แฟนเวลาเครียดชอบกังวลกับอนคตที่มันยังมาไม่ถึงเราควรทำไงดีคะ

ยาวนิดนึงนะคะ

   คือเรื่องมีอยู่ว่า แฟนอ่ะค่ะ เวลาเครียดหรืออะไรเค้าก็จะหงุดหงิดแล้วก็พูดอะไรลบๆเช่น กังวลกับอนาคตของเราแล้วก็อนาคตของเค้า 

       เราอายุ20ค่ะแฟนก็20 ไม่ได้อยู่ด้วยกันคือคุยกันผ่านโทรศัพท์มือถือ แฟนเรียนอยู่รร.เดียวกัน พอจบม.6 เราก็เรียนมหาลัยรามคำแหง คณะมนุษยเอกภาษาอังกฤษ ส่วนแฟนเรายังเรียนต่อไม่ได้ด้วยความที่เค้ายังค้างค่าเทอมกับทางรร. ด้วยทางบ้านเค้าค่อนข้างลำบากค่ะแบบมีเเค่แม่ที่เป็นเสาหลักของบ้านเเต่ก็หยุดทำงานไป เค้าก็เลยต้องออกมาทำงานพาร์ทไทม์ร้านอาหาร  
        
        เวลาเค้าเหนื่อย หรือเครียดจากอะไรมา เราก็ไม่รู้นะคะ เค้าก็จะมาแบบเออ ฟิวแบบออกไปทำงานไหม แบบเออเค้าเห็นเราไม่เคยทำงาน กลัวเเบบเวลาเราเรียนจบไปแล้วไปสมัครงานเขาจะไม่รับเด็กที่ไม่มีประสบการณ์ เราเลยบอกเขาว่า เราเคยพูดกับแม่เราเเล้วน้าเรื่องนี้แม่เราบอกว่าถ้าเรียนไปทำงานไป กลัวเราจะไม่ไหวเพราะทำงานมามันก็เหนื่อยแล้วไรแบบนี้ไม่มีกะจิตกะใจจะอ่านหนังสือ แบบกลับบ้านมาทำงานมันก็เหนื่อยแล้วใช่มั้ยคะเราก็คงแบบอยากพัก แม่เลยให้เรียนไปก่อนตั้งใจเรียนให้จบ คงมีบ้างแหละที่ๆเขารับแม่ว่างี้

เราก็บอกแฟนไปค่ะเเต่เขาบอกว่าอนาคตมันไม่เเน่นอน เดี๋ยวนี้หางานยากนู่นนี่ เราก็บอกว่าอย่าไปคิดถึงอนาคตเลยมันยังไม่ถึง เขาก็ว่าเราว่าเราไม่มีแผนในการใช้ชีวิตเลย แบบไม่ร้อนไม่หนาว เราก็บอกว่าตอนนี้เราทำได้เเค่นี้จริงๆถ้าเรียนจบถ้าได้ภาษา เราจะไปสมัครงาน สนามบิน โรงเเรม ตามห้างอะไรแบบนี้ค่ะ เค้าก็สวนเรามาว่า ถ้าได้ภาษาหรอแล้วถ้าไม่ได้ล่ะ ที่ทำมาเท่ากับศูนย์ ต้องตั้งใจจริงจังให้มากกว่านี้  เอาจริงๆมันก็บั่นทอนเราเหมือนกันนะคะ เราอ่านหนังสือ แปลศัพท์ยิบย่อย หัดพูดพูดนั่นนี่  

เวลาเรายกตัวอย่างงานว่าเราจะไปทำอะไรเเบบสมมติอ่ะค่ะ เช่นเราอยากทำโรงหนัง เค้าก็จะแบบ โอ้ยโรงหนังเค้าเลือกคน เราก็บอกว่าเค้าอาจจะเลือกเราก็ได้ แบบขัดเราไปหมดพอเราจะทำอะไร แบบมันโน่นมันนี่ทั้งที่ยังไม่เคยลองทำ 

คือเค้าบ่น อนาคตของเรากับเค้าเเต่เค้าก็ไม่พยายามทำให้มันดีขึ้นอ่ะค่ะ เราทั้งให้คำปรึกษาไปหลายอย่างมากแต่เขาไม่รับ 
เขาบอกตอนนี้เค้าไม่รู้จะไปทางไหนแบบไม่มีคนชี้เเนะเเนวทาง เราก็พยายามบอกเขาว่า ทำงานไปเรื่อยๆเเล้วรอเกณฑ์ทหาร ถ้าไม่ติดก็ทำงานนี้ไปก่อนถ้าเหนื่อยก็หางานใหม่แล้วพอเข้าที่เข้าทางค่อยลงเรียนม.รามก็ได้  เราก็ไม่ค่อยเข้าใจเค้าหรอกค่ะ ตอนนั้นเราขี้กังวลเค้าก้อบอกอย่าไปกังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดแต่เค้ากลับกังวลเสียเอง ตอนนี้เราปลงขึ้นเยอะค่ะ ฐานะทางบ้านเราก็ไม่ได้ดีเหมือนกันค่ะ เเต่เราช่วยแม่ประหยัดสุดๆถึงจะไม่ได้ทำงาน เเต่เราก็อาศัยว่าดูแลบ้านทำงานบ้านเอา มีเวลาอ่านหนังสือเต็มที่

ขอบคุณที่อ่านนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่