เราอายุ 20 กลางๆ ทำงานแล้ว
เราจำได้ว่าตัวเอง ตอนเด็กกว่านี้ เคยอ่านเจอว่า
คนเราควรมีรายได้หลายทาง เพื่อกระจายความเสี่ยง เช่น หากถูกเลิกจ้างจากงานประจำ จะได้ยังคงมีรายได้อยู่จากงานเสริม พอโตขึ้น รู้ซึ้งขึ้นว่า มันเป็นอะไรที่พูดง่าย แต่ทำจริงก็ยากอยู่ สำหรับคนธรรมดาคนหนึ่งแบบเรา ที่ไม่ได้เก่งสุดๆ หรือขยันสุดๆ อ่ะนะ แบบทำงานประจำมันก็เหนื่อยแล้ว อยากใช้ชีวิตบ้างช่วงวันหยุดงี้
เราเคยทำงานผ่านออนไลน์ (อาจไม่ได้จริงจังมาก แต่จะขอเรียกว่างาน ไปก่อนละกัน)
1. ตอบแบบสอบถามทางการตลาด ผ่านทางเว็บไซต์
อันนี้ ทำบ่อยอยู่ตอน ม.ปลาย-ปอตรี แต่ช่วงหลังมาไม่ค่อยได้ทำแล้ว หลักการคือ มีคนทำสินค้าต้องการโฆษณา ละอยากได้โฆษณาที่มีประสิทธิผล เลยลองทำหลายแบบ แล้วมาเทสกับคนกลุ่มหนึ่ง เพื่อเลือกอันที่ดีที่สุด สู่สายตาสาธารณชน นั้นแหละ เราก็คือคนที่โดนเทส ผ่านการตอบแบบสอบถาม
มันเป็นอันที่จับต้องได้มากที่สุด เท่าที่เราได้รับผลตอบแทนมา แต่คือ บางอันคุณสมบัติไม่ตรงตามที่เขาต้องการ ก็จะโดนคัดออก + ต้องทำหลายอันมาก ถึงจะถึงเกณฑ์ที่แลกของรางวัลได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ทว่า ประมาณเป็นตัวเงิน มันก็เป็นสัดส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับงานหลักอยู่ดี ไม่ถึง 0.5%
2. พยายามทำ content เพื่อหารายได้จากโฆษณา
เราเคยลองทำเว็บ ใส่เนื้อหา เพื่อหวังได้ค่าโฆษณา, content ใน youtube, adsense ใน pantip แต่จนทุกวันนี้ยังไม่ได้เงินเลย เนื่องจากยอดไม่ถึงขั้นต่ำของ google adsense
สำหรับเว็บไซต์ เราโดนปฎิเสธการลงโฆษณา จาก user generated content, youtube เราก็มีผู้ติดตาม 300+ คน แต่ยังไม่ถึง 1000 คน + เกณฑ์อื่นๆ อีก และมันรู้สึกเหนื่อยในการทำ content ให้คนสนใจ และ pantip เป็นช่องทางเดียวเลยที่ทำให้เรามียอดเข้า adsense แต่ว่าทำมาหลายเดือนเเล้ว ยอดตอนนี้แค่ $0.44 เอง
คือถ้าคนดูเราในระดับหนึ่ง แต่ไม่ mass มาก มันเหมือนเป็นช่องทางให้ adsense ได้ลงโฆษณาฟรี เพราะกว่าจะครบกำหนดจ่ายเงินขั้นต่ำ มันอีกเป็น 100 ปีเลย
3. ทำงานฟรีแลนซ์ โดยหางานผ่านตัวกลาง
ปัจจุบัน ในแพลตฟอร์มตัวกลาง มีผู้เล่นหรือฟรีแลนซ์อยู่หลายคน (ดังนั้น คนจ้างก็จะมีโอกาสเลือกมากขึ้น) แต่ในมุมคนที่เพิ่งมาสมัครเป็นฟรีแลนซ์ โอกาสที่เราจะได้งานก็น้อยลง เพราะไม่มีรีวิว จากคนที่เคยจ้างงานก่อนหน้า, การ feed ของ algorithm
และอีกอย่างคือ สมมติ มีคนมาจ้างงานเราเขาจ่าย 1000 บาท ผ่านแพลตฟอร์ม เราได้รับจริง 800 บาท เพราะโดนแพลตฟอร์มหาฟรีแลนซ์หักไป 200 บาท แต่ตอนยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เราต้องยื่น 1000 บาท ไม่ใช่ 800 บาท นอกจากนี้ มันก็มีเคสที่ผู้ว่าจ้างขอให้เราคืนเงิน อีกด้วย เพราะเรายินดีทำงานจนจบเท่าที่เขาจ่ายเงินจ้าง แต่ไม่ขอทำงานต่อเนื่องในอนาคต เขาเลยขอให้เราคืนเงิน โดยไม่ต้องทำงานต่อจนจบ เนื่องจากเขาอยากได้คนที่ทำงานกับเขาในระยะยาวมากกว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เหมือนอยากหาพนักงานประจำแหละ แต่ไม่พร้อมจ่ายค่าสวัสดิการ เลยมาหาฟรีแลนซ์แทน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
4. ทำสติ๊กเกอร์ไลน์
อันนี้ ก็มีรายได้ (โชคดีที่หลังจากทำมาหลายชุด มันก็ถึงเกณฑ์ที่เบิกเงินได้สักที) แค่ตอนแรกที่ทำออกมา ญาติกับเพื่อนๆ ซื้อ เอาใจเรา ขอบคุณนะ อิอิ ... แล้วหลังจากนั้น ก็ไม่มีรายได้มาอีกเลย แง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ที่กล่าวมา คือ เคยทำจริงทั้งหมดเป็นงานสุจริต แต่ก็ต้องระวังพวกงานแชร์ลูกโซ่ บัญชีม้า call center ด้วย หากคิดจะทำงานออนไลน์
สรุป สำหรับเจ้าของกระทู้ คงไม่เน้นมีรายได้จากช่องทางอินเตอร์เน็ตละแหละ เพราะว่าเหนื่อย ไม่เป็นตัวของตัวเอง แต่คงรู้จักใช้เงินเท่าที่จำเป็น ใช้อย่างประหยัด เพื่อให้มีเงินเก็บ จะได้ไม่ต้องไปยืมเงินใคร ไม่เป็นหนี้เสีย
มันง่ายขนาดนั้นจริงหรือ? ข้อเท็จจริงอีกด้าน ของการหาเงินผ่านโลกออนไลน์
เราจำได้ว่าตัวเอง ตอนเด็กกว่านี้ เคยอ่านเจอว่า คนเราควรมีรายได้หลายทาง เพื่อกระจายความเสี่ยง เช่น หากถูกเลิกจ้างจากงานประจำ จะได้ยังคงมีรายได้อยู่จากงานเสริม พอโตขึ้น รู้ซึ้งขึ้นว่า มันเป็นอะไรที่พูดง่าย แต่ทำจริงก็ยากอยู่ สำหรับคนธรรมดาคนหนึ่งแบบเรา ที่ไม่ได้เก่งสุดๆ หรือขยันสุดๆ อ่ะนะ แบบทำงานประจำมันก็เหนื่อยแล้ว อยากใช้ชีวิตบ้างช่วงวันหยุดงี้
เราเคยทำงานผ่านออนไลน์ (อาจไม่ได้จริงจังมาก แต่จะขอเรียกว่างาน ไปก่อนละกัน)
1. ตอบแบบสอบถามทางการตลาด ผ่านทางเว็บไซต์
อันนี้ ทำบ่อยอยู่ตอน ม.ปลาย-ปอตรี แต่ช่วงหลังมาไม่ค่อยได้ทำแล้ว หลักการคือ มีคนทำสินค้าต้องการโฆษณา ละอยากได้โฆษณาที่มีประสิทธิผล เลยลองทำหลายแบบ แล้วมาเทสกับคนกลุ่มหนึ่ง เพื่อเลือกอันที่ดีที่สุด สู่สายตาสาธารณชน นั้นแหละ เราก็คือคนที่โดนเทส ผ่านการตอบแบบสอบถาม
มันเป็นอันที่จับต้องได้มากที่สุด เท่าที่เราได้รับผลตอบแทนมา แต่คือ บางอันคุณสมบัติไม่ตรงตามที่เขาต้องการ ก็จะโดนคัดออก + ต้องทำหลายอันมาก ถึงจะถึงเกณฑ์ที่แลกของรางวัลได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2. พยายามทำ content เพื่อหารายได้จากโฆษณา
เราเคยลองทำเว็บ ใส่เนื้อหา เพื่อหวังได้ค่าโฆษณา, content ใน youtube, adsense ใน pantip แต่จนทุกวันนี้ยังไม่ได้เงินเลย เนื่องจากยอดไม่ถึงขั้นต่ำของ google adsense
สำหรับเว็บไซต์ เราโดนปฎิเสธการลงโฆษณา จาก user generated content, youtube เราก็มีผู้ติดตาม 300+ คน แต่ยังไม่ถึง 1000 คน + เกณฑ์อื่นๆ อีก และมันรู้สึกเหนื่อยในการทำ content ให้คนสนใจ และ pantip เป็นช่องทางเดียวเลยที่ทำให้เรามียอดเข้า adsense แต่ว่าทำมาหลายเดือนเเล้ว ยอดตอนนี้แค่ $0.44 เอง
คือถ้าคนดูเราในระดับหนึ่ง แต่ไม่ mass มาก มันเหมือนเป็นช่องทางให้ adsense ได้ลงโฆษณาฟรี เพราะกว่าจะครบกำหนดจ่ายเงินขั้นต่ำ มันอีกเป็น 100 ปีเลย
3. ทำงานฟรีแลนซ์ โดยหางานผ่านตัวกลาง
ปัจจุบัน ในแพลตฟอร์มตัวกลาง มีผู้เล่นหรือฟรีแลนซ์อยู่หลายคน (ดังนั้น คนจ้างก็จะมีโอกาสเลือกมากขึ้น) แต่ในมุมคนที่เพิ่งมาสมัครเป็นฟรีแลนซ์ โอกาสที่เราจะได้งานก็น้อยลง เพราะไม่มีรีวิว จากคนที่เคยจ้างงานก่อนหน้า, การ feed ของ algorithm
และอีกอย่างคือ สมมติ มีคนมาจ้างงานเราเขาจ่าย 1000 บาท ผ่านแพลตฟอร์ม เราได้รับจริง 800 บาท เพราะโดนแพลตฟอร์มหาฟรีแลนซ์หักไป 200 บาท แต่ตอนยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เราต้องยื่น 1000 บาท ไม่ใช่ 800 บาท นอกจากนี้ มันก็มีเคสที่ผู้ว่าจ้างขอให้เราคืนเงิน อีกด้วย เพราะเรายินดีทำงานจนจบเท่าที่เขาจ่ายเงินจ้าง แต่ไม่ขอทำงานต่อเนื่องในอนาคต เขาเลยขอให้เราคืนเงิน โดยไม่ต้องทำงานต่อจนจบ เนื่องจากเขาอยากได้คนที่ทำงานกับเขาในระยะยาวมากกว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
4. ทำสติ๊กเกอร์ไลน์
อันนี้ ก็มีรายได้ (โชคดีที่หลังจากทำมาหลายชุด มันก็ถึงเกณฑ์ที่เบิกเงินได้สักที) แค่ตอนแรกที่ทำออกมา ญาติกับเพื่อนๆ ซื้อ เอาใจเรา ขอบคุณนะ อิอิ ... แล้วหลังจากนั้น ก็ไม่มีรายได้มาอีกเลย แง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สรุป สำหรับเจ้าของกระทู้ คงไม่เน้นมีรายได้จากช่องทางอินเตอร์เน็ตละแหละ เพราะว่าเหนื่อย ไม่เป็นตัวของตัวเอง แต่คงรู้จักใช้เงินเท่าที่จำเป็น ใช้อย่างประหยัด เพื่อให้มีเงินเก็บ จะได้ไม่ต้องไปยืมเงินใคร ไม่เป็นหนี้เสีย