n/564623
เมื่อวันที่ 8 ก.ย.67 สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศเฉพาะผู้ที่เคยไปใช้สิทธิเลือกตั้งท้องถิ่น เรื่อง “
การเลือกตั้งท้องถิ่นกับการเลือกตั้งระดับชาติ” ระหว่างวันที่ 4-6 กันยายน 2567 กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,149 คน สำรวจผ่านทางออนไลน์และภาคสนาม พบว่า กลุ่มตัวอย่างคิดว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นมีความสำคัญมาก ร้อยละ 57.88 โดยอยากให้ผู้สมัครนำเสนอนโยบายด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการคมนาคมในชุมชน ร้อยละ 72.58 ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกผู้สมัคร คือ นโยบายของผู้สมัคร ร้อยละ 67.42 ทั้งนี้ไม่เห็นด้วยหากมองว่าผลการเลือกตั้งท้องถิ่น ไม่เกี่ยวข้องกับผลการเลือกตั้งระดับชาติ ร้อยละ 52.13
สุดท้ายในการทำงานท้องถิ่นมีความเชื่อมั่นในพรรคประชาชนมากที่สุด ร้อยละ 30.73 รองลงมาคือ เพื่อไทย ร้อยละ 22.38 เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับผลการสำรวจเมื่อวันที่ 9 – 12 กรกฎาคม 2567 พบว่า คะแนนของพรรคประชาชน (ก้าวไกลเดิม) ลดลงเล็กน้อย จากร้อยละ 32.53 เหลือร้อยละ 30.73 ในขณะที่พรรคเพื่อไทยเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 19.79 เป็นร้อยละ 22.38
นางสาว
พรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า ผลโพลสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนมองการเลือกตั้งท้องถิ่นและการเลือกตั้งระดับชาติมีทั้งเกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องกัน โดยอาจมีความเชื่อมโยงกันทางการเมืองและการสนับสนุนของพรรคและบทบาทของบ้านใหญ่ก็มีผลต่อการเลือกตั้ง ด้านพรรคประชาชนนอกจากมีกระแสในการเลือกตั้งระดับชาติแล้ว ก็ยังมีกระแสในการเลือกตั้งท้องถิ่นเช่นกัน แต่หากพรรคไม่สามารถล้มบ้านใหญ่ได้ก็อาจจะยากในสนามแข่งขัน
ผู้ช่วยศาสตราจารย์
อัญชลี รัตนะ อาจารย์ประจำหลักสูตรรัฐศาสตร์ โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัย สวนดุสิต อธิบายว่า การปกครองส่วนท้องถิ่น ถือเป็นรากฐานที่สำคัญในการปกครองระบอบประชาธิปไตยและเป็นการปกครองที่อยู่ใกล้ชิดกับประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศมากที่สุด ดังนั้นในการเลือกตั้งท้องถิ่น ประชาชนจึงมักจะเลือกโดยตัดสินใจจากความสัมพันธ์ระดับปัจเจกเป็นอันดับแรก ไม่ใช่กระแสของพรรคการเมืองระดับชาติ โดยเฉพาะการเลือกในระดับสมาชิก ผู้สมัครที่ได้รับเลือกต้องเป็นคนประเภทเรียกง่าย ใช้คล่อง เป็นพี่น้องพวกพ้องที่รู้จักกัน ส่วนการเลือกตั้งผู้นำองค์กรในตำแหน่งนายก มักพิจารณาจากบารมีส่วนบุคคลที่ประชาชนในพื้นที่รู้สึกว่าสามารถพึ่งพาอาศัยได้ในทุกสถานการณ์แบบใจถึง พึ่งได้ ยิ่งสถานการณ์ที่ระบบราชการมีอำนาจเข้มแข็ง แต่อำนาจของประชาชนในการต่อรองหรือแสดงความคิดเห็นมีน้อย ยิ่งทำให้ระบบบ้านใหญ่เติบโตเพราะประชาชนมักต่อรองผ่านอำนาจบารมีของบ้านใหญ่ในพื้นที่เป็นหลัก การทำงานผ่านกระแสพรรคหรือกระแสของการเมืองระดับชาติจึงไม่สามารถฝ่าด่านบ้านใหญ่ได้โดยง่าย แต่ต้องอาศัยการทำงานเชิงความคิดร่วมกับเครือข่ายหรือคนในพื้นที่อย่างต่อเนื่องจึงเกิดมรรคผลเป็นรูปธรรม
ธงทอง จันทรางศุ : ถ้าไม่มีเหตุผล ไม่มีความเป็นธรรมก็กลายเป็นศาลพระภูมิ.
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4778603
รายการ ประชาธิปไตยสองสี : ใบตองแห้ง
อธึกกิต แสวงสุข คุยกับ ศาสตราจารย์พิเศษ
ธงทอง จันทรางศุ คณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ ถ้าไม่มีเหตุผล ไม่มีความเป็นธรรมก็กลายเป็นศาลพระภูมิ
นายกฯ ถนนข้าวสาร จี้นโยบาย รบ.ต้องนิ่ง ขอความชัดเจน 'ซอฟต์พาวเวอร์-กัญชา-เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์'
https://www.matichon.co.th/politics/news_4779060
นายกฯ ถนนข้าวสาร จี้นโยบาย รบ.ต้องนิ่ง ขอความชัดเจน ‘ซอฟต์พาวเวอร์-กัญชา-เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’
เมื่อวันที่ 7 กันยายน นาย
สง่า เรืองวัฒนะกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการกำลังติดตามการแถลงนโยบายของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ซึ่งยังมองว่าจะยังสานต่อนโยบายเดิม เพราะพรรคแกนนำยังเป็นพรรคเดิม แต่ที่กังวลคือระยะเวลาการทำงานของรัฐมนตรีและรัฐบาลจะนานแค่ไหน จะมีการปรับเปลี่ยนอะไรจากนี้ ซึ่งภาคเอกชนเรากังวลเรื่องความไม่ต่อเนื่อง เพราะมีผลต่อการตัดสินใจลงทุนและการเจรจาการค้า โดยเฉพาะกับนักลงทุนจากต่างประเทศ รวมถึงการวางแผนงานทางธุรกิจทำได้ช่วงสั้นๆ ผู้ประกอบการอยากเห็นแต่ละนโยบายมีความชัดเจนและผลักดันให้สุดทาง อาทิ นโยบายซอฟต์พาวเวอร์ ดูจะแผ่วลงและไร้ทิศทางว่าจะขับเคลื่อนอย่างไรต่อหรือไม่ หรือ นโยบายกัญชา จะไปต่อแค่ไหนอย่างไร ก็อยากให้เร่งออกกฎหมายคุ้มครองและต้องมีใบอนุญาตถึงประกอบการได้ วันนี้ยังเห็นเร่ขาย ก็ไม่รู้สินค้าผสมอะไรบ้าง หรือ โครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หากจะสานต่อ ส่วนตัวไม่เห็นด้วยที่จะตั้งในเมือง จังหวัดใหญ่ หรือ จังหวัดที่นักท่องเที่ยวรู้จักแล้ว ควรตั้งในเมืองรอง จังหวัดที่ห่างไกล เพื่อให้เกิดการฟื้นตัวของทางเศรษฐกิจในพื้นที่กันดาร จะได้ประโยชน์กว่า เหมือนในต่างประเทศ นโยบายที่ชัดเจนและนิ่ง จะเป็นแรงผลักดันดีที่สุดในเวลานี้
“
หรืออย่างการท่องเที่ยว เพียง 1 ปี ไทยเปลี่ยนรัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวฯถึง 3 คน รัฐมนตรีท่านใหม่ ก็อยากให้เร่งหารือกับสมาคมต่างๆและภาคเอกชนด้วย เพื่อได้รับฟังถึงปัญหาและความต้องการแท้จริง ที่จะขับเคลื่อนการท่องเที่ยว ซึ่งขณะนี้ภาคท่องเที่ยวยังไม่ดีเท่าที่ควร คนในประเทศประหยัดใช้จ่ายลดลงมาก จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติก็ไม่ได้สูง รายได้จึงหายไป 20-30% คงต้องรอดูสถานการณ์เดือนตุลาคม ที่จะเข้าฤดูท่องเที่ยวไทย (ไฮซีซั่น) อีกครั้ง โดยเรื่องเร่งด่วนที่ธุรกิจบนถนนข้าวสารอยากให้นายกฯ อิ๊งค์ เข้ามาสั่งการ คือ การบูรณาการหน่วยงานและแก้ปัญหาภาพพจน์ความไม่ปลอดภัยในการเที่ยวในไทย ตอนนี้เราได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวมากขึ้น คือ รถแท็กซี่ไม่เปิดมิเตอร์รับส่งนักท่องเที่ยว พฤติกรรมแรงงานต่างด้าวในการก่อกวนหรือแย่งดึงนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในถนนข้าวสาร หรือ ข่าวอาชญากรรมต่างๆ ซึ่งสมาคมฯได้ทำหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งแก้ไขแล้ว ไทยเรายังพึ่งพาการท่องเที่ยวในภาวะเศรษฐกิจยังฝืดอย่างวันนี้ การสร้างภาพพจน์ประเทศจึงเป็นเรื่องสำคัญ และต้องเร่งแก้ไขเหลือบไรเหล่านี้ ” นาย
สง่า กล่าว
JJNY : พรรค"ปชน."ยังอันดับ1│ถ้าไม่มีเหตุผลก็เป็นศาลพระภูมิ│นายกฯถ.ข้าวสารจี้นโยบาย│ลือสนั่น! อิหร่านส่งขีปนาวุธไปรัสเซีย
https://siamrath.co.th/n/564623
เมื่อวันที่ 8 ก.ย.67 สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศเฉพาะผู้ที่เคยไปใช้สิทธิเลือกตั้งท้องถิ่น เรื่อง “การเลือกตั้งท้องถิ่นกับการเลือกตั้งระดับชาติ” ระหว่างวันที่ 4-6 กันยายน 2567 กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,149 คน สำรวจผ่านทางออนไลน์และภาคสนาม พบว่า กลุ่มตัวอย่างคิดว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นมีความสำคัญมาก ร้อยละ 57.88 โดยอยากให้ผู้สมัครนำเสนอนโยบายด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการคมนาคมในชุมชน ร้อยละ 72.58 ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกผู้สมัคร คือ นโยบายของผู้สมัคร ร้อยละ 67.42 ทั้งนี้ไม่เห็นด้วยหากมองว่าผลการเลือกตั้งท้องถิ่น ไม่เกี่ยวข้องกับผลการเลือกตั้งระดับชาติ ร้อยละ 52.13
สุดท้ายในการทำงานท้องถิ่นมีความเชื่อมั่นในพรรคประชาชนมากที่สุด ร้อยละ 30.73 รองลงมาคือ เพื่อไทย ร้อยละ 22.38 เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับผลการสำรวจเมื่อวันที่ 9 – 12 กรกฎาคม 2567 พบว่า คะแนนของพรรคประชาชน (ก้าวไกลเดิม) ลดลงเล็กน้อย จากร้อยละ 32.53 เหลือร้อยละ 30.73 ในขณะที่พรรคเพื่อไทยเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 19.79 เป็นร้อยละ 22.38
นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า ผลโพลสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนมองการเลือกตั้งท้องถิ่นและการเลือกตั้งระดับชาติมีทั้งเกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องกัน โดยอาจมีความเชื่อมโยงกันทางการเมืองและการสนับสนุนของพรรคและบทบาทของบ้านใหญ่ก็มีผลต่อการเลือกตั้ง ด้านพรรคประชาชนนอกจากมีกระแสในการเลือกตั้งระดับชาติแล้ว ก็ยังมีกระแสในการเลือกตั้งท้องถิ่นเช่นกัน แต่หากพรรคไม่สามารถล้มบ้านใหญ่ได้ก็อาจจะยากในสนามแข่งขัน
ผู้ช่วยศาสตราจารย์อัญชลี รัตนะ อาจารย์ประจำหลักสูตรรัฐศาสตร์ โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัย สวนดุสิต อธิบายว่า การปกครองส่วนท้องถิ่น ถือเป็นรากฐานที่สำคัญในการปกครองระบอบประชาธิปไตยและเป็นการปกครองที่อยู่ใกล้ชิดกับประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศมากที่สุด ดังนั้นในการเลือกตั้งท้องถิ่น ประชาชนจึงมักจะเลือกโดยตัดสินใจจากความสัมพันธ์ระดับปัจเจกเป็นอันดับแรก ไม่ใช่กระแสของพรรคการเมืองระดับชาติ โดยเฉพาะการเลือกในระดับสมาชิก ผู้สมัครที่ได้รับเลือกต้องเป็นคนประเภทเรียกง่าย ใช้คล่อง เป็นพี่น้องพวกพ้องที่รู้จักกัน ส่วนการเลือกตั้งผู้นำองค์กรในตำแหน่งนายก มักพิจารณาจากบารมีส่วนบุคคลที่ประชาชนในพื้นที่รู้สึกว่าสามารถพึ่งพาอาศัยได้ในทุกสถานการณ์แบบใจถึง พึ่งได้ ยิ่งสถานการณ์ที่ระบบราชการมีอำนาจเข้มแข็ง แต่อำนาจของประชาชนในการต่อรองหรือแสดงความคิดเห็นมีน้อย ยิ่งทำให้ระบบบ้านใหญ่เติบโตเพราะประชาชนมักต่อรองผ่านอำนาจบารมีของบ้านใหญ่ในพื้นที่เป็นหลัก การทำงานผ่านกระแสพรรคหรือกระแสของการเมืองระดับชาติจึงไม่สามารถฝ่าด่านบ้านใหญ่ได้โดยง่าย แต่ต้องอาศัยการทำงานเชิงความคิดร่วมกับเครือข่ายหรือคนในพื้นที่อย่างต่อเนื่องจึงเกิดมรรคผลเป็นรูปธรรม
ธงทอง จันทรางศุ : ถ้าไม่มีเหตุผล ไม่มีความเป็นธรรมก็กลายเป็นศาลพระภูมิ.
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4778603
รายการ ประชาธิปไตยสองสี : ใบตองแห้ง อธึกกิต แสวงสุข คุยกับ ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ คณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ ถ้าไม่มีเหตุผล ไม่มีความเป็นธรรมก็กลายเป็นศาลพระภูมิ
นายกฯ ถนนข้าวสาร จี้นโยบาย รบ.ต้องนิ่ง ขอความชัดเจน 'ซอฟต์พาวเวอร์-กัญชา-เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์'
https://www.matichon.co.th/politics/news_4779060
นายกฯ ถนนข้าวสาร จี้นโยบาย รบ.ต้องนิ่ง ขอความชัดเจน ‘ซอฟต์พาวเวอร์-กัญชา-เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’
เมื่อวันที่ 7 กันยายน นายสง่า เรืองวัฒนะกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการกำลังติดตามการแถลงนโยบายของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ซึ่งยังมองว่าจะยังสานต่อนโยบายเดิม เพราะพรรคแกนนำยังเป็นพรรคเดิม แต่ที่กังวลคือระยะเวลาการทำงานของรัฐมนตรีและรัฐบาลจะนานแค่ไหน จะมีการปรับเปลี่ยนอะไรจากนี้ ซึ่งภาคเอกชนเรากังวลเรื่องความไม่ต่อเนื่อง เพราะมีผลต่อการตัดสินใจลงทุนและการเจรจาการค้า โดยเฉพาะกับนักลงทุนจากต่างประเทศ รวมถึงการวางแผนงานทางธุรกิจทำได้ช่วงสั้นๆ ผู้ประกอบการอยากเห็นแต่ละนโยบายมีความชัดเจนและผลักดันให้สุดทาง อาทิ นโยบายซอฟต์พาวเวอร์ ดูจะแผ่วลงและไร้ทิศทางว่าจะขับเคลื่อนอย่างไรต่อหรือไม่ หรือ นโยบายกัญชา จะไปต่อแค่ไหนอย่างไร ก็อยากให้เร่งออกกฎหมายคุ้มครองและต้องมีใบอนุญาตถึงประกอบการได้ วันนี้ยังเห็นเร่ขาย ก็ไม่รู้สินค้าผสมอะไรบ้าง หรือ โครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หากจะสานต่อ ส่วนตัวไม่เห็นด้วยที่จะตั้งในเมือง จังหวัดใหญ่ หรือ จังหวัดที่นักท่องเที่ยวรู้จักแล้ว ควรตั้งในเมืองรอง จังหวัดที่ห่างไกล เพื่อให้เกิดการฟื้นตัวของทางเศรษฐกิจในพื้นที่กันดาร จะได้ประโยชน์กว่า เหมือนในต่างประเทศ นโยบายที่ชัดเจนและนิ่ง จะเป็นแรงผลักดันดีที่สุดในเวลานี้
“หรืออย่างการท่องเที่ยว เพียง 1 ปี ไทยเปลี่ยนรัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวฯถึง 3 คน รัฐมนตรีท่านใหม่ ก็อยากให้เร่งหารือกับสมาคมต่างๆและภาคเอกชนด้วย เพื่อได้รับฟังถึงปัญหาและความต้องการแท้จริง ที่จะขับเคลื่อนการท่องเที่ยว ซึ่งขณะนี้ภาคท่องเที่ยวยังไม่ดีเท่าที่ควร คนในประเทศประหยัดใช้จ่ายลดลงมาก จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติก็ไม่ได้สูง รายได้จึงหายไป 20-30% คงต้องรอดูสถานการณ์เดือนตุลาคม ที่จะเข้าฤดูท่องเที่ยวไทย (ไฮซีซั่น) อีกครั้ง โดยเรื่องเร่งด่วนที่ธุรกิจบนถนนข้าวสารอยากให้นายกฯ อิ๊งค์ เข้ามาสั่งการ คือ การบูรณาการหน่วยงานและแก้ปัญหาภาพพจน์ความไม่ปลอดภัยในการเที่ยวในไทย ตอนนี้เราได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวมากขึ้น คือ รถแท็กซี่ไม่เปิดมิเตอร์รับส่งนักท่องเที่ยว พฤติกรรมแรงงานต่างด้าวในการก่อกวนหรือแย่งดึงนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในถนนข้าวสาร หรือ ข่าวอาชญากรรมต่างๆ ซึ่งสมาคมฯได้ทำหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งแก้ไขแล้ว ไทยเรายังพึ่งพาการท่องเที่ยวในภาวะเศรษฐกิจยังฝืดอย่างวันนี้ การสร้างภาพพจน์ประเทศจึงเป็นเรื่องสำคัญ และต้องเร่งแก้ไขเหลือบไรเหล่านี้ ” นายสง่า กล่าว