JJNY : 5in1 ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องป้านา│ศิริกัญญาย้ำต้องให้โอกาส│วิโรจน์แซว│เตือนอย่าประมาทพายุ│“ยางิ”เป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นแล้ว

ศาลอุทธรณ์ ยกฟ้อง ป้านา ชาวราชบุรี ตะโกนไล่ ประยุทธ์ ชี้ ตร.จำกัดเสรีภาพ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9398253
 
ศาลอุทธรณ์ ยกฟ้อง ป้านา ชาวราชบุรี ตะโกนไล่ ประยุทธ์ ชี้การกระทำ ตร.ลิดรอนสิทธิเสรีภาพ ปฏิบัติงานไม่ได้สัดส่วนต่อหญิงสูงอายุ
 
กรณี น.ส.วันทนา (สงวนนามสกุล) หรือ ป้านา อายุ 63 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจล็อกตัว ขณะยืนรอพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำคณะ ลงพื้นที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ก่อนถูกคุมนำตัวไปดำเนินคดีที่ สภ.บ้านโป่ง พร้อมกับแจ้งข้อหา
 
ต่อมา ศาลแขวงราชบุรี พิพากษา จำคุก 6 เดือน 10 วัน ปรับ 1,000 บาท ไม่รอลงอาญา โดยพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยเข้าไปในเขตที่จัดไว้ให้เป็นพื้นที่ปลอดภัย และหวงห้ามเพื่อรักษาความปลอดภัยของนายกฯ บุคคลในขบวนของนายกฯ, และประชาชนอื่น ตำรวจผู้มีอำนาจได้แจ้งต่อจำเลยแล้ว โดยจำเลยทราบคำสั่งแล้ว แต่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานโดยไม่มีเหตุสมควร
 
อีกทั้งจำเลยไม่เคยสำนึกในการกระทำความผิด ยืนยันต่อสู้คดีและแจ้งความเอาผิดเจ้าหน้าที่ ไม่เคารพยำเกรงกฎหมาย พฤติการณ์จึงเป็นคดีร้ายแรง หากบังคับกฎหมายไม่จริงจัง อาจมีบุคคลอื่นทำแบบเดียวกัน จึงไม่มีเหตุอันควรรอการลงโทษ
 
ล่าสุด วันที่ 5 ก.ย.2567 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ยกฟ้อง “ป้าวันทนา” หญิงชาวราชบุรี วัย 63 ปี คดีตะโกนไล่ประยุทธ์ ชี้การกระทำของ ตร.ลิดรอนสิทธิเสรีภาพ ในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญของประชาชน
 
การกระทำของตำรวจ เป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพ ประกอบกับปฏิบัติงานโดยไม่ได้สัดส่วนกับที่ น.ส.วันทนา เป็นหญิงสูงอายุ ต้องเพิ่มการระมัดระวัง และปฏิบัติให้เหมาะสมกับสถานภาพของจำเลย
 
ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามา ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้น พิพากษายกฟ้อง



ศิริกัญญา ย้ำต้องให้โอกาส ครม.ใหม่ทำงาน เก็งรัฐบาลปรับวิชั่นทักษิณ มาเป็นนโยบาย
https://www.matichon.co.th/politics/news_4774518

‘ศิริกัญญา’ เหน็บ ‘ครม.แพทองธาร’ มีแค่ ‘ชูศักดิ์’ ที่ใช้ความรู้นั่งรมต. แต่คนอื่นยังไม่เห็นฝีมือ เผย ได้แต่เก็งข้อสอบนำวิสัยทัศน์ ‘ทักษิณ’ เป็นนโยบายมากน้อยแค่ไหน

เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 5 กันยายน ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า เรายังคงเห็นการจัดตั้ง ครม.ที่อาจจะไม่ได้ใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญ เฉพาะตัวมาเป็นจุดในการคัดเลือกตัวบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งทั้ง ครม. ตนเห็นแค่ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คนเดียวที่อาจ จะมีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย พอที่จะนั่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย

แต่คนอื่นก็ยังเป็นนักการเมือง ที่เรายังไม่เห็นฝีมือว่า จะสามารถบริหารงานที่จะเฉพาะเจาะจง แต่ละกระทรวงอย่างไร แต่เราก็ยังคงต้องให้โอกาสกับรัฐมนตรีเหล่านั้น ให้เริ่มทำงานก่อน เพื่อที่จะทำให้เราสามารถตรวจสอบการทำงานว่า เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และบรรลุประสิทธิผลตามเป้าหมายที่ได้วางไว้หรือไม่” น.ส.ศิริกัญญากล่าว

เมื่อถามว่า การแถลงนโยบายหลังจากนี้ ได้จับตาประเด็นอะไรเป็นพิเศษบ้างหรือไม่ นอกจากเรื่องโครงการดิจิทัลวอลเล็ต น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า เรากำลังเตรียมงานกันอยู่ เพราะมีการเลื่อนวันแถลงนโยบายให้เข้ามาเร็วขึ้น คือช่วงเวลาประมาณวันที่ 12-13 กันยายน ซึ่งแน่นอนว่า ไม่ใช่แค่โครงการเรือธงอย่างดิจิทัลวอลเล็ตที่เราต้องจับตา แต่ต้องดูโครงการเรือธงทั้งหมด ทั้งที่เคยได้เริ่มต้นมาตั้งแต่รัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี และมีโครงการที่เกิดขึ้นใหม่ จากการแสดงวิสัยทัศน์ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในช่วงที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เราได้มีการเก็งข้อสอบว่า วิสัยทัศน์ของนายทักษิณเหล่านั้น จะเปลี่ยนแปลงมาเป็นนโยบายของ น.ส.แพทองธาร มากน้อยแค่ไหน ซึ่งคงต้องติดตามต่อ เพราะตอนนี้ยังไม่เห็นตัวนโยบาย ได้แค่เก็งข้อสอบ



วิโรจน์ บอก ‘บิ๊กอ้วน’ เคยเข้าป่า คงรู้เรื่องทหารดีกว่าตน แซวไม่รู้ ‘สหายใหญ่-บิ๊กเล็ก’ ใครใหญ่กว่ากัน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4775612

‘วิโรจน์’ เหน็บ ‘บิ๊กอ้วน’ น่าจะรู้เรื่องทหารดี หลังเคยหนีเข้าป่ามาแล้ว แซว ‘สหายใหญ่-บิ๊กเล็ก’ ใครใหญ่กว่ากัน ให้เวลาพิสูจน์ผลงาน

เมื่อวันที่ 5 กันยายน ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงการเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของนายภูมิธรรม เวชยชัย ว่า อาจมีการตั้งคำถามเกี่ยวกับนายภูมิธรรม แต่คงต้องให้เวลาทำงานสักพัก ที่ผ่านมาเห็นว่านายภูมิธรรมอาจจะรู้เรื่องในกองทัพ ได้ดีกว่าตน เพราะเคยหนีเข้าไปอยู่ในป่า และรู้ถึงปัญหาในกองทัพ พร้อมพูดติดตลกว่า มีคนเรียกนายภูมิธรรม ว่า สหายใหญ่ แต่เมื่อมาเจอบิ๊กเล็ก ตกลงว่าใครใหญ่ใครเล็ก แต่ก็จะให้เวลานายภูมิธรรมทำงาน

นายวิโรจน์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ เบื้องต้นการจะทำให้ประชาชนมีความไว้เนื้อเชื่อใจ และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทหาร สิ่งที่นายภูมิธรรมในฐานะรมว.กลาโหมคนใหม่ จะต้องทำให้ได้ คือ ทำให้โปร่งใส เปิดเผย ตรวจสอบได้

ถ้าอ้างงบลับหรือความลับทางราชการหรือตอบแบบกำปั้นทุบดิน สุดท้ายประชาชนจะไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ ซึ่งการจัดซื้อของกองทัพส่วนใหญ่จัดซื้อเพราะความจำเป็น ประชาชนก็จะวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง และขัดขวางการขับเคลื่อนนโยบายทางการทหาร ดังนั้น ความโปร่งใสเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี” นายวิโรจน์กล่าว

นายวิโรจน์ ยังกล่าวว่า นโยบายยกเลิกเกณฑ์ทหาร หรือการลดจำนวนนายพลและควบรวมหน่วยงานในกระทรวงกลาโหม ไม่ได้แล้วเสร็จภายใน 1-2 วัน แต่หวังว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะกำหนด กรอบเวลา และ แผนงานให้ชัดเจน เมื่อประชาชนเห็นแผนก็จะติดตามแผน เหมือนกองทัพบก กองทัพเรือ ที่มีสมุดปกขาวออกมา ประชาชนก็จะสามารถติดตามได้ ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างทหาร กองทัพและประชาชน


 
ถึง ยางิ ไม่เข้าไทย แต่ นักวิชาการสิ่งแวดล้อมเตือน อย่าประมาทพายุในยุคโลกร้อนเด็ดขาด
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_4775227

ถึง ยางิ ไม่เข้าไทย แต่ นักวิชาการสิ่งแวดล้อมเตือน อย่าประมาท พายุในยุคโลกร้อนเด็ดขาด
 
วันที่ 5 กันยายน ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวถึงเรื่อง เส้นทางพายุไต้ฝุ่นยางิ ที่ทำให้พื้นที่ทางด้านเหนือของไทย มีฝนตกหนัก และอิทธิพล ของพายุดังกล่าวนี้ จะถูกความชื้นบริเวณภาคเหนือ เหนี่ยวนำเข้ามา ทำให้ภาคเหนือของประเทศไทยมีฝนตกหนักมาก ช่วงวันที่ 6 กันยายนนี้ ว่า เวลานี้ ซูเปอร์ไต้ฝุ่นยางิ กำลังมุ่งหน้าไปทางไห่หนานแบบช้าๆ และภาวะโลกร้อนทำให้พายุลูกนี้เพิ่มกำลังเร็วมากและแรงเป็นพิเศษ
 
ผศ.ดร.ธรณ์ กล่าวว่า ไต้ฝุ่นกับไห่หนาน ฮ่องกง และพื้นที่แถวนี้ถือเป็นเรื่องปกติ แต่ในอดีตเป็นไต้ฝุ่นขนาดเล็กความรุนแรงต่ำ โลกร้อนไม่ได้ทำให้พายุมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น แต่พายุแต่ละลูกจะแรงขึ้น เนื่องจากน้ำทะเลร้อนมากกว่าในอดีต ทั้งนี้ น้ำร้อนกับอากาศร้อนยังทำให้ฝนตกหนักกว่าเดิม เกิดน้ำท่วมฉับพลัน/ดินถล่ม
 
โลกร้อนยังทำให้พายุเพิ่มกำลังเร็วมากจนรับมือแทบไม่ทัน โดยยางิ เปลี่ยนจากพายุโซนร้อนกลายเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นในระยะเวลาอันสั้น ผมเคยเขียนถึงเฮอริเคน Otis ที่เข้าเม็กซิโกในปีที่แล้ว พายุเร่งความแรงจากโซนร้อนกลายเป็น Cat5 ภายในเวลา 24 ชั่วโมง พายุมาเร็วมาก ทำให้รับมือไม่ทัน มีผู้เสียชีวิตและสูญหายเกือบร้อย เศรษฐกิจพังพินาศ เสียหายหลายแสนล้านบาท (1.5 หมื่นล้านเหรียญ)”ผศ.ดร.ธรณ์ กล่าว
 
รองคณบดีคณะประมง กล่าวว่า ในรอบ 75 ปีที่ผ่านมา มีพายุไต้ฝุ่นเข้าไห่หนาน 106 ลูก แต่มีแค่ 9 ลูกเท่านั้นที่เป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่น ยางิจึงเป็นพายุที่คาดว่าจะสร้างความเสียหายกับจีนใต้ จนต้องยกระดับการรับมือถึงขั้นสูงสุด ปิดทุกอย่างตั้งแต่พฤหัสค่ำ เมื่อข้ามเกาะไห่หนาน พายุน่าจะลงทะเลอีกครั้ง แล้วตรงมาที่เวียดนามเหนือ เมื่อลงทะเล พายุจะแรงเพิ่มขึ้น ต้องลุ้นว่าจะแรงขนาดไหน
 
บ้านเราคงได้รับผลกระทบที่ภาคเหนือ/อีสานตอนบน ต้องติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด เพราะโลกร้อนทำให้ทุกอย่างแปรปรวน การพยากรณ์ล่วงหน้านานๆ ทำได้ยาก ระวังตัวไว้ ติดตามข้อมูลแบบต่อเนื่อง เตรียมรับมือ เช็คความเสี่ยง คิดถึงเหตุร้ายที่อาจเป็นไปได้ที่จะเกิดกับเรา ป้องกันและจำลองสถานการณ์เพื่อหาทางแก้ไขไว้ล่วงหน้า อย่าประมาทพายุโลกร้อนเด็ดขาดครับ” ผศ.ดร.ธรณ์ กล่าว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่